"เอลมารีน รีน!!"
ชั้นตื่นขึ้นมาด้วย อันเน็ทที่อยู่ๆก็มาปลุกกัน
"อื้อ เกิดอะไรขึ้น อันเน็ท?" ชั้นงัวเงีย ตื่นขึ้นมา อ่า ทำไมมันสว่างเเปลกๆ
"นี่มันสายเเล้วนะ ทำไมพอถึงฤดูนี้เธอก็นอนไม่ตื่นตลอดเลยละ"
"จริงด้วย!!นี่มันฤดูออกล่า อากาศดีจริงๆให้ตายเถอะ" ชั้นเด้งตัวออกจากเตียงเเทบทันที ตักน้ำในถังน้ำที่อยู่ในห้อง มาล้างหน้าล้างตา เมื่อคืนหลังงานเลี้ยงกับพวกเซร่า ชั้นก็กลับมากินอาหารกับพ่อเเม่อีกจนดึก ไม่น่าเเปลกใจว่าทำไมถึงหลับสนิทขนาดนี้ อากาศอุ่นๆกับลมเย็นที่พัดตลอดทั้งวันเป็นอะไรที่น่านอนมาก ทั้งชาหลับไหลก็ส่งผลดีมากเลยทีเดียว
"นี่รีน" อันเน็ทเอาหนอนภูติมาโอ๋ก่อนทักขึ้น
"หือ ว่าไงหรอ"
"ไม่ใช่ว่าวันนี้มีนัดกับลูน่าหรอ?" อันเน็ทว่าพร้อมเขย่าหนอนภูติที่เกาะตัวอยู่ไปด้วย เอ๊ะ วันนี้ ลูน่าหรอ ใช่ เมื่อคืนวันนี้ลูน่าวานให้ไปเก็บสมุนไพรด้วยกันนี่นา
คิดได้ดังนั้นชั้นรีบสวมชุด เเละวิ่งออกไปจากห้องทันที
"รีน รีบไปไหนจ๊ะเนี่ย" เเม่ที่กำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ก็ทักชั้นพร้อมเดินมาหา ขณะที่ชั้นใส่รองเท้าอยู่
"ขอโทษคะ หนูต้องไปเเล้ว" ชั้นว่าก่อนหันไปหาทางเเม่เเต่สิ่งที่สวนเข้ามาคือขนมปังก้อนใหญ่ที่เเม่ยื่นมาให้
"นี้คือ ของกินที่เรียกว่า ขนมปัง เเม่ได้มาธาสอนมาละ อย่างน้อยก็กินนี่หน่อยนะลูก" ชั้นรับไว้ ก่อนกัดเข้าไปคำนึง เป็นขนมปังที่เเข็งหน่อยๆ เเต่ก็มีกลิ่นเนยเเละรสหวาน โดยรวมก็อร่อยใช้ได้เลยหรืออาจเพราะตอนนี้ชั้นหิวก็ได้
"งั้นหนูไปก่อนนะ"
"จ้า ไปดีมาดีนะจ๊ะ"
ชั้นคาบขนมปังเเล้วรีบเดินไปที่หน้าหมู่บ้าน พร้อมกินขนมปังไปด้วย พอถึงก็เห็นเซร่ากับลูน่ารออยู่เเล้ว
"ขอโทษนะ ชั้นตื่นสายไปหน่อย"
"ไม่เป็นไรเราก็พึ่งมาเจอกันเมื่อกี้เอง"
"ช่าย เช้านี้อากาศดีมากเลย เค้าก็เกือบไม่ตื่น"
"ก็นะ เเล้วนี่เราจะเริ่มจากอะไรดี"เซร่าว่าขึ้นก่อนหันไปที่ลูน่า
"อืมม งั้นเริ่มที่ใบห้ามเลือดละกัน อยู่ใกล้ๆนี่เอง ค่อยไล่จากใกล้ไปไกลละกันนะ" ลูน่าตอบพร้อมเดินนำไป
ใบห้ามเลือดเป็นสมุนไพร อย่างนึงที่มีลักษณะใบยาว เนื้อใบมีความฟูนุ่ม สามารถนำมาซับเลือด เเละพันปิดปากเเผลได้ ลูน่าพูดอธิบายสรรพคุณ อย่างคล่องปาก ชั้นเองก็จดเข้าสมุดเล่มเล็กๆที่ชั้นทำขึ้นให้ [สไลม์] พกมา เดิมทีชั้นรู้เรื่องสมุนไพรเเค่คร่าวๆเท่านั้น ก็เป็นการดีที่ได้เรียนรู้ละนะ
"ส่วนนี้เห็ดเหล้า" ลูน่าเดินไปเด็ดเห็ดสีคล้ำที่มีทรงเหมือนนาฬิกาทราย อันเท่าฝ่ามือขึ้นมาจากพื้นที่เดินผ่าน
"เห็ดเหล้า?"
"ช่าย ลองดมดูสิ มันจะมีกลิ่นคล้ายเหล้าอ่อนๆด้วยละ" เธอยื่นมาให้เซร่าดมดูก่อนเซร่าจะยื่นมาให้ชั้น
"ชั้นไม่ดื่มเหล้าละนะเลยไม่รู้กลิ่น เเล้วมันใช้ทำอะไรได้หรอ"
"คนที่ดมกลิ่นมันสักพักจะมีอาการมึนเมา ก็ถ้าเอาไปเค้นน้ำมันจากเจ้านี้จะได้ยาที่ทำให้มึนเมาละ ใครคออ่อนหน่อยก็เมาพับไปเลยก็มีนะ"
"ไม่เห็นมีประโยชน์เลย"เซร่าว่าขึ้น
"ฮะฮะก็น้าา เเต่ตอนทำเเผลก็ได้ผลกับพวกชอบโวยวายนะ"ลูน่าเด็ดเห็ดเหล้าอีกอัน ใส่ถุงผ้าที่เตรียมกันมา
"ถ้ามีเห็ดเหล้าขึ้นเเปลว่าเเถวนี้ต้องมีอีกเเน่ เรามาหากันอีกดีกว่านะ เห็ดอันเดียวให้น้ำนิดเดียวเอง"ลูน่ามุดเข้าพุ่มไม้เเถวนั้นทันที ชั้นกับเซร่าก็ส่องส่ายสายตาหาไปรอบบริเวณสักพักทำให้เราได้มาเป็นสิบเลย
"เท่านี้น่าจะพอละ เเค่หยดเดียวก็ทำให้ลุงมาค็อลคอพับได้เลยน้า ฮะฮะ"
"นั้นมันเเรงสุดๆเลยไม่ใช่หรอ" ขนาดลุงมาค็อลที่ดื่มเหล้าเป็นถังก็ยังไปเข้าเวรได้ปกติคนนั้นยังคอพับ คนปกติจะเหลือหรอ
"ปะ เราไปหาใบห้ามเลือดกันต่อเถอะ" ลูน่าเเบกถุงผ้าขึ้นบ่าก่อนเดินนำไปอีกครั้ง เราเดินเข้าป่าไปเรื่อยๆ ลูน่าก็ชี้นู้นนี่ ไปตลอดทางมีทั้งของที่เรารู้จัก กระทั้งของที่ไม่นึกว่าจะใช้ทำอะไรได้ ก็หาประโยชน์กับมันได้อยู่ทำเอาสมุดจดของชั้นหมดไปเกือบครึ่งเลยทั้งที่พึ่งถึงใบห้ามเลือดเองนะเนี่ย
ต่อหน้าพวกเราคือต้นไม้สูงที่มีใบไม้ยาวจากยอดย้อยลงมาเกือบถึงพื้น พวกเราปีนขึ้นไปตัดจากบนยอดเลย ทำให้ได้ความยาวที่มากเลยตัดมาเเค่3-4ใบเท่านั้นเอง
"ดีมากเลย ถ้าเป็นเค้าทำได้เเค่ตัดบางส่วนที่เอื้อมถึงเท่านั้นเอง" ลูน่าได้เเต่ชะเง้อมองจากบนพื้นจะให้เธอปีนขึ้นไปนี่คงไม่ไหวเหมือนกันเธอเลยเลือกทำหน้าที่ม้วนใบไม้ที่ถูกตัดตกลงมาเเทน
เซล่าที่ปีนขึ้นไปยืนบนยอดของต้นรับลมข้างบนอยู่นั้น อยู่ๆก็โวยวายขึ้น
"เดี๋ยวนะ ควันไฟ? เกิดไฟไหม้ขึ้นหรอ"
"หะ อะไร เกิดอะไรขึ้น"
"ควันไฟ เห็นมีอยู่ที่ทางนู่น" เซล่าตะโกนตอบมา พร้อมชี้ไปทางข้างหน้า ด้วยป่าเเถบนี้เป็นป่าทึบ ถ้าไม่อยู่บนยอดไม้ก็อาจไม่เห็นอะไรจากไกลๆได้เลย
"ยังไงก็ไปดูก่อนเถอะ พวกสัตว์อาจโดนลูกหลงไปด้วยก็ได้" ชั้นว่าก่อนกระโดดขึ้นไปที่ต้นไม้ใกล้ๆนั้น
"ลูน่ารออยู่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวพวกเรากลับมา"
"อื้อ เข้าใจเเล้ว" ลูน่าโบกมือให้ก่อนหันกลับไปพับใบไม้ต่อ
ชั้นกับเซล่ารีบเร่งเข้าไปยังจุดที่เกิดควันไฟขึ้น หลักง่ายๆคือการสำรวจดูสถานการณ์ ว่าเกิดจากคนหรือเกิดขึ้นเอง เเต่ในกรณีนี้ ตอนนี้คือตอนกลางวัน ไม่น่าจะมีคนต้องมาใช้ไฟในป่าเท่าไหร่ ถ้าเป็นชาวบ้านก็เเล้วไป เเต่ก็มีหลายครั้งที่เป็นพวกโจร หรือ พวกค้าทาส ที่พวกเราจะเลือกโจมตีทันที ไม่ใช่ว่าเราเป็นผู้มีคุณธรรมหรือยังไงหรอก เเต่เป็นการตัดไฟเเต่ต้นลม ไม่ให้คนไม่ดีคิดว่าป่านี้เป็นที่ๆเข้ามาได้ง่ายๆ จนเข้ามาหาผลประโยชน์จากหมู่บ้านของเราภายหลัง
ในจุดที่เกิดควันไฟนั้นคือ รถเกวียนที่ลุกไหม้อยู่บนถนนพร้อมเกวียนอีกคันเเละผู้ชายอีกหลายคน ที่ถูกโจมตีด้วยฝูงหมาป่า
"มาจากคนพวกนี้สินะ เอายังไงดี" เซล่าบิดท่อนไม้ที่ถุงมือก่อนมันจะเด้งออกเป็นโครงธนูพร้อมตั้งลูกธนูเตรียมพร้อม
"พวกหมาป่านั้น เป็นหมาป่าขนดำไม่ใช่หรอ ไม่ใช่สัตว์ในป่าเราสินะ"
"อืม นั้นสิ หืม เหมือนจะมีเด็กหลายคนอยู่ในเกวียนอีกคันด้วย" เซล่าใช้สกิล [ตรวจจับ] พร้อมบอกข้อมูลให้ฟัง
"พ่อค้าทาส?"
"ไม่เเน่ใจ .." ไม่ทันที่เซล่าจะพูดจบ ก็มีเสียงโวยวายขึ้น มีผู้ชายคนนึงกระชากเด็กผู้หญิงคนนึ่งในหมู่เด็กลงมาจากเกวียน ก่อนผลักเด็กคนนั้นที่ถูกตรึงด้วยกุญเเจเหล็กทั้งมือ ทั้งขาเข้าหาฝูงหมาป่า ก่อนฉวยโอกาสยกพลขึ้นรถเกวียน เหมือนจะใช้เด็กคนนั้นเป็นเหยื่อล่อให้พวกตนหนี
"ไอ้พวกนี้นี่" เซล่าถึงกับสบถ ออกมาก่อนยิงธนูเข้าใส่พวกโจรบนรถเกวียนทันที ชั้นก็ไม่รอช้า พุ่งเข้าไปขวางเด็กคนนั้นจากพวกหมาป่าทันที
"เฮ้ย มีเหยื่อมาเพิ่ม" หมาป่าตัวนึงที่เหมือนจะเป็นจ่าฝูง กู่ตะโกนขึ้น
"ชั้นไม่ใช่ เหยื่อหรอกนะ เเต่ช่วยเว้นเด็กพวกนี้ไปจะได้ไหม" ชั้นเลือกจะเจรจากันก่อน
"มีเหยื่อมาเพิ่มม กิน กัด กิน"ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม พวกสัตว์เนี่ยยังไม่เคยเจอที่พูดคุยรู้เรื่องเลยนะ
"ช่วยไม่ได้นะ " ชั้นอุ้มเด็กคนนั้นเอาไว้ก่อนจะถอยหลบจากฝูงหมาป่าไปที่ต้นไม้ใกล้ๆ
" [กระเเทก] คุ้มกันเด็กคนนั้นที หนูรอที่นี้ก่อนนะ" ชั้นลูบหัวเด็กน้อยก่อน สั่งการเเมลงภูติให้คุ้มกันเธอ
ขณะเดียวกันก็มีหมาป่าตัวนึงพุ่งเข้ามาเเต่ชั้นก็นหันไปถีบจนปลิวไป มีอีกตัวซุ่มอยู่ก่อนฉวยโอกาสนั้นเข้าวิ่งเข้าใส่เด็กเเต่ก็ถูก [กระเเทก] ชนจนล้มหงายไปอีกตัว
เซล่าเข้าโจมตีกลุ่มโจรบนเกวียนทำให้ไปได้ไม่ไกลนักด้วยเหนื่อยจากการสู้กับหมาป่า ทำให้เซล่าชนะกลุ่มคนนั้นได้ไม่ยากเเละกำลังช่วยกลุ่มเด็กให้เข้าไปหลบในป่าก่อน
ชั้นเองก็โดนรุมอยู่เหมือนกัน โดนหมาป่าตัวนึงกัดที่ท่อนเเขนที่เป็นสายหนังข้างขวาพร้อมมีอีกตัววิ่งเข้ามาเเต่ชั้นสะบัดเเขนซ้ายหลบทันก่อนเข่าเข้าใส่ที่ท้อง ก่อนเหวี่ยงหมาป่าที่ขบเเขนขวาอยู่อย่างไม่นึกจะปล่อยฟาดเข้าใส่หมาป่าอีกตัวที่พุ่งเข้ามา เเต่ถึงอย่างงั้นจำนวนก็มีเยอะมากอยู่กำลังล้อมรอบตัวชั้นให้นับด้วยสายตาเเล้วมีมากกว่า10ตัว
เซล่าที่กำลังตั้งลูกธนูหลังกลับมาสนับสนุน ก็ต้องสะดุ้ง เพราะมีเสียงเห่าหอนดังลั่นจนนกเเตกรังบินไปทั่วป่า ดึงความสนใจไปยังจุดนึง ใกล้กับเด็กที่มี [กระเเทก] อยู่ เเต่เเมลง [กระเเทก] กลับไม่เข้าโจมตีมัน ที่อยู่ตรงนั้นคือ หมาป่าสีเทาตัวใหญ่ที่จ้องเขม้นมาทางฝูงหมาป่าสีดำ
หมาป่าขนเทา นั้นเป็นสัตว์ประจำป่านี้เเต่ตัวนี้มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยเห็นมาก
"พวกเเกมาทำอะไรที่ป่าของพวกเรา" หมาป่าสีเทานั้นว่าขึ้นก่อนค่อยๆย่างก้าวเข้ามา เเมลง [กระเเทก] พุ่งเข้าใส่ทันทีเเต่ก็ถูกนกสีฟ้าพุ่งมาชนกับเเมลง [กระเเทก] จนถอยไปทั้งคู่
หมาป่าหันไปมองนกก่อนหันมาข่มฝูงหมาป่าจนเริ่มถอยล่นไป
"ป่านี้คืออาณาเขตของพวกเรา กล้ามากนะที่เข้ามาหากินที่นี่"
หมาป่าสีเทากับนกป่าร่วมมือกัน!? เป็นความสัมพันธ์ที่เเปลกทีเดียว
"ถอย หนี" หมาป่าสีดำจ่าฝูงหอนขึ้นก่อนพาพวกวิ่งหนีไป
เหลือพวกเราที่ยังตั้งท่าดูท่าทีอยู่ ถึงอย่างงั้นหมาป่าสีเทานั้นก็หันหลังพร้อมนกสีฟ้าที่บินมาเกาะหลังเเละเดินจากไป
"หมาป่าสีเทาตรงนั้นน่ะ" ชั้นเรียกมันไว้ มันหันมามองอย่างรู้เรื่อง
"ขอบคุณนะ" มันตาโตเล็กน้อยก่อนหันวิ่งเข้าป่าไปจนลับตา
"รีนเป็นยังไงบ้าง"เซล่าวิ่งเข้ามาหาชั้นทันทีพร้อมสำรวจตัวชั้นไปทั่วทั้งตัว จนชั้นต้องจับเธอไว้
"ชั้นไม่เป็นไร ว่าเเต่เด็กๆละ" เด็กๆทุกคนเดินออกมาจากที่ซ่อนเเละมารวมตัวกับพวกเรา เด็กส่วนใหญ่ ไขกุญเเจมือออกหมดเเล้วเเละกำลังพูดขอบคุณพวกเรากันใหญ่ เเต่มีเด็กคนนึงที่ไขกุญเเจออกไม่ได้เธอคือเด็กที่มีเเมลงภูติคุ้มกันอยู่ ดูเหมือนกุญเเจที่ยึดมาจากพวกพ่อค้าไม่สามารถไขมันออกได้เลย
"กุญเเจของเด็กคนนั้นอยู่ไหน"เซล่าหันไปหาพวกพ่อค้าทาสที่ถูกมัดติดกับต้นไม้อยู่
"หึ กุญเเจของยัยเด็กนั้นอยู่ที่ลูกค้าเเล้วไม่มีวันไขออกได้หรอก เเต่ถ้าปล่อยพวกข้าไปละก็อาจจะช่วยคุยให้ก็ได้นะ ว่าไงล่ะ ยัยพวกเอลฟ์ขาว"ขณะที่หมอนั้นโชว์เหนือ พูดอยู่นั้นโดยหวังให้ถูกปล่อยตัวเเละหลังจากนั้นจะเอาเด็กคนนี้ไปขายให้ลูกค้าคนเดียวก็ยังดี โดยเรียกเก็บเงินจากลูกค้าคนนี้อีกหน่อย ลูกค้าคนนั้นก็คงไม่มีปัญหาอยู่เเล้ว
เเกร๊ก ตุบ เสียงโลหะตกกระทบพื้น มันคือเสียงของตัวล็อคที่พันทนาการเด็กคนนั้นเอาไว้
"เฮ้ยเป็นไปได้ยังไงวะ ตัวล็อคนั้นถ้าไม่ไขออกด้วยกุญเเจ จะมีใบมีดออกมาเเท้ๆ ทำได้ยังไงกัน"
"ไม่มีคำตอบให้นายหรอก"ชั้นตอบ โดยพยายามบังเบื้องหลังความสำเร็จนั้นคือ หนอนภูติที่เเทะตัวล็อคไปเกินครึ่งเเล้ว
"พี่สาวขอบคุณมากเลยคะ"
"ไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม งั้นไปกันเถอะ" หลังเธอพยักหน้าตอบรับ เซล่าจูงมือนำเด็กๆหนีเข้าป่าไป ชั้นเก็บหนอนภูติที่กินตัวล็อคไปทั้งอันจนหมดเเล้ว เตรียมเดินเข้าป่าตามไป
"เฮ้ย จะปล่อยพวกข้าไว้อย่างนี้หรอ" หมอนั้นตะโกนไล่หลังมาอีก ชั้นต้องทำเป็นไม่สนใจปล่อยพวกนั้นไว้จนไล่ตามกลุ่มเด็กที่เซล่าเดินนำไป จนมาพบกับลูน่าที่เเบกถุงผ้าไว้อยู่
"พวก..ค้าทาสอีกเเล้วหรอ" ลูน่าว่า
"อือ เอาเป็นว่าพวกเรากลับหมู่บ้านกันก่อนเถอะ"
"ได้เลย" พวกเราเลิกเก็บสมุนไพรเเล้วพาพวกเด็กกลับหมู่บ้านทันที
สุดท้ายเราก็จะติดต่อกับเมืองมนุษย์ภายนอกใกล้ๆเพื่อหาครอบครัวของเด็กๆต่อไป หลังจากนั้นอีกหลายวัน เด็กเกือบทุกคนก็มีครอบครัวมารับ จนเหลือเเค่เด็กที่ชั้นช่วยเอาไว้ที่ชื่อว่าเซรินในตอนนี้ลุงมาค็อลเเละหัวหน้าทหารของเมืองนั้นกำลังประชุมกันอยู่
"เฮ้อ เราไม่เจอครอบครัวของเธอเลย เธออาจมาจากที่ไกลกว่านี้"
"งั้นเหรอ เราจะทำยังไงดี" ลุงมาค็อลหันมามองเด็กผู้หญิงที่ตอนนี้นั่งอยู่อย่างสลดใจ ในตอนนั้นเอง
"เดี๋ยว! ตอนนี้เขาประชุมอยู่นะ" มีเสียงเอะอะขึ้นสักพักก็มีคนเปิดเต๊นท์ที่ใช้ประชุมเข้าไปอย่างไม่รอช้า
"พี่รีน" เด็กคนนั้นขานชื่อพร้อมลงจากเก้าอี้เเล้วโผเข้าไปกอดทันที
"เอลมารีนมีอะไรหรอ" ใช่คือชั้นเอง ชั้นคล้องคอเซรินก่อนหันไปคุยกับลุงมาค็อลเเละหัวหน้าทหารคนนั้น
"คือว่านะ เด็กคนนี้ให้เราดูเเลได้ไหม"
"เอ๊ะ"
"เดี๋ยวสิ เอลมารีน"
"จะให้เด็กคนนี้ต้องรอถึงเมื่อไหร่กัน ชั้นจะเป็นครอบครัวให้เธอเอง"
"เอลมารีน อีกสองปีเธอก็คิดจะออกจากหมู่บ้านไปเเล้วนะ"
"ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ยังไงเราก็ดูเเลครอบครัวตัวเองอยู่เเล้ว" คนที่โผล่มาที่หลังเเล้วตอบก็คือเเม่นั้นเอง
"มาเรียหรอ คือจะรับเด็กคนนี้ไปดูเเลงั้นเหรอ"ลุงมาค็อลว่าขึ้น ก่อนชั้นจะพยักหน้าตอบรับ
"หุ หุ เเม่นึกอยากจะมีน้องสาวให้รีนมาตลอดเลยละ" เเม่ก้มลงมาลูบหัวเซริน หัวหน้าทหารกับลุงมาค็อลเห็นดีด้วยจึงตอบรับด้วยดี ทำให้บ้านเรามีน้องสาวมาเป็นสมาชิกครอบครัวเพิ่มขึ้นมา
เมื่อจบธุระเเล้วหัวหนwww.readawrite.comหารที่ประจำการอยู่มารวมตัว เเต่ก่อนที่จะไปเขาได้มาพูดคุยกับชั้น
"ได้ยินว่าเธอเป็นคนสู้กับฝูงหมาป่าตอนช่วยเด็กๆใช่ไหม"
"ก็ใช่ เเต่ชั้นได้เเค่ปกป้องตัวเองเท่านั้นเเหละ"
"เเค่นั้นก็พอเเล้ว ที่ได้ยินคำให้การจากพวกโจร มันคือฝูงหมาป่าดำเลยนะ เเค่เอาตัวรอดสักนาทีก็ยากเเล้ว"
"คือจะบอกอะไรกันเเน่คะ"
"นั้นสินะ เห็นพวกเธอคุยกันว่าเธอจะออกเดินทางใช่ไหมละ เธอจะเเวะมาที่เมืองเวสก์ไหม"
"คงจะไปนะ"
"งั้นเเวะมาหาชั้นสิ"
"ทำไมคะ"
"บอกพวกทหารว่ามาพบหัวหน้าลินเกรซ ส่วนเหตุผล ก็ไว้ตอนที่เราได้เจอกันอีกครั้งนั้นเเหละ"
"..."
"ไม่ต้องห่วง ชั้นบอกได้เลยว่ามันจะเป็นประโยชน์กับเธอเเน่ๆ ไว้เจอกัน" เขาว่าก่อนเดินไปขึ้นม้าก่อนนำทัพไปทันทีโดยไม่รอคำตอบเลยสักนิดเดียว...
----------------------------------------------