ตอนที่ 1
โจรเถื่อนแห่งแดนใต้ 70%
“ก็ได้ พลูไปนอนก็ได้”
เมื่อสองยายหลานเดินจากไป ธัชชานนท์จึงได้หันมาจัดการอาหารหลายชนิดตรงหน้า ในขณะเดียวกันเสียงฝนที่หล่นย้อยลงมากระทบชายคาก็ดังซ่าๆ ไม่หาย
ฝนแรกของฤดูมาอย่างหนักหน่วง และคงจะเป็นเฉกเช่นนี้อีกนาน เพราะภาคพื้นถิ่นที่เขาอาศัยอยู่นั้นฝนเยอะกว่าทุกท้องที่สมกับนามที่ว่า ‘เมืองฝนแปดแดดสี่’
เวลา 23.00 น.
“บ้าเอ้ย!!” เสียงเข้มสบถออกมา เมื่อข่มตาหลับรอบที่เท่าไรก็หลับไม่ลงเสียที ด้วยความกังวลว่านักโทษที่เขาจับตัวมานั้นจะอยู่เช่นไร เมื่อฝนตกราวฟ้าถล่มขนาดนี้
สามสิบนาทีผ่านไปร่างหนากระสับกระส่ายอยู่บนเตียงขนาดกว้าง เมื่อเห็นว่าฝนยังไม่หยุดกระหน่ำ ตรงกันข้ามกลับหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ และดูท่าว่าจะตกยาวจนถึงเช้า
ปลายยอดไม้ไหวตามลู่ลมอย่างน่าหวาดกลัว แต่ชายหนุ่มพยายามไม่คิดว่าเชลยสาวที่อาศัยอยู่กระท่อมหลังเล็กเพียงลำพังนั้นจะเป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่เขารู้ดีแก่ใจว่าเธอกลัวเสียงฟ้าร้องคำรามสุดๆ
กระท่อมเล็กท้ายไร่…
คนางค์นุชนั่งคู้เข่าเนื้อตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัวระคนหนาวเหน็บทั้งกายและใจ น้ำใสเอ่อคลอรอบเบ้าด้วยความอดสู หญิงสาวไม่รู้เลยว่าเพราะอะไรเธอถึงมาเจอสถานการณ์เช่นนี้ ครั้นย้อนกลับไปเมื่อสองชั่วโมงก่อนหน้า งัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยความวิงเวียน หันมองไปทางใดก็ มืดมิดจะมีแสงสว่างก็แต่ตอนฟ้าแลบเท่านั้น
หญิงสาวปากซีดใจสั่น ยิ่งได้ยินเสียงฟ้าคำรามก้องราวจะถล่ม เธอยิ่งสั่นสะท้านไปทั่วสรรพางค์ สะดุ้งตื่นตกใจทุกครั้งที่มีเสียงเปรี้ยง ปร้าง มือบางเลื่อนขึ้นมาปิดใบหูน้อยทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยความหวาดกลัว พร้อมกับกรี๊ดร้องไม่ต่างจากคนเสียสติ ซึ่งเธอต้องเผชิญบรรยากาศเยี่ยงนี้เกือบค่อนชั่วโมง
“พ่อจ๋า แม่จ๋า ช่วยฟ้าด้วย ฮือๆ ฟ้ากลัว”
เปรี้ยง! เปรี้ยง!
“กรี๊ดดด!! ฮึกๆ”
น้ำตาที่กักกลั้นไว้ว่าจะไม่ให้ไหลออกมามันกลับรั้งไม่อยู่ จากหยดแรกก็มีหยดสองหยดสามไหลอาบตามร่องแก้มอย่างชวนสงสาร
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนอยู่ ณ แห่งหนใด เพราะมองไปทิศทางไหนก็ไม่คุ้นเคย หญิงสาวได้แต่นั่งกอดเข่าเฝ้าสลับกับยกมือขึ้นปิดหูเมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้อง เม็ดฝนน้อยใหญ่ที่หยดย้อยลงมาไม่รู้ว่ามันจะซาเมื่อไร กลีบปากสีระเรื่อซีดลงเรื่อยๆ ไหนจะอุณหภูมิยามดึกที่ลดต่ำบวกกับความเย็นเยือกจากน้ำฟ้าเข้ามาผสานกัน พลอยทำให้คนที่ร่างกายไม่แข็งแรงเต็มที่หนีไม่พ้นเงื้อมมือไวรัสร้ายอย่างไข้ป่า คนางค์นุชหนาวสั่นจนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว วงแขนเรียวกอดร่างเล็กของตนไว้อย่างน่าสงสาร สาวน้อยผู้สุขสบายในเมืองกรุงต้องตรากตรำจำทนอยู่ท่ามกลางลำเนา เพาไพรพเนจร
แสงแรกของวันใหม่เริ่มต้นขึ้น แต่ว่าร่างระหงที่นอนกอดตนเองมาทั้งคืนนั้นไม่ได้เขยื้อนขยับแต่การใด คนางค์นุชนอนขดคู้กายอย่างเวทนา หญิงสาวไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าตนกำลังอยู่ในสภาพแบบไหน และในไม่ช้าจะเกิดอะไรขึ้น!
น้ำเย็นจัดเต็มคุถังสาดใส่ร่างบางที่นอนสั่นบนแคร่ พร้อมกับเสียงห้วนที่ตะคอกตามมาอย่างไม่เห็นใจ
“จะตื่นได้ยังห๊ะ! นอนกินบ้านกินเมืองอยู่ได้ ตื่นโว้ย! ตื่นๆ” ยิ่งร่างงามไม่ไหวติงเขายิ่งโมโหเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี ก่อนที่จะหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทที่ยืนมองดูอยู่ไม่ไกล
“ไปตักเอาน้ำมาอีก” ไม่ถึงนาทีน้ำปริ่มคุถัง สาดใส่เชลยสาวที่นอนขดคู้อยู่บนแคร่อย่างสะใจ
เปลือกตาบางของคนที่ได้รับความเย็นจากน้ำถึงสองคุถัง ค่อยๆ ปรือมองด้วยความลำบาก หรี่มองรอบๆ แต่กลับกลายเป็นพร่ามัว พร้อมอาการวิงเวียนศีรษะครอบงำจนแทบจะทำอะไรไม่ถูก แต่หญิงสาวต้องอดกลั้นแล้วพยุงร่างให้ลุกขึ้นตามที่เสียงเข้มห้วนตะคอกสั่ง
“ตื่นได้สักที! แล้วไม่ต้องมาทำเป็นนอนอ่อยเรียกร้องความสนใจ บอกเลยว่าเห็นแล้วสมเพช!” ว่าจบมือหนาดุจคีมล็อกกระชากท่อนแขนเรียวที่กอดร่างตนเองเอาไว้ให้ลุกขึ้นอย่างไม่ปรานี จนเป็นเหตุให้ร่างบางเซถลาตกจากแคร่ไม้ด้วยความเจ็บปวด คนางค์นุชกลั้นน้ำตาเอาไว้ด้วยความทรมาน และเมื่อครั้นเลื่อนสายตาขึ้นไปเจอคนโหดร้ายใจทราม รูปหน้าคร่าตาไม่ต่างจากโจรป่าเถื่อน หญิงสาวกรี๊ดร้องสุดเสียง
“กรี๊ดดดด!!!”
“เอ้าร้อง! ร้องเข้าไป ร้องดังๆ” ระหว่างที่ตะคอกใส่นั้น มือหนากดบีบข้อแขนเรียวไว้อย่างแน่นหนา คนางค์นุชได้รับความเจ็บปวดแล้วน้ำตาแทบเล็ด แม้จะเจ็บเพียงไหนหากแต่ไม่วายที่จะวี้ดว้ายใส่โจรป่า หน้าเถื่อน
“กรี๊ดๆ ไอ้โจรบ้า ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน อ๊ายๆ” เสียงหวานแหลมที่คอยทัดทานแรงดีไม่มีตก เสียงดังฟังชัดเสมือนว่าเธอไม่เจ็บไข้ ได้ป่วยแม้แต่น้อย คนางค์นุชถูกโจรใจร้ายกระชากลากถูไปตามพื้นดิน ที่ชื้นแฉะ ท่อนขาเรียวเสลาเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนตม ชุดที่เธอสวมใส่จากผ้าเนื้อดีราคาแพงบัดนี้แม้แต่ผ้าขี้ริ้วยังดีกว่า
ธัชชานนท์ในคราบโจรป่าหน้าเถื่อนไม่ใส่ใจต่อเสียงแหลมแว้ดๆ ที่ร้องต่อว่า หากแต่เพิ่มแรงกระชากร่างงามไปตามทางที่ตนต้องการ เอ่ยเสียงเข้มลอดไรฟันออกมาอย่างน่าหวั่นกลัว
“หึๆ ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก”
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะ กรี๊ดๆ ฮือๆ” ยิ่งเดินมาไกลเท่าไร เขายิ่งเพิ่มความเจ็บเป็นเท่าทวีคูณ จากกระท่อมออกมาจนถึงป่ารก เนื้อกายขาวผ่องมอมแมมเสียยิ่งกว่าลูกเป็ดตกน้ำ คนางค์นุชทั้งกรี๊ดร้อง ด่าทอสารพัดแต่เขาไม่ใส่ใจ ทำให้เธอเปลี่ยนวิธีมาอ้อนวอนขอความเห็นใจ
แต่ผิดคาดเพราะโจรป่าเถื่อนไม่มีทางใจอ่อนกับมารยาเสแสร้ง ทว่ามีแต่ความรำคาญเท่านั้นที่ครอบงำ ปากหยักสีกุหลาบสดตะคอกเสียงดังกึกก้องทั่วท้องไพรพนา
“หยุดร้องสักทีสิโว้ย!!!” กอรปกับใบหน้าโจรป่าที่เหี้ยมโหด ทำให้คนตัวน้อยได้ยินแล้วสะดุ้งโหยงตกใจระคนหวาดกลัว และเผลอตัวกรี๊ดเสียงดังใส่ใบหูแกร่ง
“กรี๊ดดด!!”
“หยุดร้องเดี๋ยวนี้นะ ตามมา!” หญิงสาวขืนกายเอาไว้ เมื่อโจรป่าหน้าเหี้ยมหันมาออกคำสั่งและเพิ่มแรงกระชากกระชั้น เธออยากจะร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดนัก อยากจะตะโกนถามดังๆว่าเธอทำอะไรผิดเหรอ ทำไมเขาถึงโหดร้ายกับเธอเพียงนี้ ทั้งๆ ที่เธอกับเขาก็ไม่เคยรู้จักกันเลย
“ไม่ไป ไม่ๆ กรี๊ดๆ” สาวเจ้าปฏิเสธเป็นพัลวัน เมื่อสายตาคู่งามนั้นทอดมองเห็นธารน้ำตกขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ยืนอยู่ เนื้อตัวหญิงสาวสั่นระริกหวาดกลัว เพราะน้ำไหลเชี่ยวแรงมาก ถ้าเธอตกลงไปชีวิตจะไม่จบเห่เอาหรือ?
และต้องสะดุ้งโหยงอีกครั้ง เมื่อเสียงเข้มห้วนของคนที่ยืนอยู่ด้านข้างออกคำสั่ง
“ลงไปอาบน้ำ”
“ไม่ๆ ฉันไม่อาบๆ” ปฏิเสธพร้อมทำท่าจะวิ่งหนี ทว่าไม่เร็วพอที่จะหลุดพ้นสายตาดุกร้าวของโจรป่าหน้าเถื่อนไปได้
“จะไปไหนห๊ะ! ไป๊!! ลงไปอาบน้ำ” ใบหน้าที่รกครึ้มไปด้วยหนวดเคราชวนผวากว่าเก่า หญิงสาวอยากจะร้องไห้ ณ ตรงนั้น นัยน์ตาคู่งามตวัดจ้องดวงตาคู่คมของมหาโจรใจร้ายอย่างเอาเรื่อง แต่เขาไม่รั้งรอให้สายตาเธอมามีอิทธิพลต่อเขาเด็ดขาด
“ไปอาบ!”
“ไม่!”
“อย่าดื้อ ลงไปอาบเดี๋ยวนี้ ลำธารออกจะกว้างใหญ่ ไป๊!” มือหนาบีบหมับเข้ากับหัวไหล่กลมมน จนบริเวณที่โดนแตะต้องนั้นแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงปื้นชวนสงสาร
หญิงสาวเชิดหน้าใส่โจรป่า ลำคอเรียวระหงตั้งตรงอย่างทระนง ธัชชานนท์ห้ามใจแล้วห้ามใจอีกที่จะไม่เผลอหักลำคอผ่องของเธอ บทจะดื้อ แม่คุณก็ดื้อขึ้นมาเสียจนน่าโมโห ทำเอาโจรป่าอย่างเขาต้องระงับอารมณ์รุนแรงด้วยความยากลำบาก
“ทำไมไม่ลงไปห๊ะ!! จะรออะไรหรือว่าจะให้ฉันอาบให้!!” ใบหน้าเหี้ยมโหดดุดันขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงอารมณ์ หากแต่ภายใต้ความหวาดหวั่นนั้น ชายหนุ่มกลับทอดนัยน์ตาพราวยิบยับใส่ ชวนให้เสียวสันหลังวาบ…
แต่ว่าหญิงสาวยังทำท่าอวดเก่งไม่ยอมปฏิบัติตามที่เขาสั่ง สงบนิ่งไม่ไหวติง
“ไม่ไปดีๆ ใช่ไหม ได้!!” สิ้นคำวงแขนแข็งแรงที่อุดมไปด้วย มัดกล้าม ช้อนร่างบางแนบอกแล้วก้าวดุ่มๆ ตรงไปยังธารน้ำไหลเชี่ยว
คนางค์นุชทั้งทึ้งทั้งทุบร่างหนา แต่ไร้วี่แววว่าเขาจะยอมปล่อยมือ กระทั่งถึงที่หมาย หญิงสาวได้กรีดร้องวี้ดว้ายจนหูดับตับแลบ เมื่อเขาโยนร่างเล็กบางของเธอลงธารน้ำกว้างใหญ่
“ว้าย!! กรี๊ด!!”
ตู้ม!!!
ธัชชานนท์ในคราบโจรป่าหน้าเถื่อนยืนมองอยู่ห่างๆ พร้อมกดมุมปากหยักลึกแสยะยิ้มใส่อย่างสะใจ ตวัดท่อนแขนแกร่งทั้งสองกอดอกตนเอง แล้วส่งนัยน์ตาเย้ยหยันไปให้แม่คนตัวน้อยที่กำลังสะบักสะบอม ในลำธาร ตามประสาคนว่ายน้ำไม่เป็น แม้นน้ำจะลึกตื้นเพียงใดก็ยังคงหวาดกลัว แขนเรียวเล็กดำผุดดำว่ายด้วยความทุลักทุเล ผลุบๆ โผล่ๆ ไหนจะความแรงของน้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้แรงต้านทานอันน้อยนิดของเธอจะหมดสูญไปหลายต่อหลายหน
ทว่าพ่อคนหน้ารกเถื่อนกลับยืนกอดอกมองแล้วยิ้มพอใจ ยิ่งเห็นหญิงสาวทำท่าจะไม่ไหวเขายิ่งสนุก! ก่อนจะกระตุกกลีบปากหยักพ่นเสียงห้วนออกมา
“ล้างเนื้อตัวคาวๆ ของเธอให้หมดล่ะ อยู่ใกล้แล้วฉันสะอิด สะเอียน” เจ็บร้าวลึกจนถึงกระดองใจ ธัชชานนท์บอกตนเองไว้ว่าจะทำให้เธอเจ็บ เจ็บเหมือนอย่างที่เขาเคยเจ็บ!
