เพื่อนใหม่คนแรก

1405 Words
เมืองผิงอัน โจวหว่านถิงมาถึงเมืองผิงอันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นางพักอยู่โรงเตี้ยมพรุ่งนี้จะเข้าตำบลซานซานก่อนจะเดินทางไปหมู่บ้านเสวียนหยาง เสี่ยวชุ่ยนอนหลับไปแล้ว ตอนนี้เงินที่เอาปิ่นกับกำไลหยกไปขายเหลืออยู่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบตำลึง โจวหว่านถิงอยากหาเงินสักก้อนก่อนไปหมู่บ้านเสวียนหยางจึงนั่งวาดรูปออกแบบเสื้อผ้าสามชุด เป็นชุดจีนประยุคที่ไม่โป้เกินไปแต่ดูทันสมัย ไม่เกะกะรุ่มร่ามเวลาเดินเหินหรือทำงาน เสี่ยวชุ่ยที่กำลังจัดที่นอนเหลือเห็นชุดที่เจ้านายออกแบบก็อดทึ้งไม่ได้ช่างสวยงามเหลือเกินจริงๆ ยิ่งตอนที่นางลงสีเสร็จแล้วยิ่งสวย "เสี่ยวชุยเสร็จหรือยัง พวกเราไปเดินในตลาดในเมืองสักรอบเถอะ ลองหาเงินสักหน่อย หากว่าสามารถขายแบบเสื้อผ้าสามชุดนี้ได้เราจะได้มีทุนเพิ่มในการตั้งตัวอีก" โจวหว่านถิงไม่ต้องการเบิกเงินที่มารดาเก็บไว้ให้ เพราะนางอยากเก็บเอาไว้เวลาที่คลอดลูกต้องอยู่เดือนไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่นายสองนายบ่าวก็เดินมาถึงร้านขายผ้า โจวหว่านถิงยืนสังเกตุร้านผ้าในตรอก สังเกตุวิธีการต้อนรับลูกค้า สังเกตุจากการพูดคุยกับลูกค้า การไม่เลือกปฏิบัติ ร้านใหญ่มีคนเข้าออกมากมายนัก ล้วนแต่เป็นคุณหนูทั้งนั้น ส่วนร้านเล็กๆอีกร้านกลับเงียบเหงาเพราะเป็นร้านเล็กๆ โจวหว่านถิงเลือกร้านนี้ นางยังไม่มีกำลังพอที่จะต่อกรกับใคร โจวหว่านถิงเดินเข้าไปยังร้านเล็กๆร้านหนึ่งที่อยู่ห่างจากร้านฟางเหยียนไปสองตรอก ร้านนี้ดูสะอาดสะอ้านแม้ว่าจะเล็กแต่ก็จัดวางได้ดี โจวหว่านถิงยืนเลือกผ้าอยู่นาน จนเด็กในร้านเข้ามาช่วย "พี่สาว ท่านอยากหาผ้าชนิดใดหรือเจ้าคะ ท่านกำลังตั้งครรภ์ทางร้านเรามีผ้าฝ้ายอย่างดีใช้สำหรับทำผ้าอ้อมด้วยนะเจ้าคะ" "อืม ที่ร้านเจ้าตัดเสื้อผ้าสำเร็จรูปขายหรือไม่แม่นาง" "เราเคยตัดอยู่ช่วงหนึ่งเจ้าค่ะ ตั้งแต่ร้านฟางเหยียนของสกุลเยี่ยจากเมืองหลวงมาเปิดพวกเราก็แทบจะขายไม่ได้ นานวันเข้าแบบที่มีก็ล้าหลัง กองอยู่หลังร้านจนเถ้าแก้เนี้ยของข้ากลืนน้ำตาทุกวัน" "เอ๋ ร้านฟางเหยียนที่เหล่าคุณหนูเหล่านั้นแย่งกันซื้อนั่นนะหรือ อืมเถ้าแก่เนี้ยเจ้าเล่าข้าขอพบนางได้หรือไม่" "เอ่อ นางอยู่หลังร้านเดี๋ยวข้าจะไปเรียกให้ ท่านเลือกผ้าไปพลางๆก่อนนะเจ้าคะ" คนงานเดินเข้าไปด้านหลัง โจวหว่านถิงจับผ้าแต่ละม้วนรู้สึกว่าเนื้อผ้าร้านนี้คุณภาพดีใช้ได้ เปรียบเทียบกับร้านฟางเหยียนนั้นดูเหมือนร้านฟางเหยียนจะเอาของคุณภาพต่ำมาขาย แต่เพราะที่นี่ไกลเมืองหลวง บบรรดาคุณหนูเหล่านั้นจึงไม่ค่อยเห็นของดี นั่งรออยู่ไม่นานก็เห็นคนงานคนเดิมเดินออกมา ข้างหลังนางมีสตรีวัยยี่สิบอยู่หนึ่งคนเดินตามมาด้วย นางคงเป็นเถ้าแก่เนี้ยของที่นี่ "อูหยินท่านนี้เสี่ยวเหมยบอกว่าท่านต้องการพบข้าอย่างนั้นหรือเจ้าคะ ข้าชื่อฟ่านหลิงหลิงเป็นเจ้าของร้านที่นี่" "อ้อเถ้าแก่ฟ่าน ข้าแซ่หลี่เห็นว่าทางร้านท่านมีชุดสำเร็จมากมายที่ขายไม่ออก หากท่านไม่รังเกียจขอข้าดูสักหน่อยได้หรือไม่ เผื่อข้าสามารถแก้ไขได้ อ้อนี้เป็นแบบเสื้อผ้าที่ข้าวาดเอง เดิมทีตั้งใจจะเสนอขายแบบให้ท่านแต่แรกอยู่แล้ว" "เฮ้อ ฮูหยินหลี่ข้าเป็นร้านเล็กๆ แม้ว่าจะซื้อแบบท่านมาแล้วอย่างไรเล่า ไม่นานก็ถูกคนของร้านฟางเหยียนขโมยไปอยู่ดี พวกเขาคนมากนักตัดวันเดียวก็ได้หลายชุด ร้านค้าของข้าคงอยู่รอดอีกไม่นานแล้ว สองวันก่อนอยู่ๆฝนตกผ้าถูกน้ำเสียหายเกินครึ่ง หลังคาที่อยู่ดีๆก็รั่วขึ้นมา ข้ายังเอาอะไรไปต่อกรกับคนเหล่าน้นกัน แม้จะคิดว่าเป็นฝีมือพวกเขาแต่ใครเล่าจะรับฟ้อง" "อ้อ ท่านให้ข้าไปดูสถานการณ์ด้านหลังได้หรือไม่ ข้าเองก็อยากหาเงินสักหน่อยจึงหน้าด้านมาขายแบบผ้า ข้าถูกบ้านสามีไล่ออกมา เงินที่มีก็เหลือน้อยเต็มที ใกล้คลอดอีกไม่นานแล้ว น้องสาวของงข้านางเองเพิ่งจะสิบสี่ จะทำมาหากินเลี้ยงข้ากับหลานคงไม่พอให้อิ่มท้อง" "เฮ้อ บุรุษของท่านไม่ปกป้องท่านเลยเชียวหรือ แม่ผัวนี่เป็นอะไรที่น่ารังเกียจอย่างมากจริงๆ" "ข้ากำลังท้องให้ความสุขสมเขาไม่ได้ แม่สามีข้าแต่งสะใภ้ใหม่ให้เขา ข้าเป็นเพียงบุตรสาวชาวนายากจนบิดามารดาไร้ซึ่งสินเดิมให้ติดตัว สามีข้าเพิ่งสอบราชการได้จะรังเกียจข้าก็ไม่แปลกหรอก" "อืม ตามาเถอะท่านค่อยๆเดินเล่า พื้นไม่เสมอกันสักเท่าไหร่ระวังล้มได้ เสี่ยวเหมยไปจัดขนมกับน้ำชามาสองที่ด้วย ฮูหยินเชิญ" ฟ่านหลิงหลิงพาโจวหว่านถิงเดินเข้าไปหลังร้าน มีราวตากผ้าเต็มไปหมด ผ้าที่โดนน้ำมีมากจริงๆตากมาสามวันแล้วยังตากไม่หมดเลย โจวหว่านถิงเห็นใจนางมากๆ นี่มันต้นทุนเท่าไหร่กัน ทั้งผ้าฝ้ายเนื่อดี ทั้งผ้าไหมสกุลเยี่ยนี้นางต้องกำจัดให้ได้ พวกสุนัขสารเลวยังมีสกุลโจวอีก ท่านแม่คงรู้ดีว่าโจวจื่อเมิ่งเป็นบิดาสารเลวเพียงใด นางจึงถอนชื่อโจวหว่านถิงออกแล้วให้ใช้แซ่หลี่ของนางแทน ตอนนี้นางจึงชื่อหลี่ว่านถิง ส่วนเสี่ยวชุ่ยก็แซ่หลี่เช่นกัน เป็นแบบนี้ก็ปิดบังตัวตนง่ายหน่อย "เถ้าแก่ฟ่าน ท่านตากแบบนี้เมื่อไหร่จะแห้งกันเล่าเจ้าคะ อืมข้ามีวิธีตากให้แห้งเร็วกว่านี้ ท่านอาจขาดทุนสักหน่อยถ้าขายถูกลงแต่อย่าน้อยก็ยังขายได้เงินกลับมาบ้าง ไม่เข่นนั้นคงสูญทั้งหมด" "อูหยินท่านมีวิธีหรือเจ้าคะ ท่านช่วยข้าคิดสักหน่อยเถิด ร้านค้านี้เป็นของตระกูลข้า ทุกคนจากไปหมดแล้วเหลือเพียงข้าเท่านั้น ข้าอยากรักษามันไว้ แต่พอร้านฟางเหยียนมาเปิด ข้าก็รู้ว่าไม่อาจรักษามันไว้ได้แล้ว" ฟ่านหลิงหลิงน้ำตาคลอ โจวหว่านถิงเห็นใจนางจริงๆ สมบัติพ่อแม่สร้างมาให้ถ้าต้องมลายไปเพราะน้ำมือของนางๆคงทุกข์ใจ " ท่านไปเรียกช่างตัดเย็บของร้านท่านมาหน่อย มีกี่คนเอามาให้หมด เอาไม้วัดตัวมาด้วย" ไม่นานก็ได้ช่างตัดเย็บประมาณสิบคนมีสามคนอายุมากแล้ว โจวหว่านถิงให้นำผ้าที่ผึ่งแห้งแล้วมาให้ดู จากนั้นก็ลงมือตัดชิ้นส่วนตามแบบร่างแล้วส่งให้พวกนางบ่งกับเย็บ โจวหว่านถิงนั่งอยู่ที่ร้านฟ่านปู่เตี้ยนจนถึงค่ำ ตัดชุดทั้งหมดได้เกือบยี่สิบชุด พวกนางมีความสามารถจริงๆ ฟ่านหลิงหลิงเห็นชุดที่ตัดสำเร็จก็ตาลุกวาว มันสวยมากจริงๆ "ฮูหยินหลี่ มันงามยิ่งนัก จากผ้าเปียกน้ำท่านยังทำได้งามถึงเพียงนี้ ท่านๆเป็นพระโพธิสัตว์ของข้าจริงๆ" "ท่านกล่าวเกินไปแล้ว ชุดเหล่านี้เป็นชุดที่ตัดจากผ้าที่เปียกน้ำท่านให้พวกช่างเย็บเหล่านี้ใส่เถอะ ให้พวกนางใส่ชุดเหล่านี้แล้วเปลี่ยนจากเย็บผ้าหลังร้านมานั่งเย็บอยู่หน้าร้าน ท่านทำไม้แขวนตัวเท่าขนาดคนจริงแล้วเอาชุดที่พวกนางตัดเย็บมาแขวนให้คนได้มองเห็น ข้าจะออกแบบให้ท่านเป็นสมุดหนึ่งเล่ม เก็บไว้กับตัวท่านเอง หากเหล่าคุณหนูที่ต้องการตัดเย็บตามแบบพวกนางจำต้องซื้อผ้าจากร้านท่านเท่านั้น" "ทำแบบนี้ก็ได้หรือ ฮูหยินหลี่หากครั้งนี้ข้ารอดวิกฤติไปได้ข้าสร้างรูปปั้นจะบูชาเจ้าเลยเชียว ฮือๆ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD