โลก 1 ตอนที่ 3 ถอนหมั้นพระเอก

1710 Words
เมื่ออี้หลันเดินไปที่ห้องโถงก็เห็นว่านอกจากสตรีร่างบางก็มีชายร่างสูงนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วเขาน่าจะมีอายุราวสามสิบต้นๆ ท่าทางสุขุมและดูเป็นผู้ใหญ่ เมื่อเห็นนางเดินเข้ามาในห้อง เขาก็ยิ้มกว้างแล้วพูดว่า "มากินข้าวกันเถอะ..." ดูจากท่าทางก็พอจะเดาได้ว่าชายหญิงทั้งสองคือพี่ชายและพี่สะใภ้ของนางเอกนั่นเอง “หลันหลัน ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นแล้วหรือ" อี้คุน มองน้องสาวด้วยสายตาสงสัย "พี่ใหญ่ วันนี้ข้าสบายใจขึ้นมาก ท่านอย่าได้ห่วงเลย" “เช่นนั้นก็ดีแล้ว" อี้คุนยิ้มออกมา และเมื่อเห็นว่าน้องสาวกินอาหารได้ยังเอร็ดอร่อย เขาก็พลอยเจริญอาหารตามไปด้วย อี้หลันพึงพอใจกับชีวิตใหม่นี้มาก นางเอกของเรื่องเป็นคุณหนูบ้านรวยมีชีวิตที่ดี ไม่ต้องทำงาน เพียงแค่มุ่งมั่นกับการบำเพ็ญเพียรเพื่อบรรลุขึ้นเป็นเซียนบนสวรรค์ ครอบครัวของนางก็สนับสนุนอย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยไม่ต้องคิดอะไรเลยจริงๆ อุปสรรคในชีวิตของนางมีเพียงอย่างเดียวก็คือชีวิตความรักที่สุดแสนจะรันทด กว่าจะสมหวังก็เล่นเอาบอบช้ำไปทั้งร่างกายและจิตใจ แน่นอนว่าอี้หลันวันนี้จะไม่ยอมทุกข์ใจเหมือนกับนางเอกต้นฉบับแน่นอน นางจะต้องถอนหมั้นกับพระเอก และจะเป็นคนที่กำหนดชะตากรรมชีวิตรักของตนเอง หลังจากที่ทั้งสามคนกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว อี้หลันก็พูดเรื่องถอนหมั้นขึ้นมา ซึ่งทำให้อี้คุนและภรรยาของเขาประหลาดใจยิ่งนัก "พี่ใหญ่ พวกเราไปจวนตระกูลจ้าวแล้วยกเลิกการหมั้นเถิดเจ้าค่ะ" อี้คุนมองน้องสาวด้วยความเป็นห่วง “หลันหลัน เมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่" เมื่อโอกาสมาถึงอี้หลันจึงบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนให้กับพี่ชายและพี่สะใภ้ได้ฟัง “เจ้าเด็กตระกูลจ้าวช่างทะนงตนเองเหลือเกิน! ในเมื่อเขาแสดงออกว่าไม่ชอบเจ้ามากขนาดนั้น พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเขาเช่นกัน!" น้ำเสียงของอี้คุนเต็มไปด้วยความโกรธ "ท่านพี่พูดถูก…แต่ว่าหลันหลัน เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าอยากจะถอนหมั้นจริงๆ" ลู่เจียวถามเพื่อความแน่ใจ เพราะช่วงที่ผ่านมาน้องสาวของสามีชื่นชมชายหนุ่มจากตระกูลจ้าวผู้นั้นมาก "แน่ใจเจ้าค่ะ ขอให้พี่ใหญ่และพี่สะใภ้ โปรดส่งเสริมด้วย ข้าได้คิดทบทวนดูแล้ว ในเมื่อเขาไม่ได้ชอบข้า พวกเราทั้งคู่ก็ควรจะยกเลิกการหมั้นหมาย โลกภายนอกมีบุรุษดีๆ อีกมากมาย ข้าคิดว่าจะต้องได้เจอคนที่รักข้าและชื่นชอบในตัวข้าอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ" อี้หลันตอบกลับด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ ใบหน้าของนางไม่ปรากฏร่องรอยความเศร้าออกมาแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม ในสายตาของพี่ชายและพี่สะใภ้ คนทั้งคู่คิดว่านางพยายามทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้าพวกเขา เห็นนางเป็นเช่นนั้นทั้งสองสามีภรรยาก็ยิ่งรู้สึกสงสารนางมากยิ่งขึ้น "เมื่อวานนี้เขาทำให้ข้ารู้สึกอับอายยิ่งนัก พวกท่านรีบหาทางถอนหมั้นโดยเร็วเถิด ข้าไม่อยากเกี่ยวข้องกับเขาอีกแล้ว.…" อี้หลันอ้อนวอน เพราะต้องการขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์กับพระเอกของเรื่องให้ชัดเจน ในอนาคตไอ้คนสารเลวนั้นจะได้ไม่ต้องเข้ามาข้องแวะกับนางอีก! "เรื่องนี้หลันหลันไม่ต้องกังวล พี่ชายจะจัดการทุกอย่างให้เอง ต่อไปเจ้าเด็กคนนั้นจะไม่มีทางได้มาข้องแวะกับเจ้าอีก" อี้คุนรับปากน้องสาว มือหนาลูบศีรษะของนางด้วยความเอ็นดู …….. ที่จวนตระกูลจ้าว “ไม่ได้เจอพวกเจ้าเสียนานเลย..." นายท่านจ้าวพูดด้วยรอยยิ้มอบอุ่น "หลันหลัน ป้าไม่ได้เจอเจ้ามาสักพักแล้ว คิดถึงยิ่งนัก” ฮูหยินจ้าวจับมืออี้หลันด้วยความเอ็นดู อี้หลันไม่คุ้นเคยกับสัมผัสเช่นนี้ นางจึงยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไปเท่านั้น อี้คุนเห็นท่าทางอึดอัดของน้องสาว เขาจึงพูดถึงเรื่องที่มาในวันนี้ “วันนี้ที่หลานมา ก็เพื่อหารือเรื่องการหมั้นหมายของจ้าวหมิงกับน้องสาวขอรับ" "จ้าวหมิงอยู่ในห้องหนังสือเดี๋ยวป้าจะให้คนไปตามมาให้" ฮูหยินจ้าวรู้สึกแปลกใจกับท่าทีห่างเหินของคนตระกูลอี้ แต่นางก็ไม่ได้คิดอะไรมาก และให้คนไปตามลูกชายมา หลังจากนั้นไม่นาน อี้คุณก็เดินเข้ามาในห้องโถง “พี่ใหญ่อี้ พี่สะใภ้อี้" จ้าวหมิงทักทายคนทั้งสองด้วยท่าทางสุภาพ เมื่ออี้คุนและภรรยาเห็นเขาคนทั้งสองก็มีสีหน้าเคร่งครึมขึ้น ส่วนอี้หลันก็ถือโอกาสสำรวจมองใบหน้าของพระเอกในนิยายคนนี้ แน่นอนว่าเขาเป็นบุรุษรูปร่างหน้าตาดี ไม่แปลกใจเลยที่นางเอกจะตกหลุมรักได้ง่ายๆ ฮูหยินจ้าวเห็นว่าบรรยากาศในห้องดูอึมครึมนานจึงรีบบอกลูกชายของตนเอง "เสี่ยวหมิง…ลูกทักทายหลันหลันด้วยสิ” "น้องอี้หลัน..." น้ำเสียงของจ้าวหมิงเฉยชา ไม่ได้แสดงออกว่าดีใจที่เจอคู่หมั้นของตนเอง "พี่จ้าวหมิง…" อี้หลันทักทายเขากลับท่าทางเฉยเมยเช่นกัน นางแทบไม่ได้มองหน้าของเขาด้วยซ้ำ จ้าวหมิงเช่นนั้นก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อไม่กี่วันก่อนนางยังมองเขาด้วยความเขินอาย เหตุใดวันนี้ถึงได้เฉยเมยนัก หรือว่านางจะมีแผนการอันใดซ่อนอยู่ บรรยากาศในห้องดูอึดอัดมากขึ้นกว่าเดิม นายท่านจ้าวจึงถามถึงเรื่องที่พวกเขามาที่นี่ “เมื่อสักครู่นี้เจ้าบอกว่าจะมาหารือเรื่องน้องสาวของเจ้ากับเสี่ยวหมิงหรือ” "ใช่ขอรับ” อี้คุนตอบรับ "ความจริงอายุนามของพวกเขาก็ควรที่จะคุยเรื่องการแต่งงานได้แล้วเช่นกัน” นายท่านจ้าวคิดไปอีกทาง แต่อี้คุนรีบพูดสกัดกั้นความคิดของเขาเสียก่อน “วันนี้พวกเราไม่ได้มาคุยเรื่องการแต่งงานขอรับ แต่จะมาคุยเรื่องยกเลิกการหมั้นหมาย…" เมื่อได้ยินเช่นนี้นายท่านจ้าวและฮูหยินจ้าวก็ตกตะลึง "เกิดอะไรขึ้น เหตุใดถึงต้องยกเลิกการหมั้นหมาย!" "ตอนที่ท่านพ่อหมั้นหมายน้องสาวของข้าให้กับบุตรชายของท่านลุงท่านป้า นางยังเล็กนักไม่รู้เรื่อง ความจริงควรจะถามความคิดเห็นของพวกเขาทั้งสองด้วย" ฮูหยินจ้าวรีบหันไปถามอี้หลัน “หลันหลันไม่ชอบลูกชายของป้าหรือ” เมื่อก่อนเด็กคนนี้แสดงออกจากชัดเจนว่าพึงพอใจลูกชายของนาง "ท่านป้า ข้ายังเด็กและโง่เขลา จึงไม่เข้าใจเรื่องความรักระหว่างชายหญิง