EP 11

1135 Words
และในอีกสามวันต่อมา ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลรัตนนาวี ก็ยังคงนอนเอาแขนก่ายหน้าผากครุ่นคิดถึงทางออกที่ดูเหมือนจะมืดมิดอย่างคนไม่ยอมแพ้ แม้คำปฏิเสธจากผู้ใหญ่ในกองที่อุตส่าห์บากหน้าไปขอความช่วยเหลือจะมีมาด้วยเหตุผลร้อยแปดทุกคนแล้วก็ตาม ‘ในเมื่อไม่มีสมบัติจะให้ขายได้อีก ทำไมคุณไม่ลองมองของมีค่ารอบๆ ตัวล่ะคะ’ เยลหลีเจ้าประจำที่เขามักจะปรับทุกข์ด้วย แม้จะรู้จักกันไม่ถึงหกเดือนด้วยซ้ำ และเป็นหญิงที่ท่านแม่จะตราหน้าว่าชั้นต่ำเพียงแค่ห้านาทีที่ได้เห็นเท่านั้น แต่เขารู้สึกว่าคุยด้วยแล้วผู้หญิงคนนี้มักจะให้แง่คิดได้เสมอๆ ‘ถ้าชีวิตผมยังถือว่าเป็นของมีค่า นี่ล่ะคือสิ่งที่ผมเหลืออยู่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น’ ‘ใครจะอยากได้ชีวิตคุณชายกันล่ะ น้องหญิงของคุณต่างหากที่ฉันพูดถึง ไหนคุณชายบอกว่าแกสวยจะตายไป ทำไมไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์ล่ะคะ ลืมไปแล้วหรือไงว่านารีมีรูปเป็นทรัพย์’ รวมทั้งประโยคนี้ด้วยที่ตัวเขาคิดไม่ถึงหรือไม่เคยคาดคิดหรือไม่มีความคิดนี้อยู่ในสมองมาก่อน แต่!!! มันเป็นอะไรที่น่าเอามาทบทวน มันมีเหตุและผลเหมาะสมสำหรับหนี้ก้อนโตกับระยะเวลาที่หลงเหลืออยู่แค่วันเดียว บวกกับสายตาอันเป็นประกายของสองหนุ่มเจ้าหนี้ที่มีต่อน้องผู้เลอโฉมในวันก่อนด้วย ทว่า!!! ก็ยังมีความลังเลอยู่ในที ด้วยหวาดเกรงว่าถ้าเสนอไปแล้วจะได้รับคำปฏิเสธ เพราะสิงหรัฐไม่ได้แสดงออกให้เห็นเด่นชัดนักว่าพึงใจในตัวน้อง ส่วนอีกหนุ่มไม่บอกก็รู้ว่าน้ำลายแทบหก แต่จะใจใหญ่มากพอที่จะแลกกับหนี้เขาหรือไม่นั่นเป็นอะไรที่เดาไม่ออกจริงๆ ‘หญิงไม่รู้ค่ะพี่ชาย แต่หญิงคิดว่าเพื่อชีวิตของท่านแม่แล้ว หญิงพร้อมที่จะแลกกับทุกอย่างที่มีในชีวิตค่ะ ทุกอย่างจริงๆ’ แม้ไม่แน่ใจในความคิดนี้ แต่คำยืนยันเป็นมั่นเหมาะของน้องก็ช่วยให้เขาใจชื้นขึ้นมาได้ ว่าเปอร์เซ็นต์ยังพอมีแม้จะใกล้วินาทีสุดท้ายแล้วก็ตาม เขาก็จะต้องลอง ต้องดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากปัญหาเหล่านี้ มือถือถูกคว้าขึ้นมากดไปหาจักรวาล เพราะเขาไม่มีเบอร์อีกคน “ผมอยากคุยธุระสำคัญกับคุณสิงหรัฐหน่อยครับคุณจักร พอจะนัดให้ผมไปพบได้หรือเปล่า ที่ไหนก็ได้ขอให้เป็นภายในวันนี้” ‘ธุระที่ว่านั่นเกี่ยวกับการไถ่ถอนหรือเปล่าครับคุณชาย’ “ครับใช่ แต่มีรายละเอียดมากกว่านั้นที่ผมต้องคุยตรงๆ กับคุณสิงหรัฐ และผมต้องการความเป็นส่วนตัวมากครับ” ฝ่ายตรงข้ามเงียบไปครู่หนึ่ง ‘โอเคครับ ผมขอถามเพื่อนก่อน แล้วจะรีบแจ้งไป’   ไม่ถึงสองชั่วโมงเขาก็มายืนอยู่ลานจอดรถโรงแรมหรูหราเรียบร้อยแล้ว เขาไม่รู้ว่าสิงหรัฐเกี่ยวข้องอะไรกับโรงแรมนื้ แต่จากเงินหกสิบล้านที่เขาให้มาบ่งบอกว่าคงไม่ใช่พนักงานธรรมดาแน่ หรืออาจจะเป็นเจ้าของด้วยซ้ำ และหนุ่มสูงศักดิ์ภาวนาให้เป็นอย่างหลัง “คุณสิงหรัฐยังไม่ออกจากห้องประชุมค่ะ รบกวนรอที่ห้องรับรองสักครู่นะคะ” กันต์กวีตามผู้ช่วยเลขาไปยังห้องที่ตกแต่งหรูหราก็ยิ่งใจชื้นขึ้นมาว่าคำภาวนาของตัวเองอาจจะเป็นจริงอยู่บ้าง และหลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เขาถูกสาวคนเดิมพาออกจากชั้นสองขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นสูงสุดของโรงแรมที่ตกแต่งไว้อย่างงดงาม วิจิตรตระการตาด้วยแล้ว ยิ่งมั่นใจว่าเจ้าของเงินคงจะไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ไม่ใช่เจ้าของโรงแรมก็น่าจะมีหุ้นไม่น้อยกว่าครึ่ง ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดีกับน้องที่อย่างน้อยๆ ก็จะได้อยู่ใกล้กับคนมีเงินที่หน้าตาดีพอๆ หรือเหนือกว่าพระเอกหนังซะอีก ด้วยท่าทีเงียบ เรียบ ขรึมของสิงหรัฐที่เขาเห็น คงจะไม่ทำให้น้องเจ็บช้ำน้ำใจด้วยการใช้ความรุนแรงเป็นแน่ และถ้าหากความสวยของน้องจะไม่ไร้ประโยชน์จนเกินไป โอกาสที่จะพิชิตหัวใจของชายหนุ่มย่อมมีความเป็นไปได้เกินครึ่ง แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าถ้าเจ้าของเงินยอม แล้วน้องจะยอมหรือไม่เท่านั้น “คุณชายกำลังบอกผมว่า จะเอาตัวน้องสาวมาไถ่สมบัติอันล้ำค่าอย่างนั้นเหรอครับ นี่ผมกลายเป็นไอ้หื่นกาม เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้ต้องหน้ามืดตามัว พร้อมที่จะเอาเงินตั้งหกสิบล้านเข้าแลกในสายตาคุณชายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” แต่คำพูด สีหน้า และท่าทางของสิงหรัฐกลับทำให้หัวใจหนุ่มสูงศักดิ์แป้วลงในทันที เมื่อจบประโยคบอกเล่าแบบไม่เต็มปากนัก “ผมหาไม่ทัน ไม่มีใครให้ผมยืมแม้แต่คนเดียว” “ได้ข่าวว่าตระกูลพวกคุณร่ำรวย มีสมบัติพัสถานมากมาย ทำไมไม่เอาไปขายล่ะครับ แทนที่จะเอาตัวน้องมาขายให้ผมอยากจะหัวเราะ ทั้งที่ไม่ขำเลยสักนิด” สิงหรัฐจ้องมองชายตรงหน้าด้วยสายตาและท่าทีของคนมีชัยเหนือกว่าอย่างไม่ปิดบัง แต่หนุ่มสูงศักดิ์ก็ไม่อาจจะปล่อยให้เขาข่มขวัญได้ฝ่ายเดียวเช่นกัน จึงยิ้มบางๆ อย่างคนใจเย็นแล้วจ้องมองใบหน้าหล่อของเขาก่อนตัดสินใจเอ่ย “เชื่อเถอะว่าถ้าผมมีทางออกที่ดีกว่านี้ ผมจะไม่เอ่ยประโยคนี้กับคุณเลย ว่าแต่คุณจะตกลงหรือเปล่าล่ะ ถ้าไม่! ผมก็มั่นใจว่าเพื่อนคุณคงจะส่งรถไปรับน้องผมถึงประตูบ้านด้วยซ้ำถ้าผมเอาเรื่องนี้ไปบอก” “มีคำสุภาษิตสำหรับมิตรภาพของผมกับเพื่อนที่ต้องท่องให้ขึ้นใจนั่นก็คือ เราจะไม่เสียเพื่อนเพราะผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่ท่าทีหยิ่งยโส มองพวกเราด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม รังเกียจเดียดฉันท์อย่างน้องคุณด้วยแล้ว เราสองคนยิ่งมองไม่เห็นความสำคัญว่าจะเอาทั้งเงินหรือความเป็นเพื่อนเข้าแลก” “แล้วคุณจะเอายังไงล่ะ หรือผมจะต้องพาน้องไปเสนอตัวให้บรรดาเจ้านายผมในกองที่พร้อมจะควักเงินโดยไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ คิดให้ดีๆ นะคุณสิงหรัฐ” กันต์กวีออกอาการฉุน กับท่าทีเรียบเฉยกระเดียดไปทางไม่สนใจด้วยซ้ำของเขา 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD