ตอนที่ 4 ฉันพร่ำเพ้อเขาตอกย้ำความเป็นจริง
แผนการหนีของมะนาวดูเหมือนจะพังไม่เป็นท่าเมื่ออากาศหนาวทำให้หญิงสาวขดตัวอยู่ในผ้าห่มราวกับก้อนสายไหม ขณะเดียวกันผ้าห่มผืนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เธอคนเดียว!
หลังจากได้สติขึ้นมามะนาวก็เต็มไปด้วยความร้าวระบมทั่วตัว ขณะเดียวกันอากาศมันแห้งเสียจนความเหนียวเหนอะหนะเมื่อคืนมันเบาบางลงแล้ว ที่น่าตกใจคือผู้ชายที่รังแกเธอทั้งคืนตอนนี้กอดมะนาวราวกับหมอนข้าง ร่างเปลือยเปล่าของเขากอดเธอแน่นราวกับหมีโคอาล่า ขณะเดียวกันมือของมันก็จับหน้าอกของเธออย่างแม่นยำ
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงแหบพร่าของผู้ชายดังขึ้นข้างหูจนมะนาวตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ
“...” ไม่กล้าแม้แต่จะกระดุกกระดิกตัวเพื่อสู้หน้ากับเขาด้วยซ้ำ
“อย่าแกล้งตายเลยนาว เรื่องเมื่อคืนฉันรับรู้ทั้งหมด” ธันวาพูดอย่างสบายๆ ปลายนิ้วไล้วนที่ยอดอกของมะนาวซึ่งกลายเป็นตุ่มไตอย่างรวดเร็ว “เป็นเมียฉันแล้วแกรู้ตัวไหม”
“มันแค่เรื่องผิดพลาด เมื่อคืนเราเมากันทั้งคู่”
“นาว...” เขาเรียกเธอเสียงห้วน “กระดกเหล้ากลมนึงยังไม่เมาอย่างแกจะเมาเพราะสปาร์กลิ้งไม่กี่ขวดเนี่ยนะ?”
“...” มะนาวอยากเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีเมื่อได้ยินคำพูดรู้ทันของธันวา
“แกรู้ไหมนาว” ธันวาใช้โทนเสียงจริงจังกว่าปกติ “ความจริงแล้วฉันไม่เคยเมาเลยต่างหากล่ะ”
“...” มะนาวอยากเอามือปิดหู รู้สึกรับไม่ได้กับสิ่งที่ธันวาจะพูดต่อไป เธอเป็นคนพยายามรักษาความสัมพันธ์แบบเพื่อนกับเขาเพราะไม่อยากสูญเสียมิตรภาพระหว่างทั้งคู่ไป แต่ทำไมเขาถึง... “พอแล้วไม่ต้องพูด”
ทว่าธันวากลับไม่ฟัง “ฉันจูบเธอตอนนั้น...แค่อยากรู้ว่าเธอรู้สึกเหมือนกันไหม”
“...”
“ฉันมีแฟนคนแรก ก็แค่อยากลองว่าความรู้สึกที่ฉันมีต่อแกกับแฟนมันเหมือนกันหรือเปล่า สุดท้ายก็ไปไม่รอดเพราะ...ผู้หญิงคนนั้นให้ฉันเลือกระหว่างเขากับแก...ฉันเลือกแกนาว”
“แต่เราเป็นเพื่อนสนิทกันนะธัน ถ้าเปลี่ยนสถานะมันอาจจะไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว” มะนาวพูดอย่างเย็นชา
เธอต้องใจแข็ง ความผิดพลาดในวันนี้มันเลยจุดที่จะกลับไปได้แล้ว แต่เธอไม่ต้องการจะสานสัมพันธ์ต่อ หากคนอื่นรู้ว่าธันวาที่เพิ่งเลิกกับแฟนกลับมาคบกับเพื่อนสนิทของตัวเอง คนอื่นจะมองเขายังไง
“มันไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ฉันมีความรู้สึกกับแกแล้วนาว” ธันวาพูดเสียงเข้มและมองใบหน้าของคนที่นอนข้างตัว มองเห็นความตึงเครียดผ่านสีหน้าของมะนาวเขาก็พอจะเดาออกว่ามะนาวกำลังรู้สึกยังไง
“นาว...คนเราใช้ชีวิตบนพื้นฐานความสุขของตัวเอง ไม่ได้ใช้ชีวิตบนขี้ปากของคนอื่น”
“แต่...” เธอไม่อยากรับบทผู้หญิงที่จ้องจะงาบเพื่อนตัวเอง ถึงจะจ้องมันอยู่แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอต้องการให้เพื่อนเลิกกับแฟนแล้วมาคบกับเธอสักหน่อย มันก็แค่การแอบชอบที่เจ็บนิดหน่อยเวลาเขามีแฟนและยินดีในตอนที่เขามีความสุขกับผู้หญิงคนอื่น
การเฝ้ามองคนที่เราชอบมีความสุขกับคนอื่น จริงอยู่ว่ามันเป็นความเจ็บปวดที่ต้องทนมองภาพแบบนั้น แต่เธอก็ชินกับมันแล้ว
กลับกันถ้าเขาเสียใจ เป็นเธอเสียอีกที่รู้สึกแย่ไปกับเขา ว่าทำไมโลกใบนี้ต้องส่งความรักไม่สมหวังมาให้เขาด้วย
แต่พอจู่ๆ ธันวาก็มาสารภาพความรู้สึกกับเธอเมื่อคืนนี้ สิ่งที่มะนาวพยายามเก็บมาทั้งหมดก็ราวกับระเบิดออก มันคือกล่องแพนโดร่าที่เธอไม่กล้าเปิดมาตั้งแต่แรก และไม่คิดจะเปิดตลอดชีวิต
คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่อยู่ในกล่องนั้นจะเป็นฝ่ายเปิดมันออกมาและเผชิญหน้ากับเธอเสียเอง
ทำเอามะนาวทำอะไรไม่ถูก
ธันวาถอนหายใจ ลูบหัวคนข้างกายอย่างที่เคยทำ “กูขอโทษนะนาวที่ล้ำเส้นแบบนี้ แต่จะให้กูฝืนต่อไปมันไม่ไหวแล้วว่ะ นาวกูชอบมึงมานานมาก มากจนมึงอาจจะคิดไม่ถึง”
“แต่มึงก็มีแฟนมาตลอดไม่ใช่เหรอ”
“นั่นเพราะกูกลัวเสียมึงไป”
“...”
“กูรู้ว่าการล้ำเส้นเมื่อคืนมันอาจจะทำให้กูเสียมึงไปตลอดกาล แต่กูไม่อยากรออีกต่อไปแล้วนาว อายุของเราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โอกาสของมึงที่จะเจอคนดีกว่านี้ก็มากขึ้นเรื่อยๆ ความเห็นแก่ตัวทำให้กูตัดสินใจทำแบบนี้ ถ้ามึงไม่โอเคกูก็พร้อมยอมรับ แต่นาว...กูรู้ว่ามึงก็มีใจให้กู แล้วทำไมเราไม่ลองคบกันดูล่ะ?”
“ไอ้เหี้ย!” มะนาวด่าด้วยความโมโห ไม่รู้จะพูดอะไรกับคำสารภาพของเขา เดิมทีเธอเคยจินตนาการว่าถ้าเกิดวันหนึ่งเธอกับเขาใจตรงกันขึ้นมาจะเป็นยังไง แต่เมื่อมันมาถึงจริงๆ เธอไม่มีแม้แต่ปัญญาจะคิดคำด่าหรือคำสารภาพต่อเขาด้วยซ้ำ
“เออกูเหี้ย กูเหี้ยมากที่หลอกใช้ผู้หญิงคนอื่นทดสอบมึง นาวกูขอโทษ แต่ตอนนี้มึงได้กูแล้วมึงคิดจะทิ้งกูเหรอ”
“...” มะนาวจนจำพูด ปากของธันวานั้นลื่นยิ่งกว่าปลาไหล ในที่สุดมะนาวก็ถอนหายใจ “กูขอเวลาหน่อย”
“ได้...” ธันวาตอบ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของมะนาว “แต่ระหว่างนี้กูสามารถกันซีนผู้ชายทั้งหมดได้เหมือนเดิมใช่ไหม”
ทันใดนั้นดวงตาเหม่อลอยของมะนาวก็กลับมามีสติขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของธันวา เธอหรี่ตามองใบหน้าหล่อเหลาของเพื่อนสนิท “ที่มึงพยายามขุดความเหี้ยของผู้ชายคนนั้นคนนี้มาตลอดสามปีนี่มึงกันซีนกูเหรอ”
“...” ธันวาเลิ่กลั่กเล็กน้อย ก่อนจะตอบเสียงแหบพร่าว่า “เปล่า กูแค่กลัวมึงถูกหลอก”
“ไอ้เหี้ย!” มะนาวง้างมือทุบธันวาอย่างแรง
“โอ๊ยเบาๆ เมื่อคืนมึงยังใช้แรงไม่หมดเหรอทุบกูอยู่นั่นแหละ ผัวนะไม่ใช่หมอนข้าง”
“กูไม่ได้ทุบหมอนข้าง กูทุบเหี้ย ไอ้เหี้ยสารเลวจริงๆ มึงมีเมียเป็นสิบแต่กูแห้งบนคานมาสามปี ให้ตายเถอะไอ้ธันวา!”
ธันวาคว้าแขนมะนาวเข้าหมับ มองเจ้าของใบหน้าขุ่นเคืองที่หอบเหนื่อยด้วยท่าทางจริงจังเล็กน้อย “ก็มึงเชียร์ให้กูจีบเขา กูก็จีบเขาให้มึงดู มีผู้หญิงเข้ามามึงก็บอกให้กูลองคบดูไม่ใช่เหรอ กูก็ลองคบไง แต่คบแล้วไม่ได้มีอะไร มีมึงคนเดียวที่ได้เป็นเมีย”
“...” มะนาวพูดไม่ออก ธันวาจึงพูดต่อว่า
“มึงไม่สังเกตบ้างเหรอว่าผู้หญิงแต่ละคนเป็นไง พี่อั้มตาเหมือนมึง น้องเอ๋หุ่นเหมือนมึง น้องตาลเสียงเหมือนมึง น้องเจ้าปากกับจมูกเหมือนมึง น้ำอิงตัดผมสั้นเหมือนมึง...”
“...”
หัวใจของมะนาวเต้นแรง ไม่ใช่เพราะคำพูดของเขา แต่เป็นเพราะสายตาจริงจังของธันวานั้นทำให้เธอไม่สามารถหลบมันไปได้ ทันใดนั้นร่างของมะนาวก็ถูกธันวากอดแน่น กลิ่นตัวของชายหนุ่มทำให้จิตใจของเธอปั่นป่วน ร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งคู่แนบชิด ทว่าตอนนี้ไม่เหลืออารมณ์ใคร่ใดๆ เหลืออยู่เลย
มีเพียงความรู้สึกที่เหมือนได้กลับบ้าน มันอบอุ่นจนเกือบร้อน แต่ก็เต็มไปด้วยความหน่วงหนึบที่อธิบายไม่ถูก
“นาว...” เสียงของเขาอ่อนลง เรียกชื่อเธออย่างเว้าวอน “เรายังไม่มีสถานะก็ได้ แต่กูเหนื่อยจะแสดงให้มึงเห็นแล้วว่ากูไม่ได้ชอบมึง ขอโทษนะ...ตอนนี้กูไม่อยากเป็นเพื่อนมึงเลย”
“แล้วถ้ากูให้สถานะอื่นมึงไม่ได้ล่ะ” มะนาวถาม
“กูก็จะจีบมึงให้ทุกคนเห็น”
“...”
“ทำให้ทุกคนรู้ว่าจริงๆ แล้วคนที่กูแคร์ที่สุดก็คือมึงนะนาว มันเป็นแบบนี้มาตลอดและจะไม่เปลี่ยน”
“กูกลัว...ธัน”
“กลัวอะไร ใครด่ามึงกูจะด่ากลับ ความเหี้ยกูรับไว้เองเข้าใจไหม”
“ทำไมมึงต้องทำแบบนี้ กูก็เหี้ยที่คิดเกินเลยกับมึงเหมือนกัน”
“เพราะกูรู้ว่ามึงไม่เคยกล้าข้ามเส้น กูเลยยอมเป็นคนเหี้ยเองไง มึงลองคิดดูคบกับกูมีอะไรเสียหายบ้างนอกจากเสียตัว มึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ใครชอบ เพราะกูชอบมึงที่เป็นมึงแบบนี้”
“...”
“มึงทำกับข้าวไม่เป็นกูก็ไม่เดือดร้อนเพราะกูทำกับข้าวอร่อย มึงขับรถไม่เป็นก็ไม่เป็นไรเพราะกูขับรถเก่ง มึงติดเกมกูก็ไม่ว่าเพราะกูจะเล่นเกมเป็นเพื่อนมึงเอง มึงหาคู่แต่งงานในเกมไม่ได้กูก็จะเป็นผัวให้มึงทั้งในเกมนอกเกม มึงอยากทำอะไรขอแค่บอกกู กูจะทำกับมึงทุกอย่าง เรื่องบนเตียงมึงทำไม่เป็นก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูศึกษาเอง”
มะนาวกำลังจะซึ้งแล้วหากไม่มีประโยคสุดท้ายที่เขาพูดออกมา “ไอ้เหี้ยเกี่ยวอะไรกับเรื่องบนเตียง”
“กูกลัวมึงมีชู้กูก็ต้องขยันหน่อยสิ”
“มึงนี่...”
“มะนาว กูจริงจังแบบที่ไม่เคยจริงจังเท่านี้มาก่อนในชีวิต ตอนสอบเข้ามหา’ลัยกูยังไม่จริงจังเท่านี้”
“ช่วยพูดกับกูเพราะๆ ก่อนเถอะ”
“มะนาวจ๋า อยากให้ผัว...ธันพูดเพราะๆ ก็ได้สิจ๊ะ คิดถึงสมัยอนุบาลที่เราเรียกเธอว่าหนูนาวเลยอะ หนูนาวจ๋า”
“...” มะนาวอยากแขวนคอตายใต้ต้นมะเขือพวง ให้ตายเถอะหมอนี่เปลี่ยนสรรพนามอย่างรวดเร็วจนเธอขนลุกขนพองไปหมดแล้ว “พอแล้วไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ฉันขอเวลาคิดหน่อย”
“ได้สิครับหนูนาว” เขาพูดพร้อมกับยิ้มหน้าระรื่น