ราชนาวีเสน่หา EP.14

1479 Words
“กลับบ้าน” พีรวิทย์ตัดสินใจบอกหลานสาวอีกครั้ง ก่อนมองเลยไปยังเพื่อนสนิทของเขากับเพื่อนสนิทของหลานสาว ถึงจะแปลกใจอยู่บ้างกับเรื่องที่ทั้งสองทำลงไป แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก กลับเห็นด้วยเล็กน้อยที่ในที่สุดโชติกาตัดสินใจจบปัญหาที่คาราคาชังมาตลอดหลายปีจบเสียที เขาเคยคิดว่าโชติกากับภัทริยาเป็นคู่รักกัน และเพราะโชติกาพยายามตีตัวออกห่าง เลยทำให้หลานสาวของเขาตามติดและเข้าไปวุ่นวายกับชีวิตโชติกายิ่งกว่าเดิม แต่ ณ เวลานี้เขากลับคิดว่าคนที่สร้างปัญหาขึ้นทั้งหมด มีเพียงหลานสาวของเขาคนเดียว “คุณใบเตย” “ค่ะ” โชติกาขานรับ แปลกใจกับสีหน้าและแววตาที่พีรวิทย์มองเธอ “ผมฝากดูแลแฟรงค์ต่อจากนี้ด้วยก็แล้วกัน ที่จริงผมไม่ต้องฝากคุณก็ได้ เพราะคุณกับแฟรงค์เป็นแฟนกันอยู่แล้ว” “เอ่อ...” โชติกาถึงกับพูดไม่ออก เมื่อพีรวิทย์โยนหน้าที่ดูแลเพื่อนสนิทของเขามาให้ และดูเหมือนว่าคนข้างกายจะยินดีอยู่กับเธอเสียด้วย “แล้วฉันจะโทร. หานะแฟรงค์” พีรวิทย์บอกเพื่อนสนิทแล้วลากภัทริยาออกมาจากตรงนั้น พรุ่งนี้เขามีเรื่องที่ต้องสะสางกับภัทริยาอีกเยอะ และต้องรีบจัดการทำมันเสียด้วย เขาไม่ปล่อยให้เธอทำตามใจตัวเองอีกแล้ว “โอเค” แฟรงค์ตอบ หันมายิ้มให้สาวสวยข้างกาย “งั้นพวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้านเถอะ” “ภัทรไม่กลับค่ะอาพีท ภัทรไม่กลับ!” ภัทริยาร้องโวยวาย เมื่อถูกอาหนุ่มลากออกจากผับ ดวงตาคู่สวยคลอไปด้วยหยาดน้ำตา พยายามร้องอ้อนวอนเสียงเศร้า เพื่อให้อาหนุ่มปล่อยเธอกลับไปหาโชติกา “ปล่อยภัทรนะคะอาพีท ภัทรจะกลับไปหาใบเตย อาพีทก็รู้ว่าภัทรรักใบเตยแค่ไหน ถ้าไม่มีใบเตย ภัทรก็อยู่ไม่ได้” “อย่าให้ฉันต้องหมดความอดทนกับเธออีกคนนะภัทริยา ถ้าเธอยังโวยวายเหมือนคนบ้าแบบนี้ ฉันจะตัดเธอออกจากกองมรดก” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเข้ม ภัทริยาหยุดคร่ำครวญทันที เมื่อได้ยินสิ่งที่อาหนุ่มของเธอพูด สิ่งที่เธอต้องการกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ไม่เพียงผู้เป็นอาจะไม่ปล่อยแล้ว กลับพูดใส่หน้าเธอว่าจะตัดเธอออกจากกองมรดก ถ้าขืนเธอยังดื้อ ปองธรรม รวิพรต่างหันมามองหน้ากันเมื่อเห็นภัทริยาถูกลากออกไปจากผับ ก่อนหันมาสนใจหนุ่มหล่อที่ยังยืนยิ้มตรงหน้าพวกเขา “แล้วพี่ใบเตยจะทำยังไงกับ...เอ่อ...เพื่อนคุณพีทล่ะครับ” “เดี๋ยวพี่จะพาเขาไปส่งที่พักของเขาก็แล้วกัน” “ผมไม่มีที่พักหรอกครับ เพราะผมเพิ่งลงจากเครื่องเมื่อช่วงเย็นนี่เอง ยังไงผมก็รบกวนคุณหาที่พักให้ผมด้วยนะครับ” แฟรงค์ตัดสินใจโกหกเรื่องที่พักกับสาวสวยที่เขาถูกใจเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อหกเดือนก่อน “คุณก็ไปพักที่โรงแรมสิ โรงแรมของคุณพีทก็ได้ ลืมไปแล้วหรือไงว่าคุณพีทเป็นเพื่อนสนิทของคุณ” “พีทเป็นเพื่อนสนิท แต่คุณเป็นแฟนผมนะครับ” “แฟนหลอกๆ” โชติกาพึมพำอย่างไม่ใส่ใจ “ก็ได้ งั้นผมจะไปบอกความจริงกับเพื่อนของคุณว่าเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน” แฟรงค์บอก เพราะคนที่เสียผลประโยชน์ไม่ใช่เขาแต่เป็นเธอมากกว่า ถ้าหลานสาวของพีรวิทย์รู้ว่าเขากับสาวสวยคนนี้ไม่ได้เป็นคู่รักกัน แล้วอะไรจะเกิดขึ้น? โชติกาเม้มปากแน่น เงยหน้าขึ้นสบตามองเพื่อนสนิทของอาภัทริยาอย่างหัวเสีย นี่เขาคิดจะแบล็คเมล์เธอด้วยเรื่องนี้จริงๆ หรือ? โอ้...พระเจ้า เธอไม่อยากเชื่อเลย “ให้คุณแฟรงค์ไปพักที่บ้านเราก็ได้นิครับพี่ใบเตย” “ไม่ล่ะ พี่ไม่อยากตอบคำถามของคุณพ่อ” “แล้วพี่ใบเตยจะให้คุณแฟรงค์ไปพักที่ไหนล่ะครับ” “ที่คอนโดของฉันก็แล้วกัน” โชติกาตัดสินใจให้เพื่อนสนิทของพีรวิทย์ไปพักที่คอนโดมิเนียมแทนคฤหาสน์ขจรเดช เธอไม่อยากมีปัญหากับภรรยาใหม่และลูกเลี้ยงของบิดาอีก แค่นี้เธอก็ปวดหัวจนแทบระเบิดแล้ว “มันจะดีจริงๆ หรือใบเตย ที่จะให้...เอ่อ...คุณแฟรงค์ไปพักที่คอนโดของใบเตยนะ” รวิพรถามเพื่อความแน่ใจ ถึงแฟรงค์เป็นเพื่อนสนิทของญาติภัทริยาก็เถอะ แต่ยังไงเขาก็เป็นผู้ชายและไม่รู้หัวนอนปลายเท้าด้วย “นั่นสิครับพี่ใบเตย” “ช่างมันเถอะ ฉันเชื่อว่าเพื่อนสนิทของคุณพีท คงเป็นคนดีและน่านับถือคนหนึ่ง เพราะถ้าไม่ดี คุณพีทคงไม่คบ จริงไหมค่ะคุณแฟรงค์” โชติกาบอกเพื่อนสนิทกับน้องชายแล้วหันไปถามชายหนุ่มที่ยืนยิ้มหน้าระรื่นอยู่ข้างกาย เธอมั่นใจว่าผู้ชายที่พีรวิทย์คบต้องเป็นคนดี น่านับถืออยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นพีรวิทย์คงไม่คบเป็นเพื่อนแน่ “ครับ ผมเป็นคนดี เป็นรั้วของชาติแล้วผมก็เป็นผู้ชายที่รักเดียวใจเดียวด้วยนะครับ” แฟรงค์บอกอย่างอารมณ์ดี เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของสาวสวยข้างกาย ถ้าคิดจะสลัดเขาทิ้งตอนนี้ล่ะก็ สายไปแล้ว คนอย่างแฟรงค์ คารุสโซ่ ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงที่ชอบ เขาจะเดินหน้ารุกทันที โดยไม่ยอมให้เธอได้ตั้งตัวแน่ “ให้ผมไปนอนเป็นเพื่อนที่คอนโดไหมครับพี่ใบเตย” “ไม่เป็นไรหรอกป้อง ฉันเชื่อว่าผู้ชายคนนี้รักษาคำพูดและเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ทำอะไรฉัน” “แน่ใจนะใบเตย” รวิพรถามย้ำเพื่อความมั่นใจ “แน่ใจสิ นี่คุณ...” โชติกาตอบเพื่อนสนิทแล้วหันไปเรียกหนุ่มหล่อข้างกายด้วยย้ำเสียงไม่ค่อยชอบใจนัก “ว่าไงครับ” “คุณเป็นคนดีแค่ไหน” “ผมเป็นคนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ” แฟรงค์ตอบแล้วยิ้มให้สาวสวยตรงหน้า แล้วสบตามองชายหนุ่มอีกคนที่ยืนจ้องหน้าเขาไม่วางตา สายตาเริ่มไม่เป็นมิตรกับเขานัก คงหวงพี่สาวมาก เลยไม่ชอบที่เขาจะไปพักที่คอนโดมิเนียมของพี่สาวตน “พรุ่งนี้ผมจะไปหาพี่ใบเตยตั้งแต่เช้าเลยนะครับ” ปองธรรมบอกผู้เป็นพี่สาวอย่างเป็นห่วง เขาไม่ใช่คนโง่ที่ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร สายตาผู้ชายคนนี้มองพี่สาวของเขามันไม่ธรรมดา “ไม่ต้องหรอกป้อง เจอกันตอนเที่ยงที่บ้านก็แล้วกัน” “ก็ได้ครับ” ปองธรรมตอบรับอย่างไม่เต็มใจนัก เพราะความรู้สึกในใจบอกเขาว่า ผู้ชายที่ยืนยิ้มหน้าระรื่นอยู่ข้างพี่สาว อาจนำปัญหามาสู่พี่สาวและคนในครอบครัวของเขาก็ได้ “ถึงบ้านเมื่อไร โทร.มาบอกฉันด้วยนะป้อง” “พี่ใบเตยก็เหมือนกันนะครับ ถึงคอนโดเมื่อไร โทร. บอกผมด้วย” ปองธรรมบอกพี่สาวทันทีที่เธอเดินออกไปจากโต๊ะ ตามด้วยเพื่อนสนิทของพีรวิทย์ ปัญหาเรื่องภัทริยายังไม่จบ ดันมีปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นมา เขาไม่มั่นใจว่าสิ่งที่พี่สาวทำลงไปจะเป็นเรื่องดี ถ้าภัทริยายอมตัดใจจากพี่สาวเขาก็คงดี แต่ถ้าไม่...เชื่อเถอะว่าปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ต้องแย่กว่าที่เป็นอยู่แน่นอน “นายก็กลับบ้านไปได้แล้ว เพราะฉันก็จะกลับบ้านแล้วเหมือนกัน” “ให้ผมไปส่งคุณดีกว่า ดึกขนาดนี้แล้วมันอันตราย” “ฉันเอารถมา” รวิพรบอก “ก็จอดเอาไว้ที่นี่สิครับ หรือให้ลูกน้องของพี่รัชขับกลับไปก็ได้” “ตกลงนายจะไปส่งฉันให้ได้ใช่ไหม?” รวิพรถามย้ำ “ครับ” ปองธรรมตอบ “เอางั้นก็ได้ รอแป๊บ...ฉันไปหยิบกระเป๋าแล้วบอกพี่รัชก่อน เจอกันที่หน้าผับก็แล้วกัน” “ครับ” ปองธรรมรับคำแล้วเดินออกจากผับไปขับรถมาจอดรอเพื่อนสนิทของพี่สาวที่หน้าประตูทางเข้าผับ จากนั้นไม่นานรวิพรก็เดินออกมาขึ้นรถแล้วเขาก็ขับรถไปส่งเธอที่บ้าน แล้วขับรถกลับคฤหาสน์ขจรเดชทันทีเช่นกัน //////// ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD