Chapter 1

2832 Words
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสิขสิทธิ์ปี พ.ศ.2537 ไม่อนุญาตให้คัดลอก ทำซ้ำ ตัดแปลง เผยแพร่ ส่วนใดส่วนหนึ่งของนิยายต้นฉบับนี้ โดยไม่ใด้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นของ นามปากกา MaNIE-STORY หากพบการละเมิดลิขสิทธิ์ จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที Writer : MaNIE-STORY Illust : Frerozy ผัวะ!!! ผลัก!!! เสียงราวกับคนกำลังถูกซ้อมอย่างหนักดังขึ้นกลางโกดังเก็บสินค้า ภาพของคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนเป็นวงกลมโดยที่มีชายคนนึงถูกซ้อมอยู่ตรงกลาง ต่อหน้าชายหนุ่มใบหน้าเรียบนิ่ง นัยตาเย็นเยือกคนนึง สีหน้าของเขาไม่มีแม้แต่ความสงสารหรือความปราณี "เอาไงกับมันดีครับนาย ไม่ยอมพูดเลย" ลูกน้องคนนึงเอ่ยขึ้น "ซ้อมมันจนกว่ามันจะพูด ถ้ากูไม่ได้ของคืน พวกมึงจะเดือดร้อนแทน" ชายหนุ่มผู้เป็นนายเอ่ยก่อนยืนกอดอกนิ่งๆ "ครับนาย แล้วถ้ามันตายละครับ" "ก็ช่วยไม่ได้" พูดจบชายหนุ่มก็เดินออกจากตรงนั้นด้วยท่าทางที่แสนน่ากลัว ชายคนที่ถูกซ้อมอยู่ตอนนี้คือหนึ่งในลูกน้องของเขาเดิมที แต่เพราะทำผิดด้วยการย้ายปืนรุ่นใหม่ที่เพิ่งส่งออกมาจำนวนกว่า10กระบอกออกจากโกดังไป การขโมยครั้งนี้ถูกเจ้านายหนุ่มจับได้ในทันที ทำให้ลูกน้องที่เหลือพากันซวยไปตามๆกันเพราะหากหาของกลับมาคืนเจ้านายหนุ่มไม่ได้ พวกเขาทุกคนจะถูกเล่นงานไปด้วยโทษฐานปล่อยปะละเลยจนคนในทีมขโมยของราคาหลักล้านหายไป รถหรูแล่นกลับเข้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของบ้านดินแดนด้วยความเร็ว ก่อนเบรคสนิทที่หน้าบ้าน ชายหนุ่มผู้เป็นนายอีกคนของบ้านหลังนี้คือ กะตัญ ลูกชายคนโตของดินแดนผู้เป็นแฝดพี่ เขามีน้องสาวฝาแฝดชื่อ หรรษา แต่ทั้งคู่ต่างกันราวฟ้ากับเหว หรรษาร่าเริง ใจดี สดใส และออกจะนิสัยเด็กๆน่ารัก ในขณะที่แฝดพี่อย่างกะตัญค่อนข้างถอดแบบผู้เป็นพ่อมาเต็มๆ เขานิ่งๆ พูดน้อย แววตาดุดันน่ากลัว มีรัศมีความโหดร้ายในตัวเองเพียงแค่ใช้สายตามอง กะตัญมีความเป็นผู้ใหญ่สูง และเยือกเย็นมาก มีเพียงหน้าตาที่มีความคล้ายแบบพี่น้องเท่านั้นที่ทั้งคู่เหมือนกัน เพราะกะตัญกับหรรษาเป็นแฝดคนละไข่ ทำให้หน้าตาแค่เหมือนพี่กับน้อง ไม่ใช่แฝดเหมือน "หรรษาไม่อยู่เหรอครับ ไม่เห็นรถจอดอยู่?" ชายหนุ่มเอ่ยถามกับแม่บ้านอาวุโสของบ้าน ซึ่งเธอทำงานมานานตั้งแต่กับปู่ย่าของเขาอย่างเจ้านายและหมอสโนว์ ทั้งบ้านจึงค่อนข้างให้ความเคารพเป็นพิเศษ เพราะเธอคือพี่เลี้ยงของดินแดนและอาณาจักรตั้งแต่เด็กๆด้วย "คุณหนูหรรษาออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ" "อืม เดี๋ยวเตรียมอาหารให้ผมด้วย เอาไปที่บ้านปีกขวานะครับ ผมจะทานที่นั่น" กะตัญเอ่ย บ้านหลังนี้มีบ้านใหญ่ที่ดินแดนและพาเพลินผู้เป็นพ่อแม่อยู่ ส่วนบ้านที่แยกออกไปทางปีกซ้ายหลังใหญ่ตกแต่งมินิมอลหวานๆเป็นของหรรษาแฝดน้อง ส่วนบ้านหลังใหญ่ที่แยกออกไปทางปีกขวา เป็นบ้านหลังใหญ่โมเดิร์นคุมโทนผู้ชายเป็นของกะตัญ "ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าให้เอแคลยกไปให้นะคะ" "ครับ" ชายหนุ่มเดินกลับไปทางบ้านปีกขวา ก่อนจะเข้าห้องปลดเปลื้องเสื้อผ้านั่งแช่น้ำอุ่นอย่างสบายใจ วันนี้เขาเหนื่อยมาทั้งวันจนไม่มีเวลากินข้าว แต่ที่ไหนก็ไม่ทำให้เขากินข้าวอร่อยเท่าที่บ้านจริงๆ "คุณกะตัญคะ แคลจัดโต๊ะอาหารเสร็จแล้วค่ะ" เสียงหวานๆของหญิงสาวเอ่ยขึ้นจากด้านนอก ชายหนุ่มที่หลับตานิ่งอยู่ก็ค่อยๆลืมตาเผยแววตาเย็นเยือกแสนน่ากลัวนั่น ร่างแกร่งลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำทั้งร่างกายเปลือยเปล่า พรางคว้าผ้าพันรอบเอวก่อนเดินออกจากห้องน้ำไปและเจอเข้ากับสาวใช้ของบ้าน "เดี๋ยวฉันลงไป" กะตัญเอ่ย "คะ..ค่ะคุณกะตัญ" หญิงสาวที่เงยหน้ามาเห็นเจ้านายหนุ่มที่เปลือยอกท่อนบนมีเพียงผ้าพันรอบเอวต่ำๆผืนเดียว สายตาเธอเหลือบไปเห็นร่างกายแกร่ง มัดกล้ามเนื้อไล่ลงมาตามซิกแพกก่อนสะดุดตากับหน้าท้องที่ต่ำลงใต้สะดือ มันเผยเส้นวีไลน์ชัดเจนเพราะความฟิตของร่างกาย "หึ" เสียงสบถในลำคอของชายหนุ่มเมื่อเห็นสาวใช้ในบ้านทำท่าทางแปลกๆแล้ววิ่งออกจากห้องไป ชายหนุ่มแต่งตัวเสร็จเดินลงมาที่โต๊ะอาหารของบ้านปีกขวา เขาปรายตามองสาวใช้ที่ยืนก้มหน้าอยู่ข้างๆก่อนนั่งลง เธอค่อยๆตักข้าวใส่จานให้เขาก่อนจะกลับไปยืนที่เดิม "วันนี้ไม่ไปโรงเรียนหรือไง" กะตัญเอ่ย "วันนี้ที่โรงเรียนหยุดค่ะ" "เธออายุเท่าไหร่แล้วนะ?" กะตัญเอ่ยพรางตักข้าวเข้าปากนิ่งๆ "สะ..สิบเจ็ด จะสิบแปดแล้วค่ะคุณกะตัญ" หญิงสาวเอ่ย "ยังไม่สิบแปดเหรอ..อืม" "ยังค่ะ ยังไม่ถึงวันเกิดค่ะ" เอแคลเอ่ย "อืม ขอน้ำหน่อย" "ได้ค่ะ" ชายหนุ่มไม่ได้ถามอะไรต่อ ได้แต่นั่งกินอาหารมื้อนั้นลำพังจนหมด ก่อนที่ลูกน้องจะเดินเข้ามาแล้วเอ่ยรายงานขึ้น "นายครับ เราได้ที่ซ่อนปืนแล้วครับ ส่วนไอ้วัตตายแล้วครับ" ลูกน้องเอ่ย "ไปเอาปืนกลับมา ไม่ว่าจะสภาพไหน หรือใครขวาง จัดการให้หมด แล้วเอาของกลับมาให้กู" "ครับนาย!" นี่เป็นเรื่องปกติของบ้านหลังนี้ เอแคลอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้เธอชินกับอะไรแบบนี้แล้ว แค่อาจจะยังตกใจบ้างที่เจ้านายของบ้านแต่ละคนดุไม่สะทกสะท้านนักกับการที่ฆ่าคนตาย แม้ทุกคนล้วนแต่เป็นคนเลวและมีความผิดก็ตาม "เฮีย"เสียงหรรษาน้องสาวฝาแฝดที่ไม่เหมือนแฝดนักเดินเข้ามาก่อนเอ่ยเรียกผู้เป็นพี่ชาย "ครับ ไปไหนมาละ" "ไปช้อปปิ้งมาค่ะ หนูเดินตามหาเอแคลทั่วบ้าน เฮียเอาน้องมาอยู่นี่เอง หนูขอตัวเอแคลก่อนนะคะ" หรรษาเอ่ย "นึกว่ามาหาเฮีย" "ก็มาด้วยแหละ ฟ่อดดด หนูไปนะ เอแคล ไปดูของที่พี่ซื้อมาเร็ว" "คะ..คุณหนู แคลยังไม่ได้เก็บโต๊ะให้คุณกะตัญเลยค่ะ" เสียงเอแคลเอ่ยในขณะที่ถูกหรรษาลากออกจากบ้านของผู้เป็นพี่ชายไป กะตัญได้แต่ส่ายหัวเบาๆแต่หรรษาคือคนเดียวที่ไม่ว่าเขาจะกลับมาอารมณ์หงุดหงิดแค่ไหน เหนื่อยแค่ไหน แต่เมื่อเจอหรรษา เขาจะมีแต่รอยยิ้มและความใจดีให้เธอตลอด เพราะเธอคือน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา ช่วงค่ำ กะตัญที่แต่งตัวเตรียมออกข้างนอกก็เดินไปที่บ้านปีกซ้ายเพื่อไปหาหรรษา เมื่อไปถึงขาแกร่งเดินขึ้นไปที่ห้องนอนของผู้เป็นน้องสาวก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของคนสองคนดังมาแต่ไกล "หรรษา" กะตัญที่เดินเข้ามาเอ่ยขึ้นในขณะที่หรรษาและเอแคลกำลังดูเสื้อผ้า เอแคลเมื่อเห็นกะตัญเดินเข้ามาก็รีบวางเสื้อที่หรรษาซื้อมาให้ลงทันทีก่อนถอยไปยืนก้มหน้ามุมห้อง กะตัญคือคนที่เธอกลัวที่สุดบ้านหลังนี้ ด้วยท่าทางและแววตาแสนน่ากลัวของเขา ทำให้เธอไม่กล้ามองหน้าเขาตรงๆมากนัก แม้แต่ดินแดนที่ว่าน่ากลัว แต่เอแคลก็ยังไม่กลัวเขาเท่ากะตัญแม้แต่น้อย "เอแคล ไปยืนทำไมตรงนั้น มานี่"หรรษาเอ่ย "คุณกะตัญคงมีเรื่องจะคุยกับคุณหนู เดี๋ยวแคลออกไปรอข้างนอกนะคะ" เอแคลเอ่ยจบก่อนเดินออกจากห้องนอนของหรรษาไป "เอแคลกลัวเฮียมากเลยนะเนี้ย เฮียก็ชอบทำหน้าดูนะคะ น้องก็กลัว" "เฮียทำตอนไหน ก็หน้าเป็นแบบนี้เอง" "เฮียหล่อ แต่เฮียน่ากลัว ผู้หญิงเข้าใกล้เฮียได้ยังไง"หรรษาเอ่ย "เดี๋ยวเถอะเราน่ะ วันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่ เฮียจะออกไปคลับ อยู่บ้านห้ามไปไหนนะหรรษา" "เฮีย หนูโตแล้วนะ ไม่ต้องห่วง การ์ดอยู่ในบ้านเป็นร้อยกลัวทำไมคะ" "เฮียมีหนูคนเดียวนี่ ไม่ให้ห่วงได้ยังไง" กะตัญเอ่ยก่อนกอดหรรษาเบาๆ "หนูนึกไม่ออกเลยว่าเวลาเฮียอยู่กับเมียจริงๆ เฮียจะอบอุ่นแบบนี้มั้ย เอาแต่ทำตัวเป็นเจ้าชายน้ำแข็ง" "จะอยากรู้ไปทำไมเราน่ะ" "พี่น้ำหอมเฮียไม่ได้จริงจังหนูดูออก แววตาเฮียไม่อบอุ่น" หรรษาเอ่ย "รู้เยอะไปแล้ว" "หนูพูดจริงๆนะเฮีย พี่น้ำหอมน่ะ เฮียจะมีเซ็กส์ก็มีไป แต่อย่าเอามาเป็นพี่สะใภ้เชียว ไม่ผ่าน" หรรษาเอ่ย "พุดอะไรของหนูหรรษา ทะลึ่งใหญ่แล้ว" "หนูรู้หรอก หนูเคยได้ยินเฮียมีอะไรกับเขา แต่ช่างเถอะ ถ้าจะมีพี่สะใภ้ขอน่ารักๆหน่อยนะ พี่น้ำหอมแรงไป ไม่ผ่าน" กะตัญกดขำเบาๆก่อนยีผมน้องสาวเล่นแล้วเดินออกจากห้องนอนเธอ เจอเข้ากับเอแคลที่ยืนก้มหน้าอยู่ที่หน้าห้อง "เข้าไปซิ" "เอแคล!" "คะ..ค่ะคุณกะตัญ" "เธอยืนเหม่ออะไร เข้าไปซิ หรรษารอเธออยู่" พูดจบชายหนุ่มก็เดินออกจากตรงนั้นไป สายตากลมโตของหญิงสาวมองตามหลังเจ้านายหนุ่มไปจนเขาเดินลับตา ร่างแกร่งของชายหนุ่มที่เดินลงจากรถด้วยชุดสีดำทั้งตัวตัดกับผิวขาวๆอย่างมาก ใบหน้าหล่อเรียบนิ่งเดินเข้าคลับตามลำพัง ก่อนเจอเข้ากับน้ำหอม ผู้หญิงที่ทุกคนมองว่าเธอคือแฟนของกะตัญ แต่เจ้าตัวกลับไม่เคยขอแม้แต่ครั้งเดียว แต่ถึงจะอย่างนั้น น้ำหอมก็ดูจะพิเศษกว่าคนอื่นๆเพราะสามารถไปไหนมาไหนกับเขาได้ เจอครอบครัวเขาได้ "ตัญ คิดถึงจัง หอมนึกว่าจะไม่มาแล้ว น้อยใจมากเลยตัญไม่โทรหาหอมเลยทั้งวัน" "ฉันมีงานต้องทำ เธอจะน้อยใจทำไม" "คืนนี้นอนกับหอมหรือเปล่า" น้ำหอมเอ่ย "อืม" กะตัญนั่งกระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมดแก้ว ก่อนที่จะกดมือถือโดยที่ไม่ค่อยสนใจน้ำหอมมากนัก เขามีงานที่ลูกน้องรายงานเรื่องปืนที่ถูกขโมยเข้ามา ก่อนจะกดดูรูปแล้วเก็บมันเข้ากระเป๋า "มาดื่มแบบนี้ตัญยังทำงานอีกเหรอ" "อืม" "พักบ้างก็ได้ ร่างกายคนเราไม่ใช่เหล็กนะตัญ หอมเป็นห่วง" "ฉันไม่เป็นอะไรหรอก เธอไม่ต้องห่วง" กลางดึกกะตัญเดินกอดคอน้ำหอมเข้าคอนโดของเธอ หญิงสาวค่อยๆกอดคอชายหนุ่มพรางจูบเขาอย่างเร่าร้อน โดยที่มือหนาก็โอบเอวเธอไว้ เสื้อของชายหนุ่มเริ่มถูกปลดกระดุมทีละเม็ดๆก่อนจะถูกปลดเข็มขัดแล้วความเป็นชายที่ตั้งตะหง่านจะเผยออกมา ริมฝีปากของหญิงสาวครอบครองดูดดึงมันอย่างชำนาญ ก่อนที่เขาจะเชยคางเธอขึ้นโดยที่ไม่ได้ปล่อยให้เธอทำแบบนั้นต่อ แล้วโยนร่างเล็กของเธอลงบนเตียง เขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าของน้ำหอมออกก่อนจะเริ่มบทรัก "ถุงยางหมดเหรอ?" กะตัญเอ่ยเมื่อเอื้อมมือไปที่ลิ้นชักปรากฏว่าไม่เจอของที่ต้องการ "หอมลืมซื้อเลย วันนี้ไม่ใส่ก็ได้ตัญ เดี๋ยวหอมกินยาเอง" "ไม่มีก็ไม่เอา" กะตัญเอ่ยพรางลุกขึ้นยืนใส่เสื้อผ้าอย่างหงุดหงิด แน่นอนว่ากะตัญไม่เคยมีเซ็กส์กับน้ำหอมโดยที่ไม่ใส่ถุงยางสักครั้ง น้ำหอมรีบหยิบผ้ามาพันรอบตัวก่อนเดินตามกะตัญที่ทำท่าจะกลับ "ตัญ เดี๋ยวให้ลูกน้องตัญซื้อมาก็ได้ ตัญรออยู่ที่นี่นะ" "ไม่ดีกว่า ฉันกลับดีกว่า ไว้วันหลัง" "ตัญ" สุดท้ายชายหนุ่มก็แบกอารมณ์ครุกรุ่นของตัวเองกลับบ้าน เมื่อจอดรถ ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านโดยที่สายตาหันไปเห็นเอแคลยืนอยู่ที่สวนของบ้านใหญ่ เขาเดินเข้าไปดูใกล้ๆว่าดึกขนาดนี้เธอออกมาทำอะไรตอนนี้กันแน่ ทางด้านเอแคลที่ได้ของขวัญที่หรรษาซื้อมาให้ มันเป็นสิ่งที่เธออยากได้มานาน มันคือกล้องส่องทางไกลอันเล็กสุดหรู เธอกำลังใช้มันส่องดูนั่นนี่ไปเรื่อย กระทั่งหันมาเจอกลับดวงตาเย็นเยือกดำสนิทราวกับยามรัตติการของใครบางคนเข้า ทำเอากล้องส่องทางไกลตกจากมือเธอทันที "ระวังหน่อย เธอออกมาทำอะไรดึกๆดื่นๆแบบนี้" กะตัญที่ยืนใกล้มากจนกล้องส่องทางไกลเห็นเขาเพียงลูกตาเท่านั้น ทำให้เขารับกล้องนั่นที่หลุดจากมือเอแคลได้ทันก่อนมันหล่นพื้น "เอ่อ..คือแคลออกมาสูดอากาศค่ะ" "แล้วใช่ไอ้นี่ส่องไปทั่ว? เธอโรคจิตหรือไง" กะตัญเอ่ยก่อนที่เอแคลทำท่าจะรับกล้องไป "เปล่าค่ะ คุณหนูให้แคลมา แคลเลยเอาออกมาลองส่องเฉยๆค่ะ"เอแคลเอ่ย "เธอส่องไปที่บ้านปีกขวา ไม่ได้จะส่องฉันใช่มั้ย?" "ปะ..เปล่าค่ะคุณกะตัญ แคลไม่ได้ทำแบบนั้นค่ะ" "ไม่ต้องส่องให้เสียเวลานี่ เธอก็เห็นหน้าฉันทุกวัน หรือว่าใกล้กว่าเดิมอีกหน่อย ขนาดนี้พอมั้ย หรือใกล้เท่านี้" "คะ..คุณกะตัญ!!" กะตัญรั้งเอวเอแคลเข้าหาตัวทีละระดับจากห่างจนเข้าใกล้ทำให้ลมหายใจราดรดกัน กลิ่นแอลกอฮอร์อ่อนๆจากกะตัญทำให้เอแคลรู้ว่าเขาดื่มมา "ถ้าอยากเห็นใกล้ๆ เธอก็ต้องใจกล้าหน่อย" "อะ..อื้ออ" กะตัญเอ่ยก่อนรั้งเอแคลเข้าไปจูบ เธอได้แต่ยืนเกร็งนิ่งเพราะทำอะไรไม่ถูกจนกะตัญเริ่มจูบหนักขึ้น แต่เธอก็ดันอกเขาเบาๆแล้วรีบก้มหัวให้แล้ววิ่งกลับเข้าบ้านพัก "หึ" เช้าวันเสาร์ เอแคลไม่ได้ไปโรงเรียน วันนี้เธอถูกสั่งให้มาตั้งโต๊ะอาหารที่บ้านปีกขวาของกะตัญ เพราะที่บ้านใหญ่ดินแดนและพาเพลินไม่อยู่ กะตัญและหรรษาก็มักจะกินมื้อเช้าที่บ้านของตัวเอง "ฟู่วว" เสียงถอนหายใจของเอแคล เมื่อเธอประหม่าเพราะเมื่อคืนจู่ๆกะตัญก็จูบเธอ เขาอาจจะเมาและอาจจะจำไม่ได้ก็ได้ ไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆเขาทำแบบนั้นกับเธอ ทั้งๆที่กะตัญไม่เคยทำลุ่มล่ามกับสาวใช้คนไหนในบ้านแม้แต่คนเดียว แม้ว่ากะตัญท่าทางเจ้าชู้มากก็ตาม และอาจจะดุไปหน่อย แต่กะตัญก็ไม่เคยทำลุ่มล่ามกับลูกน้องแม้แต่ครั้งเดียว ไม่นาน กะตัญที่อาบน้ำแต่งตัวเดินลงมาด้วยใบหน้านิ่งสายตาเยือกเย็นก็ค่อยๆนั่งลงที่เก้าอี้โดยที่มองเอแคลแค่เพียงชั่วครู่เท่านั้น เธอตักข้าวให้เขาแล้วเสิร์ฟน้ำ เพราะอยากจะออกจากตรงนี้ กลัวว่าเขาจะจำเรื่องเมื่อคืนได้ "จะไปไหน" "อะ..เอ่อ..แคลจะไปช่วยในครัวค่ะ" "หน้าที่เธอคือดูแลโต๊ะอาหารฉันเช้านี้ไม่ใช่หรือไง" "ค่ะ..." เอแคลได้แต่ยืนก้มหน้านิ่งๆเมื่อกะตัญนั่งทานข้าวเช้าโดยที่ไม่มีใครอยู่ในห้องนี้ด้วย มีเพียงเธอและเขาเท่านั้น "เมื่อคืนเหมือนฉันจูบกับท่อนไม้เลย จูบแรกงั้นซิ" จู่ๆกะตัญก็เอ่ยขึ้น "คะ? เอ่อ...ไม่ใช่จูบแรกสักหน่อย..." เอแคลบ่นคนเดียวเบาๆแต่นั่นมันกลับทำให้กะตัญได้ยิน "เคล้ง!!!ว่าไงนะ! ไม่ใช่จูบแรก แล้วเธอไปจูบกับใครมา อายุเพิ่งแค่นี้!"เสียงกะตัญวางช้อนก่อนเอ่ยขึ้นจนเอแคลตกใจ "เฮีย เสียงอะไรอ่ะ" จู่ๆหรรษาก็เดินเข้ามา วันนี้เธอตั้งใจจะมากินข้าวพร้อมพี่ชายของเธอ "ไม่มีอะไร หนูมากินข้าวกับเฮียซิ กินคนเดียวไม่ค่อยอร่อยเลย" กะตัญเอ่ยแต่สายตายังคงมองเอแคลด้วยแววตาน่ากลัว "เฮีย ทำไมมองเอแคลน่ากลัวแบบนั้นคะ"หรรษาเอ่ย "ไม่มีอะไร" "เอแคล มากินข้าวกับพี่มา"หรรษาเอ่ย "มะ..ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวแคลจะไปกินข้าวพร้อมยายค่ะ" เอแคลเอ่ย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD