13 ชามกระเบื้องโลหิต ณ ตำหนักองค์ชายแปด ปัง! แผ่นไม้ทับกระดาษที่แกะสลักอย่างประณีตถูกเขวี้ยงลงพื้นราวกับของไร้ค่า บ่าวไพร่พากันหวาดกลัวลนลานรีบกุลีกุจอคุกเข่า จะมีก็แต่ชายหนุ่มร่างท้วมที่ยืนเกาะพนักเก้าอี้ ส่งเสียงหอบหายใจด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยว เจ้าตงฟางฉี! เป็นเพียงอ๋องน้อยยังคิดจะลองดีกับข้า! ทันใดนั้นใบหน้ากลมอวบอูมประเดี๋ยวดำประเดี๋ยวแดง ก็ตวัดไปทางชามกระเบื้องสีแดงสด ยังมิทันได้เอื้อมมือไปคว้าหวังขว้างทิ้งเพื่อระบายอารมณ์ เสียงราบเรียบของใครผู้หนึ่งก็ดังขัดขึ้นมาเสียก่อน “หากข้าเป็นเจ้า ข้าจะไม่เขวี้ยงของสิ่งนั้น” ซุนเวยอี้ที่ยังถือของล้ำค่าค้างเอาไว้ชะชักงัน ครั้นหันไปเห็นบุรุษผู้มาใหม่ก็สะดุ้งโหยง ถอยกรูดไปชนเข้ากับโต๊ะหนังสือราวกับคนขี้ขลาด “ทะ...ท่านเข้ามาในนี้ได้อย่างไร” องค์ชายสี่ผินพระพักตร์จากผู้ถามไปยังทางเข้าตำหนัก “ก็เข้ามาทางประตูนั่นอย่างไร” ซุนเวยอี้กลืนน้ำลายเ