“อัญเป็นนักชิมเหล้า เฮียก็รู้”
“เหอะ! เมาเป็นหมา” อัญชัญหน้างอเมื่อโดนว่าเช่นนั้น แต่เธอก็เดินเข้าไปชะโงกดูไก่อบฟางที่เขาเอาออกมาวางบนถาดใบใหญ่เรียบร้อยแล้ว
“หอม... อยากเหล้า”
“ยายเด็กขี้เมา ไปเรียนที่โน่นอย่าไปเมาหัวราน้ำอีกล่ะ”
“เมาไม่ได้เหรอ เฮียยันต์ยังไม่เห็นขี้บ่นเหมือนเฮียเลย”
“เป็นผู้หญิงเมามากๆ ไม่ดี ต้องมีสติ”
“ค่ะเฮีย” คนรับปากทำจมูกฟุดฟิด
“เฮียหั่นให้หน่อย จะชิมๆ” เธอยิ้มแป้นแล้นใส่เขา
“ทำให้กินแล้วยังจะต้องหั่นให้กินอีก มือมีไหม หรือเป็นง่อย”
“อ้ำๆๆ เร็วๆ ป้อนด้วย” คนตัวเล็กอ้าปากรอ แดนตะวันส่ายหน้าไปมา ก่อนจะหั่นไก่ เป่าเบาๆ ให้คลายร้อน แล้วจัดการป้อนไก่อบหอมกรุ่นเข้าปากอีกฝ่ายเพื่อตัดรำคาญ
“หือ... อร่อย ไปที่โน่น ต้องคิดถึงไก่อบฟางของเฮียแน่ๆ เลย”
“ปิดเทอมค่อยกลับมากิน” เขาใจอ่อนจนได้ ทั้งๆ ที่ปากบอกว่าเรียนให้จบก่อนค่อยกลับมา อยากให้อยู่ที่โน่นไปก่อน
“เฮียเจ็บปากมากไหม” เธอเอ่ยถามมองเขาตาปริบๆ
“เจ็บ แต่ไม่มาก รำคาญมากกว่า”
“รำคาญไอ้เฮียธันใช่ไหม อัญเองก็รำคาญ หาเรื่องอยู่ได้”
“รำคาญเรานั่นแหละ”
“แค่ก ๆ ๆ“ คนที่เคี้ยวไก่อบฟางถึงกับสำลัก มองค้อนคนที่เดินหนีไปนอนเอกเขนกอยู่อีกด้าน
“เฮียน่ะ อะไรกันมารำคาญน้องนุ่ง”
“แล้วน่ารำคาญไหมล่ะ พูดมากจริงๆ ตอนคลอดพยาบาลคนไหนเปิดปากให้นี่ พูดมากฉิบ พูดไม่หยุดปาก” เขาส่ายหน้าไปมา
“กินยาแล้วเดี๋ยวก็หาย สมัยก่อนเฮียโดนฟันยังไม่ตายเลย” เธอเปลี่ยนเรื่องยิ้มแป้นแล้นน่าตีก้นส่งไปให้คนใจดีทำไก่อบฟางให้กิน
แดนตะวันเคยมีเรื่องกับพวกนักเลง โดนฟันจนเป็นแผลยาวตรงด้านหลังแต่เขาก็รอดมาได้ ชายหนุ่มเป็นคนใจแข็งและใจเด็ด เขาแทบจะไม่เคยป่วยกระเสาะกระแสะเข้าโรงพยาบาลเลยแม้แต่ครั้งเดียว คือเป็นคนร่างกายแข็งแรงมากๆ
“เฮีย หายแล้วไปซ้อมยิงปืนกัน”
“อือ..” แดนตะวันหลับตาหนีเหมือนต้องการพักผ่อน
อัญชัญที่ทำท่าจะชวนคุยต่อก็ชะงัก เธอเงียบเสียงลง นั่งเคี้ยวไก่อบฟางสูตรเด็ดของคู่หมั้นหนุ่มตุ้ยๆ มองคนที่หลับไปแล้วด้วยสายตาอ่อนโยน
“อัญรักเฮียนะ” เธอบอกรักเขาเสียงแผ่วเบาน้ำเสียงหวานล้ำ ก่อนจะจุมพิตกลีบปากหยักหนาของเขาเบาแสนเบา แล้วเดินหนีไปเข้าห้องครัวจัดการต้มข้าวต้มให้อย่างอารมณ์ดี
แดนตะวันลืมตาทันทีที่ร่างหอมกรุ่นหายเข้าครัวไปแล้ว สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรักความห่วงใย
เขาเห็นสายตาของธันวาวันนี้แล้วกังวล คิดว่าอัญชัญน่าจะไม่ปลอดภัยหากยังอยู่ที่นี่ต่อไป เขาส่งอัญชัญไปอยู่กับพี่ชายแบบไม่มีกำหนดน่าจะดีที่สุด
ไม่นานแดนตะวันก็ได้กลิ่นข้าวต้มหอมกรุ่นมาจากห้องครัว ร่างเล็กเดินออกมาดูก็เห็นเขานอนลืมตาอยู่ จริงๆ เขานอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไม่ได้นอนหลับอย่างที่เธอเข้าใจ
“เฮียตื่นแล้วเหรอ มากินข้าวต้มกินยากันค่ะ จะได้หายไวๆ”
“จะกินได้ไหม”
“ดูถูกฝีมืออัญอีกแล้ว จำได้ไหมว่าตอนเฮียถอนฟัน อัญเคยทำข้าวต้มให้กินจนหายดีด้วยนะ”
“จำได้แม่น ข้าวต้มเค็มยิ่งกว่าน้ำทะเล”
“เฮียน่ะ” เธอทำปากยื่นหน้างอ
แดนตะวันหัวเราะที่ได้แหย่ ยื่นมือไปบีบจมูกเล็กๆ อย่างเอ็นดู
ชายหนุ่มกินข้าวต้มของอัญชัญจนหมดชาม ไม่ใช่เพราะอร่อยหรอก แต่เพราะเขาหิว และจำต้องกินยา อีกทั้งไม่อยากให้คนที่นั่งลุ้นอยู่เสียใจด้วย เขาเป็นคนกินง่าย เรียกว่าลิ้นจระเข้ก็ว่าได้ ไม่ได้เรื่องมากอะไรเลย กินอะไรก็ได้ จึงไม่ค่อยบ่นเรื่องอาหารอร่อยหรือไม่อร่อย คิดว่าเธอก็อุตส่าห์ทำให้กินแล้ว
“กินหมดแล้ว อร่อยใช่ไหมคะ” คนทำอมยิ้มเมื่อเห็นว่าเขารับประทานข้าวต้มจนหมด
“ไม่มีอะไรจะกินมากกว่า”
“เฮียแดนน่ะ” คนทำถึงกับหน้างอ แดนตะวันดีดหน้าผากเล็กๆ นั้นเบาๆ
“เฮียจะอาบน้ำเข้านอนแล้ว”
“ค่ะ” คนฟังยิ้มแป้นแล้นทันที
“เฮียบอกว่าจะอาบน้ำแล้ว” เขาพูดย้ำกับเธอ
“ก็อาบไปสิคะ”
“แล้วเราจะยังอยู่ทำไม”
“เดี๋ยวอัญช่วยอาบน้ำให้”
“แค่กๆๆ” แดนตะวันสำลักน้ำที่กำลังดื่ม หูตาแดงไปหมด
“แหม... เฮียไม่ต้องเขินหรอกค่ะ เห็นจนชินแล้ว”
“หือ... อะไรนะ! เมื่อกี้ว่าอะไรนะ เห็นอะไรจนชิน” แดนตะวันใบหน้า เหลอหลา ถามเสียงระรัวจนลิ้นแทบพันกัน อัญชัญเพิ่งรู้ตัวว่าหลุดปากพูดอะไรออกไป เลยรีบยิ้มกลบเกลื่อน
“ยายเด็กลามก พูดความจริงมาเลย ไม่งั้นจะจับตีก้นเสียให้เข็ด”
“ความจริงอะไรกัน” อัญชัญเตรียมเผ่นแต่เขามาดักหน้าดักหลังเอาไว้
“โกหกไม่เนียนเลยนะ หน้าตามีพิรุธ” เขาหรี่ตามอง
“ไม่มีอะไรจริงๆ ค่ะ” เธอปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ใครจะไปเชื่อ”
“มีก็ได้” เธอกอดอกทำหน้าบูดบึ้ง
“ดูทำหน้าเข้า ขี้เหร่อยู่แล้ว ก็ขี้เหร่เข้าไปอีก”
“เหอะ! หน้าของอัญสวยกว่ายายนมปลอมกับยายโบท็อกของเฮียก็แล้วกันค่ะ”
“อย่าเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง”
“แค่แอบเห็นเฮียอาบน้ำแค่นั้นเอง” เธอดึงนิ้วไปมาสีหน้าซุกซน
“ยายพวกถ้ำมอง เดี๋ยวเป็นตากุ้งยิง” เขาเดินไปถอดเสื้อผ้าอีกด้าน อัญชัญอ้าปากค้างตาโต
“เฮียจะทำอะไร”
“แก้ผ้าไปอาบน้ำ ไม่เห็นหรือไง”
“อัญอยู่ในห้องด้วยนะ เฮียจะโชว์ของลับให้อัญดูเหรอ” คนพูดทำหน้าทำตาหน้าเขกหัว...
“หน้าด้านอยากดูก็เชิญเลย เธอเป็นผู้หญิงต้องอายยายเด็กแสบ” เขาเคาะหน้าผากของเธอ เขาเป็นผู้ชายจะอายผู้หญิงได้อย่างไรกัน เธอต่างหากต้องอายที่มายืนมองผู้ชายแก้ผ้า
“แต่อัญไม่อายค่ะ แก้เลยๆ อัญรอดูอยู่ค่ะ แอบมองไม่ถนัด คราวนี้ได้เห็นจะๆ เสียที” คนพูดตาวาวสีหน้าทะเล้น กระโดดขึ้นไปนั่งบนเตียงกอดอกด้วยท่าทีอยากรู้อยากเห็นเป็นที่สุด
“ยอมๆๆ” เขายกมือขึ้นทั้งสองข้าง ยอมแพ้เด็กสาวตรงหน้า
“เฮียเคยได้ยินไหมคะ ใครหน้าด้าน เราก็ต้องหน้าด้านกว่า” แล้วยายตัวแสบก็หัวเราะก๊าก นอนหงายท้องกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง แดนตะวันถึงกับขยี้ผมตัวเองไป
ปวดหัวบรรลัย!
“อือ...” เขารับคำ เธอคิดว่าเขาคงไม่กล้าแก้ผ้าต่อหน้าเธอจริงๆ หรอก
“กรี๊ด! เฮียทำบ้าอะไร แก้ผ้าทำไม”
“เมื่อกี้บอกว่าใครหน้าด้าน เราก็ต้องหน้าด้านกว่าไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มขยับใบหน้าเข้าไปหา เลิกคิ้วยียวน ในขณะที่เธอยกมือขึ้นปิดหน้าปิดตา แต่ก็ยังมีช่องว่างระหว่างนิ้วแอบมองเขาอยู่ดี
อัญชัญสะดุ้งหงายหลังลงบนเตียงอีกครั้ง เมื่อแอบเปิดตามองก็เห็นเขาขยับใบหน้าเข้ามาหา แต่พอเลื่อนสายตาลงไปดู เขาก็คว้าผ้าเช็ดตัวมานุ่งเรียบร้อยแล้ว
“เชอะ! ใครจะไปอยากดู ทั้งดำทั้งเหี่ยว โอ๊ย! ดีดหน้าผากอัญทำไม” เธอร้องเมื่อโดนดีดหน้าผากเข้าให้
“ยายเด็กบ๊อง” แดนตะวันเท้าสะเอวมอง
“กว่าอัญจะเรียนจบ มันจะยังใช้งานได้ไหมคะหนอนน้อยชาเขียวของเฮียนะ ใช้งานตอนนี้เลยนะ” พูดไปพูดมาวกกลับมาเรื่องเดิม
“หนอนน้อยชาเขียว?” แดนตะวันลากเสียงยาว ทวนประโยคของเด็กสาว เธอเน้นคำว่าหนอนน้อยชาเขียวเสียจนไอ้นั่นของเขาเหลือน้อยเท้านิ้วก้อย
“อือ...” คนพูดรับคำ ก่อนจะเกลือกกลิ้งไปมาบนเตียง หัวเราะคิกคัก
“เป็นอะไรยายเด็กไบโพล่า เดี๋ยวทำหน้าขึงขังเดี๋ยวหัวเราะ ปวดกบาลจริงโว้ย” เขาเสยผมไปมา ลูบหน้าตัวเองเบาๆ ก่อนจะร้องด้วยความเจ็บเพราะโดนแผลบนใบหน้า
“เปล่า แค่ขำเฮีย ยั่วใครก็ไม่มันเท่ายั่วเฮียนะคะ” คนชอบยั่วหัวเราะมีความสุขอยู่บนเตียง คนหัวร้อนเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว อาบน้ำอาบท่าอาจจะดับอารมณ์หงุดหงิดในเวลานี้ได้
แดนตะวันออกมาจากห้องน้ำเขาก็เห็นเด็กสาวสวมอาบน้ำตัวหอมกรุ่น สวมชุดนอนนั่งเรียบร้อยอยู่บนเตียง แถมยังอุ้มหมีเน่าตัวโปรดเข้ามาในห้องนอนของเขาด้วย
“เฮียมานั่งตรงนี้ค่ะ เดี๋ยวอัญทายาให้”
“แต่งตัวก่อน”