ทะลุมิติแบบงงๆ1

1751 Words
ตื๊ดดดดดดด เสียงมือถือดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง โจวหว่านถิงงัวเงียควานหามือถือบนหัวเตียง ก่อนจะกดรับสาย "ฮัลโหล อืมอาหงเหรอ มีอะไรง่วงอยู่ ห๊ะ!! จริงเหรอเครๆขออาบน้ำแป๊บอีกชั่วโมงเจอกัน" โจวหว่านถิงเป็นดีไซเนอร์สมัครเล่น งานประจำคือเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนเล็กๆแห่งหนึ่ง และเพิ่งถูกไล่ออกเพราะไปต่อยลูกชายเจ้าของบริษัทที่มาทำอนาจารจับนมเธอ เนื่องจากตกงานพี่ชายจึงมารับแม่ไปอยู่ด้วยเพราะพี่สะใภ้คลอดพอดีจะได้ช่วยเลี้ยงหลาน โจวหว่านถิงจึงหาเรื่องผ่อนคลายเพราะเธอได้เงินจากการออกแบบชุดราตรีสั้นและเครื่องประดับยกเซ็ท ก่อนจะกลับมาลุยหางานใหม่ทีหลัง เธอเพิ่งจะอายุยี่สิบแปด ยังมีความสามารถมากมายที่เข้าตาบริษัทชั้นนำ ตอนแรกว่ารีแลกซ์บินไปเที่ยวพม่าสักสามวันและข้ามมาเที่ยวและพักยาวๆที่เมืองไทยสักเดือนนึง แต่กลับได้ทริปเรือสำราญฟรีๆก็เอาสิ ค่าตั๋วไม่ใช่ถูกๆ ไปล่องเรือดีกว่า มีเงินเก็บอยู่แปดแสนหยวน ได้มาอีกสองแสนเที่ยวให้ลืมทุกข์ไปเลย เผื่อจะได้ผู้ชายสักคนมาตกล่องปล่องชิ้น สามวันต่อมา โจวหว่านถิงกับบหลี่หงก็มาถึงโรงแรมที่พัก พรุ่งนี้ต้องขึ้นเรือแล้วทั้งสองคนตื่นเต้นไม่น้อย ก่อนจะพากันเข้าโรงแรม "นี่เสี่ยวถิง ฉับขอบใจเธอมากเลยนะที่ชวนฉันมาด้วย ความจริงแค่ลำพังค่าเช่าบ้าน ยังแทบจะหาลำบาก ฉันก็คงไม่มีปัญญามาเที่ยวแบบนี้หรอก" "เอาน่า เธอเป็นเพื่อนคนเดียวของฉันนี่ อีกสามวันเป็นวันเกิดของฉัน ถือซะว่าหล่อนมาฉลองวันเกิดฉันไงย่ะ" สองสาวหัวเราะให้กัน หลี่หงนั้นฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี เธอเป็นเพื่อนเรียนกับโจวหว่านถิงมาตั้งแต่มัธยม ทั้งคู่สนิทกันมากโจวหว่านถิงมักช่วยเหลือเพื่อนคนนี้เสมอมา แปดโมงเช้า โจวหว่านถิงกับหลี่หงต่อแถวเช็คตั๋วเพื่อขึ้นเรือ ไม่นานก็มาถึงคิวพวกเธอ จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่พาไปยังห้องพัก เมื่อสองสาวเห็นห้องพักก็ตาโต มันสวยงามมากเรือรำนี้สัญชาติยุโรป จะไปแถบแสกนดิเนเวียใช้เวลาเดินทางไปกลับสี่เดือน "ห้องพักหรูมาก ยายเกี้ยวไปกินข้าวกัน เขาว่าบนเรือมีอาหารทุกสัญชาติ ฉันพลาดไปเที่ยวเมืองไทยแล้วไปหาผัดไทยกับอาหารเวียดนามกินกันดีกว่า" "อืมไปสิ อิ่มแล้วจะได้ไปนั่งเล่นแถวดาดฟ้าของเรือ เขาว่ากลางคืนกลางทะเลท้องฟ้าสวยมาก เพราะมันไม่มีแสงจากไฟนีออน" สองสาวพากันไปกินอาหารจากนั้นก็ไปนั่งเล่นที่ดาดฟ้าของเรือ พวกเธอมักจะมาดูดาวทุกคืน สามวันผ่านมาแล้วคืนนี้นี้ทางเรือได้จัดวันเกิดเล็กๆให้กับเธอเพื่อเป็นของขวัญ โจวหว่านถิงน้ำตาซึม เมื่อเช้าแม่กับพี่ชายโทรมาอวยพรวันเกิดบอกให้เธอเที่ยวให้สนุก "ขอบคุณทุกคนมากนะคะ ฉันขอดื่มให้กับทุกคนเลยค่ะ" สักพักเห็นต้นเรือวิ่งกระหืดกระหอบมาหากัปตันเรือ โจวหว่านถิงเห้นสีหน้าเขาไม่ดีหลังจากที่ต้นเรือกระซิบบางอย่าง "เอ่อ ทุกท่านขอขัดความสนุกก่อนนะครับ ผมอยากให้ทุกคนลงไปยังห้องพักก่อนนะครับ พอดีทางชายฝั่งแจ้งว่ามีพายุกำลังมาทางนี้ครับ โอ๊ะ รีบหน่อยครับเหมือนเขาจะเตือนเราช้าไปหน่อย พายุมาแล้วครับ" ทุกคนถูกลมพัดแรงจนต้องเกาะเสาเรือ เกาะขอบกั้นเรือแน่น โจวหว่านถิงถูกคนชนจนล้มลง หลี่หงคลานมาหา แต่โจวหว่านถิงเห็นภาพเพื่อนเลือนลาง แต่กลับเห็นฉากบ้านเรือนโบราณชัดขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะสลัดศีรษะเอาภาพหลอนนั้นออกไป คว้ามือถือได้ก็รีบกดโอนเงินให้คุณแม่ทั้งหมดแปดแสนและโอนให้หลี่หงสองแสน คิดไว้หากเธอไม่รอดแม่จะได้ไม่ลำบาก จากนั้นก็ประคองตัวเองเพื่อลงมาจากดาดฟ้าของเรือ แต่กับถูกคนชนจนเธอเซไปชนเข้าขอบกั้นเรือและถูกเบียดจากฝูงชนที่พยายามแย่งกันลงบันไดไปด้านล่าง โจวหว่านถิงถูกชนจนตกลงไปในทะเลโดยไม่มีใครเห็น ไม่นานพายุก็ผ่านไปเหมือนกับว่าเมื่อสักครู่ไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้น หลี่หงมองหาเพื่อนก็ไม่เจอเห็นแต่มือถือตกอยู่ ได้ยินเสียงเรียกเข้าจึงรับสาย เป็นคุณแม่ของโจวหว่านถิงถาวว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่าอยู่ๆโอนเงินมาให้แม่หมดบัญชี แล้วจะเอาที่ไหนใช้ หลี่หงที่กำลังงงอยู่ก็มีข้อความแจ้งเตือนว่าโจวหว่านถิงโอนเงินให้เธอเช่นกัน พร้อมกับข้อความที่ว่า หากฉันไม่รอดเธออย่าลืมมาไหว้หลุมศพฉันนะ หลี่หงร้องไห้โฮตามหาเพื่อนทั่วเรือ แต่ไม่พบจนมีคนเห็นผ้าพันคอลอยอยู่ในทะเลจึงรู้ว่ามีคนตกลงไป ไม่สามารถให้เจ้าหน้าที่ค้นหาได้ ดูเหมือนว่าความลึกของทะเลไม่สามารถค้นหาและงมร่างเธอขึ้นมาได้ ทุกคนบนเรือไว้อาลัย พร้อมกับโปรยดอกไม้ให้กับเธอ ลาก่อนโจวหว่านถิงขอจงสถิตถ์อยูบนสวรรค์ ทะเลสาปซีหูแแคว้นต้าเย่ ในทะเลสาปมีสตรีร่างหนึ่งกำลังโผล่จากน้ำ เงยหน้าหายใจเฮือกใหญ่สูดเอาอากาศรอบข้างมาจนหมด ก่อนจะค่อยๆว่ายเข้าฝั่ง พอขึ้นมาได้ก็นอนแผ่หลาหมดแรง "โอ๊ย ฉันลอยมาติดเกาะหรือ แต่เอทำไมน้ำทะเลจืดจังวะ แค่กๆ อื้อ ปวดหัวมากเลยโอ๊ยใครอีกวะเนี่ย อื้อ" โจวหว่านถิงลุกขึ้นนั่งเอามือกุมศรีษะ ก่อนจะมีภาพฉายไปมาถึงสตรีอีกคนที่ใบหน้าคล้ายเธอและชื่อเดียวกับเธอ ภาพวัยเด็กภาพชีวิตประจำวัน ภาพการสุดท้ายคืองานแต่งงานที่เจ้าบ่าวไม่เต็มใจ ตอนเข้าหอเขาผลักร่างนั้นกระเด็นก่อนจะเตะซ้ำจนเธอสลบ แล้วเขาก็ขับไล่ไปอยู่เรือนล้าง เมื่อเช้าเขาบอกให้คนมาบอกว่าจะส่งหนังสือหย่ามาให้ทั้งที่เพิ่งแต่งงานได้สามเดือน ร่างนี้จึงจึงอาละวาด ให้วันนี้มีเหล่าคุณชายคุณหนูมาล่องเรือชมจันทร์ โจวหว่านถิงคนนั้นเรียกร้องความสนใจจากชินอ๋องผู้เป็นสามี จึงแกล้งกระโดดลงทะเลสาป แต่น้ำใต้ล่างนั้นเย็นเฉียบ ไม่มีใครสนใจนางสักคนทุกคนเห็นนางเป็นตัวประหลาด ต่างก้หัวเราะเยาะที่นางซุ่มซ่าม สุดท้ายด้วยความที่ว่ายน้ำไม่เป็นและความเย็นของน้ำนางก็จากไปจริงๆ จนวิญญานของโจวหว่าถิงที่ตกเรือสำราญเข้ามาแทนที่ เสียงทรงอำนาจเรียกชื่อเธอดังลั่น อีกครั้งเพราะเธเอไม่ได้สนใจเขา แต่น้ำเสียงไม่เป็นนมิตรเท่าที่ควร โจวหว่านถิงจึงหันมาดู พอหันหน้ามาก็เห็นแต่คนแต่งชุดโบราณเต็มไปหมด มีทั้งผู้หญิง มีทั้งผู้ชาย แปลว่าเธอทะลุมิติมาจริงๆ วิญญาณมาอาศัยร่างคนอื่นงั้นหรือ ท้องฟ้ายามค่ำคืนในยุคโบราณนั้นมืดมิดจริงๆ มีโคมไฟห้อยอยู่เต็มไปหมด จะว่าสวยก็สวย แต่ตอนนี้เธอไม่ไหวแล้ว กระแสน้ำใต้ล่างทำให้ร่างนี้กำลังป่วย ฮัดเช้ยๆๆ ผู้ชายที่เรียกชื่อเธอคือสามีสารเลวของเจ้าของร่างนี้ คนที่เตะนางในคืนแต่งงานจนกระอักเลือด เขาเกลียดเจ้าของร่างนี้ที่วัยเยาว์ผลักคนรักตอนเด็กของเขาตกน้ำจนนางป่วยตาย แต่จากความทรงจำของร่างนี้ วันนั้นนางไม่ได้อยู่ที่นั่นนี่นา "โจวหว่านถิง เจ้ามันสตรีร้อยเล่ห์ข้าคิดถูกที่หย่ากับเจ้า" ซ่างกวนหลิวหยางเอ่ยแก่สตรีที่เพิ่งว่ายน้ำเข้าฝั่งมา เขานั่งลงใช้มือที่หนาบีบคางนางก่อนจะเอ่ยลอดไรฟัน "ข้าจะแต่งกับโจวลิ่วผิงน้องสาวเจ้า แม้ว่านางจะเป็นเพียงบุตรอนุก็ยังดีกว่าสตรีร้ายกาจเช่นเจ้า เทียบกับน้องสาวเจ้าๆ นับเป็นตัวอะไร ผู้หญิงใจง่าย อยากปีนขึ้นเตียงข้าไม่ส่องดูสารรูปเจ้าในกระโถนเสียเล่าโจวหว่านถิง" โจวหว่านถิงที่ลำดับความจำเรียบร้อยก็แกะมือเขาออก มองหน้าคนตัวโตอย่างรังเกียจ เธอเกลียดพวกที่ไร้เหตุผลและชอบใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง ผู้ชายคนนี้ไม่คู่ควรกับร่างนี้ หย่านั่นแหละดีแล้ว จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน แม้จะเริ่มหนาวสั่นจากอาการไข้แต่ก็ยังคนยืนหลังตรง ซ่างกวนหลิวหยางงงเล็กน้อย ปกตินางเสแสร้งมารยาจะอ่อนแอต่อหน้าเขา "ท่านพูดว่าจะหย่ามากี่ครั้งแล้ว ลูกผู้ชายคำพูดมีค่าดั่งทอง ทำให้จริงสักที ถ้างานมากนักข้าช่วยท่านฝนหมึกก็ได้นะ ข้าเขียนหนังสือเป็นท่านแค่ประทับตราลงนามก็พอ เอาล่ะข้าจะกลับไปเขียนหนังสือหย่า ท่านก็รีบกลับไปรับรองใบหย่าให้ข้าด้วยล่ะ ซ่างกวนหลิวหยาง" โจวหว่านถิงกระชากมือกลับ ก่อนจะสาวเท้าไปไม่ใยดีเขาเหมือนเคย ปกติต้องร้องห่มร้องไห้แล้วที่เขาเฉยชา หรือพูดถึงสตรีอื่นเกิดอะไรขึ้นกับนาง วันนี้นางเป็นนอะไรไป เสี่ยวชุ่ยเดินตามแต่เห็นเจ้านายไม่สนใจชินอ๋องก็งง ปกติพระชายารักชินอ๋องมากนี่นา จึงสงสัย "พระชายา ปกติท่านรักท่านอ๋องมากนี่เพคะ เหตุใดจะหย่าเสียเล่า เมื่อเช้าท่านยังร้องไห้เสียใจอยู่เลย" "เสี่ยวชุ่ยตอนตกน้ำไปใต้ล่างนั้นเย็นเฉียบเหมือนเข็มหมื่นเล่มแสนเล่มมาทิ่มแทงข้าเจ็บปวดนัก ทำให้ข้าได้สติขึ้นมาจึงนึกได้ ที่ข้าควรรักคือตัวเองอย่าเอาชีวิตที่มีคุณค่า ไปให้ใจคนไร้ค่าอย่างซ่างกวนหลิวหยาง"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD