“ค่ะคุณยาย แล้วอาภามคิดค่าเช่ายังไงเหรอคะ”
“ไม่คิดจ้ะ แค่ขอให้เราช่วยทำความสะอาด ดูแลห้องให้ก็พอ”
“ว้าว... คุณอานี่ใจดีจังเลยนะคะ”
“พรุ่งนี้คุณอาเขาขออนุญาตยายเอาไว้ จะพาเราไปซื้อข้าวของเครื่องใช้เตรียมเอาไว้ตอนเปิดเทอม”
“ค่ะคุณยาย”
“ไปกับคุณอาเขาก็ดีนะ เขาจะได้ช่วยแนะนำอะไรหลายๆ อย่าง ยายเองก็ไว้ใจเขามาก ไปกับคนอื่นยายไม่ไว้ใจ”
“จริงๆ ช่อนัดเพื่อนเอาไว้แล้วนะคะ ว่าจะไปซื้อของด้วยกัน”
“ก็ไปซื้อเสียด้วยกันเลยสิ”
“ค่ะคุณยาย งั้นช่อขออนุญาตโทรหาลูกหว้าก่อนนะคะ”
“เอาสิ” ลูกหว้าหรือกนกรัตน์คือเพื่อนสนิทของเธอ คุณยายรู้จักดี เพราะเคยมาที่บ้านหลายครั้งแล้ว และคุณยายก็อนุญาตให้คบกัน เพราะกนกรัตน์ไม่ใช่คนเหลวไหลอะไร
รุ่งเช้าของวันใหม่...
ภามมารับคุณยายช่อลดาและหลานสาวคนสวยไปทำบุญเหมือนอย่างเคย
แต่รอบนี้ไม่ได้รอรับประทานอาหารหลังพระฉันข้าวเช้าเสร็จเหมือนก่อน
ภามพาช่อเพชรเข้าเมืองไปซื้อของในตอนสาย ส่วนมารดาและคุณยายนั้น ลุงมิ่งเป็นคนมารับกลับบ้าน
“ไปหาอะไรกินกันก่อนไหม” ภามเอ่ยถามสาวน้อยที่นั่งมาด้วยกัน
เธอพยักหน้าตามใจเขา ในยามนี้สาวน้อยดูเพลิดเพลินกับการชมวิวทิวทัศน์นอกรถ เขารู้สึกว่าเธอตื่นเต้นกับการออกมาเที่ยวข้างนอกนัก อาจเพราะ
คุณยายค่อนข้างจะกวดขัน ไม่ยอมให้ไปไหนง่ายๆ หากคิดว่าไม่ปลอดภัย
เขาจึงเป็นหนึ่งในผู้ชายโชคดีที่ได้ไปไหนมาไหนกับเธอ และได้อยู่ใกล้ชิดที่สุด
“มาอยู่ในเมือง ถ้าอยากไปเที่ยวก็บอกนะ จะพาไปเที่ยว” ช่อเพชรมองคนที่อาสาไม่วางตา ท่าทีครุ่นคิดของเธอเมื่อเขาเหลือบมามองทำให้ต้องยิ้มขำ
“คุณอายิ้มอะไรคะ”
“ท่าทีของเราไง ทำท่าทางเหมือนไม่ไว้ใจอา”
“ไม่ใช่เสียหน่อย” เธอรีบบอก ที่นิ่งคิดไปนานเพราะการอยู่ใกล้เขาทำให้อัตราการเต้นของหัวใจรุนแรงต่างหากเล่า เธอเลยอยากจะหลีกเลี่ยง กลัวหัวใจจะวายเสียก่อน
เขาเลี้ยวรถเข้าไปในร้านอาหารริมทางแต่บรรยากาศดี ที่นี่เป็นร้าน
อาหารไทยที่มีชื่อเสียง และมีอาหารทุกภาคมารวมอยู่ด้วยกัน เปิดบริการตั้งแต่สิบโมงเช้าจนถึงสี่ทุ่ม
วันนี้เพื่อนของเธอไม่ได้มาซื้อของด้วยเพราะติดธุระ เธอเลยไม่ได้เจอเพื่อน จึงต้องไปซื้อของกับภามกันสองคน
“กินอะไรดีครับ”
“คุณอาจะกินอะไรคะ”
“อากินข้าวต้มดีกว่าครับ ร้านนี้ข้าวต้มกุ้งอร่อยนะ”
“กินเหมือนคุณอาก็แล้วกันค่ะ”
“ข้าวต้มกุ้งใส่ไข่ลวกสองที่ครับ” เขาสั่งโกโก้ร้อนให้เธอหนึ่งแก้ว คนที่ทำท่าจะสั่งเครื่องดื่มถึงกับชะงัก มองเขาอย่างแปลกใจไม่น้อย
“คุณอารู้ด้วยเหรอคะว่าช่อจะดื่มอะไร”
