อัจฉริยะที่ไหนกัน เห็นแต่บุรุษโง่งม

1380 Words
พูดจบหลี่หว่าถิงก็เดินเข้าไปในบ้านเพื่อนำชุดแต่งงานออกมา เป็นชุดสีแดงปักด้วยไหมสีทอง ลายปักเป็นดอกเหมยเล็กๆตรงชายกระโปรง ด้านบนเป็นรูปหงส์ หากใส่แล้วยามก้าวเดินจะยิ่งดูสง่างามยิ่งนัก ส่วนอีกชุดเป้นสีแดงผสมสีเขียว ตัดเย็บตามแบบสมัยปัจจุบันที่นางจากมา ไม่รุ่มร่ามแขนเสื้อพอดีตัวคนใส่ เอวเล็กๆปักด้วยด้ายสีทอง มองแล้วงามทั้งสองชุด เหลียนจางหมิ่นเองเป็นบุรุษยังตะลึงกับความงามของชุดเลย "ข้าต้องการทั้งสองชุด รบกวนท่านคิดราคามาเถอะอาซ้อ" "สองชุดนี้ใช้ผ้าและไหมอย่างดี ข้าลงรายละเอียดเองทุกฝีเข็ม ใช้เวลาแต่ละชุดนานหนึ่งเดือน ใต้เท้าข้าขายแพงนะท่านเลือกเอาเพียงหนึ่งชุดเถอะ" "ข้าให้ท่านหนึ่งแสนตำลึง ข้าเชื่อว่าท่านตั้งใจทำมันจริงๆ เอ่อหลี่ไฉ่เหยีนนอภัยด้วยนะแต่ข้าคงต้องตัดหน้าเจ้าเสียแล้ว ไว้เจ้าหาเจ้าบ่าวได้ข้าจะจ่ายค่าชุดแต่งงานใหม่ให้เจ้าเอง" "ใครบอกว่าข้าจะแต่งงานกัน นี่ท่านลุงท่านอย่ามาเพ้อเจ้อแถวนี้ รีบๆจ่ายเงินน้องสาวข้าแล้วก็รีบกลับไปได้แล้ว ข้ามีงานต้องทำ ไม่ว่างรับรองใครทั้งนั้น ข้าไม่ใช่พวกนั่งกินเบี้ยหวัดไปวันๆแล้วเอาแต่นังชนจอกท่องกลอน ขี่ม้าไล่ชนคน" หลี่หว่านถิงอึ้งในสายตาของใต้เท้าคนนี้จริงๆ สองชุดนนี้นางตั้งใจขายที่ห้าหมื่นตำลึงจริงๆ เพราะพี่สาวตัวดีไล่ตีแม่สื่อกลับไปแล้วถึงสามคน นางจึงตั้งใจจะส่งไปโรงประมูลในเดือนหน้าแต่ตอนนี้ได้น้อยกว่าราคาประมูลก็ช่างเถอะ อย่างน้อยลงทุนแค่สองพันตำลึงต่อชุด ได้มาหนึ่งแสนตำลึง แค่นี้ก็คุ้มแล้ว ที่สำคัญยังตัดเส้นทางการค้าสกุลเยี่ยได้อีก เยี่ยเยี่ยนหรันโจวจื่อเมิ่ง โจวจื่อทง ข้าจะทำให้พวกเจ้าล่มจมทีละน้อยๆ "ใต้เท้า ข้าใส่กล่องไม้อย่างดี อีกทั้งอบด้วยกลีบดอกไม้หอมท่านนำกลับไปเถอะเจ้าค่ะ นี่เป็นชาดอกเหมยกุ้ย นี่เป็นชาเกสรดอกเหลียนฮวา กับลูกพลับตากแห้ง ได้ยินว่าสกุลเหลียนทำการค้าเกี่ยวกับธัญพืชและของอบแห้งหรือเจ้าคะ นี่เป็นบ๊วยสามรส ส่วนนี่บ๊วยดองแบบเผ็ด ส่วนนี่เป็นลูกท้อแช่อิ่ม หากท่านทานแล้วติดใจอยากรับไปวางขายข้าก็ยินดีผลิตส่งเจ้าค่ะ" "ขอบคุณอาซ้อมาก เช่นนั้นข้าลาแล้ว" เหลียนจางหมิ่นกลับไปแล้ว หลี่ไฉ่เหยียนอยากขึ้นเขาด้วย แต่ว่าท่านปู่ไม่อยู่บ้านเลยไม่มีใครอยู่ที่เรือน หากชาวบ้านมีเรื่องอันใดนางจำเป็นต้องรับหน้าก่อน หลี่ไฉ่เหยียนกลับบ้านไปแล้ว หลี่ว่านถิงรู้มาว่าตระกูลเหลียนแห่งนี้เป็นตระกูลมาจากเมืองหลวง ใหญ่กว่าตระกูลโจวมากนัก หากสามารถเป็นคู่ค้าได้ นางก็มีวิธีทำให้ตระกูลโจวล่มสลายทางธุรกิจได้อย่าง่ายดาย อีกทั้งตระกูลที่น้องสาวของเหลียนจางหมิ่นแต่งงานด้วยนั้นคือคุณชายสกุลฉี บุตรชายคนโตเจ้ากรมการคลังฉีลู่เปียวศัตรูคนสำคัญของสกุลโจว "โจวจื่อทงแม้ว่าคนที่ถูกเตะจะเป็นโจวหว่านถิงคนเดิม แต่ข้าก็ไม่ปล่อยเจ้าแน่ โจวจื่อเมิ่งบิดาสุนัขเช่นเจ้าข้าจะให้เจ้ามองดูตระกูลตัวเองล่มสลาย หลอกมารดาข้าให้ขายที่ดินเอาเงินเดินทางมาสอบจอหงวน ได้ดีแล้วทอดทิ้งนาง แต่งเยี่ยเยี่ยนหรันเข้ามารุมกันรังแกมารดาข้า หากเจ้าไม่กระอักเลือดตายต่อหน้าหลุมศพมารดาข้าๆคงตายตาไม่หลับจริงๆ" ขบวนเดินทางของซ่างกวนหลิวหยางกำลังเดินทางกลับเมืองหลวง เขาเจรจาคุยเรื่อการเปิดตลาดม้าเรียบร้อยแล้ว เดิมทีว่าจะตามหานางอีกสักหน่อย แต่เพราะฮ่องเต้มีคำสั่งให้กลับเมืองหลวงด่วนเขาจึงจำเป็นต้องกลับ เขาออกจากเมืองหลวงมาเกือบสี่ปีแล้ว เปิดตลาดม้าเรียบร้อยก็ไปเจรจาเรื่องการค้าขายแร่เหล็ก และแร่เงินกับทางแคว้นฉู่ "ท่านอ๋องทรงตามหามาทุกที่แล้วแต่ไม่เจอพระชายาเลยนะพ่ะย่ะค่ะ เราไปทุกแคว้นแล้ว หรือจริงๆแล้วว่านางไม่ได้ออกจากต้าเย่ว" "ห่าวหราน เจ้าว่าที่ผ่านมาข้าทำผิดมากหรือไม่ ที่ปล่อยปะละเลยจนนางถูกทำร้ายหลายครั้ง เจ้าว่านางจะเกลียดข้าหรือไม่" "ท่านอ๋อง ทรงรักพระชายาหรือเปล่าพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมอยากรู้จริงๆ หากไม่รักแค่ปล่อยไปนางไปก้พอ เด็กในครรภ์นางถึงจะเป็นสายเลือดราชวงศ์ แต่หากพระองค์ไม่สนใจคนอื่นก็ไม่สนใจเช่นกัน เหตุใดต้องลำบากตามหานางมานานเพียงนี้ เว้นเสียแต่ทรงรักนาง" ถังห่าวหรานได้ยินว่าชินอ๋องเกลียดพระชายาตนเอง เพราะทำให้คู่รักวัยเด็กของเขาตาย แต่ผ่านมาเกือบสี่ปีเขากลับตามหานางไม่หยุด เขาเกลียดนางแบบใด หากอยากมีบุตรจริงๆ เหล่าคุณหนูมากมายพร้อมใจกันเสนอตัวให้เขาด้วยซ้ำ ซ่างกวนหลิวหยางไม่ตอบคำถามสหายสนิท เขาเดินไปอีกทางรักหรือเขาไม่เคยรักนาง แค่อยากให้นางรู้ว่าเขาต่างหากที่มีสิทธิ์หย่านางและทอดทิ้งนาง ไม่ใช่นางเป็นฝ่ายทิ้งเขา อาฝูแอบกระซิบกับถังห่าวหรานเบาๆ "คุณชายถัง ตอนเด็กพระชายาถูกตีท่านอ๋องจะให้คนส่งยาไปให้ ตอนที่นางถูกสั่งให้คัดหนังสือท่านอ๋องจะแอบส่งเตาอุ่นไปให้ อีกอย่างตอนที่แต่งงาน แม่จะสั่งให้นางไปอยู่เรือนร้างก็ยังสั่งองครักษ์เงา แอบเอาหมั่นโถว ซาลาเปาไปแอบวางไว้ให้ตลอด แบบนี้เรียกเกลียดไหมขอรับ" "ไหนกันอาฝูบุรุษอันดับหนึ่งในใต้หล้า ข้าเห็นแต่บุรุษโง่งมคนนึง รักนางแท้ๆแต่ปากอย่างใจอย่าง รังแกนางสารพัดเรียกร้องให้นางสนใจตนเอง ปากบอกเกลียดๆ จนป่านนี้ยังไม่รู้ตัวอีกว่าคนที่อยู่ในใจตนเองคือโจวหว่านถิงไม่ใช่ชิงเสี่ยวหว่าน" "เฮ้อ กลับเมืองหลวงคราวนี้ไม่รู้ว่าจะได้ออกตามหาอีกตอนไหนขอรับ" "เมียหอบลูกในท้องหนีไปแล้วค่อยมารู้สึก ข้าไม่มีความสงสารให้เจ้านายเจ้าหรอกอาฝู ฉลาดทุกเรื่องยกเว้นเรื่องผู้หญิง" ถังห่าาวหรานคุยกับอาฝูอยู่ พอดีที่ซ่างกวนหลิวหยางเดินกลับมาทั้งคู้จึงหยุดพูด ได้แต่มองตามแล้วก็สบตากันส่ายหน้า เฮ้อหากพระชายาเกิดไปถูกใจบุรุษคนอื่นแล้วให้เป็นพ่อของลูกไปแล้ว ท่านอ๋องไม่ฆ่าบุรุษคนนั้นล้างตระกูลเลยหรือ ช่างเป็นบุรุษปากไม่ตรงกับใจจริงๆ "ท่านอ๋อง อีกสามวันพวกเราก็ถึงเมืองหลงแล้ว ทรงคิดไว้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ จะตามหาต่อหรือไม่" "ตาม ต้องตามหานางให้เจอ เสด็จพ่อกับเสด็จปู่มีราชโองการไว้ หากใครได้บุตรสาวหรือหลานสาวจะได้ครองแปดมณฑลฝั่งตะวันออกทั้งหมด หากนางคลอดบุตรชายข้าไม่กังวล อย่างไรก็ไม่มีใครคิดเอาชีวิตนางกับลูก แต่หากเป็นบุตรสาวนางกับลูกก็มีอันตราย" "ท่านอ๋องทรงคิดไหมพ่ะย่ะค่ะว่าบางทีการที่พระชายาหนีไปอาจเป็นเรื่องดี เพราะอย่างน้อยก็ไม่มีใครรู้ว่านางตั้งครรภ์ อีกอย่างพระองค์ทรงประกาศเองว่าไล่นางไปสำนึกตนทบทวนความผิดที่สุสานบรรพบุรุษ" "ต่อให้บรรดาบุตรชายของเสด็จพี่มีบุตรสาวอย่างไรเสียก็คงเป็นแผ่นดินของพระองค์ แต่หากเป็นข้ามีบุตรสาว นั่นหมายถึงอำนาจฮ่องเต้สั่นคลอนแน่นอน ข้ารู้ว่าเสด็จพี่ไม่ได้ระแวงข้า แต่บรรดาตระกูลของเหล่ากุ้ยเฟยต่างๆคงไม่นิ่งนอนใจ ใครก็ต้องการให้บุตรตนเป็นคนได้มา"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD