บทรักของวิเนตย์คล้ายคนตายอดตายอยากมาอย่างยาวนาน วธุกาเหลือบตาลงด้านล่างมองคนตัวใหญ่ที่กำลังทำตัวเป็นทารกดูดนมมารดา รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ตรงที่ถูกเขาดูดดึงจนแข็งขืน ได้แต่ยกมือขึ้นไปวางบนหัวไหล่ของเขาแล้วดันออกเบาๆ แต่ก็ถูกเขาปัดออกอย่างนุ่มนวลและแนบเนียนเป็นที่สุด หญิงสาวอยากปล่อยเสียงโฮออกมานักในตอนนี้ ครั้งแรกมันไม่ได้อ่อนหวานน่าละลายใจเลย กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเป็นที่สุด เป็นเพราะไอ้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าบ่าวนี่แหละ ที่ตะกละตะกลามเหลือเกิน
“คุณวิเนตย์ อื้อ!” เขาจูบหน้าท้องแบนราบลงไปจุ่มปลายลิ้นตรงหลุมสะดือ ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นด้านบนแล้วเปิดลิ้นชักออกมา กว่าจะรู้ว่าเขาทำอะไรวธุกาก็หน้าชาเจ็บจุกไปถึงขั้วหัวใจ ในคืนเข้าหอเขากำลังสวมถุงยางอนามัย!
‘แต่ผมไม่ต้องการแม่ของลูก หรือเพื่อนคู่ชีวิตที่จะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า’
สวมเสร็จก็หันมามองเธอ ซึ่งตอนนี้แววตาคงรื้นไปด้วยหยาดน้ำใสๆ เต็มสองข้าง มันห่อเหี่ยวและรู้สึกเศร้าเหลือเกินในตอนนี้ เหมือนเขาจะรู้ว่าเธอคิดสิ่งใดอยู่ในใจ
“เราคุยกันแล้วคุณเองก็รู้” และเขาเลือกที่จะตอกย้ำความจริงในเรื่องนี้ ท่อนขาทั้งสองข้างถูกจับแยกกว้างออกจากกัน วธุกามองเขาแล้วกะพริบตาถี่ๆ เหมือนคนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์น่าหวาดกลัว
“คุณวิเนตย์ ฉันยังเอ่อ”
“เราไม่ใช่เด็กนะคุณวาท เราเพิ่งผ่านการแต่งงานมาสดๆ ร้อนๆ เมื่อกี้นี้เอง และนี่ก็คือสิ่งที่เราต้องทำในคืนนี้” เอ่ยจบเขาก็คืบคลานเข้าสู่ภายในอย่างเชื่องช้า
“อ๊ะ!” วธุกาเจ็บจนสะดุ้ง เกร็งเนื้อตัวไปทุกสัดส่วนจนคนเข้าหารับรู้ได้
“โอ๊ะ เจ็บ!” คราวนี้ไม่อาจทนได้อีกต่อไป รีบดันหน้าท้องของเขาออกเป็นพัลวัน แต่เหมือนเรี่ยวแรงของอิสตรีจะไม่อาจสู้กำแพงกล้ามเนื้อของคนที่ปักหลักเข้าหาได้
“เหมือนถูกลอตเตอรี่เลยคุณวาท คุณนี่สุดยอดจริงๆ” เสียงชมมาพร้อมกับการผนึกร่างเข้าออกอย่างต่อเนื่อง ไม่แม้แต่จะหยุดดูว่าเธอพร้อมหรือเจ็บปวดแค่ไหน วธุกาบิดลำตัวหนีไปมาแต่ก็ถูกเขาจับตรึงไว้เหมือนเดิม อดสะเทือนใจกับคำว่า ถูกลอตเตอรี่ ของเขาไม่ได้
“ฉันเจ็บ...พะ...พอก่อนได้ไหม” ในที่สุดก็ต้องร้องบอกเขา แต่วิเนตย์เหมือนจะไม่เข้าใจในคำร้องขอ ยังตั้งหน้าตั้งตาเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง หนักเข้าก็โหมกระหน่ำเข้าใส่อย่างไม่ยั้ง วธุกาหมดถ้อยคำจะร้องขอได้แต่มองฝ้าเพดานแล้วหลับตาลงแน่น เฝ้ารอคอยว่าเมื่อไหร่เขาจะหยุดบทรักอันแสนหนักหน่วงนี้ลง
ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ วิเนตย์ก็เดินทางมาถึงจุดที่เขารอคอย สะโพกหนาบดหนักๆ เข้ามาติดๆ ก่อนจะปลดปล่อยเสียงแหบพร่าเพื่อระบายความเร่าร้อนที่อัดแน่นอยู่ด้านใน แช่นิ่งอยู่พักหนึ่งจึงได้เคลื่อนตัวออกห่าง ถอดถุงยางอนามัยนำไปโยนทิ้งในถังขยะตรงห้องน้ำ ปล่อยให้เธอต้องนอนซุกตัวในผ้าห่มเพียงลำพัง ครั้งแรกมันไม่ได้น่าประทับใจเหมือนที่ใครต่อใครเคยบอกหรือนิยายบางเล่มที่เคยอ่าน
ระหว่างที่เจ้าบ่าวกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ คนบนเตียงก็ยังรู้สึกงุนงงต่อสถานะใหม่ของตนเอง ผู้หญิงที่แปดเปื้อนราคีได้แต่นอนเจ็บอยู่บนเตียงเพียงลำพัง ไม่ถึงสิบนาทีประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกมา
“ผมเสร็จแล้วคุณอาบต่อได้เลย ขอนอนก่อนนะง่วงมาก” พร้อมกับวาจาเชือดเฉือนหัวใจเจ้าสาวเหลือเกิน วธุกามองเจ้าบ่าวที่ปีนขึ้นเตียงนอนแล้วหลับตาลงเสียดื้อๆ ไม่มีถ้อยคำใดปลอบใจเจ้าสาวที่กำลังนอนเปล่าเปลือยอยู่บนเตียงเดียวกันเลย
เจ้าสาวคนงามแทบจะคลานลงจากเตียง รู้สึกได้ว่าร่างกายทุกสัดส่วนเจ็บร้าวระบมจนถ้วนทั่ว กว่าจะเดินไปถึงห้องน้ำได้ก็ลำบากลำบนอยู่ไม่น้อย ครั้นได้เห็นอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ของเขาวธุกาก็ใจชื้นขึ้นมา เปิดน้ำอุ่นๆ แล้วลงไปแช่ให้เนื้อตัวผ่อนคลายเพียงลำพัง จะด้วยความอุ่นของน้ำที่อยู่ในอ่าง หรือว่าความเหนื่อยล้าจากการร่วมรักครั้งแรก วธุกาดันผล็อยหลับอยู่ในอ่างอาบน้ำไปเสียอย่างนั้น
ส่วนคนที่สมควรจะหลับสนิทอยู่บนเตียงกลับไม่อาจทำได้ดั่งใจนึก วิเนตย์ลืมตาขึ้นมาเพราะว่าเขามีปัญหากับแสงไฟในห้องน้ำที่ทำให้ห้องนอนไม่มืดสนิทเหมือนทุกคืน ชายหนุ่มทำใจเย็นรอคอยคนที่อยู่ในห้องน้ำออกมา ผ่านไปเกือบสามสิบนาทีก็เริ่มจะไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก ตัดใจลุกขึ้นจากเตียงนอนไปเคาะเรียกคนที่อยู่ในห้องน้ำ
“คุณวาทตายอยู่ในห้องน้ำแล้วหรือยังไง ถึงได้อาบนานขนาดนี้” เงียบกริบจากภายใน เคาะเรียกเท่าไหร่หญิงสาวก็ไม่ขานตอบออกมา
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“คุณวาทๆ” ใจจริงอยากจะพังประตูเข้าไปด้วยซ้ำ แต่ยังพอมีสติคิดออกว่าตนเองนั้นมีกุญแจห้องน้ำอยู่ รีบเบนปลายเท้าไปยังลิ้นชักตรงหัวเตียง หยิบกุญแจห้องน้ำออกมาแล้วไขเข้าไปดูว่าคนข้างในเป็นอย่างไรบ้าง
“คุณวาท!” วิเนตย์ตกใจกับสภาพของเจ้าสาวที่นอนแน่นิ่งอยู่ในอ่างอาบน้ำซึ่งมีน้ำท่วมระดับคอ
“หลับหรือเป็นลมนี่ คุณวาทตื่นได้แล้ว” รีบเข้าไปปลุกคนที่อยู่ในอ่างอาบน้ำให้รู้สึกตัว
“หืม อะไร” คนในอ่างลืมตาขึ้นอย่างยากเย็น
“ก็ผมนอนไม่หลับ”
“นอนไม่หลับ?”
“ก็ไฟมันแยงตาผมน่ะสิ เมื่อไหร่จะออกจากห้องน้ำสักที” วธุกามองหน้าเขาแล้วก้มต่ำมองร่างกายตัวเอง อาการตกใจค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อรู้ว่าเธอกับเขาแต่งงานกันแล้ว
“ฉันเผลอหลับไปมั้งคะ คุณออกไปก่อนได้ไหมเดี๋ยวจะรีบออกไป รับรองไฟจะไม่แยงตาคุณอีกแล้ว” หญิงสาวเอ่ยอย่างน้อยใจ เธอหลับเพราะเหนื่อยในอ่างอาบน้ำ แต่สามีกลับพูดถึงแต่เรื่องไฟแยงตาแทนความห่วงใยที่สมควรจะมีให้แก่กัน
“รีบๆ หน่อยล่ะผมง่วง” เขาก็ยังคงทำหน้าเซ็งเหมือนเดิม เรื่องนอนคงสำคัญกับเขามากกว่าภรรยาอย่างเธอ
วธุกากลับออกมาจากห้องน้ำก็รีบสวมใส่ชุดนอน ขึ้นเตียงได้ก็ปิดไฟเพื่อให้เขาได้นอนหลับอย่างสบายใจ คืนเข้าหอมันไม่ได้หอมหวานเหมือนคู่อื่น ทุกอย่างตื่นเต้นในครั้งแรกก่อนจะราบเรียบในตอนท้าย รีบปิดเปลือกตาแล้วนอนหลับพักผ่อน เพื่อที่จะตื่นขึ้นมาพบกับเรื่องแปลกใหม่ของชีวิตคู่