“อ้าว...น้องกุลวันนี้หยุดไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ค่ะ แต่คือ...กุลอยากรู้ว่าวันนี้คุณวินจะเข้าร้านหรือเปล่า”
“วันนี้เหรอ ? ไม่แน่ใจนะ เดี๋ยวพี่ลองถามให้แปบหนึ่ง” คุณภัทรกดโทรออกหาเจ้าของร้านโดยมีพิกุลยืนรออย่างใจจดใจจ่อ และไม่นานผู้จัดการร้านก็วางสายแล้วหันมาคุยกับเธอ
“คุณวินให้เข้าไปหาที่ผับได้เลย”
“ที่ผับเหรอคะ”
“ใช่ น้องกุลรู้จักหรือเปล่า”
“พอรู้จักอยู่ค่ะ ขอบคุณนะคะ” พิกุลพนมมือไหว้คนตรงหน้าก่อนจะเดินทางไปยังผับชื่อดังทันที
ทำไมเธอจะไม่รู้จักผับชื่อดังที่อัศวินเป็นเจ้าของ เขาเปิดมันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยจนเป็นที่โด่งดังไปทั่ว ถึงขนาดที่เธอไม่ค่อยสนใจเรื่องพรรคนี้ยังรู้เลย
ไม่นานเธอก็เดินทางมาถึงผับดีไซน์สวยแปลกตาท่ามกลางย่านรื่นเริง
“มาหาคุณวินค่ะ” พิกุลบอกกับการ์ดหน้าร้านด้วยใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ
“ชื่ออะไรครับ”
“พิกุลค่ะ”
การ์ดหน้าร้านพูดบางอย่างกับคนในหูฟังก่อนจะเดินนำเธอขึ้นไปยังชั้นสามของผับ เพราะช่วงเวลาที่เธอมาเป็นช่วงเย็นย่ำทำให้ทั้งร้านมีเพียงพนักงานเท่านั้น
คนตัวเล็กเดินตามไปเงียบ ๆ กระทั่งชายคนนั้นพาเธอมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่งก่อนที่เขาจะหันมาก้มศีรษะให้เธอเล็กน้อยและเดินออกไป
พิกุลสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะเคาะประตูเป็นสัญญาณให้คนในห้องรับรู้ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีเสียงตอบรับ พิกุลจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปเอง
“ขออนุญาต- อ๊ะ ! ขอโทษค่ะ”
แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อเธอเปิดประตูออกแล้วจะต้องเจอกับภาพนัวเนียแสนเร่าร้อนของเขากับหญิงสาวคนหนึ่งที่เธอพอจะคุ้นหน้าอยู่บ้างแต่ก็นึกไม่ออกว่าคือใคร พิกุลยกมือปิดตาโดยอัตโนมัติพร้อมกับร่างกายที่แข็งทื่ออยู่อย่างนั้น
“ออกไป”
“ค่ะ” คนมาใหม่ตอบรับเสียงเข้มของเจ้าของห้องเพราะคิดว่าอัศวินคงบอกเธอที่บังอาจเข้ามาขัดจังหวะเขากับผู้หญิงคนนั้น
“ไม่ใช่ เธอออกไปก่อน”
“แต่วินคะ-” จีน่าพูดไม่ทันจบประโยคก็ได้รับสายตาเย็นชาจากชายหนุ่มจนต้องรีบสวมใส่เสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยของตัวเองแม้จะไม่พอใจนัก แต่เธอรู้ดีว่าถ้าให้อัศวินพูดซ้ำเป็นรอบที่สองคงไม่ใช่เรื่องดีแน่
และในตอนที่เดินสวนกับคนที่เข้ามาขัดจังหวะจีน่าก็ไม่ลืมตวัดสายตามออย่างไม่พอใจ
“เข้ามาแล้วปิดประตูด้วย”
“เอ่อ...คุณใส่เสื้อดี ๆ ก่อนไหม” พิกุลเดินกระมิดกระเมี้ยนเข้ามาในห้องเย็นเฉียบตามคำสั่ง แต่ก็ยังไม่ยอมเอามือออกจากดวงตาเนื่องจากคนตรงหน้ายังทำตัวกึ่งชีเปลือย กระดุมทั้งแผงถูกปลดออกเผยให้เห็นกล้ามท้องแน่นเป็นลอนเต็มสายตา
“อย่าเรื่องมากน่า”
“แต่มัน-” เธอไม่รู้จะพูดหรือทำตัวอย่างไรเพราะเจ้าของผับแห่งนี้ไม่มีท่าทีจะยกมือขึ้นมาติดกระดุมเสียด้วยซ้ำ
“ไม่งั้นเธอก็มาติดมัน”
“ไม่เอาหรอก” จะให้เธอไปติดกระดุมทั้งที่เขาเพิ่งปลดมันกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งนะเนี่ย บ้าไปแล้ว !
“หึ งั้นก็มานั่งตรงนี้”
อัศวินไม่พูดเปล่า เขามองเธอพร้อมกับส่ายหน้าเบา ๆ เมื่อเห็นอย่างนั้นพิกุลก็ค่อย ๆ เดินมายังเก้าอี้ตรงข้ามร่างสูง
ดวงตาคู่สวยพยายามเบือนสายตาจากกล้ามเนื้อเป็นลอน และเมื่อคิดว่าเธอมาถึงที่นี่เพื่อสิ่งใดปากคอก็เริ่มแห้งผากเพราะความประหม่า ดวงตาสีหม่นพยายามจดจ่ออยู่กับสองมือที่กุมกันแน่นบนตัก
“เรื่องที่คุณเคยเสนอ”
“เรื่อง ?”
“เรื่องเงิน...แลกกับการที่เราต้องนอนด้วยกัน” พิกุลพูดเสียงเบา เธอไม่คิดว่าชีวิตจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ พิกุลที่เย่อหยิ่งในศักดิ์ศรียิ่งกว่าสิ่งใดกำลังเอาตัวเข้าแลกเงินก้อนหนึ่งเพื่อชีวิตที่สงบสุขของครอบครัว
เธอนอนกับอัศวินเพียงครั้งเดียวแล้วค่อยมาผ่อนชำระเงินกับเขายังดีเสียกว่าให้น้องชายและแม่ ถูกรังแกและต้องอยู่อย่างหวาดระแวง
“ทำไมล่ะ วันนั้นเห็นเดินออกไปไม่ทิ้งฝุ่นเลยนี่”
“...” เมื่อถูกยอกย้อนพิกุลก็ได้แต่กลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ และนั่งก้มแทบชิดอก
“ร้อนเงิน ?”
“ค่ะ ก็ประมาณนั้น”
“กี่บาทล่ะ”
“ห้าล้านค่ะ
“มากไปหรือเปล่า” อัศวินถามกลับเสียงเรียบ จริง ๆ แล้วเงินห้าล้านไม่ได้มากมายสำหรับเขาด้วยซ้ำ แต่อัศวินก็ไม่ใช่นักบุญใจดีที่จะคอยช่วยเหลือคนอื่นไปทั่วหรอกนะ
“ฉันรู้ว่ามันมากแต่คุณไม่ต้องกลัวฉันจะหนีหนี้หรือคืนไม่ครบนะคะ หรือคุณจะหักหนี้ออกจากเงินเดือนฉันเลยก็ได้” พิกุลเสนอสุดตัวเพราะเธอมาถึงขนาดนี้แล้ว อีกอย่างเธอก็ต้องการเงินก้อนนี้มากจริง ๆ
“...”
“ขอร้องล่ะคุณวิน ครอบครัวฉันต้องการเงินก้อนนี้เพื่อไปใช้หนี้จริง ๆ”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน เห็นวันนั้นเธอเก่งจะตายไป”
“อึก !”
ก็จริงอย่างที่อัศวินว่า เขาไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือเธอ เราไม่ได้มีบุญคุณหรือความรู้สึกดี ๆ ต่อกันเสียหน่อย
อีกอย่างนอกจากร่างกายเธอก็คงไม่มีอะไรที่จะตอบแทนเขาได้อีก และคนระดับอัศวินก็ไม่มีความจำเป็นต้องเสียเงินสักแดงเพื่อหาผู้หญิงมาขึ้นเตียง
เธอจะเป็นจะตายก็ไม่เกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว...
“ถ้าอย่างนั้นขอโทษที่เข้ามารบกวนค่ะ” พิกุลพูดเสียงเบาก่อนจะหันหลังกลับ แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวขาออกจากห้องเสียงเข้มก็ดังขึ้นก่อน
“เดี๋ยว”
“...”
อัศวินมองเธอด้วยสายตาหงุดหงิด จนพิกุลไม่กล้าพูดอะไร ลิ้นหนาดันกระพุ้งแก้ม นัยน์ตาคมกริบที่จ้องมองมาที่ร่างเล็กอย่างพิจารณา ก่อนที่เสียงเข้มจะเอ่ยขึ้น
“ถอดเสื้อผ้าออกสิ”