บทที่ 4 หนี้สิน (2)

1165 Words
และเมื่อในบ้านเหลือกันสองคน พิกุลก็รีบหันกลับไปถามอาการมารดา “แม่เป็นอะไรหรือเปล่า” “แม่ไม่เป็นไร ว่าแต่กุลเถอะ ให้เงินมันไปขนาดนั้นจะมีใช้ไหมล่ะลูก” “ไม่เป็นไรหรอก ข้าวหนูก็กินที่ร้าน ค่าเดินทางก็พอมีอยู่” หญิงสาวพูดทั้งรอยยิ้มเพื่อให้มารดาสบายใจ แต่พรพรรณรู้ดีว่าลูกสาวของเธอต้องพยายามเข้มแข็งมากแค่ไหน แขนเรียวของหญิงวัยกลางคนโอบลูกสาวเข้าสู่อ้อมแขน พลางพึมพำซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น “แม่ขอโทษนะลูก ขอโทษจริง ๆ” หนี้สินของครอบครัวเกิดขึ้นเมื่อสิบปีที่แล้ว สามีและเธอตัดสินใจเปิดร้านอาหารด้วยกัน สามีเธอลาออกจากงานประจำเพื่อมาทุ่มเทให้กับกิจการของครอบครัว ตอนนั้นพิกุลเป็นเพียงเด็กที่มีฐานะทางบ้านปานกลางเหมือนกับเด็กทั่วไป แต่เมื่อเข้าสู่ปีที่สามของการดำเนินกิจการก็มีพิษเศรษฐกิจลูกใหญ่เข้าแทรกจนสามีต้องไปกู้เงินนอกระบบมาบริหารร้าน แต่ถึงอย่างนั้นร้านอาหารของเราก็ไม่อาจอยู่รอดต่อไปได้อยู่ดี ก่อนที่สามีของเธอจะจากไปพร้อมกับหนี้สินมากมายที่ยังคงเหลืออยู่ ส่วนพรพรรณตั้งแต่แต่งงานกับสามีเธอก็เป็นแม่บ้านมาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อสิ้นเสาหลักของครอบครัวเธอเองก็เสียศูนย์ไปพักใหญ่ และสิ่งที่พอจะทำได้ก็คือการตัดชุด เย็บผ้าเพื่อส่งลูกทั้งสองเรียนหนังสือ ตั้งแต่ที่พิกุลเข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็ทำงานทุกอย่างเพื่อเอาเงินที่ได้มาใช้หนี้ให้กับครอบครัว ลูกสาวเธอไม่เคยขาดส่งหนี้พวกมันเลยสักครั้ง แต่เพราะดอกเบี้ยสุดโหดทำให้ไม่ว่าจะใช้ไปเท่าไหร่ก็ไม่หมดเสียที... ... “กุลเป็นอะไรหรือเปล่า” “หะ...เปล่าหรอก” ไข่มุกอดถามไม่ได้เพราะตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาพิกุลดูเหม่อลอยและไม่ค่อยร่าเริงเหมือนปกติ “มีอะไรก็ปรึกษาฉันได้นะ” “เออ...คือ ไข่มุกพอมีงานเสริมแนะนำหรือเปล่า” “งานเสริมเหรอ” “อื้ม” “ตั้งแต่ฉันเข้ามาทำงานที่นี่ก็ไม่มีเวลาไปทำงานอย่างอื่นหรอก ว่าแต่กุลจะหางานไปทำไมอะ” ไข่มุกถามขึ้นอย่างสงสัยเพราะงานที่ร้านก็หนักมากแล้ว ทำไมเพื่อนร่วมงานเธอถึงถามหางานเสริมกัน “คือมีปัญหาเรื่องเงินนิดหน่อยน่ะ” “ทำไมไม่ลองไปขอเบิกเงินล่วงหน้าล่ะ เห็นว่าทางร้านมีสวัสดิการนี้อยู่นะ” “เบิกเงินล่วงหน้าเหรอ ?” “ใช่ แต่ฉันไม่รู้ว่าคุณวินจะให้กี่เดือนนะ ถ้าสนใจเธอลองไปถามคุณภัทรดูก่อนสิ” ไข่มุกบอกเรื่องที่เธอพอรู้ให้กับหญิงสาวตรงหน้าเพราะดูท่าเพื่อนร่วมงานจะเดือดร้อนเรื่องเงินจริง ๆ ซึ่งพิกุลที่เพิ่งรู้เรื่องนี้ก็อดดีใจไม่ได้เพราะเธอพอจะเห็นทางออกของปัญหาแล้ว “อื้อ ขอบใจนะ” “คุณภัทรคะ” “อ้าว ว่าไงน้องกุล” ภัทรที่กำลังดูเอกสารเงยหน้าขึ้นมาดูกับพนักงานใหม่ของทางร้าน ถึงแม้พิกุลจะทำงานได้ไม่ทันถึงสามเดือนแต่ก็สนิทสนมกับทุกคนเป็นอย่างดี และเขาก็ยังรู้อีกว่าหญิงสาวตรงหน้าตั้งใจทำงานและมีความสามารถมากแค่ไหน “คือ...กุลอยากลองมาถามเรื่องเบิกเงินเดือนล่วงหน้าหน่อยน่ะค่ะ” “เงินเดือนล่วงหน้าเหรอ จริงๆ ที่ร้านจะให้เฉพาะพนักงานที่ทำงานมากกว่าสามเดือนขึ้นไปนะ” สิ้นเสียงผู้จัดการความหวังที่มีมาทั้งวันก็หายวับไปกับตา “งั้นหรือคะ” สี “แต่ไม่กี่สัปดาห์ก็ครบแล้วนี่ใช่ไหม” “อ่า...ใช่ค่ะ” “งั้นน้องกุลอยากลองไปขอคุณวินดูไหม” หน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังทำเอาภัทรที่บอกไปแบบนั้นรู้สึกผิดตามไปด้วย ก่อนจะคิดได้ว่าอัศวินอาจจะหยวน ๆ ให้จึงเสนอทางเลือกให้กับพนักงานใหม่ “คะ ?” “’วันนี้คุณวินน่าจะเข้าช่วงค่ำ ๆ พอดีเลย ถ้ายังไงน้องกุลลองไปคุยดูนะ” ภัทรรวบรัดเสร็จสรรพโดยไม่รอคำตอบจากพิกุล เขาพอจะรู้เรื่องราวของหญิงสาวคนนี้จากกวีแล้วบ้าง ว่าเธอต้องทำงานส่งตัวเองเรียนตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังเป็นเสาหลักของครอบครัว ถ้าเขาพอจะช่วยเหลือได้ ภัทรก็อยากช่วย... หลังจากคุยกับคุณภัทรเสร็จพิกุลก็กลับมาทำงานของตัวเองพลางคิดว่าจะขอความช่วยเหลือจากอัศวินดีไหม เพราะเธอรู้สึกว่าเขาไม่ใคร่จะชอบขี้หน้าเธอนัก และนอกจากจะไม่ช่วยเธอกลัวว่าเขาจะดูถูกเหยียดหยามให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจไปขึ้นไปอีก “น้องกุล คุณวินเรียกค่ะ” ระหว่างที่พิกุลกำลังตรึกตรองอยู่ พี่แพรวก็เดินเข้ามาตะโกนบอกเธอเสียงดัง “คะ ?” “เร็ว ๆ เลยค่ะ” “ไปเถอะ เดี๋ยวฉันทำต่อให้เอง” ไข่มุกที่เห็นเพื่อนร่วมงานยังคงยืนนิ่งงก็มาสะกิดบอก แล้วอาสาทำงานที่ค้างอยู่แทน “อะ...อื้อ เดี๋ยวมานะ” แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วพิกุลก็จะขอลองดูสักตั้งแล้วกัน ! ก๊อกๆ “ขออนุญาตค่ะ” เสียงหวานเอ่ยขออนุญาตคนด้านในก่อนจะค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไป “เออ...ไม่ทราบว่าคุณวินมีอะไรหรือเปล่าคะ” พิกุลถามพอเป็นพิธีเพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาเรียกเธอเข้ามาทำไม “เห็นคุณภัทรบอกว่าเธอจะขอเบิกเงินล่วงหน้า” “ค่ะ” “คุณภัทรไม่ได้บอกเหรอว่าให้เฉพาะคนที่ทำงานตั้งแต่สามเดือนขึ้นไป” “บอกค่ะ แต่คุณภัทรบอกให้ลองมาคุยกับคุณวินดูก่อนเพราะว่าอีกสองสัปดาห์ก็จะครบสามเดือนแล้ว” “แล้ว ?” “คะ ?” “เธอคิดว่าฉันจะให้เธอเป็นกรณีพิเศษเหรอ” นั่นไง...พิกุลเดาผิดที่ไหน แทนที่จะได้รับความช่วยเหลือ มีแต่เขาจะดูถูกและซ้ำเติมเธอมากกว่า “เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อนนะคะ” พิกุลบอกเสียงเรียบเมื่อคิดว่าถ้าอยู่ในห้องนี้ต่อไปก็คงไม่พ้นถูกผู้เป็นเจ้านายพูดจาให้ระคายหู แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ออกจากห้องนี้ตามที่คิดเสียงเข้มของคนด้านหลังก็ดังขึ้นก่อน “เดี๋ยวก่อน” “คะ ?” “ถึงเธอจะทำงานยังไม่ถึงสามเดือน แต่ฉันก็ไม่ได้ใจแคบละเลยพนักงานของตัวเองหรอกนะ” แม้ประโยคที่พูดจะดูดีทว่าน้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความมาดร้ายจนพิกุลที่ได้ยินถึงกับถดเท้าถอยห่างไปหลายก้าว ก่อนที่หญิงสาวจะถามกลับเสียงสั่น “คุณหมายความว่ายังไง” “ฉันจะให้เงินเธอเป็นการส่วนตัว” “...” “แลกกับการที่เธอต้องมานอนกับฉัน เป็นไง” “!!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD