น้ำตาของเธอไหลออกมาเป็นสาย ญาตาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ทำไมเขาลืมได้ง่ายขนาดนี้
“ก็เดี๋ยวบอกให้เมฆาไปส่ง”
“กว่าคุณเมฆาจะมา ก็ไม่ทันเข้าแถวแล้วค่ะ”
“ก็แค่เข้าแถว เธอจะร้องไห้ทำไม” เขาเริ่มขึ้นเสียง “ทำเป็นเรื่องคอขาดบาดตายไปได้”
“ฮึก ก็ถ้าลูกไปเรียนสาย ต่อไปก็จะไปเป็นนิสัยค่ะ ไม่ใช่แค่นั้นอย่างที่คุณใหญ่พูด” ชนินทร์ส่ายหน้าเบา ๆ เขาไม่ได้รู้สึกเห็นใจเธอ แต่ก็ไม่ใช่คนชอบผิดคำพูด ชายหนุ่มยอมรับผิด
“เออ ๆ ไปพาลูกมาขึ้นรถ ฉันจะไปส่ง”
“คะ?” ญาตาตกใจไม่คิดว่าจะได้ยินคำคำนี้ออกจากปากของเขา เธอชะงักนิ่งงัน
“เร็วสิ!”
“ค่ะ ๆ” ร่างบางรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน เธอตกใจไม่คิดว่าเขาจะไปส่ง ร่างบางเดินเข้าไปอุ้มลูกน้อยที่กำลังนั่งรอตาแป๋ว แต่พอเดินมาใกล้จะเปิดประตูขึ้นรถ
“คุณแม่คะ ลืมหมวก”
“หมวก? อ้อ...” เธอก็ลืมว่าต้องมีหมวกลูกเสือด้วย ใบหน้าสวยเคล้าน้ำตาหันไปหาสามีที่ยืนพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์อยู่
“ฝากลูกด้วยนะคะ” เขาเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะรับลูกมาอุ้มโดยไม่ทันตั้งตัว ดวงตากลมโตสบสายตากับคนเป็นพ่อ ใบหน้าเรียบนิ่งของบิดาทำให้ยัยหนูกลัว รีบก้มหน้างุดลง ในความรู้สึกของเด็กน้อย คนที่เธอเรียกว่าพ่อคนนี้เธอไม่เคยรู้สึกมีเยื่อใยด้วย เขาไม่เคยอุ้มชูเธอเลย เด็กน้อยวางมือที่แผ่นอกแกร่ง ค่อนไปทางดันออกเสียมากกว่า ซึ่งชนินทร์ก็เพิ่งรู้ตัวว่าเขาไม่ควรอุ้มอยู่อย่างนี้ ฝ่ามือหนาเปิดประตูรถก่อนจะวางลูกน้อยลงบนเบาะหลังคนขับ
“มาแล้วค่ะ” เธอกำลังจะเปิดประตูรถทางเบาะหลังแต่ก็ถูกสายตาคมตวัดมอง ญาตาทำตัวไม่ถูกคิดว่าเขาไม่ให้ขึ้นรถด้วย ทว่า
“มานั่งหน้า คิดว่าฉันเป็นคนขับรถให้หรือไง”
“อ้อ ค่ะ...” ญาตาขึ้นรถไปนั่งทางด้านข้างคนขับ หญิงสาวทำตัวไม่ถูกเลย
“คาดเข็มขัดด้วย เธอจะให้ฉันบอกทุกอย่างเลยหรือไง” ญาตาทำตามที่เขาสั่ง ก่อนที่เธอจะหันไปดูลูก ญาณินเหมือนจะอยากมานั่งกับเธอ
“แม่คะ หนูอยากนั่งด้วย”
“เดี๋ยวก็ถึงแล้วล่ะ” ญาณินไม่ชอบพ่อของตัวเอง เธอหลบสายตาทุกครั้งที่อีกฝ่ายมองผ่านกระจกมองหลัง เพราะความไม่สนิททำให้เธอคิดว่าผู้ชายที่เรียกว่าพ่อคนนี้...คือคนอื่น
“ถึงแล้ว” ญาตารีบลงจากรถไปเปิดประตูรถให้กับลูกสาว สวมหมวกลูกเสือน้อย ๆ ให้ก่อนจะบอกให้ลูกสวัสดีพ่ออย่างเช่นทุกครั้งแม้ว่าอีกฝ่ายจะเอาแต่มองออกไปนอกกระจกรถก็ตาม
“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ” ฝ่ามือบางของมารดาลูบแผ่นหลังเล็กเบา ๆ อย่างปลอบประโลม ก่อนจะจูงมือน้อย ๆ ไปส่งคุณครูที่ยืนรออยู่ ญาตานั่งยอง ๆ คุยกับลูก
“ณิน แม่รู้ว่าหนูกำลังคิดอะไร ถึงพ่อจะไม่รัก แต่หนูต้องรักพ่อนะ อึก คุณย่าทวด คุณพ่อมีพระคุณกับเรานะ” ดวงตากลมโตนั้นใสแป๋ว พระคุณคืออะไรเธอไม่รู้จัก
“อ้าว! หนูณิน วันนี้คุณพ่อมาส่งเหรอคะ”
“ตอบคุณครูสิคะ”
“ค่ะ” เด็กเล็กเชื่อฟังแม่ทุกอย่าง เธอเดินไปยืนข้าง ๆ คุณครูอย่างว่าง่าย
“ว่าแต่ วันประชุมผู้ปกครองพ่อหนูณินมาด้วยไหมคะ”
“คงไม่หรอกค่ะ ดิฉันมานะคะ”
“อ้อ โอเคค่ะ” ญาตาโบกมือลาบุตรสาว เธออยากมาส่งลูกแบบนี้ทุกวัน
“แม่ไปแล้วนะ เป็นเด็กดีของคุณครูนะคะ”
“ค่ะ คุณแม่” ฝ่ามือเล็กโบกหย็อย ๆ ให้อย่างเช่นทุกวัน รอยยิ้มประดับบนใบหน้านั้นค่อย ๆ จางหายเมื่อลูกเดินเข้าไปในอาคารเรียนแล้วเสร็จ
...ความรู้สึกประหม่านี้ทำให้เธอหายใจไม่ทั่วท้อง ญาตาเดินกลับมาขึ้นรถของเขา เธอรีบคาดเข็มขัดนิรภัยเพราะกลัวว่าจะโดนดุ ซึ่งชนินทร์กำลังคุยโทรศัพท์อยู่พอดี
“ครับ เข้าไปสายหน่อยครับ...ครับ” ดูเหมือนว่าเขาจะไปทำงานสายเพราะเธอ ญาตากำสายคาดเข็มขัดไว้แน่น เธอก้มหน้างุดไม่กล้าเอื้อนเอ่ยคำใดออกมา แต่ก็อยากจะบอกเขาถึงเรื่องเมื่อวาน หลังจากที่เขาวางสายโทรศัพท์เธอก็ตัดสินใจเอื้อนเอ่ย
“คุณใหญ่คะ ฉันไม่อยากให้ผู้หญิงของคุณใหญ่มายืนหน้าบ้านค่ะ”
“_” เขาชำเลืองสายตามองเธอเล็กน้อยระหว่างขับรถโดยไม่ได้พูดอะไร คนขอร้องก็เริ่มทำตัวไม่ถูก เธอหันหน้ากลับไปมองท้องถนนตามเดิม
ความเฉยชาที่มอบให้กันค่อย ๆ กัดกินใจของเธอ ญาตาลงจากรถเมื่อเครื่องยนต์เคลื่อนมาถึงบ้าน เช่นเดียวกับเจ้าของร่างหนาเขาก็ลงจากรถเพื่อมาเอาของที่ต้องการตั้งแต่แรก ร่างหนาที่เดินผ่านโดยไม่ได้พูดอะไรนั้นทำให้เธอยืนนิ่ง
ใบหน้าเล็กแหงนขึ้นมองท้องฟ้า พักสายตาอย่าให้น้ำตาไหลออกมา ยืนอยู่นานพอสมควรก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน ก้าวเดินอย่างช้า ๆ เป็นจังหวะพอดีที่ร่างหนาเดินกลับลงมาจากทางด้านบน
“เธอเข้าไปทำอะไรในห้องฉัน” เสียงทุ้มลึกเอ่ยขึ้น ทำให้ดวงหน้าใสค่อย ๆ หันมามอง
“คะ?”
“ที่นอนยับ”
“อ้อ...” เปลือกตาบางกะพริบปริบ ๆ เธอลืมจัดที่นอนให้เขา “พอดีว่า...”
“นอกจากทำความสะอาดก็อย่าเข้าไปอีก” เธอยังไม่ทันได้เอ่ยพูดเสียด้วยซ้ำ เขาก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน
“ค่ะ ว่าแต่วันเสาร์นี้ ฉันขอไปประชุมผู้ปกครองให้ญาณินนะคะ” เวลาไปไหนต้องบอกเขา เธอก็อยากให้เขาเปลี่ยนใจ ทว่า
“เสาร์อาทิตย์นี้ฉันไม่อยู่” กลับไม่ได้เป็นอย่างใจหวัง เธอเลื่อนสายตามองฝ่ามือหนาก็เห็นกระเป๋าเดินทาง อยากถามเหลือเกินว่าไปไหน ไปกับใคร
“ค่ะ” แต่ก็ทำได้แค่ตอบมาแค่นี้
“มีอะไรให้ติดต่อเมฆา” ใบหน้าเล็กพยักหน้ารับเบา ๆ เดินตามร่างหนาไปส่งเขาขึ้นรถ เธอเปิดประตูรถให้เขาพร้อมกับส่งยิ้มให้บาง ๆ
“เดินทางปลอดภัยนะคะ คุณใหญ่” เขาชายตามองเธอเพียงนิด ก่อนจะสตาร์ตรถซึ่งญาตาก็งับประตูรถให้กับเขา มองดูท้ายรถคันหรูนั้นจนลับสายตาไป
เขาคงไปเที่ยวกับผู้หญิงของเขา อย่างเช่นทุกครั้ง
ชนินทร์ไม่เคยพาเธอกับลูกไปเที่ยวเลย แม้แต่เดินห้างฯก็อย่าหวัง แต่เขาก็ไปเที่ยวกับผู้หญิงสวย ๆ ตลอด
แต่ว่าทำไมต้องเป็นวันเสาร์นี้ด้วยนะ ไปเที่ยวกับผู้หญิงมันสำคัญกว่าไปประชุมผู้ปกครองให้กับลูกสาวหรือ
“ชินได้แล้วตา...” พึมพำบอกตัวเองเผื่อว่ามันจะเข้าสมองบ้าง ตอกย้ำกับตัวเองให้เจียมเนื้อเจียมตัว อย่าริอ่านส่งสายตาหึงหวงให้เขาได้รู้ เพราะเธอไม่มีสิทธิ์นั้น