น้ำตาลูกผู้ชาย

1380 Words
วิโมกข์ตัวแข็งเป็นหินเมื่อได้ยินคำพูดของคนที่รักกันมาถึงห้าปี ไม่อยากเชื่อเลยว่าคำพูดแบบนั้นจะออกมาจากปากของเธอได้ และมันก็ถูกพูดออกมาหลังจากที่เขาและเธอเพิ่งจะเสร็จกิจรักกันบนเตียง            “มีนกำลังโกรธโมกข์ใช่ไหม” ชายหนุ่มที่สวมกางเกงเพียงตัวเดียวถามขึ้น คิดว่าตัวเองอาจทำอะไรผิดพลาดตอนที่ร่วมรักกัน จนทำให้เธอไม่พอใจ “โมกข์ทำให้มีนไม่มีความสุขเหรอ เรามาเริ่มกันใหม่อีกรอบก็ได้นะ”            “มันไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก มีนมีความสุขกับมันมาก แต่มีนพูดเพราะเราไปด้วยกันไม่ได้ต่างหาก” มีนาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไม่มีแววเสียใจแม้แต่นิด “คุณไม่ใช่คนที่มีนต้องการฝากชีวิตด้วย เราจบกันแค่นี้ดีกว่าโมกข์”            “ทำไมล่ะมีน มีนกลัวว่าโมกข์จะทำให้มีนลำบากเหรอ ถึงโมกข์จะเสียพ่อไปแล้ว แต่ท่านก็ทิ้งสวนยางไว้ให้โมกข์ตั้งสามพันกว่าไร่ ฟาร์มหอยเป๋าฮื้อที่โมกข์บุกเบิกก็เริ่มต้นไปได้ดี แล้วโมกข์ก็ยังมีหุ้นกับบริษัทผลิตยางรถยนต์กับเพื่อนด้วย อีกหน่อยโมกข์ก็จะใช้หนี้ธนาคารหมดและรวยมากกว่านี้ มีเงินให้มีนใช้จ่ายไม่ขาดมือ โมกข์ไม่ปล่อยให้มีนลำบากหรอก อย่าทิ้งโมกข์ไปเลยนะมีนนะ” วิโมกข์ในวัยยี่สิบเจ็ดปีคุกเข่าวิงวอนต่อคนรัก            “อย่าทำแบบนี้เลยโมกข์ มีนไม่ใจอ่อนหรอกนะ” เธอขยับตัวหนีห่างจากเขาอย่างไม่พอใจ “เอาเวลาที่มาฟูมฟายกับมีนไปดูแลบรรดาแม่เลี้ยงของโมกข์เถอะ ป่านนี้คงมารอคิวขอแบ่งสมบัติกันเต็มบ้านแล้ว”            “อย่าทิ้งโมกข์ไปเลยนะมีน โมกข์อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมีน” เขาไม่โกรธเธอสักนิดที่พูดจาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันต่อว่าครอบครัวของเขา ได้แต่อ้อนวอนขอความเห็นใจจากเธอ            “มีนหมดรักโมกข์แล้วเข้าใจซะบ้าง”            “มีน.. อย่าทิ้งโมกข์นะมีน โมกข์อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมีน” น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาเป็นทาง ขณะร้องเรียกคนรักที่เดินจากไปอย่างไม่ไยดี            ร้านบาร์เบียร์ จ.สงขลา            บารมีมองสภาพไม่เป็นผู้เป็นคนของเพื่อนเกลออย่างอ่อนใจ ไม่เคยคิดเลยว่าอดีตเพลย์บอยที่พ่อต้องคอยตามเอาเงินไปปิดปากครอบครัวฝ่ายหญิงอยู่บ่อยครั้งเมื่อสมัยแตกเนื้อหนุ่ม จะหมดสภาพเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียวได้ขนาดนี้            “ตอนที่พี่เขามาถึงก็เมาแอ๋มาแล้วครับ” ผู้จัดการร้านเล่าให้เจ้าของร้านที่เพิ่งมาถึงฟัง            “แค่ชั่วโมงเดียวกินไปหมดนี่เลยเหรอ” บารมีมองขวดเปล่าบนโต๊ะ            “ครับพี่ทศ พี่เขาเล่นกรอกกับขวดเลยครับ ดื่มไปร้องไห้ไป แล้วก็เรียกหาแต่คุณมีน ผมกลัวแขกคนอื่นจะไม่พอใจเอา ก็เลยโทรเรียกพี่นี่แหละครับ”            “นายช่วยดูแลหน่อยก็แล้วกัน ถ้าเขาฟื้นก็อย่าให้ไปไหน”            “แต่เป็นแบบนี้มาสามวันแล้วนะครับพี่ทศ พี่เขาชอบหายไปตอนที่ผมไม่อยู่ตลอด ผมคงดูแลไม่ไหวหรอกครับ” ผู้จัดการร้านจำใจต้องปัดภาระให้พ้นตัว เพราะดูแลลูกค้าคนอื่นก็ยุ่งมากพอแล้ว ยังต้องมาดูแลคนเมาหนักแบบนี้อีก เขารับไม่ไหวแล้วจริงๆ            “สงสัยต้องส่งกลับไปให้เจ๊หวังจัดการ” บารมีพึมพำกับตัวเองแล้วบอกให้ผู้จัดการช่วยกันพยุงปีกเพื่อนรักไปที่รถ “ขอบใจมาก ดูแลร้านให้ดีล่ะ”            “ครับพี่” ผู้จัดการร้านรับคำแล้วเดินจากไปเมื่อหมดหน้าที่            บารมีปรับดึงเข็มขัดนิรภัยคาดให้เพื่อนรัก ปรับเบาะเอนลงไปอีกหน่อยเพื่อให้เขานอนได้สบายขึ้น แล้วจึงสตาร์ทรถขับออกไป            ฟาร์มสวนยางโชคอนันต์            เจ๊หวังวางผ้าเช็ดตัวลงในกะละมัง มองสภาพของเจ้านายน้อยที่กำลังจะขึ้นมาเป็นใหญ่แทนบิดาด้วยน้ำตาคลอเบ้า            “มีน.. อย่าทิ้งโมกข์นะ.. โมกข์รักมีน.. มีน.. มีน.. กลับมาหาโมกข์นะ.. ผมรักคุณ..”            แม่บ้านใหญ่วัยห้าสิบปีนั่งสะอื้นไห้อยู่ข้างเตียงของชายหนุ่มผู้ผิดหวังจากรัก นางไม่เคยคิดเลยว่าอีปลิงดูดเลือดที่ดีที่แต่งตัวสวยและหลงงมงายกับการพนันจะทำกับคุณหนูของตนได้ขนาดนี้            “โธ่คุณหนูของหวัง หวังกับคุณผู้ชายรู้อยู่เต็มอกว่าอีเป็นคนแบบไหน แต่พวกเราก็จำใจยอมรับอีเพราะอีทำให้คุณหนูมีความสุข เลิกทำตัวเสเพลสร้างแต่ปัญหาให้ตามแก้ หวังไม่เคยคิดเลยว่าอีจะกล้าทำแบบนี้กับคุณหนูของหวัง ฮึกๆๆ”            “โมกข์อยากตายมีน.. ไม่มีคุณผมตายดีกว่ามีน.. ฮือๆๆ ฮือๆๆ มีน.. อย่าทิ้งผม..”            “โธ่คุณหนู” เจ๊หวังเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาทางหางตาของคนที่กำลังหลับ ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มาโทรหามีนา             (ใครคะ..) เสียงปลายสายถามมาอย่างงัวเงีย            “คุณมีนเหรอคะ หวังเองค่ะ”            (หวัง.. เจ๊หวังใช่ไหม)            “ค่ะเจ๊หวังเอง”            (โทรมาทำไม คุณหนูของเจ๊ไม่ได้อยู่กับฉันหรอกนะ เราเลิกกันแล้ว) เธอกระซิบตอบกลับมา            “หวังรู้ค่ะ หวังถึงโทรมาหาคุณนี่ไงคะ หวังขอร้องนะคะ อย่าเลิกกับคุณหนูของหวังเลยค่ะ คุณหนูของหวังทำอะไรผิดบอกหวังได้ไหมคะ หวังจะได้บอกให้เขารู้ตัว”            (คุณหนูของเจ๊ไม่ผิดหรอก แต่เขาแค่หมดความหมายสำหรับฉันแล้วต่างหาก)            (คุยกับใครครับมีน)            (เขาโทรมาผิดค่ะ) มีนากดสายทิ้งทันที            มือที่กำหูโทรศัพท์สั่นเทาด้วยความโกรธเมื่อได้ยินเสียงผู้ชายดังเข้ามาในสายชัดเจน ที่แท้เธอก็มีผู้ชายคนใหม่นี่เอง เธอถึงได้ทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดีแบบนี้ “พอกันที ชาตินี้อั๊วจะไม่ขอญาติดีกับลื้ออีกต่อไป อีนางงูพิษ!” สามวันต่อมา ท่าอากาศยานหาดใหญ่            หญิงสาววัยกลางคนหน้าตาคมเข้มแบบสาวใต้แท้ๆ พร้อมด้วยหญิงสาววัยรุ่นหน้าตาบ่งบอกความเป็นลูกครึ่งหนึ่งคน และหน้าตาฝรั่งจ๋าอีกหนึ่งคน กำลังช่วยกันมองหาป้ายชื่อจากผู้ที่มารอรับด้วยใจจดจ่อ            “เขาไปรับผิดสนามบินหรือเปล่าคะแม่” หญิงสาวหน้าตาแบบลูกครึ่งวัยสิบแปดปี นามว่าวิเวียนถามมารดา เพราะเธอรู้ว่ายังมีสนามบินอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนี้            “แม่โทรมาบอกเขาแล้วว่าที่นี่” ปราณีบอกกับลูกสาวขี้สงสัย            “คนนั้นชูป้ายชื่อคุณครูด้วยค่ะ ใช่เขาหรือเปล่าคะ” หญิงสาวหน้าตาน่ารัก รูปร่างผอมสูงเกินวัยสิบเจ็ดปี นามว่าชาร์มมิ่ง แอนนาเบ็ล เครน ชี้ไปยังคนที่วิ่งถือป้ายเขียนว่า ‘คุณปราณี จากฟาร์มสวนยางโชคอนันต์’ เข้ามา             “ใช่จ้ะชาร์มมิ่ง พี่อำนวยทางนี้จ้ะ” ปราณีตอบรับเด็กสาวแล้วกวักมือพร้อมส่งเสียงเรียกชายคนนั้น            “ขอโทษทีที่มาช้าครับคุณปราณี พอดีรถคันแรกที่ให้มารับคุณมันถูกชนตูด ผมก็เลยต้องออกมาแทน” อำนวยพูดไปหอบไปด้วยความเหนื่อย            “ไม่เป็นไรจ้ะพี่อำนวย เด็กๆ ทักทายคุณลุงเขาหน่อยสิจ๊ะ” เธอปฏิเสธพร้อมรอยยิ้มจริงใจแล้วจึงบอกกับสาวน้อยทั้งสองให้ทักทายผู้ใหญ่            “สวัสดีค่ะ / สวัสดีค่ะ” สองสาวยกมือไหว้หนุ่มใหญ่แบบไทย            “สวัสดีจ้ะ สงสัยจะพูดไทยได้ทั้งคู่นะครับคุณปราณี”            “จ้ะพี่ นี่ลูกสาวฉันเองชื่อวิเวียน แล้วคนนี้ก็ลูกเจ้านายฉันชื่อชาร์มมิ่ง อยู่ที่โน่นฉันถูกจ้างให้เป็นครูสอนภาษาไทยให้ลูกๆ เจ้านายโดยเฉพาะ พอดีโรงเรียนที่โน่นปิดเทอมพวกเขาก็เลยขอมาเที่ยวด้วย แล้วลูกชายฉันเป็นอย่างไรบ้างพี่” เธอแจงรายละเอียดให้ฟังแล้วถามถึงลูกชายด้วยความห่วงใยลึกซึ้ง “พี่ว่าคุณปราณีไปดูเองดีกว่าครับ” อำนวยตอบเพียงแค่นั้น...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD