.
.
.
.
.
.
‘เธอก็มีชีวิตของเธอ ฉันก็มีชีวิตของฉัน..’
.
.
.
.
.
.
1 ปีต่อมา..
ติ๊งๆ..
‘ไงรัน สบายดีไหม? ’
“สบายดี เธอหละริน?” เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้นเรียกให้เจ้าเฟสบุ๊คละสายตาจากสิ่งที่ทำอยู่ เมื่อเห็นข้อความจากกล่องข้อความของใครบางคนที่ไม่ได้พบเจอกันมาพักใหญ่ๆหลังจากแยกย้ายกันไปจนเผลอยกยิ้มออกมาอย่างไม่รุ้ตัวก่อนจะรีบพิมพ์ตอบกลับไป
‘ก็..สบายดีเรื่อยๆอ่ะ แต่เรียนหนักเป็นบ้าเลย! ’
“ก็แน่หละ ก็ตอนนี้เธอเป็นว่าที่คุณหมอนี่หว่า อย่ามาบ่นเยอะ รุงรัง! ” ถึงจะตอบกลับไปอย่างนั้นแต่ร่างสูงเองก็แอบพอใจไม่น้อยที่เพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนานยังมางอแงกับเขาได้อยู่ เป็นเครื่องยืนยันว่ากาลเวลาไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาเปลี่ยนไปว่า
‘รุงรังไร แค่บ่น เออไม่บ่นก็ได้ ไปบ่นกับฮันก็ได้ - -’
“โอ๋วววว โอ๋ๆๆๆๆ ไม่รุงรังก็ได้ บ่นเลยจ้า บ่นเลยยย ตามสบาย” แม้ไม่ได้แกล้งตรงๆขอให้ได้กวนประสาทนิดๆหน่อยก็เป็นความสุขเล็กๆของร่างสูงแล้ว ยิ่งเห็นข้อความที่พอจะเดาได้ว่าคนพิมพ์คงจะนั่งงอลแก้มป่องอยู่หน้าคอมยิ่งกระตุ้นให้ความอยากแกล้งทวีคูณ
‘ไม่! จะไปแร้ว! ไม่สนใจนายละ’
“เอ้า ง้อละนี่ไงแม่คุณ”
‘ง้อแล้วไง ก็จะไปอ่ะ’
“จะไปคุยกับแฟนอ่อ?” ถึงจะสนิทกันขนาดไหนแต่ก็เกินขอบเขตของคำว่าเพื่อนไม่ได้ ทั้งสองคนย่อมรู้ดี..
‘อื้อ’
“อ่อ..โอเคงั้นคุยกันใหม่นะ ตั้งใจเรียนหละเธอน่ะ” เพียงคำตอบสั้นๆก็สามารถลบรอยยิ้มใบหน้าชายหนุ่มได้อย่างง่ายดาย
‘เค นายก็เหมือนกัน ไว้คุยกันใหม่’
“...”
บทสนทนาสั้นๆจบลงอย่างง่ายดาย แม้จะเป็นการคุยกันในช่วงเวลาสั้นๆแต่อย่างน้อยก็ยังไม่ขาดการติดต่อ พอคิดได้ดังนั้นร่างสูงเองก็อดยิ้มออกมาอีกครั้งไม่ได้ก่อนจะกลับไปตั้งหน้าตั้งตาทำสิ่งที่ทำอยู่ก่อนหน้านี้ และมันก็เป็นอย่างนี้แทบจะทุกวันได้คุยกันปรับทุกข์ตามประสาเพื่อนสนิท..จนเวลาได้ล่วงเลยมาอีก 6 เดือน
“ไง วันนี้ยังไม่เห็นทักมาเลยอ่ะ” คราวนี้เป็นร่างสูงเองที่ตัดสินใจเป็นฝ่ายทักไปก่อน
‘พรุ่งนี้มีสอบอ่ะ จะสอบมิดเทอมแล้ว’
“เอากำลังใจป้ะ?”
‘ไม่อ่ะ ขอบใจ! กำลังใจฉันดีอยู่แล้ว อิอิ’ สิ้นประโยคแล้วเจ้าของข้อความก็ไม่ลืมที่จะส่งรูปกล่องช็อคโกแลตที่ได้รับมาจากแฟนหนุ่มมายืนยัน
“เออ! ดี! ทางนี้ก็กำลังใจดีเหมือนกันนั่นแหละน่า” มีหรือร่างสูงเองจะยอมแพ้จัดการค้นโปสการ์ดที่แฟนสาวส่งมาให้พร้อมลูกอมกล่องใหญ่ถ่ายส่งไปให้บ้าง!
‘น่อววววว ยังหวานเหมือนเดิมเลยนะนายกับพี่แสนดีเนี่ย’
“ของมันแน่อยู่แล้ว -__,- ทีหน้าทีหลังอ่ะ เรื่องแบบนี้อย่าเอามาขิงฉันเลยว่ะ” พิมพ์ส่งไปพร้อมกับรอยยิ้มของผู้ชนะบนใบหน้า
‘จ้าๆ ยอมแล้วจ้า พอละเดี๋ยวจะไปอ่านหนังสือละ’
“เค ตั้งใจหละ”
‘ใจจ้า เอ้อ เดือนหน้าพี่ฟาร์มให้ฉันกลับบ้านอ่ะ สะดวกมาเจอกันหน่อยไหม?’
“ได้ แล้วจะนัดเพื่อนคนอื่นด้วยละกัน”
‘ขอบใจๆ ไปจริงๆละ บรัยยยส์ ’
“บาย” ว่าแล้วก็อดตื่นเต้นไม่ได้ที่จะได้รวมตัวกับเพื่อนอีกครั้ง แต่จริงๆแล้วก็อาจจะตื่นเต้นเพราะจะได้เจอหน้าเธอคนนั้นที่ไม่ได้เจอมาร่วมปีกว่าเสียมากกว่า จึงได้แต่ตั้งหน้าตั้งตา นับวันนับเวลารอต่อไป..
.
.
.
.
.
.
.
‘หากเรามีเป้าหมายสักอย่าง เหตุใดเวลามักจะเดินช้าเสมอ..’
.
.
.
และแล้ววันรวมตัวก็มาถึง ร่างสูงรีบเด้งออกจากที่นอนก่อนรีบปรี่ไปอาบน้ำจัดการตัวเองและแล้วก็ต้องมาหยุดชะงักยืนมองตัวเองหน้ากระจก
“ชุดไหนดีวะ.. ตัวนี้.. กับตัวนี้เป็นไงวะ” สองมือทำงานประสานกันหยิบจับเสื้อตัวกางเกงตัวแล้วตัวเล่ามาเทียบใส่กันก่อนจะขยี้หัวตัวเองอย่างหัวเสีย
“โว๊ยยยย =__= ทำไมมันยากกว่าไปเดทกับแฟนอีกวะเนี่ย แค่ไปเจอเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานเฉยๆนะเว้ยยยรันน” สบถใส่ตัวเองหน้ากระจกเสร็จก็เริ่มจับๆแต่งๆตัวอีกครั้ง
“เออ เอานี่ก็ได้ง่ายๆ จัดเยอะเดี๋ยวยัยนั่นจะล้อเอา แต่จะว่าไปแล้ว...” ร่างสูงยืนจ้องตัวเองอยู่หน้ากระจกอย่างพินิจพิจารณา..
“คนหล่อนี่มันใส่อะไรก็ดูดีไปหมด -^- เห้อม ” ว่าจบก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้พร้อมหยิบเป้ประจำกายสะพายขึ้นบ่าก่อนจะออกจากห้องไป ขายาวก้าวฉับๆผ่านหน้าห้องโถงไปอย่างรีบร้อนจนมารดาต้องทักท้วง
“รัน รีบไปไหนแต่เช้าเลยลูก ไม่อยู่ทานข้าวกับป๊ากับม๊าก่อนหรอครับ? แล้วไม่มีเรียนหรอวันนี้?” มีอาร์มองการแต่งตัวของลูกชายตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ไม่มีครับม๊า ผมนัดกับเพื่อนไว้”
“โอเค งั้นเดี๋ยวม๊าจะบอกป๊าให้นะ ^^”
“ครับม๊า รักม๊าครับ” ว่าจบก็ไม่ลืมที่จะเดินเข้ามากอดหอมแก้มผู้เป็นแม่อย่างรักใคร่แล้วรีบปรี่ออกไปเพื่อให้ทันเวลานัด
At Coffee shop..
“...” ร่างสูงยกข้อมือขึ้นมามองนาฬิกาก่อนจะพบว่าเขามาก่อนเวลาตั้ง 1 ชั่วโมง
“จะรีบไปไหนวะเนี่ยตู..เหอะๆ” ระหว่างรอตาคมก็สอดสายตามองหาคนที่รออยู่ตลอด ในใจก็แอบคิดเหมือนกันว่าเธอคนนั้นจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนแล้วเขาเองจะจำเจ้าหล่อนได้ไหม และแล้วตาคมก็ต้องสะดุดเข้ากับหญิงสาวผมเปียกำลังส่งยิ้มให้เขามาแต่ไกล..รอยยิ้มที่คุ้นเคย แต่ใบหน้านั้นเห็นได้ชัดว่าเปลี่ยนไปจากตอนมัธยมแต่ยังคงเค้าโครงเดิม มันดู..โต ดูเป็นสาวขึ้น..ดูสวยขึ้นจนแปลกตา
“สวัสดี! รัน! ^^” เฟรินหยุดยืนตรงหน้าพร้อมส่งยิ้มหวานจนตาหยีมาให้เพื่อนรัก
“ส สวัสดีๆ เอ้อ นั่งดิๆ” ร่างสูงหลุดจากภวังค์ทันทีเมื่อโดนเรียกชื่อ
“อ้าวคนอื่นไปไหนหมดอ่ะ” ร่างบางมองสำรวจรอบๆแต่ก็ไม่พบเพื่อนในกลุ่มคนอื่นๆก่อนจะนั่งลงตรมคำเชื้อเชิญ
“ไม่รู้มัน แต่ก็บอกแล้วหละ อาจจะยังไม่ตื่นมั้ง” ร่างสูงกำมือสองข้างของเจ้าตัวไว้แน่นเพื่อกลั้นอาการตื่นเต้น ‘ทำไมมันเกร็งแบบนี้วะ! = =’
“แล้วนายสั่งไรรึยังอ่ะ? ถ้าสั่งแล้วฉันจะได้ไปสั่งถ้ายังจะได้ไปพร้อมกัน”
“ย ยัง ไม่ได้สั่ง งั้น..งั้นไปสั่งพร้อมกันก็ได้ - -a” ว่าจบก็ลุกขึ้นเก้ๆกังๆจนร่างบางที่มาด้วยต้องเลิกคิ้วมองอย่างประหลาดใจ
“อะไรของนายเนี่ย ไม่เจอกันแค่ปีเดียวไมเป็นงี้อ่ะ ฮ่าๆ” คนตัวเล็กกว่าหัวเราะคิกคักก่อนจะเดินนำไปก่อน
เมื่อออเดอร์เครื่องดื่มเสร็จทั้งสองจึงกลับมานั่งประจำที่คุยกันสัพเพเหระกันไปตามประสาคนคุ้นเคย ต่างฝ่ายต่างผลัดกันถามสารทุกข์สุขดิบกันไปเรื่อยจนกระทั่ง..
“ติ๊ด..ติ๊ด..” เครื่องมือสื่อสารที่วางอยู่บนโต๊ะจะสั่นและโชว์ชื่อของเจ้าของสาวเรียกเข้า
‘แสนดี♥’
“อ่า..ฉันขอตัวแปปนะ” เมื่อตาคมสะดุดเข้ากับชื่อบนหน้าจอปากหนาจึงยกยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีและขอผละตัวออกไปจากหญิงสาวตรงหน้า
“จ้าๆ แห่มหวานซะจริง เหม็นความรัก~” คนตัวเล็กเองก็ได้แต่ยิ้มตามใบหน้ายิ้มแย้มของเพื่อนรักอย่างช่วยไม่ได้
.
.
.
.
‘มันก็ดีแล้วที่พวกเขารักกันดี’
.
.
.
.
.
“มาแล้วๆ” ใช้เวลาไม่นานร่างสูงเองก็กลับเข้ามานั่งประจำที่
“ยิ้มแป้นกลับมาเลยนะนาย” เฟรินเองก็อดที่จะเอ่ยแซวไม่ได้
“ก็แน่นอนคนมันมีความสุขนี่หว่า เอ้อเนี่ย อีกสองเดือนจะถึงวันเกิดแสนดีแล้ว” ตาคมฉายแววตื่นเต้นจนเห็นได้ชัด
“แล้วไงอ่ะ? ทำไมนายต้องทำหน้าตื่นเต้นขนาดนั้นด้วยอ่ะ หรือนายมีอะไรจะเซอร์ไพรท์พี่เขา” คนตัวเล็กว่าพลางยกเครื่องดื่มเย็นขึ้นจิบ
“ระดับฉันแล้วมันต้องมีแน่นอน!”
“อ่ะไหนว่ามา ฉันจะลองสกรีนแผนนายให้ก่อนในฐานะที่ฉันเป็นผู้หญิง”
“คืองี้.. คือตอนนี้อ่ะแสนดีเรียนโทอยู่ที่แคนาดาฉันเลยตั้งใจว่าจะบินไปเซอร์ไพรท์เขา กะจะไปฉลองวันเกิดให้แล้วใช้เวลาอยู่ด้วยกันสักอาทิตย์ อย่างงี้ดีป้ะวะ?” เจ้าของความคิดเล่าด้วยอาการตื่นเต้นกับแผนการของตนเอง
“โอ้ ไกลใช่เล่นเลยนะเว้ย แต่ฟังๆดูแล้วก็โอเคนะ ถ้าเป็นฉันก็คงดีใจมากๆเลยอ่ะไม่คิดว่าจะได้อยู่ด้วยกันในวันเกิดไง”
“ใช่ไหมหละ ฉันนี่มันอัจฉริยะจริงๆเลย -^-”
“จ้า จ้าาาา พ่อคุณ - -” ถึงจะเออๆออๆไปกับเพื่อนแต่มันก็อดหมั่นไส้จนต้องกรอกตามองบนเสียไม่ได้เลย
“แล้วเธอกับแฟนเป็นไงบ้างอ่ะ”
“ก็เรื่อยๆอ่ะ ช่วงนี้พี่เขาก็งานยุ่งๆ ฉันเองก็เรียนหนักเหมือนกัน ก็มีแพลนว่าจะไปเที่ยวด้วยกันตอนปิดเทอมอ่ะ ก็คงอีกประมาณสองเดือน..แต่ไม่รู้จะว่างกันไหม” คนตัวเล็กว่าแล้วก็ยู่ปากเข้าอย่างไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่
“งั้นหรอ อืม.. งั้นไปเที่ยวด้วยกันมะ? ไปพร้อมกันสองคู่เลยเป็นไง”
“เห้ย! เออดีๆๆๆๆ >‘ฉันชอบจริงๆนะ ใบหน้าเธอตอนที่ยิ้มแล้วตาเธอมันยิ้มไปด้วย..’
.
.
.
.
.
.
‘มันทำเอาฉันยิ้มตามไปด้วยทุกครั้งเลยหละ.. (: ’
.
.
.
.
.
2 เดือนต่อมา..
“อะไรวะเนี่ย.. จะหมดเวลาเช็คอินละยัยนั่นทำไมยังไม่มา”ร่างสูงโปร่งชะโงกคอมองหาใครบางคนพร้อมกับมองนาฬิกาที่ข้อมือสลับกันไปมาก่อนจะสะดุดกับร่างเล็กที่คุ้นตารีบวิ่งตรงมายังเคาน์เตอร์เช็คอิน
“มาแล้วๆๆๆๆๆ รถติดมากเลย แฮ่กๆ” คนตัวเล็กที่มาพร้อมกับกระเป๋าใบโตตรงปรี่เข้ามาหาเพื่อนชายก่อนหยุดตรงหน้าหอบหนัก
“ไปเช็คอินเลย! จะตกเครื่องอยู่แล้วเนี่ย - -*”
“โอเคๆๆๆ เข้าใจแล้ว” ว่าแล้วร่างเล็กรีบลากกระเป๋าตัวเองไปเข้าแถวเช็คอิน ใช้เวลาครู่หนึ่งการโหลดสัมภาระก็เสร็จสิ้น
“มาช้ากว่านี้เธอได้ตกเครื่องแน่! ” ตาคมตวัดมองเพื่อนหญิงอย่างเคืองๆ
“โทษทีๆ ฉันรอพี่ฟาร์มมาส่งอ่ะแล้วรถมันก็ดันติดอ้ะ T^T”
“เออๆรู้แล้ว แล้วไหนอ่ะแฟนเธอ?” นั่นสิในเมื่อคุยกันว่าจะไปเที่ยวด้วยกันสองคู่แต่เหตุใดเห็นเพียงเพื่อนหญิงแต่กลับไร้เงาของแฟนหนุ่มของเธอ
“เอ่อ..พี่เขาติดงานด่วนน่ะ บอกว่าเดี๋ยวจะบินตามมา” คนตัวเล็กตอบกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มแหยๆบนใบหน้า
“อ่อๆ งั้นก็โอเค แทนที่จะได้ไปเป็นคู่กลัวเธอได้ไปเป็น กขค. มากกว่า” ไหล่กว้างไหวเบาๆอย่างชวนกวนประสาท
“- - ที่แท้ก็ห่วงตัวเอง โถ่เว้ย! ไปเกทก่อนละกัน หาทางไปเองนะ!” ว่าจบก็ไม่รอช้าเดินกระทืบเท้าตึงตังหนีไปอย่างรวดเร็วจนร่างสูงต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งตาม
“เฮ้ยยย ล้อเล่นน อย่าทิ้งกันสิฟ้ะ”
ณ ช่องทางการขึ้นเครื่องผู้โดยสารมากหน้าหลายตาเดินขวักไขว่กันเต็มพื้นที่ก่อนที่พนักงานจะเริ่มเรียกผู้โดยสารตามเลขที่นั่งให้ขึ้นไปนั่งประจำที่ในเจ้านกเหล็ก ใช้เวลาครู่ใหญ่กว่าที่การโหลดผู้โดยสารเข้ามาในอากาศยานจะเสร็จสิ้น และแล้วก็ได้เวลาออกเดินทาง...
‘Cabin crews ready for takeoff’
ประโยคจากกับตันดังขึ้นเพื่อแจ้งให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องกลับไปนั่งประจำที่เพื่อการนำเครื่องขึ้นบน ใช้เวลาเพียงไม่นานเจ้านกเหล็กก็เหินทะยานสู่ท้องฟ้ากว้าง..
“...” ตากลมมองจากที่นั่งออกไปทางหน้าต่างสู่ท้องฟ้าอันไกลโพ้น สีฟ้าสดใส..เพื่อหวังให้มันช่วยเยียวยาหัวใจของเจ้าหล่อนได้บ้าง..
.
.
.
.
.
.
.
.
‘ถ้าเรายังเป็นเหมือนเดิมมันก็คงดี..’ : เฟริน
.
.
.
.