ทรงโปรดลงลิฟต์ไปตามทันเห็นรถเนเน่ขับออกไปแล้วต้องรีบวิ่งไปที่รถตัวเองเพื่อจะขับตามให้ทัน มันดีอย่างที่เตี้ยไม่ใช่สายชิ่งเลยขับรถไม่เร็วมาก เขาขับตามเมียมาจนถึงห้างดังแล้วถอดสูทออกเหลือเพียงเสื้อเชิ๊ตและต้องเพิ่มความเนียนด้วยการหยิบแว่นกันแดดสีดำมาใส่ไว้ อย่างน้อยเห็นแว๊บแรกก็แค่คล้ายและเขาจะหลบทัน ลองถ้าเขาไปเต็มยศสิรับรองเตี้ยได้เปิดแน็บหนีไปแน่!
“รองเท้าจะสูงไปไหนวะ!!” เขาจะได้ว่าเตี้ยสูงแค่ร้อยห้าสิบกว่าๆเวลายืนเทียบกับเขาที่สูงร้อยแปดสิบกว่ามันเลยห่างกันมาก คนอะไรขนาดใส่ส้นสูงยังเตี้ยเลย
“สาบานได้ว่านี้คือชุด!” ตอนเห็นที่บริษัทเนเน่มีอะไรคลุมไว้ไม่ใช่เหรอ แล้วเขาไม่ได้สังเกตด้วยกระโปรงมันจะสั้นขนาดนี้แล้วไหนจะหุ่นนาฬิกาทรายของเธออีก
หวงนะเว้ย!
ทำอะไรไมม่เกรงใจผัวเลย
เนเน่ตรงไปร้านอาหารที่เพื่อนชอบนัดมาเธอกิน ร้านนี้มีตั้งแต่ก่อนจะสอบเทียบแล้วเปิดได้นานมาก วันนี้เธอใส่ชุดเดรสสายเดียวสีแดงรัดรูปเป๊ะทุกส่วนหลายคนในร้านเลยหันมามองเลย
“คิทมานานยัง?”
“10 นาทีได้มั้ง แล้วยังไงห่ะเรื่องพี่โปรด” คิทเปิดประเด็นถามทันที
“เฮ้อ…เรื่องก็ผ่านมาตั้งนานแล้วนะ ทำไมฉันไม่ลืมห่ะ” เนเน่จิบน้ำหวานแต่รู้สึกขมเหลือเกิน
“เจอกันทุกวันคงจะลืมได้หรอกนะ เอางี้ขอแม่แกไปต่อโทที่เมืองนอกดีไหมจะได้ลืมเร็วขึ้น” คิทแนะนำหนทางที่น่าจะโอเคสุดๆแล้ว มันไม่ใช่การหนีปัญหาแต่เป็นการหลบไปเลียแผลใจต่างหาก ลองคิดดูสิว่าต้องเข้มแข็งขนาดไหนถึงทนเห็นแฟนเก่ากับเพื่อนรักพลอดรักกันตั้งหลายปี
อารมณ์ประมาณรักแรกมันลืมยาก
“มันไม่ง่ายแบบนั้นแล้วไงคิท คือว่าพ่อแม่ฉันจะให้แต่งงานกับพี่โปรด”
“ห๋า…”
“แล้วแกคิดดูนะว่านั่นมันผัวติญ่า” เธอจำได้ขึ้นใจเลยล่ะว่าพี่โปรดไม่ใช่ของเธอตั้งนานแล้ว
“โอ้โห้! ชีวิตแกนี่มันยิ่งกว่าละครน้ำเน่าอีกนะเนี่ย”
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง” เนเน่ดูดน้ำไปอึกใหญ่รู้สึกหนักอกหนักใจกับเรื่องนี้มากๆ
“ฉันกับพี่โปรดได้กัน แต่ว่าฉันไม่รู้ตัวนะ ตื่นมาอีกทีก็ล้อนจ้อนมีเขานอนกอดแล้ว” เนเน่หยิบทิชชูมาซับน้ำตาออกเพราะความทรงจำมันยังชัดเจนอยู่มาก เธอไม่รู้ทนอยู่แบบนี้ได้ยังไง
“พี่โปรดปล้ำแกเหรอ?” คิทถามเสียงหลงไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
“มั้ง ฉันจำอะไรไม่ได้เลย วันนั้นฉันไปปาร์ตี้แล้วมารู้สึกตัวอีกทีพี่โปรดก็บอกว่าฉันเป็นของเขาแล้ว” เนเน่หนักใจมากที่ต้องเล่าแต่เธอก็อยากจะระบายออกกับคนที่ไว้ใจ
“พี่โปรดปล้ำแก!”
“เขาบอกพ่อแม่ฉันด้วย แล้วก็นี่แหละคือเหตุผลที่พ่อแม่อยากให้แต่งงานกัน” เนเน่ถอนหายใจยาวๆพลันหางตาหันไปเห็นใครบางคนจนต้องหันกลับไปมองซ้ำแต่ก็ไม่เจอใคร
พี่โปรดตามหลอกหลอนเธอไปทุกที่เลยรึไง
“ฉันกลายเป็นเมียน้อยเลยนะ” ติญ่ากับพี่โปรดได้กันมาก่อนที่พี่โปรดจะได้กับเธอ แล้วความสัมพันธ์ของพี่โปรดกับติญ่าก็นานกว่าเธอมากด้วย
“แล้วแกยังกินยาคุมอยู่ไหม หรือไอ้พี่โปรดป้องกัน”
“ป้องกันบ้าบออะไรเล่า!” เธอไม่เห็นว่าเขาจะใส่ถุงเลยมีแต่เธอที่กินยาคุมกันเอาไว้
“พี่โปรดยังรักแกแน่นอนเลยถึงตามตื้อมาหลายปี แล้วยังจะแต่งงานกับแกอีกแต่ปัญหาคือติญ่ามันจะยอมเหรอ ขนาดแฟนเพื่อนยังหน้าด้านมาขอเลย” คิทบอกอย่างหนักใจกับปัญหาครั้งนี้เหลือเกิน เธอกับเนเน่สนิทกันมากแล้วชอบมีเรื่องมาปรึกษากันตลอด
“เขาคบกันมาตั้งนานนะคิท เขายังรักฉันได้ไง” ถึงพี่โปรดจะแสดงท่าทางว่าต้องการเธอแต่ว่าข้างกายเขามีติญ่ามาตลอดเลย เธอไม่ใช่คนเลวขนาดจะแย่งผัวคนอื่นหรอกนะ
“แล้วเจอติญ่าบ้างปะ?”
“เจอวันนี้อยู่กับพี่โปรดในห้องทำงาน” เหตุการณ์พึ่งจะผ่านมาเอง
“กินเหอะเดี๋ยวบ่ายนี้ไปฟิตเนสแก้เครียดกัน”
“แม่นางแบบกินเสร็จแล้วเข้าฟิตเนสไม่จุกตายรึไง! เอางี้ไปทำผมดีกว่าร้านประจำ”
“โอเค แล้วไม่สนใจมาถ่ายแบบด้วยกันเหรอ” คิทถามเรื่องเดิมหลายครั้งแล้ว
“เกรงใจส่วนสูงฉันด้วย” เธอสูงแค่ 155 ซม.เองนะ เรื่องเป็นนางแบบคงไม่ไหว
ทรงโปรดแอบมองห่างๆพอจะจำได้ว่านี่คือเพื่อนสนิทอีกคนของเนเน่ แล้วไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกันถึงได้เครียดขนาดนี้ หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องเขาหรอกนะ เมื่อกี้เกือบถูกเนเน่จับได้แล้วไงดีนะที่หลบทัน เขามีงานต่ออีกตอนบ่ายเลยไม่สามารถจะตามเมียออกไปได้ ลำพังแค่จะกินข้าวยังต้องฝากเลขาซื้อมาให้เลย
เมียมีปัญหาเรื่องอะไรวะ
เขากลับมาออฟฟิศเจอข้าวกล่องที่แยกทุกอย่างมาอย่างดีและด้วยความหิวข้าวในกล่องนั้นหายไปอยู่ในท้องเขาในเวลาไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ เขายังงงเลยว่ายัดเข้าไปได้ยังไงขนาดนี้
แต่ความหิวมันทำได้ทุกอย่าง
รีบทำงานแล้วรีบไปหาเมียดีกว่า
เนเน่กลับมาคอนโดด้วยผมสีม่วงสดใสถูกใจมากที่พึ่งทำมาพร้อมกับเพื่อน เธอแวะซื้อของมาทำกับข้าวกินเองด้วยเพราะไม่ชอบซื้อกิน ของบางร้านมันไม่ได้อร่อย ดังนั้นทำเองจะดีกว่าถึงไม่อร่อยมากแต่กินได้ก็โอเคแล้ว ผ่านไปไม่นานก็ทำทุกอย่างเสร็จ
“น้ำพริกปลาทู ผักสด แล้วก็ต้มจืดเต้าหู้ไข่” เธอจัดวางทุกอย่างก่อนจะแวะเข้าห้องนอนไปเอาโทรศัพท์มาโทรหาเพื่อนสักหน่อย
ในขณะที่ทรงโปรดเดินกลับเข้ามาในห้องเนเน่พร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เขาลงทุนขนเสื้อผ้าจากคอนโดตัวเองมานอนกับเมียโดยเฉพาะและจะมาอยู่ด้วยบ่อยๆแน่ เนเน่จะต้องหนีเขาไม่พ้น
“โอ้โห้!! ทำกับข้าวรอผัวซะด้วยน่ารักจังวะ” เมนูสุดแสนจะธรรมดาแต่จัดจานได้โคตรจะน่ากินเลย แค่ได้กลิ่นท้องเขามันก็ร้องแล้วล่ะ
“พี่โปรด!!”
“ครับเมีย มากินข้าวเร็วพี่หิวแล้ว”
“ไม่ชวนติญ่าเมียพี่มาด้วยล่ะคะ”
“ติญ่าไม่ใช่เมียพี่นะ หนูต่างหากเป็นเมียพี่ นั่งลงกินข้าวพี่หิวแล้ว” เนเน่เข้าใจผิดเรื่องเขากับติญ่ามานานเท่าไรแล้ววะเนี่ย ติญ่ามาจีบเขานานแล้วชอบทำตัวเป็นเจ้าของต่อหน้าเนเน่ตลอด สงสัยคงคิดไปไกลแล้วซึ่งเขาอธิบายทุกครั้งว่าไม่มีอะไรแต่เธอก็ไม่เชื่อเขาเลย
“ไม่เจอหนูตั้งหลายชั่วโมงพี่โคตรคิดถึงเลย”
“เหอะ! กินเสร็จแล้วก็กลับไปเลยนะที่นี่ไม่ต้อนรับ”
“แต่งงานกับพี่แล้วห้ามดื้อนะ”
“ใครจะแต่งห่ะ ที่สำคัญหนูไม่ได้ดื้อ!”
“โอเคหนูไม่ดื้อเลย แต่ว่างานแต่งเจ้าสาวต้องเป็นหนูคนเดียวเท่านั้น” เขาก็ไม่รู้จะบังคับเธอยังไงเหมือนกัน เนเน่อายุแค่นี้ต้องมาแต่งงานกับเขาซึ่งนับว่าเร็วมากเกินไป เขารู้ว่าเธอยังวัยรุ่น อยากรู้อยากลอง อยากเที่ยวและเนื้อหอมมากพอสมควรเลยหวงมาก
“ไปแต่งกับติญ่าสิ”
“เรื่องนี้มีแค่เราสองคนอย่าเอาคนนอกมายุ่งได้ไหม”
“ก็พี่กับติญ่า…” แค่เธอจะพูดมันก็รู้สึกเจ็บแปลบแล้วทั้งที่ไม่ใช่แผลสดเลย
“มันทำไมห่ะ บอกพี่มาสิ พี่อยากรู้เหมือนกัน” บางทีเรื่องทั้งหมดอาจจะเกิดขึ้นจากผู้หญิงคนเดียวที่เคยเป็นเพื่อนสนิทของเนเน่และตามจีบเขาหลายปี
“ความจริงที่พี่โปรดกับติญ่าเพื่อนแทงข้างหลังหนูไง พี่ไม่รู้หรอกว่าเจ็บขนาดไหน!” เธอปาดน้ำตาที่ไหลออกมา เธอไม่อยากจะเห็นหน้าเขาสักนิด เธอเกลียดเขา เธอเกลียดติญ่าและเกลียดตัวเองที่ไว้ใจคนผิดมาตลอด
“รู้แล้วก็กลับไปซะ” เธอลุกขึ้นเดินออกมาห่างเขามากกว่าเดิม
“พี่ไม่กลับ หนูเข้าใจผิดนะพี่ไม่…”
เผียะะ!!
“หนูเห็นพี่จูบกับติญ่าแล้วเข้าห้องไปด้วยกัน พี่เข้าไปทำอะไรบอกได้ไหมล่ะ?” เขามันคนโกหกเก่งอยู่แล้วจะพลิกลิ้นพูดอะไรก็ได้ แต่เธอจำเหตุการณ์ได้หมดเหมือนว่าพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง
“เนเน่หนูพูดเรื่องอะไรห่ะ?” เขาไม่รู้จริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วที่เธอพูดเขาก็ไม่รู้
“ทำเป็นไม่รู้เรื่อง!!” เหอะ! ใช้มุกนี้อีกแล้วสินะ