Chapter 2: นายท่าน

1684 Words
มาลิก อัลชาร์ ชายหนุ่มรูปงามวัย 30 ปีมิได้เป็นแค่หนุ่มหล่อทั่วไปที่มีเพียงรูปทรัพย์ ด้วยสายเลือดที่ผูกพันกับวงศ์กษัตริย์ที่ไหลเวียนอยู่ในตัวทำให้มาลิกมีรัศมีของผู้นำแฝงอยู่ เมื่อเขาสั่งสาวน้อยที่ใครสักคนส่งเข้ามาในห้องของเขาให้เปลื้องผ้าจึงทำให้เขาดูดุดันกว่าคนทั่วไปหลายเท่านักและดูเหมือนสาวน้อยจะดูลนลานกับคำสั่งของเขาอย่างช่วยไม่ได้ “เออ... ชื่อปูลมค่ะ” หญิงสาวเบื้องหน้าตอบคำเขาหลังจากที่มาลิกขอชื่อที่เรียกง่ายกว่า ‘ปาฏลี’ จากนั้นเธอจึงเริ่มเปลื้องผ้าตามคำสั่งเขา เท่าที่ฟังเธอพูดมาลิกปะติดปะต่อได้ว่าสาวเจ้าคงเข้าใจอะไรผิดสักอย่าง แต่ที่สำคัญเจ้าพวกบอดี้การ์ดนอกห้องก็คงเข้าใจอะไรผิดไปด้วยถึงได้ส่งยัยเด็กเฉิ่มคนนี้เข้ามา แต่น่าจะปลอดภัย นอกจากนมใหญ่ ก็ไม่ได้พกอาวุธหรือสิ่งของอันตรายเข้ามาด้วย ไม่น่าจะเป็นพวกลอบสังหาร มาลิกกอดอกครุ่นคิดแล้วมองสาวน้อยร่างเกือบเปลือยตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ “ถอดให้หมด บราเซียกับกางเกงในด้วย” ไม่แน่... อาจซ่อนอะไรไว้ใต้ชุดชั้นในก็ได้ หนุ่มหล่อเข้มคิดแล้วจ้องมองทุกสัดส่วนของปาฏลีด้วยความละเอียดถี่ถ้วน สาวน้อยที่ตรงหน้าเม้มริมฝีปากอิ่มดูนุ่มนิ่มแน่น เธอนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งเหมือนชั่งใจก่อนจะค่อย ๆ ปลดตะขอเสื้อชั้นในปล่อยให้อกอวบคู่งามพร้อมยอดปทุมถันสีหวานออกมาอวดสายตา แววตาของหนุ่มหล่อปรากฏความพึงพอใจในสิ่งที่เห็น “แล้วกางเกงชั้นในล่ะ?” เขาถามต่อทันทีและจ้องหน้าของปาฏลีที่ค่อย ๆ ขึ้นสีแดงทีละน้อย “กางเกงชั้นในเดี๋ยวค่อยถอดได้ไหมคะ? หนูอาย... หนูไม่สวย” ปาฏลีพูดออกไปแล้วยกแขนขึ้นมาปิดบังอกกลมโตคู่งาม เสียงของเธอเบาลงอย่างน่าใจหาย มีแวบหนึ่งที่มาลิกรู้สึกได้ว่าสาวน้อยแปลกหน้าทะนงตนและพูดจาฉะฉาน แต่คำพูดที่ดูมั่นใจของเธอมันดูจะลดน้อยลงตามจำนวนเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างกาย “ไม่สวยตรงไหน?” มาลิกถามน้ำเสียงจริงจังแล้วเดินเข้าไปใกล้เจ้าหล่อน ทำให้เขาเห็นดวงหน้าเรียวรูปไข่ที่ปราศจากเครื่องสำอางแต่งแต้มชัดเจนขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสุกใสของเธอที่ตัดกับผิวขาวละเอียดทำให้มันดูดึงดูดสายตา จมูกโด่งน้อย ๆ ไม่ได้เป็นทรงหยดน้ำเหมือนที่สาวเอเชียชื่นชอบกันแต่ก็รับกับใบหน้าของเธอดี ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อส่งให้ใบหน้าน้อยดูมีเสน่ห์ “ก็หนูเป็นยัยแว่นตาหนาเตอะ หัวยุ่งเหยิง ตัวเท่าลูกหมา...” ปาฏลีพูดแล้วก้มหน้าหลบตาเขา ‘คิดว่ากานต์จะชอบคนแบบเธอจริงจังเหรอ? แบบที่ใส่แว่นหนา ไม่มีปัญญาไปผ่าตัดเลสิก แบบที่หัวฟู ดูไม่ใส่ใจตัวเอง แล้วยังตัวเท่าเด็กม.ต้น มองตรงไหนก็ไม่น่าจะเป็นผู้หญิงในฝันของใครได้ ชาตินี้จะมีสิทธิ์ได้เสียตัวกับคนอื่นเขาหรือเปล่าเถอะ’ เสียงของผู้หญิงคนนั้นที่แย่งกานต์ไปจากเธอยังดังขึ้นในหัวของปาฏลี ตลอดชีวิตของสาวน้อยเธอไม่เคยคิดว่าตัวเองสวย แต่ไม่ได้คิดถึงว่าคนอื่นจะมองตัวเองขี้เหร่เลยสักนิดเพราะอย่างน้อยตอนเธอเป็นเฟรชชี่ปีหนึ่งพี่กานต์ก็จีบเธอ “เธออาจจะไม่ใช่แบบที่ฉันชอบ แต่เธอก็ไม่ได้แย่นี่ แค่...” มาลิกเดินเข้ามาใกล้ร่างเล็กเกือบเปลือยแล้วดึงแว่นตาออกจากใบหน้ารูปไข่พร้อมกับกระตุกยางรัดผมที่มัดเปียของปาฏลีออกพลางใช้มือใหญ่สางผมเป็นลอนของเธอเบา ๆ “ว้าย!” ปาฏลีร้องแล้วปล่อยมือที่บังอกอิ่มออกพยายามจะกระโดดเอื้อมแย่งแว่นตาของเธอคืนมาในขณะที่มาลิกยกมันชูขึ้นสูงเหนือหัวจนปาฏลีไม่มีวันเอื้อมถึง “...แค่เอาไอ้แว่นหนา ๆ นี่ออกแล้วปล่อยผมให้มันดูเป็นผู้หญิงหน่อยก็เท่านั้น เธอไม่ได้ขี้เหร่ ยิ่งตอนแก้ผ้ายิ่งสวย” มาลิกพูดเสียงจริงจัง ไม่เหมือนคนเกี้ยวพาราสีกันซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ปาฏลีต้องหยุดกระโดดแย่งแว่นคืนมาแล้วใส่ใจกับคำพูดของเขา “คุณพูดจริงเหรอคะ?” สาวน้อยถาม ตอนนี้เธออยู่ชิดเขาจนผิวเนื้อหนุ่มสาวเฉี่ยวฉิวกัน ชวนให้เกิดความรู้สึกหวามไหวในใจของเธอ “ฉันไม่โกหก ไม่มีเหตุผลให้โกหก แค่เลิกใส่แว่น หวีผมจัดทรงดี ๆ แต่งหน้าแต่งตานิดหน่อยก็สวยแล้ว ส่วนเรื่องเตี้ย... มันคือ small ใช่ไหม? Small is beautiful นะ จิ๋วแต่แจ๋ว เล็กคือสวยงาม” ชายหนุ่มที่พูดไทยชัดเป๊ะเหมือนจะพยายามคิดคำศัพท์ที่ฟังดูดีกว่าคำว่า ‘เตี้ย’ มาปลอบใจเธอ แล้วโยนแว่นของเธอลงไปที่ถังขยะไกลลิบราวกับนักบาสมือฉมัง เพราะมันลอยละลิ่วร่วงลงตรงถังขยะพอดิบพอดี “ว้าย! คุณโยนแว่นหนูทิ้งทำไมคะ? ถ้าหนูไม่มีแว่นหนูมองอะไรไม่เห็นนะคะ สายตาหนูสั้นมากค่ะ” สาวน้อยร้องเสียงหลงแล้วทำท่าจะเดินไปทางถังขยะแต่ร่างของเธอกลับโดนมาลิกตวัดขึ้นมาอุ้มในท่าเจ้าหญิงแล้วเดินดุ่ม ๆ ตรงไปยังประตูห้องด้านในอีกห้องหนึ่ง ห้อง 961 นี้เป็นห้องที่ใหญ่มาก ด้านในห้องมีประตูเปิดสู่ห้องต่าง ๆ อีกหลายห้อง และดูเหมือนเนื้อที่อันกว้างใหญ่ทั้งหมดนี้จะมีแต่มาลิกอยู่เพียงผู้เดียว “คะ... คุณ... คุณคะ... คุณจะพาหนูไปไหนคะ?” สาวน้อยไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนเพราะแน่นอนว่าเธอยอมจ่ายเงินซื้อตัวเขามาเพื่อการนี้ เธอแค่อยากรู้ว่าคืนนี้ของเธอต้องไปจบลงตรงที่ใด อกเปลือยเปล่าของเขาสัมผัสกับร่างนุ่มนิ่มของเธออย่างช่วยไม่ได้ มันทำให้สาวน้อยที่เตรียมใจมาเสียตัวต้องหน้าแดงขึ้นอีกครั้ง “เลิกเรียกฉันว่า ‘คุณ’ ได้แล้ว ฉันบอกแล้วว่าฉันชื่อมาลิก” เขาไม่ตอบแต่กลับอุ้มเธอตรงไปยังห้องห้องหนึ่ง “คือ... จะให้หนูเรียกคุณว่า ‘มาลิก’ เหรอคะ?” ปาฏลีโอบลำคอหนาของเขาแน่นเพราะกลัวตกในขณะที่ถาม “ไร้มารยาท! มีไม่กี่คนหรอกนะที่เรียกชื่อฉันโดยตรงได้ เธอต้องเรียกฉันว่า ‘นายท่าน’ ไหนลองเรียกสิ” เขาออกคำสั่งกับเธอเสียงดุอีกครั้งเหมือนเจ้านายที่กำลังสั่งสอนบ่าวรับใช้ นี่คุณเขาเล่นบทเป็นนายท่านเหรอ? เหมือนที่เคยศึกษามาไม่มีผิด มีพวกชอบเล่น Play Role ตี๊ต่างว่าเป็นโน่นเป็นนี่จริง ๆ ด้วย “คือ... นายท่านคะ ขอแว่นตาหนูคืนได้ไหมคะ? หนูต้องเสียเงินให้นายท่านตั้งแสนหนึ่งนะคะ ขอหนูชื่นชมหน้าตาหล่อ ๆ ของนายท่านให้นาน ๆ หน่อยไม่ได้เหรอคะ?” ปาฏลีพยายามต่อรองในขณะที่มาลิกอุ้มเธอเข้าไปในห้องนอนใหญ่ “พูดได้ดี แต่ ไม่ ! เอาแว่นออกสวยกว่า อีกอย่างที่บอกว่าจะให้ฉันแสนหนึ่งหลังจบคืนนี้โกหกกันหรือเปล่า? ถ้าเธอมีเงินแสนเธอไปผ่าตัดเลสิกให้มองเห็นชัดไม่ดีกว่าเหรอ? ราคาน่าจะไล่เลี่ยกัน” หนุ่มหล่อถามก่อนที่จะวางเธอลงบนเตียงใหญ่ ปาฏลีเห็นทุกอย่างเป็นภาพเบลอไปหมด เธอรู้แต่ว่าเนื้อตัวของเขาที่แนบอยู่กับเนื้อนิ่มของเธอเมื่อกี้มันแน่นมากจนเธอใจสั่น สาวน้อยรู้ว่าห้องที่เธออยู่ตอนนี้มันกว้างมาก มีผ้าม่านพลิ้วสีขาวเต็มไปหมดและเตียงที่เขาปล่อยให้เธอนั่งลงตอนนี้ก็นิ่มมากด้วย “ใส่แว่นไม่ได้ลำบากกับชีวิตหนูและไม่ได้ทำให้หนูปวดใจค่ะ สิ่งที่ทำให้หนูปวดใจและแก้ไขได้ด้วยเงินในตอนนี้คือการลืมผู้ชายคนนั้นไปเสีย... การลบคำพูดของคนที่หาว่าอย่างหนูทั้งชาติก็ไม่มีใครเอาออกไป คนเรามีเรื่องที่ให้ความสำคัญไม่เหมือนกัน ตอนนี้เรื่องแว่นของหนูไม่สำคัญเท่าเรื่องนี้” ปาฏลีบอกหนุ่มหล่อแล้วเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มมาคลุมกาย ไม่ใช่แค่เพราะอายแต่เพราะเครื่องปรับอากาศในห้องมันทำให้เธอรู้สึกหนาว “เรื่องที่เธอต้องหาหนุ่มหล่อ เก่งเรื่องเซ็กซ์มานอนด้วยเนี่ยนะ สำคัญกว่าเรื่องแว่น? ปัญญาอ่อน” มาลิกพูดเสียงเรียบแล้วดึงผ้าห่มที่สาวน้อยพยายามซุกตัวลงไปออก แต่เธอก็ยื้อมันเอาไว้ “อย่าเอาผ้าห่มไป หนูหนาว และหนูก็ไม่ได้ปัญญาอ่อนด้วย หนูแค่เป็นเด็กอายุ 21 ที่ไม่รู้จักคิด หนูต้องการใช้เงินที่หนูหามาได้ในเรื่องที่หนูอยากทำ หนูผิดเหรอคะ?” สาวน้อยถามเขาแล้วกำผ้าห่มในมือแน่น มาลิกถอนหายใจแล้วนิ่วหน้าก่อนจะออกแรงดึงผ้าห่มพรวดเดียวออกมาจากร่างเล็กของเธอแล้วก้าวเท้าขึ้นเตียง ตวัดขาแข็งแรงนั่งคร่อมคนตัวเล็ก “ผิดที่ไม่รู้จักโต ไม่ผิดที่ทำเรื่องที่อยากจะทำด้วยเงินของตัวเอง และต้องเอาผ้าห่มออกเพราะอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าเธอจะร้อนจนแทบคลั่งเชียวแหละ” เขาบอกเธอเสียงดุแล้วก้มใบหน้าหล่อเหลาลงบดจูบกับเธอโดยที่ปาฏลีไม่มีโอกาสตั้งตัวเลยสักนิด ว้ายยยยย! นี่พี่เขาจะเริ่มแล้วใช่ไหม? เงินหนึ่งแสนของหนูกำลังจะเริ่มทำงานแล้วใช่ไหม?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD