มนัสยาออกจากบ้านมาที่ห้องเสื้อตามเวลาปกติ วันนี้คุณอาบอกว่าจะให้เลขาฯของเขาติดต่อมา เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเลขาฯของคุณอาคนนั้นจะโทร.หาเธอเมื่อไหร่ หญิงสาวจึงทำงานด้วยอารมณ์เนือยๆ ไม่สดใส เนื่องจากยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องของพี่ชายอยู่
แม้จะหาเงินมาช่วยเขาได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมช่วยเขาอีกแล้ว
นี่แหละปัญหาที่แก้ไม่ตก หากพี่มนัสไม่ยอมปรับปรุงตัวเอง คงต้องปล่อยเขาไปตามแต่บุญแต่กรรม ก็ห่วงแค่มารดาที่รักเท่านั้น เช้านี้ก่อนจะออกจากเธอก็มองเห็นสีหน้าอมทุกข์ของท่านอยู่เหมือนกัน
ส่วนบิดานั้นไม่ต้องพูดถึง รายนี้จะตระเวณเล่นการพนันเป็นอาชีพหลัก คนพวกนี้มักจะสลับหมุนเวียนเปลี่ยนสถานที่เล่นไปเรื่อยๆ เพื่อหลบตาตำรวจ เวลาเล่นก็ได้บ้างเสียบ้าง หากได้หนักๆ ท่านก็เอาไปเปย์ผู้หญิงคนอื่น นานๆ ทีจะยอมกลับเข้าบ้านสักครั้ง
'แต่ละครั้งที่กลับมาบ้านก็เอาแต่เรื่องเดือดเนื้อร้อนใจมาด้วย'
คุณแม่ของเธอมักจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเสมอ มนัสยาจึงรู้ว่าท่านไม่มีความอาลัยให้กับบิดาแล้ว จะกลับบ้านหรือไม่กลับบ้านคุณแม่ก็ไม่ได้สนใจคุณพ่ออีกแล้ว ไม่เหมือนกับพี่มนัส ที่คุณแม่ยังตัดไม่ขาดเสียที
ขณะที่กำลังตรวจเช็คสต็อกผ้าอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็มีสายเข้ามา
"สวัสดีค่ะ" เธอกรอกเสียงถามไป
"คุณยาหยีนี่พี่นลินเลขาฯคุณเกื้อนะคะ"
"ค่ะ"
"ตอนบ่ายโมงมาพบพี่ที่โรงพยาบาล..." แล้วก็บอกชื่อโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งทันที
"ค่ะ งั้นบ่ายโมงตรงเจอกันที่นั่นนะคะ"
มนัสยาวางสายเลขาฯของเขานัดเธอไปพบที่โรงพยาบาลทำไม... ก่อนจะออกจากร้านหญิงสาวก็สั่งงานพนักงานไว้เรียบร้อยเหมือนเดิม
ทันทีที่พบหน้าอีกฝ่ายยิ้มบางๆ ให้แล้วบอกว่า "คุณยาหยีจะเลือกฉีดยาหรือฝังเข็มก็ปรึกษาคุณหมอดูก่อนก็ได้นะ"
"คะ!" เธอตกใจ...ฉีดยาหรือฝังเข็มคงไม่ได้หมายความว่า...
"ค่ะ เพื่อความสบายใจของคุณเกื้อ"
"ผู้หญิงของคุณอาต้อง...คุมกำเนิดใช่มั้ยคะ" เธอถามกลับเบาๆ
"เฉพาะของน้องยาหยีเท่านั้นค่ะ ที่คุณเกื้อเลือกให้ทำแบบนี้ คงเพราะสืบประวัติมาแล้วว่า..."
"ไม่โซกโซนสินะ" เธอต่อให้ด้วยอาการหน้าม้าน แต่เลขาฯเขาไม่รู้สึกว่าเรื่องนี้ผิดปกติอะไรหรอก อีกฝ่ายยังคงพูดคุยด้วยท่าปกติ
"ถือว่าเพื่อความสบายใจกันทั้งสองฝ่ายนะคะ"
"ค่ะ หยีเข้าใจแล้ว" เธอพึมพำแผ่วเบา พลางให้นึกถึงกฎสามข้อของเขาที่บอกให้เธอยอมทำตามความต้องการของเขาอย่างไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น
มนัสยาเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดโดยการฉีดยา พร้อมกันนั้นเธอก็ได้รับการตรวจร่างกายทุกอย่างว่าเธอสะอาดและปลอดภัย ไม่มีโรคอะไรแฝงเร้น
เมื่อธุระที่โรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อยทุกอย่าง เลขาฯของเขาก็พาเธอมาจัดการเรื่องการเงินตามที่เกื้อการุณได้ลั่นวาจาไว้
จากนั้นตอนสี่โมงเย็น เลขาฯของเขาก็พาเธอไปที่เดอะ ไพรม์อีกครั้ง โดยมีนิติกรที่ดูแลที่นั่นรอคอยอยู่แล้ว เพื่อจะทำเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของห้องพักหรูหราให้เป็นชื่อของเธอโดยสมบูรณ์นั่นเอง
มนัสยารู้สึกสบายใจขึ้นมาว่า อย่างน้อยเธอก็ได้รับหลักประกันความมั่นคงให้กับชีวิตแล้ว ไหนๆ ก็ทำเรื่องแบบนี้ ก็ควรจะคุ้มค่ากับสิ่งที่จะเสียไปไม่ใช่หรือ
ก่อนจะจากกัน คุณเลขาฯ ของเขาก็บอกอีกว่า "ถ้าอย่างไรคุณยาหยีก็รอรับสายของคุณเกื้อด้วยนะคะ"
"แล้วเบอร์คุณอา..."
"เดี๋ยวคุณเกื้อโทร.มาคุณยาหยีก็รู้เอง เอาเป็นว่าภายในสองสามวันนี้ถ้ามีสายแปลกๆ โทร.เข้าก็อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นเบอร์ของพวกมิจฉาชีพก็แล้วกันค่ะ ให้รับสายดูก่อนค่ะ" นลินบอกหญิงสาวตรงหน้าด้วยรอยยิ้มขันบางๆ
"ค่ะ หยีเข้าใจแล้ว ขอบคุณคุณนลินมากนะคะสำหรับที่พาหยีมาจัดการเรื่องต่างๆ ในวันนี้" จากนั้นหญิงสาวก็ยกมือไหว้ขอบคุณอีกฝ่ายที่ช่วยมาเป็นธุระ จัดการเรื่องต่างๆ ให้เธอ
นลินรับไหว้แทบไม่ทัน แล้วรีบบอกตามว่า
"อย่าไหว้พี่เลยนะคะ มันเป็นหน้าที่ของพี่ที่ต้องทำให้คุณเกื้อที่เป็นเจ้านายอยู่แล้วค่ะ"
แล้วทั้งสองก็บอกลากันตรงหน้าคอนโดมิเนียมหรู
มนัสยาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมองที่ห้องพักหรูของเธอ การเป็นนางบำเรอของเขา มันก็ไม่ได้แย่ไปเสียทีเดียวหรอกนะ ว่ามั้ย...
ผ่านไปอีกหนึ่งวัน...ที่คุณอาไม่ได้ติดต่อเธอมา
วันนี้มนัสยาเธอกับมารดาไปทำเรื่องถอนเงินสดจำนวนแปดแสนบาทตามที่คนพวกนั้นเรียกร้องเพื่อแลกกับการปล่อยตัวพี่ชายเธอมา
เมื่อมาถึงบ้านก็ช่วยกันจัดแจงเงินใส่กระเป๋าเป้สีน้ำตาลเอาไว้ แล้วรอถึงพรุ่งนี้เช้าค่อยเอาไปวางไว้ในตำแหน่งที่ถูกระบุไว้ต่อไป
ตอนนี้เวลาห้าทุ่มกว่าแล้ว...
หญิงสาวล้มตัวลงกับที่นอนนุ่มด้วยอาการครุ่นคิดถึงเรื่องที่จะต้องตื่นไปทำในเวลาเช้าตรู่ และก็วางใจแล้วว่าวันนี้คุณอาคงไม่ติดต่อเธอมาอีกแล้วล่ะ
ขณะเผลอหลับไปได้เล็กน้อย โทรศัพท์ที่วางเอาไว้บนหัวเตียงเกิดอาการสั่นเสียงดังครืดคราดขึ้นมา หญิงสาวสะลึมสะลือแหงนหน้าขึ้นมอง แล้วหยิบมันมากดรับโดยไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าใครกันที่โทร.เข้ามาในเวลานี้
"สวัสดีค่ะ"
"ยาหยี..."
ดวงตาหญิงสาวหรี่ลงเล็กน้อยยามทบทวนว่า เสียงทุ้มออกแนวแหบพร่านี่มันใครกัน
"ยาหยีเข้านอนหรือยัง มาพบอาหน่อยสิ"
คุณอา!...เธอผลุนผลันลุกขึ้นมานั่งในอาการหายง่วงเป็นปลิดทิ้งทีเดียว ก่อนจะมองเบอร์ไม่คุ้นตากับน้ำเสียงออกแนวหื่นกระหายของเขา
"อาเกื้อ..."
"ใช่ อาเอง ยาหยีออกมาหาอาหน่อยสิ"
"ตอนนี้เลยหรือคะ?"
"ใช่ ตอนนี้เลย"
หญิงสาวมองเวลาที่ปรากฏบนหน้าจอ นี่ก็เกือบเที่ยงคืนแล้วนะ ใจคอเขาจะเรียกหาเธอในเวลาดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้จริงๆ หรือ
"แต่ มัน...ดึกแล้วนะคะ อีกอย่างยาหยีมีเรื่องต้องตื่นไปทำในวันพรุ่งนี้เช้าอีกด้วยค่ะ" เธอแย้งไป อย่างไรตอนนี้เธอก็ไม่สะดวกไปหาเขาจริงๆ
หญิงสาวมีท่าทีกระวนกระวายอยู่บนเตียง แต่กับเกื้อการุณเขายังคงความใจเย็นสุขุมอยู่ในห้องน้ำหรูหรา
ชายหนุ่มในชุดคลุมอาบน้ำสีน้ำตาลตัวใหญ่ เขากำลังนั่งอยู่บนขอบอ่างอาบน้ำ ในมือข้างหนึ่งกำโทรศัพท์อีกข้างก็ถือแก้ววิสกี้เอาไว้ พร้อมทั้งหรี่นัยน์ตาเจ้าเล่ห์ลง ก่อนจะถามกลับหญิงสาวสั้นๆ "เช้าแค่ไหน"
"เช้ามืดเลยค่ะ"
เธอได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ เล็ดลอดออกมา
"เรื่องที่เกี่ยวกับพี่ชายตัวแสบของยาหยีนะเหรอ"
"อาเกื้อ...อาเกื้อรู้ได้ยังไงคะ!" เธอกะพริบปริบๆ ตามด้วยความประหลาดใจ