“ชะ ช่วยด้วย” เรี่ยวแรงของหญิงสาวเหลือเพียงน้อยนิด แขนเรียวแทบจะยกไม่ขึ้น รู้สึกปวดร้าวไปทั่วทั้งสรรพางค์ คนางค์นุชตะเกียกตะกายร้องขอความช่วยเหลือจากคนหน้าเหี้ยมที่ยืนยิ้มอย่าง เป็นสุข หากแต่แววตาของเขานั้นมันช่างหยามเหยียดเธอนัก!
“มารยาสาไถย” ว่าจบจึงหันร่างหนี เตรียมที่จะก้าวออกไป แต่เท้าหนาต้องหยุดชะงักเอาไว้เมื่อได้ยินเสียงหวานแหลมร้องขอความช่วยเหลือ
“ชะ ช่วย…กรี๊ด!!!” ไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะยึดเกาะกิ่งไม้เอาไว้ คนางค์นุชจึงได้ปล่อยตนเองไปกับสายน้ำที่ไหลพัดผ่าน
โจรป่าหน้าเหี้ยมใจโหดไม่รอช้า กระโดดลงลำธารอย่างรวดเร็ว วงแขนแกร่งที่อุดมไปด้วยความสมบูรณ์แหวกว่ายสายน้ำไหลเชี่ยว วาดกระบวนท่าที่คิดว่าเร็วที่สุดช่วยคนตัวน้อยที่ถูกกระแสธาราพัดไป
รีบยื่นมือใหญ่ออกไปให้คนกำลังจะจมน้ำแตะ และตะคอกสั่งเสียงดัง
“จับมือฉันไว้ คนางค์นุช จับ!” หญิงสาวได้ยิน แต่ไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะทำตาม ร่างบางเคว้งคว้างไปกับสายน้ำ ด้านธัชชานนท์นั้นพยายามแหวกว่ายให้เร็วที่สุด เพื่อนำร่างของตนมาใกล้แล้วให้สาวเจ้า ยึดเกาะ
“ยื่นมือมาสิ เร็ว!!!” ยังไร้วี่แววที่จะทำตามคำสั่ง เพราะเรี่ยวแรงของเธอนั้นอ่อนลงเรื่อยๆ และเมื่อไม่ได้ดังใจ ชายหนุ่มจึงรวบรวมพลังที่มีพุ่งเข้าไปหาแล้วโอบร่างบางมาไว้ในอ้อมอกอุ่น
นาทีเสี่ยงตายทำเอาเขาใจหายใจคว่ำ ด้านคนางค์นุชซวนซบร่างอ่อนแรงไปกับเรือนกายแกร่งทรงพลัง และเมื่อโจรป่าหน้าเถื่อนนึกขึ้นได้ว่าตนกับหญิงสาวนั้นอยู่ในฐานะใด ร่างใหญ่รีบผละกายออกห่างอย่างรวดเร็ว ราวกับเธอเป็นตัวเชื้อโรคร้ายแรง
ตามมาด้วยถ้อยวจีที่แสนเจ็บปวด
“สำออย! ให้อาบน้ำแค่นี้ ทำเป็นจะจมน้ำตาย!!” คนเฉียดตาย ได้ยินแล้วโมโหและเจ็บใจสุดๆ จะโจรก็โจรเถอะวันนี้ ขอด่าไอ้โจรไร้มารยาท ไร้การอบรมบ่มนิสัยทีเถอะ แม้ว่าร่างกายตอนนี้จะไม่ไหวแล้ว ก็ตาม
“ไอ้โจรมารยาททราม! ถ้าช่วยแล้วมาบ่นตามหลังอย่างนี้ปล่อยให้ฉันตายดีกว่า ไอ้เลว ไอ้ชั่ว!!”