ตอนที่10 อัคคีโกรธ

1307 Words
"รังเกียจที่จะต้องยืนใกล้คนแก่อย่างฉันรึไง"อัคคีปลายหางตามองแต่ทว่าคำถามที่เปล่งออกมาทำให้ร่างบางรีบแก้ต่างขึ้นมาทันที กลัวเขาโกรธกลัวเขาไม่พอใจ ถ้าแก่แล้วกราวใจแบบนี้เธอขอสยบแทบเท้า "ปะ…เปล่านะคะหนูรักไม่ได้คิดแบบนั้น"ถ้าเป็นคนแก่ก็คงเป็นคนแก่ที่พร้อมไปด้วยเสน่ห์อย่างแพรวพราว ร่างบางรีบเดินเข้าไปใกล้ แต่ความใกล้มันไม่มากพอสำหรับความต้องการของอีกคน แขนแกร่งคว้ากอดเอวคอดยึดรั้งร่างเล็กให้เข้ามาใกล้ ใกล้จนแทบจะสิงร่างกันและกัน ชาญได้แต่ยิ้มให้กับความร้ายกาจของผู้เป็นนาย หลงเด็กเข้าให้แล้วจะรู้ตัวบ้างไหมน้อ ไอรักยืนมองผ่านกระจกใสอยู่ด้านนอก สายระโยงระยางอุปกรณ์ทางการแพทย์เต็มตัวไออุ่นน้องสาวสุดที่รัก เพียงแค่นั้นก็ทำให้ไอรักถึงกับน้ำตารื้นขึ้นด้วยความสงสาร การผ้าตัดในครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ไออุ่นแข็งแกร่งเธอผ่านช่วงเวลาความเป็นความตายมาได้อย่างหวุดหวิด ถึงแม้ในช่วงผ่าตัดคลื่นเต้นของหัวใจจะดิ่งลงไปบ้าง แต่มันก็กลับมาเต้นเหมือนคลื่นเวฟได้อีกครั้งอย่างน่าอัศจรรย์ "โดยรวมถือว่าดีครับแต่ยังไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมได้ หมออยากให้คนไข้อยู่ในห้องปลอดเชื้อเพื่อเฝ้าดูอาการจนกว่าจะปลอดภัย หวังว่าคุณอัคคีและคุณไอรักจะเข้าใจ" "เข้าใจค่ะ ไอรักกับคุณอัคคีเข้าใจขอแค่ให้น้องปลอดภัย ขอแค่ให้เธอปลอดภัย"ไอรักตอบกลับอัตโนมัติ โดยไม่ถามความคิดเห็นคนข้างๆ หลงลืมออกความคิดแทนอีกคนอย่างลืมตัว แต่อัคคีไม่ถือ "หมอจะดูแลอย่างสุดความสามารถ ยังไงหมอขอตัวก่อนนะครับ"หมอกวินกล่าวพร้อมกับขอตัวเพื่อไปดูแลคนไข้ที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ "มองตามหลังขนาดนั้นชอบมันรึไง"อยู่ๆก็รู้สึกควันออกหู หัวร้อนหงุดหงิดขึ้นมาเสียดื้อๆที่เห็นร่างบางมองหมอกวินรูปหล่อจนลับตาไป ปากที่ไวกว่าความคิดพูดออกมาจนอีกคนเม้มปากจนแน่น เธอไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนั้นแค่นึกขอบคุณที่คุณหมอดูแลจนน้องของเธอปลอดภัย ใจที่บริสุทธิ์คิดแค่นั้นจริงๆอย่างไม่จำเป็นต้องโกหก อัคคีมองด้วยสายตาไม่พอใจ ลิ้นหยาบดันกระพุ้งแก้มอย่างขุ่นเคืองพลางขบกรามแกร่งจนแน่น ความรู้สึกเต็มไปด้วยคำว่าหวง หวงเพราะเธอคือสมบัติ สมบัติที่เขายังไม่เบื่อและยังไม่อิ่ม "กลับ"ไอรักถึงกับสะดุ้ง คำสั้นๆแต่ช่างหน้าหวาดหวั่นเมื่อได้ฟัง อัคคีเหมือนราชสีห์ที่กำลังเกรี้ยวกราดพร้อมที่จะขย้ำทุกอย่างที่เข้ามาขวางทางอารมณ์ในตอนนี้ ขามากับขากลับช่างแตกต่างทั้งความรู้สึกและท่าทาง "หนูรักทำอะไรให้คุณอัคคีไม่พอใจรึเปล่าคะ"เธอทอดถามและอยากจะปรับปรุงตัว ถ้าเรื่องไหนมันทำให้คนที่ชื่ออัคคีไม่พอใจเธอก็จะไม่ทำมันอีก "เธอคือสมบัติของฉันจำเอาไว้ อย่ามองผู้ชายหน้าไหนต่อหน้าฉันอีกฉันไม่ชอบ"ขาแกร่งไขว่ห้างนั่งกอดอกเอนตัวพิงเบาะหนังนุ่มด้านหลังของตัวรถด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง ไอรักขยับตัวออกห่างนั่งตัวลีบชิดขอบประตูอย่างไม่กล้าเข้าใกล้คล้ายคนมีความผิด ภายในตัวรถเงียบสนิทเงียบจนชาญเองต้องเอ่ยถามเพื่อทำลายบรรยากาศแห่งความอึดอัด "นายจะไปไหนต่อครับ" "CLUB"สั้นๆได้ใจความด้วยเสียงที่ฉุนเฉียว ชาญยูเทิร์นรถไปอีกฟากฝั่งทันทีคืนชักช้ามีหวังระเบิดลงเป็นแน่ รถยนต์คันหรูสีดำเงาวับจอดเทียบหน้าคลับให้ผู้เป็นนายได้ลง อัคคีเดินดุ่มอย่างไม่รอคนข้างหลัง เขาไม่อยากเอาความหงุดหงิดใจระเบิดใส่เธออย่างไม่มีเหตุผลไปมากกว่านี้ ไอรักกึ่งเดินกึ่งวิ่งพยายามตามคนข้างหน้าไปติดๆเธอไม่คุ้นชินกับสถานที่แบบนี้ถึงจะเป็นช่วงเวลากลางวันแต่ก็ยังแปลกตาดูอึมครึมอันตรายอยู่ดี แกร๊ก!! "ลมอะไรพัดมึงมาครับไอ้คุณเพลิง"คาวีทักทายเพื่อนรักอย่างชอบใจ พร้อมอัดสารนิโคตินเข้าปอดอย่างเพลิดเพลิน ควันสีเทาอมขาวพวยพุ่งรอยร่องภายในห้องจนเกิดกลิ่นฉุน อัคคีเดินเข้ามาหย่อนก้นลงที่โซฟาด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง ไอรักที่เดินตามมาด้วยความเหนื่อยหอบก้าวขาเข้ามาอย่างกล้าๆกลัวๆ ภายในห้องดูหรูสมกับเป็นห้องVVIPของเจ้าของคลับ เธอรู้สึกแสบโพรงจมูกกลิ่นของบุหรี่ทำให้เธอหายใจไม่สะดวก "แล้วนั่นใครไอ้เพลิง"คาวีดับบุหรี่ราคาแพงปรายตามองอีกคนที่เดินตามหลังเพื่อนรักเข้ามา หน้าตาน่ารัก ผิวพรรณผ่องใส เรือนกายช่างน่ากกกอด คาวีจ้องมองอย่างไม่วางตา พลางเอ่ยถามอัคคีด้วยหัวใจที่พองโต ปลายนิ้วไล่กรามแกร่งเล่นด้วยท่าทีที่สนใจ "คนรับใช้"คนใจร้ายช่างดูถูกดูแคลนเธอสะเหลือเกิน ไอรักได้แต่ก้มหน้าเม้มปากจนแน่น ไม่ได้เสียใจหรอกเธอเป็นอะไรก็ได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนก็ตาม สุดท้ายทุกอย่างมันก็จบลงด้วยเรื่องบนเตียง "กูเอาได้ไหม"คาวีถามโดยที่สายตายังจ้องมองร่างบางที่ยืนห่างอยู่เพียงไม่กี่เซ็น "ไม่ได้"อัคคีปฏิเสธแบบไม่ต้องคิดน้ำเสียงหนักแน่นติดหวง "หวงคนรับใช้ว่างั้น"คิ้วหนาของคาวียกขึ้นนิดหน่อยยิ้มน้อยๆ เขาพอจะดูออกคงไม่ใช่คนรับใช้ธรรมดา ดูท่าน่าจะรับใช้กันถึงเตียงมากกว่า เพื่อนรักถึงได้ออกอาการหวงอย่างไม่รู้ตัวสะขนาดนั้น "จะยืนบื้อให้ไอ้คาวีมันแทะโลมอีกนานไหมหรือว่าชอบ"อัคคีดุขึ้นพร้อมกับออกคำสั่ง หัวร้อนมาจากข้างนอกยังจะต้องมาหัวร้อนกับสายตาของไอ้เพื่อนตัวดีที่แสดงอาการคลั่งสมบัติเขาอย่างคลั่งไคล้ "มานั่ง" ไอรักรีบเดินเข้ามา กลัวจนไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไงวางมือตรงไหนถึงจะถูกใจผู้ชายร่างโต ด้วยความที่ช้าไม่ทันใจคนขี้หงุดหงิดเอาแต่ใจ เธอถูกลำแขนใหญ่รั้งกอดเอวคอดให้มานั่งเกยทับบนตักแกร่งอย่างกักขัง อ๊ะ!! "ชักช้า"คนตัวเล็กถึงกับหน้าเสียโดนดุโดนว่าตั้งแต่อยู่โรงพยาบาล มาที่นี่ก็ยังไม่วายโดนดุอีกทำอะไรก็ผิดไปเสียหมด "หนูรักขอโทษ หนูรักไม่ได้ชอบคุณหมอกวิน แค่นึกขอบคุณที่เขาช่วยดูแลน้องสาวหนูรักให้ปลอดภัยแค่นั้น คุณอัคคีอย่าดุหนูรักอีกเลยนะคะ"เธออธิบายพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอน อยากให้ผู้มีพระคุณอย่างอัคคีเชื่อในสิ่งที่เธอพูด ดวงตากลมโตที่เคยหวานซึ้งถูกโอบล้อมไปด้วยหยาดน้ำตา หยาดน้ำตาที่เธอแทบจะกลั้นไม่ไหวในเวลานี้ ถ้าถูกดุอีกครั้งมันคงพานไหลเหมือนกับทำนบแตก "อย่าทำให้ฉันโกรธหรือไม่พอใจ โดยเฉพาะเรื่องผู้ชายฉันไม่ชอบ"อัคคีถึงกับถอนหายใจ น้ำเสียงอ่อนลง ใบหน้าเคร่งขรึมค่อยๆเลือนหาย หัวทุยถูกกดให้ลงมาซบที่อกแกร่ง อกแกร่งที่เธอได้รับความอบอุ่นในวันที่อ่อนแอเธอไม่เคยลืม "ฮึก หนูรักไม่ทำค่ะ ฮึก ไม่มีวันทำในสิ่งที่คุณอัคคีไม่ชอบ"สุดท้ายก็กลั้นน้ำตาไม่ไหวเมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่อ่อนโยน "เด็กขี้แย"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD