ช่อเพชร พิรุณรักษ์ เด็กสาววัยสิบแปดปีค่อยๆ คลานเข่าเข้าไปหาคุณยายที่นั่งสนทนาปราศรัยอยู่กับแขกประจำคนสำคัญ
คุณกนกกานต์ วิรุณรัศมี หญิงสูงวัยอายุห้าสิบแปดปี และลูกชาย
คนเดียวของท่าน ภาม วิรุณรัศมี อาจารย์หนุ่มคณะเกษตรศาสตร์ สาขา
พฤกษศาสตร์ วัยสามสิบห้าปี เธอนั่งฟังคนทั้งคู่คุยกันเงียบๆ
คุณกนกกานต์นั้นมีภูมิลำเนาอยู่ในละแวกบ้านสวนของคุณยายช่อลดา ซึ่งเป็นคุณยายวัยเจ็ดสิบปีของช่อเพชร หลานกำพร้าที่ท่านอุปการะเลี้ยงดูเอาไว้ ดังนั้นทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ คุณกนกกานต์ก็จะชวนลูกชายเดินทางแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนคุณยายช่อลดาเป็นประจำ ทั้งสองคุยกันถูกคอ ชอบ
ไปวัดไปวาทำบุญสุนทานเหมือนกัน จึงคบหากันมานาน เพราะชอบทำอะไรเหมือนๆ กัน
“หนูช่อนี่ยิ่งโตยิ่งสวย ยิ่งน่ารัก กิริยามารยาทเรียบร้อยเหลือเกินนะคะ น้าลดา” คุณกนกกานต์เอ่ยชมด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ในขณะที่ช่อเพชรนั่ง
พับเพียบเรียบร้อยอยู่บนพื้นใกล้ๆ คุณยาย
ช่อเพชรก้มหน้านิ่ง ใจก็คิดว่าสองแม่ลูกนี้มาทีไร เธอต้องออกมาต้อนรับขับสู้ นั่งพับเพียบจนเหน็บกินเสียทุกคราไป
“น้าอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ให้อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ทำกับข้าวกับปลา ไม่เที่ยวเตร่เหลวไหล เด็กสมัยนี้แย่จริงๆ เลยนะคะ
ไม่เรียบร้อยเป็นกุลสตรีเอาเสียเลย”
“แค่กๆๆ” ช่อเพชรสำลักน้ำที่ยกขึ้นมาดื่ม เรียกว่าแทบพ่นน้ำ
ออกจากปาก
“ตายแล้วแม่ช่อ เสียมารยาทจริงๆ เชียว” คุณยายช่อลดาดุเสียงเขียว ช่อเพชรรีบเอ่ยขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
“ช่างเถอะค่ะ อย่าไปดุแกเลย มานั่งฟังผู้ใหญ่คุยกันคงเบื่อน่าดู หนูช่ออยากไปเที่ยวเล่นในสวนก็ไปเถอะจ้ะ เห็นคุณยายบอกว่าเราชอบปลูกผัก
ขลุกตัวอยู่ในสวน”
“ได้เหรอคะคุณป้า” ช่อเพชรมองคุณกนกกานต์ด้วยดวงตาเป็นประกาย
อย่างมีความหวัง เพราะตอนนี้เหน็บเริ่มกินขาเธอแล้ว ท่าทางดีอกดีใจจนออกนอกหน้านอกตาทำให้คุณยายช่อลดากระแอมกระไอเสียงดัง
ช่อเพชรคอหดลงทันที ภามแทบหลุดขำ เพราะเขาแอบมองเด็กสาวอยู่ไม่วางตา เด็กสาวแก่นทโมนน่าดู แต่ต่อหน้าคุณยายช่อลดาคงไม่กล้าเฮี้ยวเพราะกลัวโดนดุ เนื่องจากคุณยายเป็นคนเข้มงวด เจ้าระเบียบ เขาพามารดามาเยี่ยมเพื่อนต่างวัยของท่าน จึงรู้จักสนิทสนมกับคนบ้านนี้เป็นอย่างดี เรียกว่ารู้จักกับช่อเพชรแต่เด็ก ก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อต่างประเทศเสียอีก
“จะไปไหนก็ไปเถอะ” คุณยายช่อลดาค้อนหลานสาวเสียหนึ่งที ช่อเพชรทำท่าจะกระโดดโลดเต้นดีใจลงจากเรือน แต่ต้องชะงัก เมื่อหันไปเห็นตาดุๆ ของคุณยาย เลยค่อยๆ คลานเข่าต้วมเตี้ยมลงจากเรือนอย่างสุภาพเรียบร้อยแทน
“เป็นไทแล้ว!” ช่อเพชรบอกตัวเองในใจ ทำท่าดีใจเกินเหตุ ก่อนจะวิ่งไปในสวนหลังบ้านอย่างมีความสุข มะม่วงน้ำดอกไม้ผลดกเต็มต้น กำลังห่ามได้ที่ แบบนี้เปรี้ยวจี๊ดสะใจ กินกับน้ำปลาหวาน แค่คิดก็น้ำลายสอ
เด็กสาวรูปร่างปราดเปรียว แต่มีสัดส่วนยวนตา ถักเปียสองข้าง ใส่กางเกงขายาวตัวหลวม เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ ภายนอกนั้นเห็นว่าเธอผอมบาง แต่ซ่อนรูปมิใช่น้อย คุณยายชอบให้นุ่งผ้าถุง ใส่เสื้อลายดอกสวยๆ ท่านบอกว่าน่ารัก สดใส สมวัย!
สมวัย! เดี๋ยวก่อนนะ คุณยายของเธอหมายถึงวัยไหนกันล่ะ! ใส่เสื้อลายดอกแบบนั้น เธอก็เห็นมีแต่วัยคุณยายนั่นแหละ
เธอต้องทำดีเกือบตายกว่าจะกลับไปใส่กางเกงและเสื้อที่ตัวเองชอบ คุณยายชอบซื้อเสื้อผ้าผู้หญิง ไม่ก็ถักเสื้อสวยๆ ให้ใส่ แต่เธอไม่ค่อยชอบใส่
นักหรอก มันไม่ทะมัดทะแมง ปีนป่ายต้นไม้ก็ไม่ได้
เรื่องปีนป่ายต้นไม้ก็เหมือนกัน ถ้าคุณยายเห็นเข้ามีหวังโดนตีก้นลาย
ช่อเพชรถลกแขนเสื้อขึ้น ขณะเงยหน้ามองมะม่วงน้ำดอกไม้ที่มีผลดกเต็มต้น เธอเปรี้ยวปาก น้ำลายสอ เก็บมะม่วงเสร็จ คิดว่าจะไปออดอ้อนป้าแมวให้ช่วยทำน้ำปลาหวานแซบๆ ให้กินเสียหน่อย
เด็กสาวค่อยๆ ถอดกางเกงชั้นนอกออก เพราะกางเกงขายาวแบบนี้
มันไม่ค่อยสะดวกในการปีนป่ายต้นไม้สักเท่าใดนัก ด้านในเธอสวมกางเกง
ขาสั้นเอาไว้อีกตัวหนึ่ง
ลอกคราบเสร็จสรรพก็จัดการปีนป่ายขึ้นไปอย่างชำนิชำนาญ เธอเก็บผลมะม่วงแล้วโยนลงมาที่โคนต้นอย่างมีความสุข ฮัมเพลงเบาๆ อย่าง
อารมณ์ดี บางทีคุณกนกกานต์กับภามมาก็ดีเหมือนกันนะ เพราะคุณยายจะได้มีคนคุยด้วย ไม่ต้องมานั่งเข้มงวดกวดขันให้เธอร้อยมาลัยถวายพระ นั่งสมาธิ สวดมนต์ หรือทำอาหาร แม้เธอจะทำมาตั้งแต่เด็กจนชำนาญ แต่ก็อยากมีเวลาซุกซนบ้างตามประสา
“พ่อภามจะไปเดินเล่นในสวนของยายก็ไปเถอะจ้ะ นั่งฟังคนแก่คุยกันเดี๋ยวเบื่อแย่” คุณยายช่อลดาหันไปพูดกับอาจารย์หนุ่ม เขายิ้มบางๆ แต่เมื่อมารดาสำทับมาอีกครั้ง เขาจึงขอตัวเลี่ยงออกมา
ภามเดินมาตรงต้นมะม่วงที่เด็กสาวปีนขึ้นไป ก่อนที่เขาจะร้องเสียงหลง
“โอ๊ย!” ลูกมะม่วงหล่นลงมาโดนศีรษะ เขาเงยขึ้นไปบนต้นก็เห็นเจ้าลิงทโมนตัวแสบนามว่าช่อเพชร ก่อนหน้านี้ยังนั่งพับเพียบเรียบร้อย ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่เลย
“ไม่เห็นหรือไง” ภามเอ่ยถามเด็กสาว
“ไม่เห็นน่ะสิคะ ถ้าเห็นจะโยนลงไปโดนหัวคุณอาภามเหรอคะ” เธอตอบเขาแบบยียวนกวนประสาท
“เรียกฉันซะแก่เลย เรียกพี่ก็พอมั้ง”
“ฮ่าๆๆ คนแก่ไม่ยอมแก่”
“ฉันอายุแค่สามสิบห้าเองนะ”
“ตั้งสามสิบห้านะคะ” เธอใช้คำพูดสวนทางกับเขา
“ไม่คิดจะขอโทษกันบ้างเลยเหรอ” เขาเอ่ยถามยายลิงทโมนที่ทำหน้าตากวนๆ สุดฤทธิ์
“ไม่ได้ตั้งใจนี่คะ มองไม่เห็นคนแก่แถวนี้” ภามถึงกับสำลัก คำก็แก่
สองคำก็แก่ เขาว่าตัวเองยังไม่แก่สักหน่อย
“ปีนต้นไม้แบบนี้ จะไปบอกคุณยายว่าซน”
“อย่านะคะ” เด็กสาวรีบปรามทำหน้างอ เริ่มต่อรอง เพราะถ้าคุณยาย
รู้เข้า จะต้องโดนดุสามวันเจ็ดวันแน่ๆ ดีไม่ดีโดนตีอีกต่างหาก
“เป็นผู้หญิงปีนต้นไม้แบบนี้ได้ยังไงกัน ตกลงมาแข้งขาหักจะทำยังไง” เขาพูดด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ตกหรอกค่ะ หนูชำนาญนะคะคุณอา”
“เวลาทำให้คนอื่นเจ็บต้องขอโทษรู้ไหม” เขายังไม่ลืมเรื่องเมื่อครู่
ช่อเพชรหน้างอเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขอโทษ
“ขอโทษก็ได้ค่ะ”
“ดูเหมือนไม่ค่อยเต็มใจเลยนะ”
“ขอโทษค่ะ พอใจหรือยังคะ” ช่อเพชรเห็นภามเงียบไป เธอก็เริ่มพูดอีก ไม่อยากให้เขาไปฟ้องคุณยายว่าเธอซนเหมือนลิง
“สรุปว่าอาภามจะไม่บอกคุณยายใช่ไหมคะ ถ้าอาภามไม่บอก
คุณยาย ช่อจะแบ่งมะม่วงน้ำปลาหวานให้กิน”
แน่ะ! มีติดสินบนด้วย ภามหลุบตาซ่อนยิ้ม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา ท่าทางขรึมๆ เหมือนเดิม
“มะม่วงน้ำปลาหวานอาก็อยากกินนะ แต่ขออะไรอีกอย่างได้ไหม”
เอาเถอะ โดนเรียกให้เป็นคุณอาแล้ว เขาก็ต้องยอมแก่ล่ะ
“อะไรคะ แต่ต้องขอคิดดูก่อนนะคะ” เด็กสาวพูดอย่างเฉลียวฉลาด
เธอจะไปตกปากรับคำกับใครง่ายๆ ได้ยังไงกัน
“แทนตัวเองว่าช่อได้ไหม ฟังดูแล้วสนิทกันกว่าแทนตัวเองว่าหนู”
“แทนตัวเองว่าหนูไม่สนิทตรงไหนเหรอคะ” ช่อเพชรถามอย่างสงสัย
“อาดูแก่มากๆ เวลาช่อแทนตัวเองว่าหนู”
“ฮ่าๆๆ” ช่อเพชรขำก๊ากเมื่อได้ยินแบบนั้น แต่เธอก็พยักหน้ารับคำ
“ก็ได้ค่ะ แทนตัวเองว่าช่อก็ได้”
“อืม...” ภามรับคำ เขาเหลือบไปมองขาเพรียวสวยของเธอแบบไม่ได้ตั้งใจ เธอเล่นใส่กางเกงขาสั้นซะขนาดนั้น พอเธอนั่งอยู่บนกิ่งไม้ เลยเห็น
ผิวขาวเนียนชัดเจน
ช่อเพชรก้มดูตามสายตาของภาม ก่อนที่ใบหน้าของเธอจะขึ้นสีแดงเรื่อ
“คนลามก!” เธออุทาน ใช้มือดึงกางเกงมาปิดขาตัวเองเอาไว้ และลืม
ไปเลยว่ากางเกงมันสั้นมาก แถมมือที่จับกิ่งมะม่วงก็เผลอปล่อยโดยอัตโนมัติ
“วะ! วะ! ว้าย!” เธอร้องเสียงหลง พลัดตกจากกิ่งมะม่วงทันที ภามเอง
ก็ตกใจ รีบเข้าไปรับร่างบางเอาไว้ทันที