บทที่ 22 น้องสาวของเพื่อนสนิท
บารมีรับไหว้หญิงสาวที่ถูกแนะนำจากวิโมกข์ว่าเป็นน้องสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จำได้ว่าเพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่ามารดาแต่งงานใหม่กับคนบราซิล และมีน้องสาวต่างบิดาอยู่หนึ่งคนที่เขารักมาก แต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าน้องสาวของเขาจะถอดแบบสาวลาตินออกมาเป๊ะ ๆ แบบนี้
“พี่รู้จักกับไอ้โมกตั้งแต่เรียนอนุบาล แต่เพิ่งจะเห็นน้องสาวของมันตอนอายุสามสิบสี่ ก็ยังดีนะที่เรามีโอกาสได้รู้จักกัน”
วิเวียนคลี่ยิ้มอวดฟันสวยแล้วหันไปมองพี่ชายต่างบิดาก่อนตอบเล็กน้อย “วิไม่ค่อยได้มาเมืองไทยบ่อยนักหรอกค่ะ ตอนที่คุณพ่อพี่โมกท่านยังมีชีวิตอยู่วิไม่เคยมาที่บ้านพี่เขาเลยค่ะ มีแต่มาเที่ยวที่บ้านคุณยายแล้วก็ไปเที่ยวทะเล แล้วก็ไปเที่ยวทางภาคเหนือค่ะ” หญิงสาวอธิบายให้เพื่อนของพี่ชายฟังอย่างเป็นกันเอง “ที่นี่จัดร้านสวยดีนะคะ ลูกค้าชาวต่างชาติก็เยอะด้วย หรือว่าไม่รับลูกค้าชาวไทย” เธอสงสัยเพราะมองไปมองมาก็เจอแต่พนักงานเท่านั้นที่เป็นคนไทย
“พี่ก็รับหมดแหละ แต่สงสัยร้านพี่จะแพงไปสำหรับคนไทย แล้ววิเวียนคิดว่าร้านพี่แพงไหม”
หญิงสาวดูเมนูที่ตั้งโชว์อยู่บนโต๊ะ “วิว่ามันก็สมราคานะคะ บรรยากาศ รสชาติอาหาร ภาชนะที่ใช้ดูหรูหราทุกชิ้น ที่สำคัญเหล้าอร่อย” เธอโน้มหน้าเข้าไปใกล้เขาแล้วเอามือป้องปาก “พี่ทศคงไม่ใช้เหล้าปลอมจากประเทศเพื่อนบ้านหรอกใช่ไหมคะ”
บารมีหัวเราะลั่นด้วยความขบขันเมื่อได้ยินคำถามของสาวลาตินคนสวย ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้องสาวของเพื่อน เขาคงใช้ปากขยี้ปากช่างถามนั้นให้ละลายไปแล้ว
“ร้านของพี่ทำธุรกิจถูกต้องตามกฎหมายทุกประการจ้ะ ให้กรมสรรพากรมาตรวจได้เลย”
“อย่ามาหลอกน้องสาวกูไอ้ทศ เดี๋ยวกูนี่แหละจะโทรแจ้ง” วิโมกข์มองเพื่อนซี้ด้วยสายตาไม่พอใจที่บังอาจมาหลอกน้องสาวตน
“พี่ทศหลอกวิเหรอคะ”
“พี่แค่อยากล้อเล่นด้วยเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าพี่ชายของวิเขาจะจริงจังขนาดนี้” บารมีเหล่ไปทางเพื่อนซี้ที่ยังมองตนไม่ละสายตา
วิโมกข์เคืองเพื่อนรักที่ทำตัวสนิทสนมกับน้องสาว พยายามใช้สายตาสื่อความหมายให้มันรู้ตัว แต่มันกลับเมินใส่ซะงั้น
“มึงไม่ไปดูแลลูกค้าเหรอไอ้ทศ” ในเมื่อมึงเมินใส่ กูก็จะไล่ตรง ๆ แบบนี้แหละ
“ร้านกูก็มีทั้งการ์ดทั้งผู้จัดการคอยดูแลอยู่ มึงไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” กูรู้ทันมึงนะไอ้โมก กูไม่ชีกอหน้าม่อใส่น้องมึงหรอกน่า ไม่ต้องมาทำเป็นหวง
“ลูกค้าคงจะดีใจมากกว่าถ้าเจ้าของร้านออกไปดูแลด้วยตัวเอง จริงไหมวิเวียน” เขาขอความเห็นจากน้องสาว “ดื่มแบบนี้เดี๋ยวก็เมาหรอก” แต่เห็นเธอกำลังดื่มเบียร์อยู่ก็เอ่ยเตือน
“แค่นี้ไม่รู้สึกหรอกค่ะ อย่างน้อย ๆ ต้องสามขวดถึงจะเริ่มมึน เติมให้วิหน่อยสิคะพี่ทศ” เธอใช้เขาเพราะเห็นว่าอยู่ใกล้ที่วางเครื่องดื่ม
วิโมกข์ถึงกับอึ้ง เมื่อรู้ว่าน้องสาวเป็นนักดื่มตัวยง “ดื่มแบบนี้คุณแม่ไม่บ่นบ้างเหรอวิ”
“คุณแม่ไม่เห็นนี่คะ” เธอตอบพี่ชายพร้อมรอยยิ้มร่าเริง “แต่ท่านก็ไม่เคยว่านะคะ เพราะวิโตแล้ว”
“ผู้หญิงดื่มเหล้ามันน่ามองซะที่ไหนล่ะ ถ้าเมาจนคุมสติไม่อยู่จะทำยังไง พวกผู้ชายสมัยนี้ไว้ใจได้ซะที่ไหน พอขาดสติแล้วแม้แต่เพื่อนก็ไว้ใจไม่ได้” เขาไม่เห็นด้วยกับความคิดของเธอ
“วิไม่เคยปล่อยให้ตัวเองมาปลิ้นขนาดนั้นหรอกค่ะพี่โมก ถ้าไม่มีชาร์มมิ่งหรือฮีโร่ไปด้วย”
“ฮีโร่คือใคร แฟนเราเหรอ” ใบหน้าหล่อเหลาตึงขึ้นทันที
“ยังไม่ถึงขั้นแฟน แต่ก็รู้ใจกันมาก ๆ ค่ะ” เธอจงใจตอบออกไปแบบนั้น หารู้ไม่ว่าทำให้ใครคนหนึ่งถึงกับห่อเหี่ยวไปเลยทีเดียว
“แล้วชาร์มมิ่งล่ะ หรือว่าเธอไม่ชอบดื่มเหมือนเรา ก็เลยพาเรากลับบ้านได้”
หญิงสาวยกมือเป็นรูปกากบาท “ผิดค่ะ ชาร์มเขาเป็นเซเลบริตี้ตัวแม่เลยนะคะ งานสังคมแทบจะทุกงานต้องเชิญเธอไป ปาร์ตี้กับเธอจึงเป็นของคู่กัน”
“แสดงว่าดื่มเก่งเหมือนกันเหรอ” สาวน้อยร่างโย่งคนนั้นกลายเป็นคนดื่มเก่งไปแล้วเหรอ ตอนนั้นเธอยังดูใส ๆ และไร้เดียงสาอยู่เลยนะ
“เก่งสู้วิไม่ได้หรอกค่ะ แต่ที่วิกล้าดื่มกับเธอเพราะว่าเธอมีบอดี้การ์ดตามมาดูแลด้วยทุกครั้งต่างหากล่ะ”
“อ๋อ” วิโมกข์พยักหน้ารับช้า ๆ
“เพื่อนของวิคงรวยมากสินะ ถึงขนาดมีบอดี้การ์ดส่วนตัวด้วย” บารมีถามอย่างสนใจ
“รวยมากค่ะ ครอบครัวเธอรวยมาจากการเป็นเจ้าของธุรกิจค้าปลีกพวกซีดีหนัง ซีดีเพลง ตั้งหลายร้อยสาขาในอเมริกา แต่ตอนนี้ก็เปลี่ยนมาทำพวกแพลตฟอร์ม พวกสตรีมมิ่ง และเป็นเจ้าของค่ายเพลงนิวยอร์กเร็คคอร์ดค่ะ”
“เขาว่าพวกลูกฝรั่งรวย ๆ มักจะหยิ่งจริงไหมน้องวิ”
“เพื่อนวิคนนี้สวย เลิศ เชิด แต่ไม่หยิ่งเลยค่ะ ถ้าพี่ทศได้รู้จักชาร์มมิ่งแล้วจะรู้ว่าเธอติดดินมาก แต่บุคลิกภายนอกของเธอดูเป็นคนหยิ่งมากจริง ๆ จนไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบเลยค่ะ”
“เธอคงสวยมากสินะ”
“ตัวสูงแล้วก็ผอมมาก ไม่ได้สวยอย่างที่นายคิดไว้หรอกน่า” วิโมกข์ตอบคำถามของบารมีด้วยตัวเอง เพราะเคยเจอสาวน้อยคนนั้นมาแล้ว ถ้าจะบอกว่าน่ารักเขาก็เห็นด้วย แต่ถ้าบอกสวยนี่ยังอีกไกล เพราะคนสวยจะต้องสวยทั้งใบหน้าและรูปร่าง ประเภทแค่เห็นเดินผ่านแวบเดียวอย่างต้องเหลียวหลังกลับไปมอง
“พี่โมกรู้ได้ไงคะว่าชาร์มมิ่งไม่สวย” วิเวียนไม่พอใจที่พี่ชายมาว่าเพื่อนรักของเธอ
“ก็พี่เคยเห็นเธอแล้ว” ตอนนั้นเธอร้องไห้น้ำตานองหน้า ผมเผ้ารุงรังอย่างกับคนป่า อีกวันตอนที่ไปส่งที่สนามบินก็เห็นตาบวมช้ำ ดูซีดเซียว ไม่มีราศีคุณหนูผู้เลอโฉมสักนิด
“สภาพพี่โมกตอนนั้นมองเห็นคนอื่นอยู่ในสายตาด้วยเหรอคะ ดื่มแต่เหล้า เอาแต่คร่ำครวญ หน้าตาตัวเองยังลืมดูเลย” เธอต่อว่าพี่ชายด้วยสีหน้าหงิกงอ แล้วทำฮึดฮัดเมินหน้าหนีไปทางอื่น
“กล้าว่าพี่แบบนี้แล้วเหรอวิ เมื่อก่อนไม่เห็นกล้าหือกล้าอือกับพี่เลยนะ” วิโมกข์ต่อว่าน้องสาวแก้เก้อ ที่โดนเธอเอาเรื่องน่าอายในอดีตมาพูด
“แล้วพี่โมกมาว่าเพื่อนวิก่อนทำไมล่ะ วิรักชาร์มมิ่งมากรู้เอาไว้ด้วย ถึงเป็นพี่ชายก็ไม่มีสิทธิ์มาว่านะ” เธอทำกระเง้ากระงอดใส่พี่ชาย
“พี่ไม่ได้ว่าซะหน่อย พี่ก็แค่พูดอย่างที่เห็นเท่านั้นเอง” วิโมกข์เสียงอ่อนเมื่อถูกงอนใส่
“เอาไว้พี่เห็นชาร์มมิ่งอีกครั้งแล้วค่อยมาพูดดีกว่าค่ะ วิกล้าพูดเลยว่าผู้หญิงทั้งจังหวัดนี้ไม่มีใครสวยสู้เธอได้แน่นอน”