บทที่2

1206 Words
บทที่2 เมื่อร่างสตรีผู้เป็นเจ้าของงานในวันนี้เดินเข้ามา บุรษหนุ่มรูปงานรีบสาวเท้ายาวเข้ามาประชิดตัวนางทันที อาหารมื้อเย็นเมื่อคืนเขาไม่มีโอกาสได้คุยกับนางเลย พอรับประทานอาหารเสร็จผู้ใหญ่ต่างพากันแยกย้ายกลับเรือนเพื่อผักผ่อนเนื่องจากเพิ่งเดินทางมาไกล “อิงอิง” กู้เฉิงกงโปรยยิ้มเมื่อเดินมาหยุดยังเบื้องหน้าของสตรีที่เขาปรารถนา ไม่สนใจสายตาใคร่รู้ของผู้ใด เขาไม่อาจบิดบังความรู้สึกที่มีต่อนางได้อีกต่อไปแล้ว หากนานกว่านี้ทุกอย่างอาจสายจนเกินแก้ไข ฝ่ามือหนาผายออกไปเบื้องหน้าหมายให้นางวางมือบางวางลงทาบทับ ก่อนจะพาเจ้าของงานเดินเข้าไปหากลุ่มของบิดามารดาของนาง “ท่านพี่เฉิงกง” เผยอิงส่งยิ้มหวานตอบ บุรุษรูปโฉมงดงามผู้นี้งเป็นเพียงบุรุษเดียวที่นางเอ่ยเรียกด้วยท่าทีสนิทสมมกว่าผู้ใด ก็นะในบรรดาบุรุษทั้งหมดมีเพียงกู้เฉิงกงที่บิดาของนางไว้ใจให้เข้าใกล้นางมากที่สุดแล้ว “เผยฮูหยิน ท่านช่างโชดดีเหลือเกินที่บุตรสาวของท่านงดงามราวดอกกุหลาบงาม อีกทั้งยังเรียบร้อยสมกับเป็นกุลสตรีชั้นสูง ผิดกับสื่อเหนียงของข้า อายุอ่อนกว่าเผยออิงเพียงไม่กี่ปีเท่านั้นแต่ก็ยังมิรู้ความกระโดกกระเดกเหลือทนข้าล่ะเหนือยใจ” ประโยคราวกับติติงบุตรสาวแต่น้ำเสียงของกู้ฮูหยินกลับพออกพอใจและภูมิใจในตับุตรสาวของตนไม่น้อย “แล้วเหตูใดนางถึงไม่มีร่วมงานในวันนี้ด้วย” เผยฮหยินฝืนยิ้ม แรกเริ่มเหมือนกู้ฮูหยินเหมือนจะเอ่ยชมบุตรสาวของนางแต่ตอนท้ายกลับเอ่ยถึงบุตรสาวของตนเองเสียอย่างนั้น เหมือนต้องการให้ถามถึงกลายๆ นางจึงต้องต่อประโยคที่สตรีอีกคนต้องการ แม้จะหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวงมาปักหลักไกลถึงเมืองชิงหลง แต่ก็ยังทิ้งสังคมของเหล่าฮูหยินไปไม่ได้ ยิ่งวันนี้เป็นงานวันเกิดของเผยอิงด้วย นางจะไม่ได้ให้ผู้ใดมองเผยอิงอย่างที่นางเคยโดนจากเหล่าสตรีชนชั้นสูงที่เมืองหลวงเด็ดขาด นางต้องทำตัวเป้นแม่งานที่ดี เผยฮูหยินท่องในใจต้องทนใส่หน้ากากสนทนากับสตีผู้นี้จนกว่างานจะจบให้ได้ “นางไม่อยากออกจากเมืองหลวงหรอก แม้เมืองชิงหลงจะเจริญขึ้นมากเท่าใด แต่ก็หาเทียบได้กับเมืองหลวงฉางอัน สือเหนียงของข้าเอาแต่เที่ยวเล่นไปวัน ๆ แต่งองค์ทรงเครื่องราวกับสตรีสูงศักดิ์ในรั้ววัง แถมใช้เงินยิ่งกว่าเศษกระดาษข้าละเหนื่อยที่จะปราม ข้าบอกนางว่าสตรีแย่งนี้บุรุษดีๆ ที่ใดจะอยากแต่งด้วย” กู้ฮูหยินแม้จะบ่นว่าบุตรสาวใช้เงินสิ้นเปลือง แต่นางกลับเชิดดวงหน้าขึ้นสูง ทั้งตัวประโคมเครื่องประดับจนแทบจะโดดเด่นกว่าเจ้าของวันเกิดอย่างเผยอิง หากไม่มีผุ้ใดล่วงรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของท่านเผยเหิงและวละก็ ต้องคิดว่าวันนี้คือวันเกิดของสตรีสูงวัยคนนี้เป็นแน่ “แล้วนางว่าอย่างไร” เผยเหิงถามอย่างเอาใจ แม้นจะขำขันที เขาเคยเจอเด็กน้อยคนนั้นหนสองหนยามต้องไปทำธุระที่ฉางอัน “นางก็หัวเราะจนตัวงอ บอกว่านางมีบุรุษที่จะแต่งด้วยแน่นอน แค่รอเวลายามนั้นข้าจะต้องอ้างปากค้างเมื่อรู้ว่าบุรุษผู้นั้นเป็นใคร” พูดจบกู้ฮูหยินก็ส่ายหัว หนนี้นางทำสีหน้าจริงจังมิได้หมายจะโอ้อดบุตรสาว เผยอิงส่งยิ้มหวานยืนฟังบทสนทนาเงียบๆ แม้จะตำหนิบุตสาวอยู่หลายประโยค แต่นางรู้ดีกว่ากู้ฮูหยินภาคภูมิใจในบุตรสาวของตนและคาดหวังในตัวสื่อเหนียงไม่น้อย เผยเหิงเดินเข้ามโอบไหล่บาง “แต่ก้จริงอย่างที่กู้ฮูหยินกล่าวมา เผยอิงเิบดตขึ้นมาได้อย่างงดงามและเพียบพร้อม นางคือความภาคภูมิใจของข้า หยกงามล้ำค่าที่ประเมินราคามิได้” เผยอิงก้มหน้าแดง แม้จะดีใจที่นางคือความภุมิใจของบิดา แต่ภายในใจก็แอบหวั่นเกรงว่ากู็ฮูหยินจะอาคำฑดของบิดานางไปนินทาและหัวเราะลับหลัง “ท่านเผยคงประเมิณค่าของเผยอิงไว้สูงเสยดฟ้าสิท่า” นั่นไง เสียงเยียดหยันและแววตาดุหมิ่นอย่างเปิดเผย ไม่คิดว่าสตรีสุงวัยผู้นี้จะกล้าทำต่อหน้าบิดาของนาง “แน่นอน!” ชายชราตอบเสียงห้วน เผยอิงสะดุ้ง ภายในใจเต้นเร่าเกรงบิดาจะปะทะคารมกับกู้ฮูหยิน เป็นกู้เแิงกงที่เอ่ยแทรกเพราะไม่อยากอยู่ท่ามกลางความตรึงเครียด เขามีเรื่องต้องกังวลพอแล้ว “ข้าว่า… เด็กๆ อย่างเราสองคนไปคุยกันตรงนู้นดีกว่า ปล่อยให้ผู้ใหญ่คุยกับเถิด” ฝ่ามือหนาดันแผ่นหลังเผยอิงให้เดินออกจากวงสนทนา ไม่สนใจอาการขัดขืนของเผยอิง “ไปเถิดน่า ปล่อยให้ผู้ใหญ่คุยกันไปเถิด อยู่ไปก็ต้องยืนฟังคำอวดบุตรสาวของตนเอง ใส่ดีกว่า งดงามกว่า” เผยอิงพยักหน้ารับแต่สายตายังมองกลับมาที่กลุ่มของบิดาไม่วางตา เกรงบิดาจะอารมณ์ข่นมัว นางไม่อยากเป็นตนเหตที่ทำให้ท่านมีปากเสยงกับผู้ใด “ว่าอย่างไร สบายดีหรือไม่ เมือวานมิได้คุยกันเลย” กู้เฉิงกงเอ่ยเสียงเรียบ รอยยิ้มพิมพ์ใจปากฎที่มุมริมฝีปากหยัก “สบายดีตามอัตภาพเจ้าค่ะ แล้วท่านพี่เฉินกงเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรสนุกๆ มาเล่าห้ข้าฟังหรือไม่คราวนี้” หน่มสาวพยักยิ้มให้แก่กันอย่างรื่นเริง บ่อยให้ผู้ใหญ่ตกลงกันเองคงจะดีที่สุด “ข้าได้หนังสือที่เจ้าอยากได้มาด้วย แต่ไม่ได้หยิบติดมือมา เอาไว้พรุ่งนี้ก่อนออกเดินทางจะเอาให้ก็แล้วกัน” “จริงหรือเจ้าค่ะ” เผยอิงยิ้มจเต็มดวงหน้า หนังสือกลอนของปราชผู้หนึ่ง หาเล่มคัดลอกที่เมืองชิงหลงไม่ได้เสียด้วย เอ้นหลันบอกว่ามีขายแค่ในเมืองหลวงเท่านั้น “แน่สิ แค่เจ้าเปรยว่าอยากได้ข้าก็ไปดันด้นหามาให้” “ขอบคุณเจ้าค่ะ ท่านใจดีกับข้าเสมอ” “ไม่มีใครดีกับเจ้าเท่าข้าแล้ว ต่อให้เป็นเฉินเฟยอวี่ก็ไม่รู้ใจข้าเท่าเจ้า” เผยอิงเอียงศีรษะ “ผู้ใดคือเฉินเฟยอวี่เจ้าคะ” “เอ๊ะ เจ้าไม่ร้หรือว่าเฉินเฟยอวี่คือผู้ใด” น้ำเสียงกู้เฉินกงแปลกใจในที “ข้าก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อจากท่านนี่ล่ะ” เผยอิงนางตอบตามตรงอย่างไม่ปิดบัง “บุตรชายบุญธรรมของบิดาเจ้า เจ้าไม่รู้จักได้เช่นไร”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD