บรรยากาศรอบข้างที่เต็มไปด้วยต้นไม้และท้องทุ่งทำให้หนุ่มๆ ที่ร่ำสุรากันอยู่มีความสุขบันเทิงใจเป็นที่สุด เหล้าเถื่อนดีกรีร้อนแรงที่ผลิตขึ้นมาล็อตใหม่ทำให้คนดื่มถึงกับเมาหัวทิ่ม แต่ไม่ใช่แดนตะวันอย่างแน่นอนเพราะเขาคอแข็งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แม้ว่าเหล้านั้นจะดีกรีร้อนแรงสักเพียงไหน
แดนตะวัน สมุทรากร หนุ่มวัย 33 ปี เจ้าของใบหน้าคมสัน ร่างสูงเพรียวแข็งแรง เขาเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเหล้าเถื่อนซึ่งมีรายได้มหาศาลเป็นลำดับต้นๆ ของจังหวัด แดนตะวันจ่ายเงินอย่างถูกกฎหมาย จึงไม่มีปัญหาเรื่องการค้าขาย จุดขายของเขาคือการคิดสูตรเหล้าใหม่ๆ ขึ้นมาเอง โดยเฉพาะยาดองสมุนไพรสูตรเฉพาะที่อร่อยจนเป็นที่ติดอกติดใจของลูกค้าทุกคนที่แวะเวียนกันมาลิ้มลอง
“เฮีย...” เสียงเรียกของสาวน้อยทำเอาคนถูกเรียกเหล้าพุ่งออกจากปาก สำลักจนหูตาแดงไปหมด ชายหนุ่มหันขวับไปมองสาวน้อยวัยยี่สิบแล้วสะดุ้ง
“เซี้ย!” อุทานแบบไม่ต้องกลัวว่าใครจะด่า เขากวาดสายตามองลูกน้องสองสหายที่ยืนก้มหน้างุด มือกุมเอาไว้ด้านหน้าด้วยสายตาหงุดหงิด ก่อนจะเกาหัวไปมา
“ได้ยินว่าเฮียจะไปเก็บค่าเช่าบ้าน ขออัญไปด้วยนะ อยากไปช่วยเฮียทำมาหากิน” คนน่ารักอ้อนสุดฤทธิ์สุดเดช นวดไหล่คู่หมั้นหนุ่มไปมาด้วยสีหน้า เจ้าเล่ห์
“เฮียต้องไปธุระหลายที่” คนไม่อยากให้ไปด้วยรีบบ่ายเบี่ยง อัญชัญเป็นลูกสาวของเพื่อนรักบิดามารดาที่เป็นคู่หมั้นคู่หมายของเขาตั้งแต่เด็ก อายุห่างกันมากไม่ใช่ปัญหาเมื่อโดนจับคู่ให้แต่งงานกัน
พอบุพการีของอัญชัญเสียชีวิต บิดามารดาจึงรับเธอมาอุปการะเลี้ยงดูเพื่อรอเป็นเจ้าสาวของเขา ยายตัวแสบเห็นหน้าตาน่ารักแบบนี้ แสบทรวงอย่าบอกใครเชียว ใครเผลอหลงคิดไปว่าหล่อนน่ารักละก็... เสร็จทุกราย
จริงๆ เขาเป็นลูกบุญธรรมของบิดามารดา ท่านรับมาเลี้ยงดูตั้งแต่แบเบาะ พอท่านเสียชีวิต พี่ชายลูกพี่ลูกน้องอย่างสุริยันต์ก็เข้ามาช่วยดูแลกิจการและทรัพย์สินให้ ซึ่งตอนนั้นเขายังเรียนหนังสือไม่จบ พอเรียนจบสุริยันต์ก็วางมือให้เขาดูแลต่อ
“ไปด้วย” เสียงเอาแต่ใจทำให้แดนตะวันเริ่มหัวหมุน ถ้าทำเสียงแบบนี้เขานี่แหละจะโดนป่วนไม่ต้องทำมากินกันพอดี
“อยากไปก็ตามมา แต่อย่าก่อเรื่องล่ะ”
“สัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือเนตรนารีค่ะว่าจะไม่ก่อเรื่องจริงๆ ไม่จิงโจ้” เธอยกสามนิ้วขึ้นชู ส่วนมืออีกข้างก็ไขว้ไปทางด้านหลัง
ใครเชื่อเธอก็คลอดลูกเป็นแมวแล้วล่ะ!
อัญชัญวิ่งตามร่างสูงใหญ่ของแดนตะวันไปอย่างสนุกสนานระคนมีความสุข อย่าคิดว่าเธอไม่รู้นะ ว่าเขาจะไปไหนและไปทำอะไร
ลูกน้องของแดนตะวันคือพวกของเธอทั้งหมด ไม่มีใครกล้าหือ เรียกง่ายๆ ว่าเสร็จเธอทุกรายเพราะโดนซื้อตัวเอาไว้หมดแล้ว
ถ้าถามอะไรแล้วไม่ยอมบอก จะโดนแกล้งหนักๆ จนต้องยอม
เขาว่า... รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
เด็กสาวรีบกระโดดขึ้นมอเตอร์ไซค์คันโตของแดนตะวันไปอย่างรวดเร็ว เขาคิดจะทิ้งเธอเอาไว้ที่นี่น่ะสิ เธอรู้ทันหรอก แต่ไม่มีทางที่เขาจะทำแบบนั้นได้แน่ๆ
“นมทิ่มหลัง” เขาหันมาทำเสียงดุ แดนตะวันยอมผิดผีกับผู้หญิงทุกคน ยกเว้นยายตัวป่วนนี่ เพราะสัญญากับบิดามารดาเอาไว้แล้วว่าให้น้องเรียนจบก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน
อัญชัญเป็นคนนิสัยแปลก พอบอกให้ไปทางซ้ายเธอก็จะไปทางขวา บอกให้ไปข้างหน้าเธอก็จะไปข้างหลัง พอเขาบอกว่านมทิ่มหลัง เธอก็ยิ่งโอบกอดเขาหนักขึ้นไปอีก
“ใส่หมวกกันน็อกด้วย” เขายื่นหมวกกันน็อกมาให้ทางด้านหลัง เธอรับไปสวมอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะออกรถ
“เฮียจะไปเก็บค่าเช่าที่ไหนก่อนคะ”
“ในตลาด” เขาตอบแบบขอไปที รำคาญเสียงถามของเธออย่างที่สุด
“ทำไมไปในตลาดก่อนล่ะ”
“หุบปากบ้างเถอะ ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้นะ”
“พูดกับน้องแต่ละคำ ทีกับสาวๆ ล่ะจ๊ะจ๋า น่าหมั่นไส้” เธอทำปากยื่นอย่างมีแง่งอน
แดนตะวันจอดรถหน้าห้องแถวเล็กๆ ที่อยู่ในตลาด ก่อนจะเคาะประตูห้องเบาๆ คนที่ออกมาเปิดประตูให้เป็นสาวสาวสะพรั่งนุ่งน้อยห่มน้อย ทาปากสีแดงจัด ผมสีทองดัดเป็นลอน ชะม้ายชายตาให้เจ้าของบ้านเช่าตาเป็นมัน
“เฮีย!” เสียงเขียวมาพร้อมกับมือนิ่มๆ ที่หยิกเข้าที่แขน แดนตะวันสะดุ้งร้องเสียงหลงแทบจะทันที
“โอ๊ย! หยิกเฮียทำไม”
“มาเก็บค่าเช่านะเฮีย ไม่ใช่มามองนมคนเช่าบ้าน” เธอทำหน้าบึ้ง ก่อนจะเดินไปยืนด้านหน้าของเขา แบมือออกไปขอค่าเช่าห้องเสียเอง อย่าคิดว่าเธอไม่รู้นะ... ว่าแม่นี่จ่ายค่าเช่าเป็นอะไร
หน็อย... วันนี้ไม่ได้แอ้มหรอก
ชบาหน้าบูดบึ้งหยิบเงินจากซอกนมออกมายื่นส่งให้สาวน้อยหน้ามน แต่มิวายชะม้ายชายตามองคนด้านหลังของเด็กสาวด้วยสายตาเป็นประกาย ระริกระรี้ยั่วยวนชวนลากขึ้นเตียง
เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่า... ยายเด็กนี่เผลอ เราเจอกัน!
“เฮีย! ไปได้แล้ว” ถ้าดึงหูได้อัญชัญคงทำไปแล้ว เธอทำเพียงแค่เอาเงินยัดใส่กระเป๋าสะพายของตัวเอง และเรียกเขาไปที่รถ แดนตะวันทอดสายตามองหุ่นอวบอัดของชบาไม่วางตา แต่น้ำเสียงเร่งเร้าของคู่หมั้นวัยละอ่อนทำให้เขาต้องผละจากมาในที่สุด
“เฮีย... ถามจริงๆ เหอะ เฮียชอบของปลอมเหรอ”
“ของปลอมอะไร” คนถามหงุดหงิดใจไม่น้อย ก้างชิ้นใหญ่ขวางคอเอาไว้เลยทำอะไรไม่สะดวกเอาเสียเลย
“ยายนมบูดนั่นไปทำนมปลอมมาเท่าลูกมะพร้าว เฮียไปฟัดกับมันระวังซิลิโคนแตกคาปาก” คนพูดเท้าสะเอวว่าฉอดๆ แดนตะวันถึงกับส่ายหน้าไปมา
“รู้ดี” เขาจิ้มหน้าผากเธอ
“รู้สิ ยายนี่นอกจากนมปลอมแล้วอย่างอื่นก็ปลอมทั้งตัวเลย เฮียเคยเห็นเขาล้างหน้าไหมล่ะ”
“เกี่ยวอะไรกับล้างหน้า”
“ยังกับซากศพ”
“ไม่รู้ ตอนเอากันไม่เคยมองหน้า มองแต่อย่างอื่น โอ๊ย! เจ็บนะโว้ย ยายเด็กนี่” แดนตะวันสะดุ้งเมื่อโดนบิดจนเนื้อเขียว
“ต่อหน้าว่าที่เมียกล้าบอกว่าเอากับคนอื่นเหรอ”
“ยังไม่ได้เป็นเมีย”
“ของดีมีไม่ชอบ” เธอบ่นอุบนึกน้อยใจและงอนเขาเอามากๆ
“อะไรที่ว่าดี” แดนตะวันรู้สึกว่าการเถียงกับเธอคือเรื่องคุ้นเคยสำหรับเขา ยายเด็กนี่ก็เถียงคำไม่ตกฟาก ไม่เคยยอมแพ้อะไรเลย แต่เขาก็สนุกที่จะได้ ต่อล้อต่อเถียงกับอัญชัญ เธอมักมีความคิดแปลกๆ มาให้เขาขำได้เสมอๆ
“ของอัญไง จริงทุกอย่าง” เธอยืดอกภาคภูมิใจในความเป็นตัวเองอย่างที่สุด
“ตัวก็เตี้ย นมก็แบนเหมือนไข่ดาว ผิวขาวเหมือนไก่ต้ม พูดมาก กินจุ น่ารำคาญ อันนี้เรียกจริงทุกอย่าง” คนฟังถึงกับอ้าปากค้าง ก่อนจะก้มมองนมตัวเอง นมเธอนี่นะแบนเหมือนไข่ดาว จะมากไปแล้วนะ คนด่าไม่ได้สนใจเดินหนีไปเก็บค่าเช่าหลังต่อไป เป็นที่รู้กันว่าแดนตะวันมีผู้หญิงมาทอดสะพานให้ไม่เว้นแต่ละวัน ดังนั้นคนที่มาเช่าบ้านหรือลูกหนี้ของเขาก็มีวิธีการใช้หนี้ที่สยิวกิ้วจนเธอต้องตามมาคุม
บ้านหลังที่สองไม่ต่างกันเลย แม่เจ้าโว้ย! นุ่งกระโจมอกออกมาจ่ายค่าเช่าบ้าน อกอีแป้นจะแตก!
“โอ๊ย!” แดนตะวันสะดุ้งโหยงเมื่อโดนกระทืบเท้าเข้าให้ ก่อนที่ยายตัวแสบจะเดินมายืนมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา
“ขอโทษค่ะ อัญไม่เห็นจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะเหยียบหาง เอ้ย! เหยียบเท้าเฮียเลยนะคะ” เจ้าตัวแสบยกยิ้มมุมปาก แดนตะวันสบถ ยกเท้าขึ้นด้วยความเจ็บ เขาร่ำๆ อยากจะยกเธอขึ้นพาดบ่าแล้วฟาดให้ก้นระบมนัก
“สาบานว่าไม่เห็น” เขากัดฟันขณะเอ่ยถามระงับความโกรธเอาไว้ เธอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
อัญชัญแบมือไปขอเงินค่าเช่า แต่คนที่นุ่งกระโจมอกเล่นหูเล่นตากับคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง แล้วเชิญเข้าไปในบ้านเสียอย่างนั้น