ตอนที่ 1 เขาอกหักฉันดามใจแล้วใครเจ็บ
“นาว กูอกหัก” เสียงทุ้มพร่าของชายหนุ่มดังในความมืด เบื้องหน้าคือผืนฟ้ากว้างใหญ่เหนือยอดดอยไกลสุดลูกหูลูกตา อากาศหนาวทำให้มองเห็นควันที่พ่นออกจากปาก กลุ่มดาวบนท้องฟ้าส่องสว่างราวกับเป็นแสงนำทางเพียงหนึ่งเดียวในหัวใจของผู้คนที่มาพักผ่อน
น่าเสียดายที่คนสองคนใต้ผืนฟ้านี้ ที่นี่ เวลานี้ คือคนหลงทางทั้งคู่
“กูรู้แล้ว” หญิงสาวยกขวดแก้วขึ้นกระดก สัมผัสถึงความหวานปนขมที่เมื่อกลืนลงไปกลับบาดคอเล็กน้อย ในอกเต็มไปด้วยความร้อนที่เกิดจากแอลกอฮอล์ ทว่ามือของเธอยังคงเย็นชาจากความหนาวเย็น เสียงที่ตอบเขานั้นแหบพร่าเล็กน้อย หัวใจหนักอึ้งอย่างที่เคยเป็น
ทันใดนั้นศีรษะของชายหนุ่มก็ซบที่ไหล่บาง สัมผัสที่เกิดขึ้นทำให้หญิงสาวตัวแข็งทื่อ หัวใจสั่นไหวอย่างรวดเร็วจนทำอะไรไม่ถูก ทว่าไม่นานนักเธอก็พยายามปรับอารมณ์ให้กลับมาสงบดังเดิมและทำตัวราวกับไม่รู้สึกอะไร
เพราะเธอไม่มีสิทธิ์
“มึงไม่ปลอบกูหน่อยเหรอวะ” ชายหนุ่มพูดเสียงเลื่อนลอยพลางกระดกแอลกอฮอล์จนหมดขวดในรวดเดียวและโยนมันลงบนพื้นหญ้า ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างกอดแขนของคนข้างตัวอย่างเคยชิน “ทำไมคนหล่ออย่างกูต้องอกหักด้วยวะ”
หญิงสาวถอนหายใจด้วยความปวดหัว “มึงเป็นคนบอกเลิกเขา”
“อ้าว...เออลืมไปเลย มึงไม่ถามหน่อยเหรอว่าทำไมกูถึงบอกเลิก”
“อยากบอกมึงก็บอกเอง” เธอตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“ฮึ...” เขาทำเสียงอย่างไม่พอใจ “รู้ทันไปหมดเหมือนเป็นผัวกูเลย”
“...” คำพูดตีรวนของเพื่อนสนิททำให้มะนาวรู้ว่าเพื่อนเริ่มเมาแล้ว “ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ตื่นไปดูพระอาทิตย์กัน”
“ไม่เอาอะ กูไม่อยากนอนเสียใจในห้อง ฮือๆ” ธันวาแสร้งร้องไห้ราวกับจะเป็นจะตาย “ทำไมวะ เกียร์เงินมันก็คือเกียร์หรือเปล่า ทำไมต้องมาบีบเอาเกียร์ทองกับกูนักหนา”
“ผู้หญิงเขาคบกับมึงเขาก็หวังความมั่นคงหรือเปล่าวะ”
“แล้วถ้ามึงมีแฟนมึงจะเอาเกียร์ทองให้มันไหม?” เขาถาม
“ให้สิ ผู้ชายของกูก็คือผัวในอนาคตของกู” เธอตอบพร้อมกับหัวเราะส่งท้าย
“เหอะ...ไม่กลัวโดนผู้ชายหลอกหรือไง” น้ำเสียงของธันวาหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่มีใครเหี้ยเท่ามึงแล้วธัน ไปเลยไปนอน ฉันจะไปนอนแล้ว อ๊ะ...” ขณะที่มะนาวกำลังจะลุกขึ้นร่างของเธอก็ถูกผลักลงกับพื้น
“ไม่เอานอนนี่แหละ” เสียงอ้อแอ้ของเขาดังขึ้น พยายามกอดมะนาวเหมือนหมอนข้างและหนีบเธอไว้ข้างตัว
มะนาวข่มหัวใจที่เต้นแรงพยายามดิ้นหลุดจากอ้อมแขนเขา ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เธอมึนงงเล็กน้อย เมื่อแกะหมีโคอาล่าออกจากตัวได้มะนาวก็ลุกขึ้นและฉุดธันวาให้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “หนักยิ่งกว่าควาย ลุกขึ้นกลับไปนอนที่ห้องเร็ว”
ธันวาอิดออดเล็กน้อยแต่ก็ยอมลุกขึ้นอย่างไม่เต็มใจ มะนาวลากเพื่อนที่เมาแอ๋อย่างทุลักทุเลเดินกลับไปบ้านเช่า และส่งเขาไปที่ห้องนอนแรกอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่เด็กจนโตความสนิทสนมทำให้มะนาวและธันวามักจะออกทริปด้วยกันเป็นประจำ ยกเว้นช่วงที่ธันวามีแฟน เธอมักจะเลี่ยงการเที่ยวกับเขาและแยกตัวไปอยู่กับเพื่อนอีกสามคนในกลุ่มแทนเพราะไม่อยากให้เกิดประเด็นที่ทำให้แฟนของธันวาไม่พอใจ ทว่าเพื่อนคนนี้ของเธอคบกับใครไม่เคยเกินสามเดือน พอครบสามเดือนก็จะมาชวนไปดื่มและจบด้วยการเมาแอ๋เป็นประจำ นานเข้ามะนาวก็เริ่มเคยชินและดูแลเขาเหมือนดูแลพี่ชายคนหนึ่ง
แม้ว่าในหัวใจจะมีความรู้สึกพิเศษบางอย่าง แต่มะนาวรู้ว่ามันคือความรู้สึกที่เธอไม่อยากทำลายกำแพงและข้ามไป มีคนไม่มากนักที่ก้าวข้ามเฟรนด์โซนแล้วจะจบลงอย่างมีความสุข อย่างน้อยเธอก็ไม่เคยเชื่ออย่างนั้น
ถ้าความรักแบบชายหญิงจะทำให้มะนาวเสียเพื่อนที่ดีมากคนหนึ่งไป เธอยอมสูญเสียความรักและมีเพื่อนอย่างเขาตลอดชีวิตดีกว่า
แม้ว่าจะกลายเป็นสาวเทื้อขึ้นคานในอนาคตก็เถอะ
ถึงตอนนี้มะนาวไม่เคยมีความคิดที่จะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักทีแม้ว่าตัวเธอเองมีคนมาชอบไม่น้อยก็ตาม
“อ๊ะ ไอ้ธันทำไร” มะนาวตกใจเมื่อเธอผลักธันวาลงบนเตียงแต่เขากลับฉุดเธอให้ลงมานอนด้วยกัน ดูเหมือนว่าแอลกอฮอล์เริ่มออกฤทธิ์เมื่อเธอเริ่มควบคุมศูนย์ถ่วงในร่างกายของตัวเองไม่ได้ แม้ว่าจะพยายามลุกและกลิ้งลงจากเตียงแต่ดูเหมือนจะสู้แรงดึงของธันวาไม่ไหว เธอตะโกนเสียงดัง “ปล่อยกูก่อน!”
