EP 2

1159 Words
‘คุณหนูยา’ ในวัยสามขวบจึงเป็นลูกสาวคนแรกของสาลินี ทว่าเป็นคนที่สองของสงคราม และคนที่สามของเขาก็กำลังจะลืมตามาดูโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เพราะส่วนใหญ่ห้องบนตึกมักจะเป็นที่พักพิงสำหรับเขา บ่อยกว่าบ้านหลังน้อยท้ายสวน บวกกับผู้เป็นแม่ก็มักจะคอยกีดกัน ไม่ให้เขาได้ลงไปหาเมียคนแรกอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ด้วย ความห่างเหินระหว่างเขากับอิงอร จึงเกิดขึ้นในช่วงหลังๆ มานี้ “เหรอจ๊ะ!” คุณอัญชลีเมื่อได้ยินดังนั้นก็ยิ่งปลาบปลื้มในน้ำใจสะใภ้คนโปรด และเกลียดชังอีกสะใภ้อย่างที่สุด จนไม่อยากจะเอ่ยถึงให้เสียปาก “งั้นก็ไปเถอะ แม่จะคอยก็แล้วกัน แต่อย่า...” “ว๊าย!!! ว๊าย!!! ว๊าย!!! คุณท่านขา คุณผู้หญิงขา ช่วยด้วยค่ะ!!! อกอีดวงจะแตกตาย ว๊าย!!!ว๊าย!!!ว๊าย!!!” ไม่ทันที่คุนอัญชลีจะได้พูดจบ เสียงแหลมๆ ของดวง สาวรับประจำตัวของสาลินีก็ดังลั่นบ้าน พร้อมกับวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก ยังกับมีใครกำลังจะตายก็ไม่ปาน ทั้งหมดจึงรีบวิ่งไปยังทิศทางที่ดวงชี้มือชี้ไม้ไป นั่นคือวิมานหลังน้อยของอิงอรที่อยู่กับลูกสาววัยเจ็ดขวบ ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่โรงเรียน “ว๊าย!!! บัดสีบัดเถลิง อีนังนี่มึงช่างกล้ามาทำเรื่องอัปรีในบ้านกู ใครก็ได้ไปตามคุณท่านกับพ่อสงครามมาเร็วๆ เข้า ฉันจะเป็นลม โอ๊ย!!! แม่สาช่วยด้วย” คุนอัญชลีลมแทบจะจับ เมื่อเข้ามาในห้องนอนของอิงอร แล้วพบว่ากำลังนอนกกนอนกอดอยู่กับชายชู้ ด้วยสภาพเปลือยร้อนจ้อน แถมยังหลับอย่างสบายอกสบายใจ ไม่มีวี่แววว่าจะตื่นขึ้นมาเลย แม้คนวิ่งมาดูจนเต็มแล้ว คุนสมควรกับสงครามที่ออกมาหาลูกค้าอยู่ไม่ห่างจากบ้านนัก ก็รีบบึ่งรถกลับมาดูตามที่เด็กรับใช้ได้โทรไปบอก หัวอกผู้ชายที่รักเมียเค้าเมียแรก แทบจะแตกสลายลงตรงนั้น เมื่อภาพปรากฏอยู่ตรงหน้า อิงอรที่เหมือนเพิ่งจะได้สติตื่นขึ้นมา และยังงุนงงกับสภาพของตัวเองไม่น้อย จากนั้นก็ถึงกับร้องห่มร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ เมื่อพบว่าตัวเองตกเป็นจำเลยของสามีและคนในบ้าน โทษฐานคบชู้สู่ชายกับคนสวน จนถึงขั้นนัดแนะกันมาหาความสำราญในบ้านอย่างไม่เกรงกลัวต่อบาปกรรมใด ๆ “อิงไม่รู้เรื่องเลยค่ะคุณ เมื่อเช้าอิงปวดหัวแล้วก็หลับอยู่นอกห้องด้วยซ้ำ ไม่รู้ทำไมถึงได้มานอนอยู่ในห้องกับนายพันอย่างนี้ อิงไม่เคยคิดทำเรื่องเลวๆ เลยนะคะคุณ ฟังอิงก่อนนะคะ ได้โปรดฟังอิงอธิบายก่อนนะคะ” แม้อิงอรจะอ้อนวอนและบอกกล่าวความจริงยังไง สงครามก็ไม่อาจจะปักใจเชื่อได้ ความเสียอกเสียใจ ทำให้เขาหุนหันเข้าไปกระชากเมียแล้วตบไปที่หน้าฉาดใหญ่ นายพันคนสวนคือเป้าหมายต่อไป จนลงไปนอนให้เลือดกลบปากอยู่กับพื้น แล้วเขาก็หนีออกจากบ้านไปดื่มเหล้าจนเมามายไม่ได้สติ พ่อกับคนรถต้องไปรับตัวมาจากผับในกลางดึก วันรุ่งขึ้นแม้จะได้สติแล้ว แต่เขาก็ไม่คิดจะเอ่ยปากถามถึงเมียรัก ที่ทำเรื่องน่าอับอายอีกเลย “ยัยอ๋อไปโรงเรียนหรือยังครับคุณแม่” แต่อย่างน้อยๆ เขาก็ยังห่วงลูกสาวคนแรกอยู่มาก ทุกคนบนโต๊ะอาหารต่างหันไปมองหน้ากัน แล้วถอนหายในออกมาแทบจะพร้อมกัน สงครามให้สงสัยอย่างที่สุด จึงหันไปหาคุนสมควรเพื่อขอคำตอบ “แม่อิงพายัยอ๋อหนีไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ ไม่มีใครรู้ว่าไปไหน...” สงครามรีบลุกพรวดหนีจากโต๊ะในทันที เพราะไม่อยากได้ยินเรื่องราวของผู้หญิงหน้าด้านร่านสวาท บังอาจใฝ่ต่ำคบชู้อยู่บนหัวเขา และไม่รู้ว่าเกิดขึ้นมานานแค่ไหนแล้ว เขาก็คงจะเป็นไอ้โง่ในสายตาของสองคนนั้นเป็นแน่ และเมื่อมีความรักให้มากมาย ความเกลียดชังก็ย่อมมีมากมายไม่แพ้กัน ยิ่งเห็นว่าอิงอรไม่รู้จักเสียสละ ด้วยการทิ้งลูกไว้ให้อยู่กับความสะดวกสบาย แต่ยอมลากลูกไปลำบากลำบนด้วยแล้ว เขายิ่งโกรธเกลียดและแค้นเคืองไม่ห่างหาย และไม่เคยเอ่ยถึงผู้หญิงคนนี้อีกเลย แม้เวลาจะล่วงเลยมายี่สิบปีแล้วก็ตามที บาดแผลในหัวใจ   “คุณพี่คะ! เมื่อไหร่จะกลับบ้านคะ ดึกมากแล้ว เลิกดื่มเถอะค่ะมันไม่ดีต่อสุขภาพแล้วก็อันตรายด้วย เดี๋ยวสาจะขับรถไปรับดีกว่านะคะ คุณพี่ไม่ต้องขับมาหรอกค่ะ” สาลินีกรอกเสียงอันนุ่มนวลไปตามสาย ด้วยความห่วงสามีที่พักหลังๆ มานี้ มักจะดื่มกลับบ้านบ่อยครั้ง และก็เมามายกลับมาชนิดไม่เป็นผู้เป็นคนเอาเสียเลย คุณอัญชลีที่หันไปสะใภ้ก็ถอนหายใจออกมาแทบจะทันที เพราะเอือมการกระทำของลูกชายคนเดียวนัก “คุณพี่ไม่ยอมให้สาไปรับค่ะ บอกจะกลับเอง งั้นสาว่าคุณแม่ขึ้นไปคุณพ่อนอนเถอะนะคะ สาจะนั่งรอเองค่ะ ถ้าดึกๆ แล้วยังไม่กลับ สาจะเรียกคนรถให้พาออกไปตามหาค่ะ” น้ำเสียงที่อ่อนนุ่มในอดีตมีต่อพ่อแม่สามียังไง ปัจจุบันสาลินีก็ยังรักษาระดับเอาไว้ได้เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง คุนอัญชลีจำต้องรีบขึ้นไปดูสามีที่ตอนนี้นอนป่วยอยู่บนห้อง ซึ่งถูกติดตั้งอุปกรณ์การแพทย์ไว้อย่างครบครัน พยาบาลพิเศษก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเฝ้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ส่วนสาลินีก็ได้แต่นั่งดูหนัง สลับกับการชะเง้อคอคอยการกลับมาของสามี จนเผลอหลับไปพร้อมกับดวงคนรับใช้เก่าแก่ สะดุ้งตื่นขึ้นอีกทีตอนตีสามเมื่อมีเสียงมือถือดังขึ้น “ฮะโหล! คุณพี่อยู่ไหนคะ อ้าวแล้วนั่นใครคะ ใช่ๆ ค่ะ ฉันเป็นภรรยาเขาเอง มีอะไรคะ! อะไรนะคะ!! ไม่จริง!!!ๆๆๆ...” สาลินีไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะถือโทรศัพท์ไว้ ก่อนที่ร่างจะทรุดฮวบลง ดวงที่ตื่นขึ้นมาเห็นเข้าก็ร้องเรียกด้วยความตกใจ คนในบ้านก็แตกตื่นไปตามๆ กัน กว่าจะได้สติและบอกข่าวร้ายกับทุกคนได้ก็กินเวลาหลายนาที “คุณแม่ขา!!! คุณพี่ค่ะ คุณพี่ๆ เมาหนักขับรถชนต้นไม้ กู้ภัยพาไปส่งโรงพยาบาลแต่คุณพี่สิ้นใจระหว่างทางค่ะ คุณแม่ช่วยสาด้วยค่ะ ช่วยสาด้วย สาจะทำยังไงดีคะ” “ห๊า!!! สงครามลูกแม่!!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD