“กุ้ยเฟย เหตุใดถึงไม่แจ้งข่าวดีแก่ฝ่าบาทล่ะเพคะ” เจียงหมัวหมัวไม่เข้าใจ ข่าวดีเช่นนี้ไยต้องรีรอ หากเป็นนางคงแจ้งตั้งแต่หมอหลวงจับชีพจรแล้วเสร็จ หลิวซือซือรำคาญเกินจะทน เจียงหมัวหมัวเอาแต่ถามประโยคนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลายวันมานี้นางมีเรื่องให้ต้องขบคิดจนเคร่งเครียด นางไม่อาจระงับโทสะ จึงปัดชุดน้ำชาบนโต๊ะทิ้งแตกกระจายดังเพล้ง! หลิวซือซือตวาดเจียงหมัวหมัว “หากข้าบอกยังไม่แจ้งคือไม่แจ้ง แล้วก็อย่าเพิ่งแจ้งเรื่องนี้แก่ผู้ใด หวังว่าหมัวหมัวจะเข้าใจที่ข้าสั่ง!” เจียงหมัวหมัวรับใช้กุ้ยเฟยมาหลายปี นางไม่เคยเห็นนายหญิงมีท่าทีเช่นนี้มาก่อนย่อมตกใจเป็นธรรมดา เจียงหมัวหมัวก้มหน้าลง ซ่อนความไม่พอใจในหน้าเอาไว้ มือที่ประสานกันอยู่ตรงหน้าท้องบีบเข้าหากันแน่น “หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ” หลิวซือซือโบกมือไล่ สีหน้าไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก “ออกไป! ข้าอยากอยู่ตามลำพัง” “เพคะ” เจียงหมัวหมัวยอบกายลง มุมปากกดลึก