ธันวาแทบไม่ลืมตาด้วยซ้ำ เขาจับมือเล็กที่เย็นเฉียบของมะนาวแน่นและดึงเธอเข้ามากอดอย่างง่ายดาย กลิ่นหอมที่ทำให้จิตใจสงบส่งผลให้เขาไม่อยากปล่อยคนในอ้อมกอดนี้ไป ทว่ามะนาวกลับดิ้นแรงจนชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “นะ...น้ำอิง อย่าดิ้น”
“...” มะนาวที่กำลังดิ้นสุดแรงเกิดอาการหมดแรงเสียดื้อๆ เมื่อได้ยินชื่อของน้ำอิงแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกไป สาเหตุของอาการอกหักของธันวาในคืนนี้ออกมาจากปากเขา เธอข่มอาการชาในหัวใจและพูดเสียงแข็ง “ฉันไม่ใช่น้ำอิง ปล่อย”
“นะ...อย่าไป” เขาพูดเสียงต่ำราวกับคนที่เสียใจอย่างมาก “กอดฉันได้ไหม”
“...” มะนาวรู้ว่าไม่ควรใจอ่อน แต่เธอทนไม่ไหวที่ต้องเห็นเขาเจ็บปวดอย่างนี้ สุดท้ายไม่รู้จะทำยังไงนอกจากปล่อยให้ธันวากอดแบบนี้ต่อไป
ความมึนงงและความง่วงงุนค่อยๆ คืบคลานเข้ามา สติของมะนาวค่อยๆ จมดิ่งสู่ห้วงนิทราในเวลาไม่กี่นาที
กลางดึกหญิงสาวต้องสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะรู้สึกเย็นวาบที่หน้าอก อารามมึนงงทำให้มะนาวพยายามดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวด้วยความหนาว ทว่าเมื่อเธอกำลังจะเคลิ้มหลับ ฝ่ามือเย็นเฉียบก็ซุกผ่านขอบเสื้อกันหนาวและเลื่อนผ่านหน้าท้องแบนราบของเธอก่อนจะปัดป่ายบนเนินอกนิ่มและบีบขยำมันเบาๆ
ทันใดนั้นมะนาวก็ลืมตาโพลง เธอพยายามข่มอาการมึนเมาและผลักมือเย็นๆ นั้นออก ทว่ายิ่งเธอทำแบบนั้นฝ่ามือของอีกฝ่ายกลับเพิ่มแรงมากขึ้นจนร่างของเธอสั่นเทาด้วยอารมณ์ความรู้สึกแปลกๆ
“ปล่อย” เสียงของมะนาวแผ่วหวิว รู้ว่าเจ้าของมือนี้คือใคร แม้จะมีใจให้เขาแต่มันไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมให้เขาล้ำเส้นเข้ามาแบบนี้
“นาว...ขอได้มั้ย” ธันวากระซิบอย่างน่าสงสาร ฟังไม่ออกว่าเขามีสติหรือกำลังเมาอยู่ หากแต่เสียงเรียกชื่อของเธอนั้นราวกับมีมนตร์ขลัง มะนาวตัวแข็งทื่อ ลืมขัดขืนไปเสียสนิท
“ธัน แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”
“นาว นอกจากแกแล้วจะเป็นใคร” เขากระซิบ พ่นลมหายใจอุ่นร้อนที่ลำคอระหง ผมสั้นของหญิงสาวทำให้เขาส่งริมฝีปากไปที่หลังคอเธออย่างง่ายดาย กลิ่นตัวหอมๆ นั้นทำให้สติของเขากระเจิดกระเจิงและอยากจะเข้าใกล้มันมากขึ้น “หอมจัง”
มะนาวทำอะไรไม่ถูก สัมผัสวาบหวิวที่หลังคอทำให้เธอสมองขาวโพลน ขนลุกชันไปทั่วร่างกายอย่างไม่ทราบสาเหตุ มันต่างจากก่อนหน้านี้ที่เขาเมาและเรียกชื่อแฟนเก่า
มันต่างกันเพราะเขาเรียกชื่อเธอ...
ฝ่ามือข้างหนึ่งของเขาค้างที่ทรวงอกอิ่มของมะนาวและบีบขยำมันเบาๆ ฝ่ามืออีกข้างเลื่อนไปที่หน้าท้องของเธอและพยายามจะแทรกปลายนิ้วผ่านกางเกงตัวหนาเข้าไปสัมผัสกับสิ่งลึกลับด้านใน
มะนาวกะพริบตาพยายามเรียกสติ แม้ว่าอารมณ์จะเตลิดไปไกลแต่ก็ต้องพูดให้แน่ชัด “ธะ...ธัน แกรู้ใช่ไหมว่าถ้าทำแบบนี้แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น”
“ไม่รู้” เขาตอบงึมงำ พรมจูบที่ลำคอเปลือยเปล่าของเธอและดูดจนเกิดรอยแดง “นุ่มจังนาว ตัวมึงนุ่มมาก”
“ไอ้เหี้ยธันมึงหยุดก่อนที่จะเกินเลยไปมากกว่านี้ อ๊ะ!” มะนาวรวบรวมพลังและตะโกนใส่เขา หากแต่มือแกร่งกลับสอดเข้ามาด้านหน้าของกางเกงในตัวจิ๋ว นิ้วเย็นเฉียบสัมผัสยังส่วนเร้นลับของหญิงสาวและแตะไล้มันอย่างซุกซน “เอามือออกไปไอ้ธัน”
มะนาวพยายามดึงมือทั้งสองของธันวาออกจากส่วนอ่อนไหวของร่างกายสาว หากแต่เขากลับขบลำคอของเธอเบาๆ จนร่างของมะนาวสั่นสะท้าน “อ๊า...ไอ้บ้า หยุดเดี๋ยวนี้” เธอกลัว...กลัวว่ามันจะทำลายความสัมพันธ์ตลอดหลายปีระหว่างทั้งคู่ “มึงหยุดเดี๋ยวนี้ อย่าทำแบบนี้เลยนะธัน มึงทำอะไรลงไปตอนเมามึงไม่เคยจำได้ ขอร้อง...อา...”
คำพูดของมะนาวกลายเป็นเสียงครวญครางเมื่อธันวาแทรกปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางอันคับแคบของเธอและเคล้นคลึงตรงจุดอ่อนไหวของเธอเบาๆ จนหญิงสาวต้องบิดเร่าด้วยความซ่านสยิว
“ตัวมึงนุ่มมากเลยนาว ดูสิชอบใช่ไหมเวลากูจับมึงแบบนี้” เสียงของธันวาแหบพร่าและป่าเถื่อนเล็กน้อยราวกับไม่ใช่ธันวาคนเดิมที่มะนาวเคยรู้จัก
เขาสอดมือเข้าไปใต้บราเซียร์ตัวจิ๋ว สะกิดปลายยอดและบีบมันอย่างแรงจนมะนาวหมดแรงจะขัดขืน เธอตัวสั่นสะท้านในอ้อมกอดของเขาและถูกเขารังแกอย่างนั้นจนหัวสมองว่างเปล่า ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาถอนมือออกตอนไหน เพราะเมื่อรู้ตัวอีกครั้งเธอก็ถูกเขาคร่อมอยู่ด้านบน ในขณะที่ลมหายใจทั้งหมดถูกริมฝีปากที่เต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ของเขาช่วงชิงไปอย่างไร้ปรานี
หัวใจของมะนาวสั่นไหว นึกถึงครั้งแรกที่เขาเมาและขโมยจูบเธอไปอย่างไร้ความรับผิดชอบ แต่หลังจากนั้นเมื่อเขาตื่นขึ้นมากลับจำอะไรไม่ได้
ทุกครั้งที่เขาโสดและชวนเธอออกเที่ยวมะนาวจึงพยายามจะไม่ให้เขาดื่มจนเมา เพราะกลัวว่าหากเขาเมาแล้วจะเผลอทำอะไรลงไปและจำไม่ได้อีกครั้ง
แต่ขณะเดียวกันเธอก็เห็นแก่ตัว เพราะกลัวว่าหากเขารู้ความจริง แม้แต่ฐานะคนรู้จักก็จะไม่มีเหลือให้กัน
ในความเป็นเพื่อนมะนาวยังคงมีความเป็นมนุษย์ มนุษย์ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัวเสมอ
“มึงต้องการอะไรจากกูเหรอธัน...” เธอถามเสียงพร่าเมื่อเขาถอนริมฝีปากออก ใบหน้าของเขายังคงคลอเคลียที่กลีบปากอิ่มและใบหน้าของเธออย่างมึนเมา
“นาว...กูต้องการให้มึงเป็นเมียกู”
“...” คำพูดขวานผ่าซากของเขาทำให้มะนาวทำอะไรไม่ถูก หัวใจมีความชื่นชมยินดีเพียงชั่วครู่ก็เพิ่งนึกได้ว่าเขาดื่มหนักขนาดไหน ทุกอย่างที่เขาพูดมันเกิดจากความไร้สติทั้งนั้น ความยินดีทั้งหมดจึงสลายไปอย่างรวดเร็วราวกับมีคนเอาน้ำเย็นมาราด
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของเขาพูดว่า “มึงรู้มั้ยทำไมกูไม่เคยเอาเกียร์ทองให้ใคร?”
“มึงยังไม่เจอเมียในอนาคตมั้ง” มะนาวตอบอย่างหัวเสีย ท่าทางระหว่างทั้งคู่ในตอนนี้ล่อแหลมเสียจนหากมีใครสักคนมาเจอก็คงคิดว่าทั้งสองคนได้เสียกันแล้ว
“เปล่า มันเป็นของมึงมาตั้งแต่แรกต่างหากล่ะ”