“อุ๊ย!” เด็กสาวอุทาน ยกมือขึ้นกุมแก้มตัวเองไปมาเมื่อโดนหอมแก้มแรงๆ
“ยอมเงยหน้ามาคุยกันแล้วเหรอ” คนเอ่ยถามขยับใบหน้าลงไปชิดใกล้ ช่อเพชรดันปลายคางของเขาเอาไว้ จ้องตาเขาอย่างหวาดหวั่น
“ปล่อยได้แล้วค่ะ อาภาม”
“เรื่องอะไรจะยอมปล่อย” เธอตาโตกับประโยคของเขา ดูเอาเถอะ! มองเธอเหมือนจะกลืนกิน เธอไม่ใช่ขนมหวานเสียหน่อย…
เขาก้มลงมาทำท่าจะหอมแก้มเธออีก ช่อเพชรรีบมุดเข้าใต้รักแร้ของเขา แล้วดำน้ำหนีทันที รู้สึกได้ว่าเขาว่ายน้ำตามมา เธอรีบว่ายไปอีกฝั่งหนึ่ง
ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ แล้วตะกายร่างหนี
ภามตามมาด้วยความเป็นห่วง เขามองร่างเล็กแต่มีสัดส่วนยวนตา
วิ่งหนีขึ้นฝั่งไม่วางตา
เห็นนมเด็กแล้วต้องเบือนหน้าหนี ใจสั่นแปลกๆ ก่อนจะตัดใจว่ายกลับไปอีกฝั่ง
“อ้าวพ่อภาม ลงไปเล่นน้ำในบึงบัวเหรอลูก” คุณยายเอ่ยถาม เมื่อเห็นร่างสูงเดินตัวเปียกขึ้นมาบนบ้าน
“ครับ” ภามตอบรับ ยังไม่ทันให้คุณยายถามอะไรต่อ ช่อเพชรก็วิ่งเปียกปอนตามมา เธอมาช้ากว่าเขาเพราะวิ่งอ้อมไปอีกฝั่ง
“ตายแล้วแม่ช่อ เราก็ลงไปเล่นน้ำกับเขาด้วยรึ” คุณยายขยับแว่นตามอง ช่อเพชรยิ้มเหยๆ ให้คุณยาย ท่านทำตาดุเมื่อเห็นเธอวิ่งเร็ว แถมเสื้อผ้า
ยังเปียกปอนไม่น่าดูสักนิด
“รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยไป” คุณยายรีบพูด ช่อเพชรไม่รอให้
คุณยายพูดซ้ำ เธอก็รีบขอตัวทันที
“ผมจะขอยืมเสื้อผ้าของลุงมิ่งหน่อยได้ไหมครับ ผมไม่ได้เอาเสื้อผ้า
ติดรถมาด้วย” ภามมักมีเสื้อผ้าติดรถเอาไว้เผื่อฉุกเฉิน แต่มาบ้านคุณยาย
ช่อลดา เขาไม่ได้นำมา
“ได้สิ เดี๋ยวยายบอกให้นะ ไม่รู้เราจะใส่ได้ไหม พ่อภามตัวสูงขนาดนี้” ลุงมิ่งนั้นตัวเล็ก แต่ก็พอหาเสื้อผ้ามาให้ภามเปลี่ยนได้ เนื่องจากลุงมิ่งมีเสื้อยืด
ตัวใหญ่ๆ อยู่บ้าง กับกางเกงขาสามส่วนผูกเอว ใส่แล้วสบายตัวดี
ภามอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เดินออกมาจากห้องน้ำในตัวบ้าน เขาเจอกับร่างของเด็กสาวที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เดินออกมาจากห้องพอดิบพอดี
ช่อเพชรเห็นภามเข้าก็หันรีหันขวาง เธอคิดจะเดินหนี แต่เขาตามไป
ดักหน้าเอาไว้ได้ เธอถอยไปชนกับผนังบ้าน เงยหน้าขึ้นมาก็ตกอยู่ในอ้อมแขนของเขาเสียแล้ว อาจารย์หนุ่มใช้มือดันไปกับผนังข้างตัวเธอ กักร่างน้อยเอาไว้ในอ้อมแขน
“หนีอาทำไม” เขาก้มลงไปกระซิบถาม มองแก้มแดงปลั่งของสาวน้อย
ขี้อายไม่วางตา เห็นแสบๆ แบบนี้ เวลาอายน่ารักนักในสายตาของเขา
“หนีคนลามก” ภามสะดุ้งเมื่อโดนเด็กหาว่าลามก เขาเปล่าลามก
เสียหน่อย เธอนั่นแหละทำให้เขามองเองล้วนๆ
“ลามกตรงไหน” เขากักเอาไว้ ไม่ให้เธอหนี อยากหาเรื่องคุยกับเด็กสาวนานๆ
“คุณอามาแอบซุ่ม นอนมอง... ช่อเล่นน้ำ” เธอยั้งปาก ชะงักคำพูด ก่อนจะเปลี่ยนประโยคท้าย แทนคำว่า ‘มองนม’
“ไม่ได้ซุ่ม แต่ง่วง เลยไปแอบงีบนอนตรงนั้น เรามาเล่นน้ำให้อามอง... เอง” ช่อเพชรหน้าแดงซ่านกับประโยคที่เขาเว้นวรรค เงยหน้าขึ้นมองแล้วรู้สึกไม่ต่างกัน
บ้าน่ะสิ ใครจะไปอยากให้เขามองนมกันเล่า ชิ!
“หน้าแดงเป็นอะไร หรือคิดเรื่องลามก”
“ช่อเปล่าเสียหน่อย” เธอรีบปฏิเสธ ทำท่าจะมุดเข้าใต้รักแร้เพื่อหนีเขา แต่เขาเลื่อนลงมากักเอาไว้อย่างรู้ทัน สุดท้ายเธอก็ตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา
อยู่ดี
“เย็นนี้อาจะกลับแล้ว กว่าจะได้เจอกันอีกตั้งอาทิตย์หนึ่งแน่ะ คุยกันดีๆ ไม่ได้เหรอ”
“ช่อก็คุยอยู่นี่ไงคะ”
“จะกลับแล้วจริงๆ นะ”
“ก็กลับไปสิคะ”
“กลับไปแล้วกลัวคิดถึง”
“แน้...” เธอเงยหน้าขึ้น แก้มยิ่งแดงหนักกว่าเดิม เมื่อสบตาคมเข้ม
ของคนพูด
“อยากได้อะไรเอาไปดูต่างหน้าให้หายคิดถึงบ้าง”
“โรคจิตเหรอคะ อยากได้อะไรของช่อ หรือ...” เธอพูดไม่ทันจบประโยค
ก็ตาโตใส่เขา
“หรืออะไร” ภามทำหน้างง แต่เห็นสีหน้าของเธอก็อมยิ้ม
“คิดลามกอยู่แน่ๆ เลย”
“เปล่าเสียหน่อย” คนคิดตอบเสียงสูง
“แล้วคิดอะไร” เขาเอ่ยถาม
“ไม่ได้คิดค่ะ”
“ร้อยมาลัยให้อาสักพวงได้ไหม เอาไปนอนกอดจะได้หายคิดถึง มาลัย
ที่ร้อยไปถวายพระเมื่อเช้าสวยมาก” เขาจับปลายคางสาวเอาไว้ ช่อเพชรสะท้าน ก่อนจะรีบพยักหน้า ต้องรีบตกลง เพราะไม่งั้นต้องตกอยู่ในอ้อมแขนของเขาแบบนี้อีกนานเป็นแน่ เขาต้องยอมผละห่างอย่างแสนเสียดาย เธอรีบถอยหนีไปอยู่เสียไกล
“เมื่อกี้คิดว่าอาอยากได้อะไรเหรอ”
“ช่อจะไปเก็บดอกไม้มาร้อยมาลัยนะคะ” เธอไม่ตอบคำถาม
ของเขาแต่เตรียมหนี ภามมองตามร่างน้อยไปจนสุดตา
ยามปกติที่เธอไม่ซนแบบนี้ เด็กสาวจะนุ่งผ้าถุงทอมือลายพื้นเมือง
กับเสื้อลายดอก พร้อมกับเกล้าผมเรียบร้อย เพราะคุณยายชอบให้แต่งตัว
แบบนี้ แต่ถ้ายามไหนหนีไปซุกซนไม่ให้คุณยายรู้ ก็จะแต่งตัวอีกแบบ ปีนป่ายต้นไม้ ไปกระโดดน้ำตูมๆ เขาคิดว่าคุณยายคงรู้ แต่คร้านจะห้ามปราม เพราะท่านแก่มากแล้ว จะมาวิ่งไล่จับเด็กซนก็คงจะไม่ไหว แต่ถ้าเป็นเขาก็ไม่แน่
อยากวิ่งจับเด็กซนมาฟาดก้นแรงๆ ด้วยความมันเขี้ยวเหลือเกิน
“มองเราเหมือนกับจะกลืนกิน นึกว่าจะขอชุดชั้นในไปนอนดม เขาว่าพวกตาแก่นี่โรคจิต” คนเก็บดอกไม้ใส่ตะกร้าบ่นอุบ
“คิดว่าอาโรคจิตอยากได้ชุดชั้นในเราไปดมจริงๆ เหรอ” ภามแทบ
หลุดขำ ชะโงกหน้ามาถามจากทางด้านหลัง เพราะเขาย่องมาหาคนที่กำลังเด็ดดอกไม้อย่างขะมักเขม้น แถมยังบ่นออกมาให้เขาได้ยินอีก
“อุ๊ย! อาภาม เสียมารยาทนะคะ มาแอบฟังคนอื่นแบบนี้”
“ไม่ได้แอบฟัง แต่อามานานแล้ว เราพูดให้อาฟังเอง” ช่อเพชรเดินหนี
ไปเด็ดดอกรัก เขาก็ตามไปด้วย เด็ดดอกเดียวกันกับเธอ เด็กสาวหดมือ เดินหนีไปนั่งร้อยมาลัยใกล้ๆ คุณยาย
“จะร้อยมาลัยเหรอแม่ช่อ” คุณยายเอ่ยถามหลานสาวที่คลานเข่ามานั่งพับเพียบอยู่ใกล้ๆ
“ค่ะคุณยาย”
“ได้ข่าวว่าหนูจะไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ตาภามสอนหนังสืออยู่เหรอลูก” คุณกนกกานต์เอ่ยถาม ขณะมองร่างน้อยที่กำลังร้อยมาลัยอย่างคล่องแคล่ว
แต่ประณีตสวยงาม
“ค่ะคุณป้า” เธอตอบรับ เหลือบไปมองคนที่เดินมานั่งใกล้ๆ มารดา
ของเขาก่อนหน้านี้ไม่นาน
“ถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยเหลือก็บอกคุณอาเขานะลูก” ภามได้ยินมารดาแทนตัวเขาว่าอากับเด็กสาวแล้วต้องลูบท้ายทอยไปมา มันดูแก่งั่กยังไงก็ไม่รู้ เธอเรียกมารดาของเขาว่าป้า แล้วเรียกเขาว่าอา ฟังแล้วจั๊กจี้หัวใจพิลึก
“ค่ะคุณป้า”
“ยายฝากหลานด้วยนะ ภามเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีอะไรก็ตักเตือนกันได้” คุณยายพูดฝากฝังด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ครับคุณยาย” ภามรับคำด้วยความเต็มใจ ผู้ใหญ่นั่งคุยกันอย่างออกรสตามประสาคนถูกใจกัน ในขณะที่ภามนั่งมองเด็กสาวร้อยมาลัยเพลินจนได้เวลากลับ
คุณยายและช่อเพชรเดินมาส่งแขกหน้าเรือน ในขณะที่ภามไปนำรถ
มารับมารดา ช่อเพชรยื่นพวงมาลัยให้ภามด้วยท่าทีขัดเขินอยู่มาก ผู้ใหญ่
มองหน้ากันก่อนจะอมยิ้ม
“สรุปว่าร้อยมาลัยให้พ่อภามรึ ยายนึกว่าจะร้อยไปถวายพระในห้องพระเสียอีก” คุณยายเอ่ยถาม ช่อเพชรไม่ตอบ เธอเดินไปหลบหลังคุณยาย ในขณะที่ภามรับมาลัยมาถือเอาไว้อย่างหวงแหน
ภามกล่าวขอบใจเด็กสาว มองสบตาเธอ ช่อเพชรหลบวูบ ตอบรับเพียงบางเบา
“ไปกันเถอะจ้ะ” คุณกนกกานต์พูดกับบุตรชายยิ้มๆ ก่อนจะยกมือไหว้คุณยายช่อลดา ช่อเพชรจึงยกมือไหว้แขกทั้งสองของคุณยายด้วย แต่ไม่กล้ามองสบตาคนที่จ้องเธอไม่วาง
“เราร้อยมาลัยให้พ่อภามรึ ไปตกลงปลงใจ ร้อยมาลัยให้กันตอนไหน”
“หนูเปล่าคิดอะไรกับอาภามนะคะ” คนตอบ... ตอบไปอีกทาง คุณยายถึงกับอมยิ้ม
“แล้วยายว่าอะไรล่ะ ถามอีกอย่างกลับตอบอีกอย่าง” ช่อเพชรก้มหน้างุดๆ เอาปอยผมเล็กๆ ทัดหูด้วยความเก้อเขินหนักกว่าเก่า