“อาเดาเอาน่ะ แล้วเดาถูกไหม” เธอพยักหน้าให้เขา ยิ้มแป้นทีเดียว
เขายิ้มตอบเมื่อเดาถูก
“ช่อ...” จู่ๆ เขาก็เรียกเธอเสียงแผ่ว
“คะ?” เธอรับคำมองหน้าเขาเป็นคำถาม
“อย่าไปยิ้มหวานให้ใครแบบนี้อีกนะ”
“ทำไมคะ”
“อาหวง”
“เอ่อ...” ใบ้กินปนกับอาการเขินหนัก ไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี ก็พอดีกับข้าวต้มกุ้งไข่ลวกมาช่วยชีวิตเอาไว้ เธอเลยก้มหน้างุดๆ มองชามข้าวต้มแทน
“ช่อใจเย็นๆ ใส่พริกไทยขนาดนั้นเดี๋ยวก็เผ็ดหรอก” เขาพูดไม่ทันขาดคำเธอก็จามเพราะพริกไทยเข้าจมูก ภามรีบยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ สาวน้อยรับไป
ปิดจมูกเอาไว้เมื่อจาม
กลิ่นผ้าเช็ดหน้าของอาภามฟินเหลือเกิน มีกลิ่นของอาภามติดมาด้วย
อ๊าย... คิดลามกอีกแล้ว ยายช่อเพชร! เธอเอ็ดตัวเองในใจ
“เป็นภูมิแพ้อยู่ไม่ไม่ใช่เหรอ ต้องหลีกเลี่ยงของพวกนี้นะ”
“คุณอารู้ได้ยังไงคะว่าช่อเป็นภูมิแพ้”
“รู้เพราะใส่ใจครับ” นั่นปะไร โดนเข้าไปอีกดอก เลยรีบกวนชามข้าวต้มทำท่าจะตักกิน
“เผ็ดไหม แลกกับของอาไหม อากินเผ็ดได้”
“คุณอาเหรอคะกินเผ็ดได้” เธอยิ้มแก้มพอง กลั้นขำเมื่อนึกถึงมะม่วงน้ำปลาหวานวันนั้น
“อันนั้นมันเกินไปครับ อันนี้ชิลๆ” เขาบอกเธอเหมือนรู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“ช่อก็กินเผ็ดได้ค่ะ แค่จามกลิ่นพริกไทยเท่านั้นเอง” เธอตักกินให้เขาดู ก่อนจะยิ้มแป้น
แล้วทั้งสองก็รับประทานข้าวต้มกันอย่างเงียบๆ ต่างคนต่างมองหน้ากัน แล้วเผลอยิ้ม แต่ไม่มีใครพูดอะไรกัน คล้ายจะใช้ใจสื่อถึงกันมากกว่าคำพูด
ภามพาเด็กสาวมาซื้อชุดนักศึกษาและเสื้อผ้าของใช้หลายอย่าง เนื่องจากต้องย้ายไปเมือง ช่อเพชรเดินดูของอย่างเพลินตา วันนี้
คุณยายให้งบมาไม่อั้น เพราะดีใจที่เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้
“ชุดนี้เป็นยังไงคะคุณอา”
“มันสั้นไปครับ” คนตอบส่ายหน้าไปมา ไม่โอเคกับชุดที่เธอหยิบมา
“อาภามรู้ไหมคะ เวลาอาภามส่ายหน้าไม่เห็นด้วยนี่ เหมือนคุณยาย
มาเองเลยค่ะ” เธอหัวเราะคิกๆ จินตนาการนึกไปถึงหน้าคุณยายตอนเห็น
ชุดนักศึกษาซึ่งเป็นกระโปรงสั้นๆ แบบนี้ออกเลยว่าคงทำหน้าเหมือนภาม
“ที่ไม่อยากให้ใส่สั้นๆ แบบนี้เพราะอาหวง กลัวคนอื่นเห็น แต่ถ้าใส่ให้อาดูคนเดียว อาโอเคนะครับ” เขาเดินเข้ามาหา หยิบกระโปรงสั้นจากมือเธอ
ไปแขวนเอาไว้ที่ราว
เหมือนต้องมนตร์สะกด เธอเองก็ยืนนิ่งเมื่อเขามาหยุดอยู่ตรงหน้า
แล้วประโยคของเขาก็ทำเอาใจสาวเต้นรัว
“ลองชุดนี้ดีกว่า” เขาหยิบกระโปรงยาวจีบรอบมาให้เธอแทน เธอแทบหลุดขำ
“คุณยายสั่งมาเหรอคะ”
“อาหวง บอกแล้วไง” เขาบอกซ้ำ คราวนี้คนฟังถึงกับไปไม่เป็น รีบรับกระโปรงยาวจีบรอบตัวนั้นมาถือเอาไว้ และเดินหนีไปลองทันที
สรุปว่าเธอได้ชุดนักศึกษาเรียบร้อยมิดชิดกลับบ้าน แต่กลับไปคุณยาย
ก็ต้องตรวจสอบ ไปเจอชุดกระโปรงสั้นๆ โดนดุแย่
เธอเดินมาที่แผนกชุดชั้นใน ภามก็เดินหน้ามึนตามมาด้วย ช่อเพชร
หันไปกะพริบตาปริบๆ ก่อนที่แก้มจะขึ้นสีเรื่อๆ
“อาภามตามมาทำไมคะ”
“ตามมาจ่ายเงินให้ครับ” เขาทำตัวเป็นป๋าเชียวล่ะ แย่งเธอจ่ายเงิน
เสียทุกอย่าง เงินที่คุณยายให้มายังไม่ได้จ่ายเลยสักบาทเดียว
“รู้ค่ะว่ารวย แต่ช่อเกรงใจคุณอานะคะ คุณยายก็ให้เงินมาแล้ว ไม่อยากรบกวนคุณอาจริงๆ ค่ะ”
“อาไม่ได้อวดรวยนะครับ แค่อยากจ่ายให้ อีกอย่างก็ไม่ได้รบกวนด้วย เราไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันเสียหน่อย”
“เราไม่ได้เป็นอะไรกันนะคะ ให้คุณอามาจ่ายให้ ช่อไม่สบายใจเลย”
“งั้นเราเป็นอะไรๆ กันไหมครับ” เขาเดินมาใกล้ ลมหายใจเป่ารดใบหน้าของเธอถนัดถนี่ ช่อเพชรถอยหนีเล็กน้อย หน้าแดง ใจสั่น
“คุณอาเจ้าเล่ห์ ที่บอกว่าเป็นอะไรๆ กันนี่ จะชวนช่อไปทำอะไรๆ กันเหรอคะ” เธอพูดเสียอ้อมโลก แต่เขาเข้าใจคำว่าอะไรๆ ของเธอดี เลยยิ้มขำ
“คุณอาขำอะไร” เธอทำหน้างอเล็กน้อย
“อาหมายถึงเป็นแฟนกันไหม เราจะได้เป็นอะไรๆ กัน คนเป็นแฟน
ซื้อของให้กัน ไม่ต้องเกรงใจแล้วนะ” เขามัดมือชก เธออ้าปากค้าง หันรีหันขวาง แต่มันดันติดกับราวชุดชั้นในด้านหลังน่ะสิ
พนักงานก็ดีเสียเหลือเกิน ไม่เห็นเข้ามาทักทายขายของเลย ปล่อยให้เธอยืนนิ่ง ไม่รู้จะตอบอะไรดี
“ไม่รู้ไม่ชี้ค่ะ” เธอดันแผ่นอกกว้างของเขาออกห่าง หน้าแดงลามไปถึง
ใบหู เดินไปเลือกชุดชั้นในอีกด้าน พนักงานก็พูดอย่างสุภาพว่าเลือกดูก่อนนะคะ
และก็ไม่เข้ามาเซ้าซี้อะไรอีก
“ชุดนี้ก็โอเคนะครับ เข้าชุดกันดี”
แน่ะ! ช่อเพชรหน้าแดง
เขามีหน้ามาเสนอความคิดเห็นอีก มาชี้ว่าอยากได้สีไหนลายไหน
เธอมองแล้วคิดว่ามันน่ารักดี บรากับกางเกงในเข้าชุดกัน ก่อนที่ความคิดในหัวจะจินตนาการไปไกลแสนไกล ว่าตอนเขาถอดคงชอบให้แฟนใส่แบบนี้
เย้ย! ดึงสติกลับมายายช่อเพชร อย่าลามกแบบนี้ เธอหลับตาส่ายหน้า
ไปมา
“เอาชุดนี้ก็ได้ค่ะ” ช่อเพชรบอกไซซ์ที่เธอสวมก็อยากกัดลิ้นตัวเองนัก
ดันไปบอกพนักงานอีกว่าเอาชุดที่ภามเลือกให้ เธออายแทบแทรกแผ่นดินหนี
รอบนี้เขาไม่ยักตามมาแสดงความคิดเห็น เธอเลยรีบเลือกซื้อและออกจากร้านมาเร็วๆ หลังจากเขาจ่ายให้แบบไม่เกี่ยงงอน