หนีออกจากจวน

1393 Words
เสี่ยวชุ่ยกลับมาแล้ว ซ่างกวนหลิวหยางตื่นขึ้นมา ก็พบว่านางดิ้นหันหน้ามาทางเขา มือบางกอดเอวหนาของเขาเอาไว้ ซ่างกวนหลิวหยางหักใจที่จะไม่จูบปากจิ้มลิ้มนั่น สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวก้มลงจุมพิตนาง โจวหว่านถิงกำลังฝันว่าเจ้าชิโรเลียหน้านางอยู่จึงผลักออกก่อนจะดุ " อย่าดื้อสิ ไม่งั้นจะตีให้ตายเลย" จากนั้นก็พลิกตัวหันหลัง เสี่ยวชุ่ยเข้ามาพอดี ซ่างกวนหลิวหยางก็รีบดีดตนเองมานั่งที่โต๊ะแล้วในมือถือหนังสืออยู่ทำท่าว่ากำลังอ่าน เห็นสาวใช้ของนางจ้องมองเขาจึงแปลกใจ "เจ้ามองหน้าข้าทำไม สาวใช้อย่างเจ้ากล้ามองหน้าอ๋องอย่างข้าตรงๆ ไม่กลัวถูกลงโทษหรือไง" "บ่าวไม่กล้าเพคะ แค่อดทึ่งในความสามารถของท่านอ๋องไม่ได้ ท่านอ๋องทรงเก่งกาจยิ่งนัก ขนาดอ่านหนังสือกลับหัวได้ มิน่าคนถึงกล่าวว่าพระองค์เป็นอัจริยะเพคะ" ซ่างกวนหลิวหยางหน้าแดง เด็กบ้านี่เขาจึงวางหนังสือลงจากนั้นก็สบัดแขนเสื้อเดินจากไปไม่ใยดีพวกนางสักนิด อาฝูมารายงานว่าทางสกุลโจวต้องการพบโจวหว่านถิงที่ทำให้ใบหน้าของบุตรสาวต้องเป็นรอย ส่วนสาวใช้ของนางกับสาวใช้ของจวนอ๋องคนนั้นอาฝูจัดการให้เงินครอบครัวพวกนางไปแล้ว แต่ซ่างกวนหลิวหยางบอกให้ส่งของขวัญไปสกุลโจวเป็นการขอโทษแทน ไม่นานข่าวลือเรื่องพระชายาชินอ๋องจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต หึงหวงจนคิดฆ่าได้แม้กระทั่งน้องสาวตนเองก็แพร่ออกไป โจวหว่านถิงนอนพักมาห้าวันแล้ว นางคิดวางแผนหนีไม่สะดวกจริงๆ อีกไม่กี่วันก็งานแต่งแล้วแต่เพราะนางใจร้อน ทำให้ใบหน้าของโจวลิ่วผิงมีบาดแผล หมอบอกว่าต้องใช้เวลาร้อยวันงานแต่งจึงเลื่อนออกไป โจวหว่านถิงรอไม่ได้ ไม่เช่นนั้นท้องคงโย้แล้วจึงเรียกเสี่ยวชุ่ยมาปรึกษา "เสี่ยวชุ่ย พวกเราควรไปจากที่นี่ เจ้าไปหาชุดบ่าวผุ้ชายมาสองชุด แล้วก็ดูว่าพวกเขาจะขนสิ่งปฏิกูลตอนไหน เราจะอาศัยเวลานั้นออกจากจวนไป" "พระชายา แล้วจะไม่ถูกจับได้หรือเพคะ" "ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้ของเหล่านั้นหรอก เสี่ยวชุ่ยข้าปกป้องเจ้าทุกครั้งไม่ได้ หากนางแต่งเข้ามาถึงตอนนั้นเจ้าและข้าก็คงถูกนางรังแกเหมือนที่แม่นางรังแกมารดาข้า เรื่องนี้ต้องรอบคอบอย่าเผยพิรุธ แม้ว่าสี่ห้าวันมานี้ซ่างกวนหลิวหยางจะให้คนส่งอาหารมาให้ทุกวันทุกมื้อ แต่ใช่ว่าเขาจะเปลี่ยนใจไม่เกลียดข้า คงแค่กลัวว่าข้าจะมาตายในจวนเขาต่างหาก " เสียวชุ่ยรับปากโจวหว่านถิง ไม่นานเสี่ยวชุ่ยก็แอบขโมยชุดของบ่าวชายในจวนมาได้สองชุด นางหาเวลาที่บ่าวต้องนำสิ่งปฏิกูลไปเทได้แล้ว พวกเขาจะขนสิ่งปฏิกูลไปตอนกลางยามอิ๋น(ประมาณตี4) สองนายบ่าวเก็บของเท่าที่จำเป็น มีเพียงกล่องไม้เท่านั้นที่โจวหว่านถิงซ่อนไว้อยางดี เสื้อผ้านางไม่เอาไปเอาติดตัวไปแค่คนละชุดเท่านั้น ก่อนจะตกลงกับเสี่ยวชุยว่าอีกสามวันจะหนีออกไป เพราะได้ยินว่าซ่างกวนหลิวหยางต้องประชุมงานและค้างในวัง สามวันต่อมายามอิ๋น สองนายบ่าวแต่งชุดบ่าวรับใช้ชายมายืนรอบ่าวที่มีหน้าที่นำสิ่งปฎิกูลไปทิ้ง ทันทีที่เห็นคนมาใหม่แต่ท่าทางอ้อนแอ้นบ่าวผู้ชายก็เอ่ยถาม "เจ้าเป็นว่ามาใหม่หรือ ชื่ออะไรกันบ้าง" "เอ่อพี่ชายข้าชื่อเสี่ยวจง นี่น้องชายข้าเสี่ยวจิ้งขอรับ พอดีพวกข้ามาจากทางเหนือเพิ่งหายป่วยจึงมาทำนวันแรก เสียงอาจแหบแห้งไปบ้าง แต่ว่าน้องชายข้าเป็นใบ้ขอรับ เขาพูดไม่ได้ แต่ๆได้ยินขอรับ" "อืมๆ ไปๆรีบไปเถอะ เดี๋ยวคนมากนักจะกลับสาย วันนี้ท่านอ๋องจะกลับจากในวังต้องรีบให้เสร็จงานก่อนพระองค์กลับมา" ทั้งสี่คนช่วยกันเข็ญรถที่ใส่สิ่งปฏิกูลไปตามทางกลิ่นชวนอาเจียนยิ่งนัก โจวหว่านถิงแทบไม่ไหวอยากอาเจียนเหลือทน นางแพ้ท้องหนักมากแต่พยายามอดทนจนในที่สุดก็มาถึงที่ชะล้างและเททิ้ง นางจึงหันกลับมาหาเสี่ยวชุ่ย มีบ่าวจากจวนอื่นมาเช่นกัน บ่าวของจวนชินอ๋องเจอคนรู้จักก็ชวนคุย นางกับเสี่ยวชุ่ยจึงค่อยๆถอนตัวออกมาอย่างแนบเนียน ไม่ช้าก็มาถึงตรอกเล็กๆ ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าจากบ่าวในจวนชินอ๋องเป็นบัณฑิตหน้าใสสองคน มีหนังสือกับถือพัดในมือ ก่อนจะออกมาหาซื้อซาลาเปาเอาไว้เป็นเสบียง ประตูเมืองเปิดแล้ว ผู้คนกำลังต่อแถวเพื่อออกจากเมือง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจนมาถึงทั้งคู่เขาถามนางว่าจะไปไหนอีกทั้งเดินมาทางเสี่ยวชุ่ยที่ยืนอยู่ "พี่ชาย แค่กๆๆข้าป่วยน่ะขอรับแค่กๆๆ ทางสำนักสึกษาไม่อนุญาตให้ข้าพักต่อเพราะเกรงว่าจะติดเพื่อนนักเรียนคนอื่น แค่กๆๆๆๆ เด็กคนนี้เขาเป็นบ่าวติดตามของข้าแต่ว่าเขาพูดไม่ได้ขอรับแค่กๆๆๆ" โจวหว่านถิงแสร้งไอหนักมาก จนเจ้าหน้าที่ต้องรีบให้ผ่านด่านเพราะว่าไม่อยากติดโรคร้ายแรงไปด้วย เป็นเพราะนางแพ้ท้องอย่างหนักหน้าจึงซีดเซียว ทำให้อาการแสร้งป่วยจึงสมจริงมากยิ่งขึ้น ไม่นานสองนายบ่าวก็มาถึงท่าเรือ วันที่จัดการสาวใช้กับโจวลิ่วผิงนั้น นางแอบมือไวคว้าเอาปิ่นเงินกับกำไลหยกของพวกนางมาได้ พอร้านรับจำนำเปิดจึงรีบไปแลกเงินทันที โจวหว่านถิงแยกกันไปกับเสี่ยวชุยสุดท้ายได้เงินมารวมกันเกือบสองร้อยตำลึง จึงแบ่งมาเป็นตั๋วเงินใบละสิบตำลึงและห้าตำลึงกับแลกเหรียญอีแปะไว้สองตำลึง ยามเฉินเรือเที่ยวแรกก็ออกจากท่า เรือลำนี้เดินทางไปเมืองจ้านเจี้ยน นางจะไปเมืองผิงอันต้องไปเปลี่ยนเรือจากเมืองจ้านเจี้ยนไปลงเรือที่เมืองตงหลิงเพื่อไปเมืองผิงอัน หากไปทางบกแล้วซ่างกวนหลิวหยางรู้ว่านางหนีออกจากจวนเขาอาจตามทัน เรืออาจใช้เวลาสองเดือนครึ่งกว่าจะถึงผิงอัน หากเป็นทางบกใช้เวลาเพียงครึ่งเดือนเท่านั้น สองนายบ่าวอยู่ในห้องธรรมดา ไม่หรูหราไม่ยากจน ถึงเวลาอาหารก็ออกมารับเดินทางมาได้สามวันแล้วอีกเจ็ดวันก็จะถึงเมืองจ้านเจี้ยน โจวหว่านถิงไม่รู้เลยว่าตอนนี้จวนอ๋องลุกเป็นไฟแล้ว บ่าวไพร่แทบเข้าหน้าไม่ติด เมียเขาหนีไม่พอยังทิ้งใบหย่าไว้ให้ ยิ่งกว่านั้นใบสั่งยาที่อาฝูเก็บมาจากโรงเตี้ยมคือใบสั่งยาของหยวนซานไห่อีกใบ "ว่าอย่างไร เอาไปให้หยวนซานไห่ดูแล้วเขาว่าอย่างไร" ซ่างกวนหลิวหยางถามองครักษ์คนสนิท อาฝูกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเอ่ย "ทูลท่านอ๋องหยวนซานไห่ตอบว่าเป็นยาบำรุงครรภ์พ่ะย่ะค่ะ พระชายาบอกกับเขาว่านางหย่าขาดกับพระองค์แล้ว หากพระองค์รู้ว่านางตั้งครรภ์ย่อมไม่ต้องการให้นางอุ้มชูสายเลือดของพระองค์ หยวนซานไห่สงสารเด็กที่ยังไม่เกิดจะต้องมาถูกฆ่าตายจึงปิดเรื่องนี้ให้พระชายาพ่ะย่ะค่ะ" "นางกล้าจริงๆ เขียนใบหย่าให้ข้า ขโมยลูกข้าอีกโจวหว่านถิงเจอเจ้าเมื่อไหร่จะให้เจ้าร้องขอเลยเชียวสั่งคนหานางให้ทั่วเมืองหลวง" อาฝูไปแล้วซ่างกวนหลิวหยางกำใบสั่งยาแน่น "แม่ตัวดี หาเจ้าเจอเมื่อไหร่จะทำให้เจ้าคลอดบุตรให้ข้าสักสิบคน กล้าขโมยลูกข้าหรือโจวหว่านถิง เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD