8

1435 Words
“อะไรนะคะ คุณอรัญญาจะยกเลิกสัญญาร้านหนูหรอคะ” แทบช็อกเมื่อเจ้าของร้านที่ปล่อยให้เช่า จู่ๆ ก็มาขอยกเลิกสัญญากะทันหัน ทั้งที่เธอไม่เคยเบี้ยวหรือจ่ายค่าเช่าล่าช้า ฝ่ายหญิงวัยกลางคนก็ได้แต่ลอบถอนหายใจ ลูกค้ารายนี้จ่ายค่าเช่าตรงเวลา เธอเองก็ไม่อยากทำแบบนี้ ทว่า มันเป็นคำสั่งจากผู้มีอิทธิพล “ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละหนูริน ฉันมีความจำเป็นจริงๆ หนูมีเวลาสามวันเพื่อเก็บข้าวของออกไปจากที่นี่ เข้าใจตรงกันตามนี้นะ” เจ้าของร้านจำเป็นต้องพูดเหมือนคนไม่ไยดีทั้งที่ภายในใจนึกสงสารเมริน ท่าทางของคุณอรัญญา ยิ่งทำให้เมรินงงเข้าไปใหญ่ “เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ มีคนมาขอเช่าที่นี่ให้ราคาดีกว่าหนูเหรอคะ ถ้าคุณอรัญญาจะขอเพิ่มราคาเช่า หนูยินดีจ่ายนะคะ” เมรินได้แต่คิดว่า หรือเพราะมีผู้เช่ารายใหม่ที่ให้ราคาเช่าที่สูงกว่า คุณนายผู้เอื้ออารีถึงได้ออกปากไล่เธอออกอย่างไม่ไยดีแบบนี้ “โอย จะมาเพิ่มเงินอะไรตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอกหนูริน คือ...ฉันขายตึกนี้ไปแล้ว อย่าทำให้ฉันลำบากใจเลยนะ” อรัญญาพูดออกมาด้วยสีหน้าหงุดหงิด แต่คำพูดของนั้นยิ่งทำให้เมรินช็อกเข้าไปใหญ่ สมองมึนงงอยู่นานกว่าจะเรียกสติกลับมาได้แล้วถอนหายใจยาวพรืด เวลานี้ เธอรู้สึกเคว้ง มืดแปดด้าน เพราะงานเข้าแบบไม่ทันได้ตั้งตัว “แล้วแบบนี้ หนูกับลูกจะไปอยู่ที่ไหนล่ะคะ หนูกับลูกอยู่กินที่นี่มาหลายปีจนเป็นเหมือนบ้านไปแล้ว” หากเธอกับลูกต้องหาที่อยู่ใหม่ก็คงลำบากน่าดู เพราะลำพังทุกวันนี้ข้าวของมากมาย ไหนจะเครื่องมือทำมาหากินอีก ทางฝั่งอรัญญา แม้จะสงสารแม่ลูกยังไงก็ยังต้องรับบทโหด กดดันเมรินให้หนักกว่าเดิม “นั่นไม่ใช่ปัญหาของฉันนะ เอาเป็นว่า ฉันมีเวลาให้แค่ 3 วัน จัดการแก้ปัญหาของหนูเองละกัน” คุณนายร่างท้วมพูดจบก็หันหลังให้ รีบเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เมรินต้องปวดหัวกับปัญหาที่เกิดขึ้น หญิงสาวคิดแทบไม่ออกว่าจะหาที่อยู่หรือเช่าร้านที่ไหน เพราะที่นี่ก็ไม่ได้กว้างใหญ่ไพศาลมากนัก ระยะเวลาอันน้อยนิดช่างกดดันเธอเหลือเกิน “นี่มันอะไรกันนี่ ยืนสวยๆ ความซวยก็มาเยือนจนได้” ผ่านมาสองวันแล้วที่เมรินยังคงต้องเก็บข้าวของพร้อมกับหาร้านเช่าใหม่ พริกแกงได้แต่ถามว่า ‘ทำไมคุงแม่ต้องย้ายบ้านด้วย’ เธอตอบลูกสาวแต่เพียงว่าหมดสัญญาเช่าเท่านั้น ตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่วันเดียว ยิ่งคิด ยิ่งเครียดเพราะไม่รู้จะหาที่อยู่ใหม่ได้ยังไง เพราะราคาห้องแถวปล่อยเช่าที่ถามมาก็ราคาแพงเกินกว่าเธอจะรับไหว “วันนี้ ร้านปิดหรอ” เสียงของแขกไม่ได้รับเชิญดังขึ้นมา เมรินหันไปมองเจ้าของร่างสูงที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาในร้านทั้งที่มีป้ายติดว่าวันนี้ร้านปิด แม้คนเป็นแม่จะไม่ยินดีในการมาเยือนของนายเหมืองหนุ่มๆ ขวัญใจสาวๆ ทั้งเมือง แต่สาวน้อยร่างอวบกับวิ่งตรงไปหาเขา “คุงอา สวัสดีค่ะ” พริกแกงหันไปหาเมฆินด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เด็กหนอเด็กเรียกเขาว่าอา แต่หารู้ไม่ว่าชายตรงหน้าคือพ่อของแก ‘โถ...น่ารักเหลือเกิน นางฟ้าตัวน้อยของพ่อ’ เมฆินได้แต่คิดในใจพร้อมกับทักทายพริกแกงด้วยแววตาเอ็นดูเต็มเปี่ยม แม้รู้ว่าถูกสายตาเย็นชาคู่หนึ่งมองจ้องเขม็ง แต่เขาหน้าหนา โนสนโนแคร์ เขาอยากเจอลูกนี่นา ‘หึๆ แต่อีกหน่อย ฉันก็จะได้เจอลูกทุกวัน’ “สวัสดีจ้ะพริกแกง นี่กำลังทำอะไรกันอยู่เหรอ” ประโยคท้ายหันมาถามคนเป็นแม่ “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ วันนี้ ร้านปิดคงไม่สะดวกต้อนรับนายเหมือง” เมรินตอบอย่างเลี่ยงๆ ไม่อยากให้เขาเข้ามายุ่งกับชีวิตของเธอและลูก “มีค่ะ มีเยอะแยะเลยค่ะคุงอา” หนูน้อยพริกแกงซึ่งช่างพูดอดรายงานข่าวร้ายไม่ได้ แม่หนูเท้าสะเอวตันๆ เพราะลึกๆ แกไม่พอใจที่แม่บอกว่า คุณนายเจ้าของร้านให้เราย้ายออกในสามวัน “เรากำลังจะย้ายร้านค่ะคุณอา คุงป้าเจ้าของร้านใจร้าย ให้พวกเราย้ายไปที่อื่นค่ะ” สิ้นเสียงเจื้อยแจ้วนั้นทำเอาคนเป็นแม่อยากหยิกลูกสาวเสียเหลือเกินที่ไปบอกเรื่องในบ้านกับชายหนุ่ม “งั้นหรอ แล้วเธอได้ร้านใหม่หรือยังล่ะ” เมฆินทำเป็นเอ่ยถาม แต่ลึกๆ รู้ดีว่าเมรินคงยังไม่ได้ร้านใหม่ เพราะทั้งหมดมันเป็นแผนของเขาเอง ‘ที่ไหนลองให้เธอเช่าสิ ฉันจะเอาเรื่องให้น่าดู’ คนเอาแต่ใจคิดอยู่ในหัว ถึงใครจะมองว่าใจร้ายก็ได้ แต่เมฆินแค่ต้องการให้สองแม่ลูกไร้หนทางและยอมไปอยู่กับเขา ชายหนุ่มจัดการซื้อตึกนี้ด้วยเงินจำนวนมาก แถมกระจายข่าวไปยังนายทุนหรือเจ้าของตึก ห้าง ร้านต่างๆ ว่า หากเมรินไปขอเช่าก็ให้คิดค่าเช่าราคาสูง หรือจะไม่ปล่อยเช่าก็ได้ ทั้งหมดที่ทำไปก็เพื่อให้หญิงสาวไม่มีทางเลือกและยอมเขาง่ายๆ นั่นเอง “พริกแกงแม่ขอคุยกับคุณอาคนนี้แป๊บนึงนะลูก” เมรินหันไปบอกลูกสาวเพื่อที่จะได้พูดคุยกับเมฆินง่ายๆ “ค่า คุงแม่” หนูน้อยว่าง่าย วิ่งตื๋อไปยังส่วนที่จัดให้เป็นพื้นที่เล่นของตัวเองทันที “นายเหมืองคะ ฉันขอร้องค่ะ นายเหมืองเลิกตามมายุ่งกับฉันและลูกเถอะนะคะ” เมรินเอ่ยตามตรง เพราะไม่เข้าใจว่าเมฆินจะมาหาเธอกับลูกเพื่ออะไร ซ้ำร้ายลึกๆ ก็อดคิดไม่ได้ที่คุณนายเจ้าของร้านขายตึกกะทันหันมันเกี่ยวกับเขาหรือเปล่า “หึๆ ดูเหมือนว่าเธอไม่มีศักยภาพมากพอในการเลี้ยงลูกนะริน ไม่ไหวๆ แบบนี้พริกแกงลำบากเอามากๆ แน่” เมฆินพูดด้วยน้ำเสียงติดเย้ยนิดๆ แม้จะรู้สึกดีกับเมริน แต่ด้วยความเป็นคนปากแข็งจึงไม่อยากบอกเธอตรงๆ ว่าเขาอยากดูแลทั้งเธอและลูก “ฉันเลี้ยงพริกแกงอย่างดีมาตลอดระยะเวลาหลายปี” “แล้วตอนนี้ล่ะ? เธอได้ร้านใหม่แล้วหรอ ที่ซุกหัวนอนมีหรือยัง” ถามอย่างคนเหนือกว่า “กะ ก็เดี๋ยวฉันก็จัดการแก้ปัญหาเองค่ะ นายเหมืองอย่าใส่ใจเลย” เมรินตอบโต้แทบไม่ออก เพราะตอนนี้ เธอยังหาร้านใหม่ไม่ได้ ไม่คิดว่าจะหาเช่าร้านใหม่ยากขนาดนี้ ที่ไหนๆ ก็เต็ม บางที่ทำเลดี ติดป้ายว่าว่าง พอเข้าไปถามเจ้าของกลับบอกว่าไม่ว่าง และก็ไม่รู้ว่าถ้ายังหาร้านไม่ได้ ตนเองกับลูกจะเป็นยังไงต่อไป ขณะกำลังครุ่นคิดว่าจะตอบเขายังไง คนตัวโตที่มองไม่วางตาราวกับจะจับผิดก็รีบพูดขึ้น “อ้อ...พูดแบบนี้ก็แสดงว่ายังหาไม่ได้สินะ เห็นชัดๆ แล้วว่าเธอไม่มีศักยภาพมากพอในการเลี้ยงลูก เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ฉันจะเป็นคนดูแลพริกแกงเอง ในฐานะพ่อของลูก” เมฆินพูดอย่างคนเหนือกว่า อย่างไรเสีย เมรินก็ต้องยอมลงให้เขา ทว่า เสียงหวานรีบค้านขึ้นทันควัน “ไม่ค่ะ ฉันไม่มีทางปล่อยให้ลูกไปอยู่กับนายเหมืองเด็ดขาด” เมรินพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แม้จะรู้ดีว่าลำพังเงินที่มีอยู่และสถานการณ์ตอนนี้ เธอไม่สามารถดูแลพริกแกงได้ดีเท่าไหร่นัก แต่หญิงสาวก็ไม่มีทางปล่อยลูกให้ไปอยู่กับใคร! “ฉันไม่ได้บอกให้เธอทิ้งลูกนะริน แต่ฉันจะให้เธอกับลูกไปอยู่ที่เหมืองของฉัน” คำพูดของเมฆินทำเอาเมรินตาโตทันที เขาไม่ใช่แค่เข้ามาวุ่นวายกับลูก แต่ลามมาถึงเธอแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD