เสียงไก่ขันดังเป็นสัญญานว่าได้เวลาออกมาทำมาหากิน เสียงพูดคุยของคนในครัวเรือนเริ่มขึ้นแล้ว พ่อบ้านที่ลุกขึ้นมาเป็นคนสุดท้าย หยิบยาเส้นขึ้นมาสูบ แล้วมองไปที่ภูเขา
ครัวในบ้านแต่ละหลังเป็นครัวเตาถ่านใช้หุงหาอาหารแบบง่ายๆ อาหารประจำบ้านมีเพียงไข่จากไก่ในเล้า ปลาในหนองน้ำ และผักที่ปลูกเอาไว้
‘อาซอ’ มองดูลูกๆที่อยู่ในชุดพื้นเมืองกำลังเตรียมตัวจะไปโรงเรียน หัวหน้าครอบครัวหยิบเงินออกจากกระเป๋านำมาแจกจ่ายลูกทั้ง5คน
’อิง ‘ เด็กหญิงวัย13ปี ลูกสาวคนโตของบ้าน
’อุ้ม’ ลูกชายคนโตวัย 12ปี
’อาม ‘ ลูกชายคนรองวัย11ปี
‘อุ่น’ ลูกชายคนที่3วัย10ปี
และเด็กชายคนสุดท้าย อาซา วัย8ปี
อาซอหยิบเงินแบงก์100ให้ลูกชายทั้ง4 แต่ให้ลูกสาวคนโตเพียงแบงก์20 จำนวน2ใบเท่านั้น
“เอาไปซื้อขนมกินให้มากๆ” อาซอบอกลูกชาย แล้วจัดการสตาร์ทรถกระบะ2ตอนของที่บ้าน ก่อนจะพาเด็กๆทั้งหมดไปโรงเรียนที่อยู่ทางเข้า
‘อิง ‘ กำเงินเอาไว้แน่น ด้วยรู้ตัวดีว่าลูกสาวจะไม่ได้รับสิทธิ์อะไรทั้งนั้น ความเป็นลูกชายสำคัญที่สุด และหากเธอเกิดมาเป็นลูกชายคนโต พ่อที่มีลูกชาย5คน จะได้รับการยอมรับ จากผู้อาวุโสในหมู่บ้าน
’อามา ‘ หรือแม่ของเธอ เป็นหญิงชาวบ้านที่ไม่เคยมีข้อโต้แย้งใดใดกับพ่อได้เลย แม่จะสงบเสงี่ยมเจียมตัว ทำงานในครัว ทำงานบ้านงานไร่ สารพัด จากต่างหัวหน้าครอบครัวโดยสิ้นเชิง
“เอาเงินนี่ไปแล้วซ่อนให้ดี “ อามาพันเงินหลายใบเป็นแท่งกลมแล้วสอดไว้ในกระบอกไม้ไผ่
“ถ้าไม่มีอามาแล้วอิงจะต้องไม่ลำบาก ‘ อามาบอกได้แค่นี้ แล้วยัดเงินลงในย่ามหนังสือของลูกสาวเพื่อให้นำเงินสะสมเอาไว้
รถกะบะคันเก่าของพ่อแล่นผ่านบ้านหลายหลัง และมักจะแวะรับเด็กชายบ้านอื่นมาด้วยเสมอ และเมื่อรถผ่านทางลูกรังลงเขาไปเพียงไม่นาน ก็จะเจอตลาดยามเช้าที่พ่อจะแวะตรงนี้ที่ประจำ
น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ หรือแม้แต่ขนมครกร้อนๆ ที่พ่อหยิบยื่นมาให้เป็นความทรงจำในส่วนที่ดีที่สุด ที่อิงไม่เคยลืมเลือน