ช่วงบ่าย เหม่ยหลีกลับมาที่โรงพยาบาลและเข้าไปที่ห้องของตัวเอง แต่อดัมนั่งรอเธออยู่ภายในห้อง
“อ้าว นศ. แพทย์ มานั่งทำไมในห้องหมอคะ”
เธอถามขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อเห็นคนร่างใหญ่ จะว่าไปหน้าตาหล่อเหลาเอาการเหมือนกันแฮะ เจ้าหมอนี่มีศักดิ์เป็นหลานของเจ้าพ่องี่เง่านั่นสินะ เธอคิดในใจแล้วจ้องมองเขาไม่วางตา
“ก็ผมมาเรียนรู้งาน” เขาพูดหน้าตายแล้วยิ้มหน้าระรื่น
“มันยังไม่มีเคสที่ต้องเรียนรู้ค่ะ เพราะงั้นกลับห้องไปก่อน ถ้ามีแล้วหมอจะให้พยาบาลไปเรียกนะคะ” เธอมองหน้าเขาอย่างเหนื่อยหน่าย รู้สึกถึงความเอาแต่ใจในกรรมพันธุ์ขึ้นมาทันที
“แต่ผมอยากเรียนรู้หลายเรื่องกับ ผอ. นะครับ ให้ผมอยู่ช่วยในห้องนี้เถอะ” เขายังไม่ยอมง่ายๆ หน้าตาของเด็กเอาแต่ใจนั่นทำให้เธอแพ้ทาง
“โอเคค่ะ นศ. แพทย์ อยากทำอะไรก็ทำ” เธอขี้เกียจต่อปากต่อคำและเหนื่อย อย่างน้อยหมอนี่ก็ดูเชื่องกว่าอาของเขามาก คงไม่มีปัญหาอะไร
“ผมมีชื่อ เพราะว่าอดัมครับ ถ้า ผอ. จะเรียกชื่อผม ผมก็ยินดีครับ” เขาพูดแบบมีมารยาทแต่เหมือนเป็นการบังคับมากกว่าฟังจากน้ำเสียง พวกเชื้อไม่ทิ้งแถวสินะ เลือดเจ้าพ่อมันแรงนักหรือไง
“จ้า จ้า อดัม” เธอกระแทกเสียงประชดประชันแบบไม่อยากต่อความยาว
“ครับงั้นผมเรียกพี่เหม่ยหลีเลยนะครับ” เขาพูดหน้าทะเล้นแบบมัดมือชกเลยนะนั่น
“ได้ไงคะ ชื่อหมอสงวนไว้ให้คนในครอบครัวเรียกค่ะ” เธอปฏิเสธที่จะให้เขาเรียกชื่อ
“งั้นก็คิดว่าผมเป็นน้องชายนะครับ” เขาพูดขึ้นมาออดอ้อน แล้วเหม่ยหลีก็แพ้คนอ้อนแบบนี้ด้วยสิ
“เฮ้ออ ตามใจเถอะค่ะงั้น” ป่วยการจะต่อความยาวสาวความยืดเธอถอนหายใจใส่หน้าเขาอย่างเหนื่อยหน่าย
.
ทั้งบ่ายหมอนี่ตามติดเธอเหมือนหมาตามเจ้าของ คือเห็นหน้าเขามันแทบจะมีหูงอกออกมาและแปลงร่างเป็นไซบิเรียนตัวขาวๆ ในเสื้อกาวน์ เธอเห็นแบบนั้นแล้วอดขำไม่ได้ น่าเอ็นดูจัง
“พี่เหม่ยหลียิ้มอะไรครับ” เขาถามเมื่อเห็นเหม่ยหลียิ้มให้เขา
“ยิ้มให้หมาไซบิเรียน” เธอพูดขึ้นมานิ่ง หน้าตาย
“ไหนครับไม่เห็นมีเลย” เขากวาดสายตามองไปใน โรงพยาบาลแต่ไม่เห็นไซบิเรียนสักตัว
“ก็นี่ไงไซบิเรียนตัวโตใส่เสื้อกาวน์อยู่”
เธอลูบหัวเขาด้วยความเอ็นดู ถึงแม้เขาจะตัวสูงกว่าเธอมากแต่เธอเอ็นดูเขาเหมือนน้องชาย แล้ววันนี้เขาก็มาออดอ้อนเธอทั้งวัน ด้วยความที่เหม่ยหลีก็มีน้อง เธอทำตัวเป็นพี่สาวได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เด็กหนุ่มจับมือเธอที่วางทาบบนศีรษะเอามาทาบที่แก้มแทน หน้าตาของเขาแดงก่ำมากตอนนี้ แดงไปจนถึงหูอย่างเห็นได้ชัด
“ผมยอมเป็นไซบิเรียนให้พี่ก็ได้ครับ” น้ำเสียงบางเบาราวกับสัตว์ขี้อ้อนตัวเล็กๆ เล่นเอาเหม่ยหลีใจเต้น ตุบ ตุบ
บรรยากาศแบบนี้มันอะไรวะ นี่มันโรงพยาบาลนะ แต่ทำไมมันละมุนแบบนี้ สายตาที่เด็กหนุ่มมองเธอมันหวานหยาดเยิ้มจนสาวจ้าวเกิดหน้าแดงขึ้นมาดื้อๆ ไม่ได้ดิ น้องชายๆ เธอท่องในใจแล้วหยิกแก้มเขาเบาๆ
.
.
ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติของโรงพยาบาลเลื่อนเปิดให้คนตัวโตผมยาวประบ่าท่าทางสบายๆ เดินเข้ามา เวลาหกโมงเย็นกว่าๆ แล้วแต่เขาเดินเข้ามาในโรงพยาบาล และเห็นฉากหวานกลางโรงพยาบาลเข้าซะงั้น
“อดัม” น้ำเสียงทุ้มต่ำทว่าฟังแล้วดูน่าเกรงขามของคนเป็นเจ้าพ่อเรียกชื่อเด็กหนุ่ม
“คุณอา” เด็กหนุ่มขานรับอย่างตื่นเต้นเพราะพวกเขาสนิทกันพอสมควร
“มาทำอะไรที่นี่” เขาถามเสียงดุหลังจากที่ได้เห็นฉากโรแมนติกของยัยหมอปากแซ่บกับหลานชายตัวเอง
“มาเรียนรู้งานครับ คุณพ่อสั่งให้เข้ามาช่วย” เขาตอบด้วยความกระตือรือร้น
“แล้วมายืนทำอะไรกันตรงนี้” น้ำเสียงเอเดนไม่ค่อยพอใจอย่างเห็นได้ชัด อดัมแอบงงว่าอาของเขาเป็นอะไรแต่เขาก็ไม่กล้าถามเพราะอาไม่ชอบคนพูดมากหรือจุ้นจ้าน
“ฉันเป็น ผอ. จะทำอะไรตรงไหนมันก็เรื่องของฉัน” เหม่ยหลีทำท่าทียโสใส่เอเดน เล่นเอาอดัมทำหน้าตาตื่นงง ปกติอดัมจะมีแต่คนเกรงกลัวแต่เหม่ยหลีกล้าต่อปากต่อคำได้ไง เขามองทั้งสองด้วยความ งุนงง
“งั้นคุณ ผอ. ช่วยทำแผลให้หน่อสิครับเนี่ย หัวแตกมา” เขาก้มลงให้เธอเห็นแผลขนาดประมาณ 3 เข็มบนหัวของเขา ผมดำขลับที่ยาวประบ่าวันนี้ไม่ได้รวบครึ่งหัวช่างเป็นอะไรที่กร้าวใจสาวๆ แต่ไม่ใช่เหม่ยหลี
“ไปให้พยาบาลทำให้ค่ะ หมอจะกลับบ้านแล้ว” เหม่ยหลีรีบชิงพูดก่อนที่เขาจะขออะไรเธอไปมากกว่านี้
“ไม่เอาผมไม่ไว้ใจใคร เมื่อก่อนลุงหลีทำให้ผม เมื่อหมอขึ้นมาแทนลุงหลี หมอก็ต้องทำให้ผม” เขายกพ่อของเธอขึ้นมาอ้าง เล่นเอาเหม่ยหลีไปไม่เป็นต้องจำยอมแต่โดยดี
.
.
"ไปฟัดกับหมาที่ไหนมาล่ะ" เหม่ยหลีถามคนตัวโตที่นั่งอยู่ในห้องเธอโดยที่เธอไม่ได้เต็มใจนัก
"มีหน้าที่ทำแผลก็ทำไปอย่าปากมาก" เขาหงุดหงิดนิดหน่อยที่เห็นเหม่ยที่สนิทสนมกับหลานของเขา
"ปากดีขนาดนี้ไม่ต้องฉีดยาชาแล้วมั้ง" เหม่ยหลียังไม่เลิกต่อปากต่อคำ
"จะฉีดให้ดีๆ หรือจะให้ผมจับหมอฉีดแทน เข็มผมมันใหญ่กว่าหมอเยอะนะ" เขาพูดขู่จนเหม่ยหลีสะอึก
“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้เจ้าพ่อ ว้าย…”
เข้าไม่รอให้เธอด่าจบ รีบดึงแขนเธอลงมานั่งตักทันทีแล้วสอดมือเข้าไปใต้กระโปรง แต่ก็ต้องอารมณ์เสียที่ได้สัมผัสกับกางเกงในตัวใหม่
“แอบไปใส่กางเกงในมาหรอ” เขาถามเสียงราบเรียบแล้วเลียมาที่ใบหูเธอเล่นเอาคุณหมอต้องเอียงคอรับอย่างเสียวซ่าน
“อื้อ นี่ อย่าาา∼”
เธอพยายามดูเขาแต่ไม่เป็นผลเมื่อเอเดนที่ได้สัมผัสเนินอูมไปครั้งหนึ่งแล้วรู้ว่าส่วนไหนของเธอที่เป็นจุดเสียวทำให้เขาขึ้นเป็นคนคุมเกมอย่างเป็นต่อ
“อย่าแต่แฉะแล้วเนี่ยนะ ปากไม่ตรงกับใจเลย”
เขากระซิบข้างๆ หูเธออย่างเสียงกระเส่าเล่นเอาหมอสาววาบหวามไปทั้งท้องน้อยเสียวซ่านไปยังร่องแคบและน้ำมันก็เยิ้มออกมาอย่างที่เขาพูดจริงๆ
“นี่ มาทำแผลไม่ใช่หรอ” เธอพยายามดึงสติแล้วร้องบอกเขา
แผลแค่นี้จิบจ๊อย เขายิ้มร้ายให้เธอแล้วคว้านนิ้วใส่ร่องเธอไม่หยุด
“อื้ออ อ๊าาา∼”
เสียงครางหวานพร้อมหน้าเหยเกของเธอปลุกอารมณ์ความเป็นชายให้เอเดนอย่างพลุ่งพล่าน แกนกายใหญ่โตลุกฮือผงาดดุนดันอยู่ตรงบั้นท้ายหมอสาวจนเธอรู้สึกได้ ว่ามีอะไรตุงๆ อยู่ตรงก้น
“เดี๋ยว หยุดก่อน” เธอดึงสติครั้งสุดท้ายแล้วพยายามขัดขืน
“หยุดไม่ไหวแล้วแข็งขนาดนี้ จับทำเมียในโรงพยาบาลแม่ง”