ตอนนี้ข้าแน่ใจแล้วว่านับถือพี่จ้าวหมิงเหมือนกับเป็นพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้นเจ้าค่ะ" อี้หลันพูดเสียงเบาด้วยท่าทางที่ดูน่าสงสาร เมื่อเห็นเช่นนั้นฮูหยินจ้าวก็หันไปถามบุตรชายของตนที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ "เสี่ยวหมิง เจ้ามีความคิดเห็นว่าอย่างไร” "ท่านพ่อท่านแม่ ในตอนนี้ข้าไม่ได้มีความรู้สึกแบบชายหญิงให้กับน้องอี้หลันเลยขอรับ" จ้าวหมิงขมวดคิ้วแน่นตอบกลับด้วยน้ำเสียงเชื่องช้า เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ทั้งนายท่านจ้าวกับฮูหยินจ้าวก็ถอนหายใจ "ในเมื่อเด็กสองคนไม่มีความรู้สึกเช่นนั้นให้กัน ก็ไม่เป็นการดีที่จะฝืนใจพวกเขา เช่นนั้นพวกเราก็ยกเลิกการหมั้นหมายเถอะ..." แม้ว่าพวกเขาทั้งคู่จะพอใจว่าที่ลูกสะใภ้อย่างอี้หลัน แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ยังคงให้ความสำคัญกับความรู้สึกของลูกชายมากกว่า อี้หลันถอนหายใจด้วยความโล่งอก และแอบยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าการหมั้นหมายของนางและจ้าวหมิงถูกยกเลิก แต่นางไม่คิดเลยว่าท่าทางของตนเอง ตกอยู่ในสายตาของจ้าวหมิงทำให้เขารู้สึกสงสัยในตัวนางยิ่งนัก แม้ว่าทั้งสองตระกูลจะไม่ได้เกี่ยวดองกันเหมือนเช่นเดิม แต่ถึงอย่างไรก็ยังทำการค้าร่วมกันอยู่ นายท่านจ้าวจึงชวนอี้คุนสนทนากันต่อ เมื่อเห็นว่าอีกนานกว่าจะได้กลับจวน อี้หลันรู้สึกเบื่อจึงออกไปเดินเล่นรอที่สวนดอกไม้ “หลันหลัน..." จ้าวหมิงเอ่ยเรียกชื่อนางอย่างเป็นกันเองครั้งแรก อี้หลันหันไปมองเขาด้วยสายตาระแวง "เมื่อวานนี้..." ก่อนที่จ้าวหมิงจะพูดต่อ นางยกมือขึ้นขัดจังหวะอีกฝ่าย "ไม่ต้องอธิบายเรื่องเมื่อวาน" หญิงสาวแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้อีก จ้าวหมิงเห็นว่าสายตาของนางไม่ได้มีความสนใจเขาแล้วจริงๆ “ข้าอยากจะขอบคุณเจ้า ที่เป็นฝ่ายมาขอถอนหมั้นก่อน" "ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ ทางที่ดีท่านควรจะอยู่ให้ห่างจากข้า ต่อไปพวกสหายในสำนักคนอื่นจะได้ไม่มาหัวเราะเยาะข้าอีก” จ้าวหมิงรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ทำให้นางถูกมองเป็นตัวตลก เขาเห็นแล้วว่าเมื่อวันก่อนมีสหายในสำนักบางคนแอบหัวเราะนางลับหลัง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ "ข้า...ข้าขออภัย..." อี้หลันยืนนิ่งฟังตั้งแต่ต้นจนจบ "ช่างเถอะ…เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษอีกแล้ว ต่อไปพวกเราน้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลอง ต่างคนก็ต่างอยู่กันเถอะ " หลังจากพูดจบนางก็หันหลังและเดินจากไปโดยไม่รอเขาพูดอะไรออกมาอีก จ้าวหมิงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม คิ้วเข้มขมวดแน่น ท่าทางที่แสดงออกของนางนั้นไม่มีความชื่นชอบเขาเหลืออยู่อีกแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดแม้ว่าจะรู้สึกโล่งใจ แต่ในใจลึกๆ เขาก็ยังรู้สึกผิดหวังที่นางแสดงออกเช่นนี้ ราวกับว่าเขาได้สูญเสียบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญไป ซึ่งจ้าวหมิงไม่เข้าใจความรู้สึกของตนเองในเวลานี้เอาเสียเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD