EP 2

1113 Words
“ที่ว่าข่าวดีนี่อะไรเหรอจ๊ะหญิงนุช” หม่อมเจ้าหญิงกัญญาพรนั่งพับเพียบ เอนข้างไปพิงหมอนเผา ด้านหน้าปักด้วยดิ้นทองลายดอกลำพูน ปากก็เอ่ยถามแขกที่ตัวเองไม่ใคร่อยากจะเชิญสักเท่าไหร่นัก เพราะรู้ดีว่าไม่ได้มาหาเพราะคิดถึงหรือเคารพนับถือเลยสักนิด หากแต่เพียงอยากจะโอ้อวดหรือเย้ยหยันตัวเองกับลูกๆ มากกว่า ที่เป็นราชนิกุลประเภท ‘ยอมหักแต่ไม่ยอมงอ’ มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว “อุ๊ย! พี่หญิงรู้แล้วอย่าเอะไปนะคะ” “ไม่หรอกจ้ะ ก็พี่ไม่ค่อยสบาย ออกไปหาใครไม่ได้อยู่แล้ว” แม้จะรู้ดีว่าพอพ้นจากรั้วบ้านไปแล้ว ญาติก็จะเอาข่าวอันน่าอับอายขายขี้หน้าอันควรจะปิดไว้อย่างมิดชิด ไปบอกกล่าวให้ญาติบ้านอื่นต่อไปอีก จนต้องรู้กันถ้วนหน้าว่าลูกสาวตัวเองท้องก่อนแต่งแน่ๆ “ก็พ่อไบรอันน่ะสิคะ ใจร้อนใจเร็ว จนหญิงมีนท้องอ่อนๆ หญิงเลยรีบจัดงานแต่งให้ค่ะ แต่หญิงไม่ได้ถือเป็นเรื่องน่าอับอายตรงไหนนะคะ ก็ในเมื่อเด็กรักกัน อีกอย่างหญิงมีนก็จะสามสิบอยู่แล้ว จบดอกเตอร์แล้ว ตัดสินใจอะไรๆ ได้แล้ว หญิงเลยไม่ว่าค่ะ แล้วหญิงฟ้าเห็นว่าเป็นยังไงจ๊ะ ไม่พูดอะไรเลยเอาแต่นั่งเงียบ” ประโยคคำถามนี้ทำเอา ‘หม่อมราชวงศ์ กัญญ์รวี รัตนนาวี’ หดหู่จิตใจและอับอายอย่างบอกไม่ถูก เมื่อรู้ว่าญาติจงใจจะเย้ยหยันว่า ‘ลูกฉันลงจากคานทองแล้ว’ อดคิดถึงตัวเองไม่ได้ เมื่อปฏิบัติตัวเยี่ยงกุลสตรีที่ดีทุกกระเบียดนิ้ว ตามคำสั่งสอนของพ่อแม่และเสด็จปู่เสด็จย่าเสด็จตาเสด็จยายมาตั้งแต่จำความได้ แต่สุดท้ายความรักนวลสงวนตัว อยู่กับเย้า เฝ้ากับเรือนเพื่อรอให้ราชนิกุลที่เหมาะสมมาสู่ขอไปเป็นศรีภรรยาก็ไม่ได้ให้อะไรเลยนอกจาก ‘สาวแก่ ทึนทึก อืดคับคาน’ ที่ญาติโกโหติกาทั้งของฝ่ายพ่อและฝ่ายแม่แอบเรียกลับหลัง พร้อมกับท่าทีเย้ยหยันเท่านั้น แม้ไม่มีใครพูดตรงๆ แต่ประโยคพวกนี้ก็เป็นเสมือนมีดเชือดเฉือนให้เจ็บแสบได้เป็นอย่างดี จนอยากจะลุกหนีไปที่อื่นให้สิ้นเรื่อง “หญิงถนัดฟังมากกว่าค่ะน้าหญิง” แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากรักษาท่าทีอันสงบนิ่งเอาไว้ “เหรอจ๊ะ น้าก็คิดว่าเบื่อฟังซะแล้ว” อีกคนจีบปากจีบคอพูด แม้จะรู้ดีว่ามีดที่ตัวเองร่อนออกไปนั้นเฉือนเนื้อหนั่งสาวแก่ได้อย่างไม่ต้องสงสัย “ลูกเขยเป็นคนประเทศอะไรจ๊ะหญิงนุช” กัญญาพรสงสารลูกคนโตไม่น้อย เลยรีบช่วยดึงความสนใจของญาติไปหาเรื่องอื่น “อังกฤษค่ะพี่หญิง! และที่สำคัญสุดนะคะ พ่อไบรอันนี่รวยไม่รู้เรื่องเลยค่ะ โชคดีที่น้องใจอ่อนยอมให้ลูกไปเรียนโทกับดอกเตอร์ที่อังกฤษ เลยมีโอกาสได้เปิดโลกกว้าง ได้เจอผู้คนมากมาย และมีผู้ชายมาให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว แต่สุดท้ายก็เป็นพ่อลูกเศรษฐีหมื่นล้านที่ทำกิจการหลายต่อหลายอย่าง แถมรักหญิงมีนจนแทบจะไม่ยอมให้ออกบ้านไปไหนเลยค่ะตอนนี้ กำลังแพ้ท้องด้วย น้องเลยต้องเอาการ์ดมาแจกแทนไงคะพี่หญิง” “ขอบคุณนะที่คิดถึงพี่” “ไม่คิดถึงได้ยังไงคะ ถ้าพี่หญิงไปงานไม่ไหว ก็ให้ชายฟ่างกับหญิงฟ้าไปนะคะ เผื่อบางทีหญิงจะได้แนะนำให้ชายฟ่างรู้จักนักธุรกิจใหญ่ๆ ของอังกฤษบ้าง ไม่แน่นะคะอาจจะมีลู่ทางทำมาหากินอย่างอื่น มากกว่ารับราชการทหารก็ได้ ว่าไงชายฟ่าง! สนใจหรือเปล่าจ๊ะ ถ้าสนอาจจะพาไปหาพ่อไบรอันเลยก็ได้ จะทำอะไรปรึกษาได้เลย” ญาติผู้จ้อไม่หยุดหันไปหา ‘นาวาอากาศตรี หม่อมราชวงศ์กันต์กวี รัตนนาวี’ ที่ยังมีเครื่องแบบปกติสีขาวอยู่ เพราะดูเหมือนญาติจะจงใจมาหาตอนเขาเข้าบ้านได้ไม่นาน และเขาก็รู้ดีว่าการมานั้นมีความเย้ยหยันแอบแฝงอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย และแม้จะไม่ชอบใจในจุดหมายของญาติฝ่ายแม่สักแค่ไหน แต่ความไม่พอใจในค่ำสั่งสอนของปู่ย่าตาทวด กระทั่งมารุ่นพ่อว่าให้รักชาติ รักเกียรติ รักศักดิ์ศรี รักความเป็นราชนิกุลอันสูงส่งของตัวเอง ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดมากกว่า เพราะมันทำให้พ่อไม่สนใจจะทำอะไรมากกว่ารับราชการทหารเรือต่อจากปู่มาอีกทอด โดยพ่อไม่ได้สนใจมองสิ่งรอบตัวว่ากำลังผันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและก้าวหน้าเลยสักนิด เงินเดือนที่ได้กับภาระค่าใช้จ่ายในบ้านไม่มีทางจะเพียงพอ ที่ดินเคยมีตกทอดมาเลยถูกขายเรื่อยๆ ๆ ๆ กระทั่งใกล้จะหมด พ่อถึงเพิ่งได้คิด ว่าราชนิกุลจะต้องหัดทำการค้าการขายควบคู่กับการรับราชการไปด้วย อาคารพาณิชย์แปดคูหา ห่างจากบ้านไปซอยเดียวเลยถูกสร้างขึ้น เพื่อไว้เก็บกินค่าเช่าในอนาคต พอสร้างเสร็จพ่อก็เกิดอุบัติเหตุเสียชาติ ในขณะที่เขาอายุเพิ่งได้สิบสี่ปี พี่สาวเรียนจบมหาวิทยาลัยได้แค่สองปี ส่วนน้องคนเล็ก ที่เป็นลูกหลงเพิ่งได้หกขวบ เขาจำได้ดีว่าแม่ซึ่งเป็นโรคหัวใจช็อกทันทีกับข่าวจนแทบตายตามพ่อไป อีกทั้งพ่อก็ยังวางรากฐานไว้ให้ทุกคนไม่เสร็จ นอกจากตึกชุดเดียว ส่วนแม่ที่ป่วยออดๆ แอดๆ ตั้งแต่ตั้งท้องลูกคนเล็กก็ทำมาค้าขายไม่เป็น นอกจากถูกสั่งสอนมาให้เป็นกุลสตรี คอยปรนนิบัติพัดวีสามียามเหนื่อยเหน็ดจากงานเท่านั้น พี่สาวก็พอกัน สิ่งเดียวที่ทั้งสองช่วยกันทำได้ดี นั่นคือขายที่มาจุนเจือครอบครัวไปทีละแปลงๆ ที่ปลูกบ้านอยู่ทุกวันนี้จากห้าไร่ ก็แบ่งขายเรื่อยๆ ๆ ๆ จนตอนนี้เหลือเพียงไร่เดียว และที่ดินว่างเปล่าแถวระยองซึ่งเป็นแปลงสุดท้ายในมือ แม่กับพี่ก็ขายเอาเงินมาส่งเขาไปเรียนเมืองนอก เพื่อให้ทัดเทียมกับบ้านญาติคนอื่นๆ บ้าง ให้ไม่เสียเกียรติบ้าง ที่จะต้องส่งลูกชายไปร่ำเรียนไกลๆ แล้วกลับมารับราชการที่มีเกียรติมากมายแต่มีเงินเดือนน้อยนิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD