ไอ้สิงห์!!! ไอ้เด็กเวร!

798 Words
“เริ่มวันนี้เลยนะ เดี๋ยวกลับบ้านไปเอาการบ้านมาเลย ให้เดือนเค้าช่วยสอน” เรไรออกคำสั่งกับลูกชาย “ไม่ได้หรอกแม่ หนูนัดไอ้กบไว้จะไปยิงนกกัน โอ๊ย!! แม่หนูเจ็บนะ” มะเหงกเขกเข้ากลางกบาล เมื่อประโยคที่ลูกชายพูดไม่ถูกใจคนเป็นแม่นัก เด็กชายได้แต่เอามือลูบหัวที่เจ็บปวด ทำไมต้องมาทำร้ายลูกต่อหน้าเดือนเต็มด้วย “กูบอกอยากไปไหนให้ทำการบ้านก่อนไง ไป๊....กลับไปเอาการบ้านมา!!” สุดท้ายความเป็นแม่ก็มีอำนาจมากพอที่จะสั่งให้ห้าวหาญเชื่อ เขากลับบ้านไปหอบการบ้านกองโตมาหาเดือนเต็ม ซึ่งเธอนั่งรออยู่แล้วตรงม้าหินอ่อนตัวเดิม “สิงห์อยากทำวิชาไหนก่อน” เมื่อจัดแจงข้าวของเรียบร้อยแล้ว เดือนเต็มก็หันไปถามเด็กชายที่นั่งหน้าบูดอยู่ฝั่งตรงข้าม “ไม่อยากทำ อยากไปยิงนก” “ให้เราบอกน้าเรไรให้มั้ย” เด็กหญิงพูดอมยิ้ม รู้แล้วว่าห้าวหาญที่ไม่กลัวใครต้องจำนนต่อแม่แน่ ๆ “เดี๋ยวนี้ร้ายเหรอ รู้จักขู่!!” “ก็สิงห์เกเร ไม่กลัวใคร กลัวแต่แม่คนเดียว ขนาดเราเตือนสิงห์ก็ไม่ฟังเรา” “อยากให้กลัวลองทำท่าดุดูสิ ทำแบบแม่กูอะ!” “ไม่เอา เราดุใครไม่เป็น” “ลอง อะ...ไหนพูดตามกูสิ ไอ้สิงห์ ไอ้เด็กเวร ทำท่าด้วยนี่ ๆ ดูนะ ไอ้สิงห์ไอ้เด็กเวร” ห้าวหาญพูดด้วยเสียงสอง อีกทั้งทำท่าทางล้อเลียนแม่ตัวเอง มันเหมือนเสียจนเดือนเต็มกลั้นหัวเราะไม่ได้ “ไม่ใช่ให้ขำ พูดตามสิทำท่าด้วย” เห็นอีกฝ่ายไม่ยอมทำ เอาแต่หัวเราะชอบใจจนตัวโยน คนทำท่าทางจึงหันไปย้ำเพื่อให้เด็กหญิงทำตาม “ไม่เอา เราไม่พูดคำหยาบ” “แค่เรียกกูว่าไอ้สิงห์ มันไม่ทำให้ประวัติมึงเสียหรอก” เด็กชายเค้นเสียง ไม่เคยได้ยินคำหยาบออกจากปากเดือนเต็มสักครั้ง เธอเป็นเด็กหญิงที่ดีไปหมดทุกอย่าง “ไม่” “พูดตาม!! เร็ว ๆ ถ้าพูดตามได้กูทำการบ้านเลย เอ้า!!” เพราะอยากฟังคนเรียบร้อยพูดจาหยาบ ๆ เขาจึงตัดสินใจยื่นข้อเสนอให้ ซึ่งมันดูจะได้ผล เดือนเต็มแสดงท่าทีลังเลอย่างครุ่นคิด ห้าวหาญเห็นอย่างนั้นเลยรีบพูดย้ำอีกรอบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ “ถ้ามึงพูดว่าไอ้สิงห์ ไอ้เด็กเวร ได้ กูจะยอมทำการบ้านตามที่มึงสั่ง วิชาไหนก็ได้” เดือนเต็มมองหน้าของเพื่อนสลับกับมองการบ้าน นี่เป็นโอกาสแล้วที่จะทำให้ห้าวหาญเชื่อฟัง คนอย่างห้าวหาญไม่ใช่จะเชื่อฟังใครง่าย ๆ แต่วันนี้จะยอมทำการบ้านอย่างที่เธอสั่ง “ชักช้ากูกลับแล้วนะ เดี๋ยวคืนนี้ย้อนกลับมาเอาการบ้านมึงไปลอกดีกว่า” “ดะ...เดี๋ยวสิ” เมื่อเห็นว่าห้าวหาญทำท่าเก็บของ เดือนเต็มรีบร้องห้าม แต่คนเจ้าเล่ห์กลับกระตุกยิ้มอย่างพอใจ “อย่าเพิ่งกลับ...” “อะไร” “อะ...ไอ้สิงห์....อะ..อะ...ไอ้...เด็ก...วะ...เวร” เสียงของเดือนเต็มเบาเสียจนแทบไม่ได้ยินอะไร เธออายและรู้สึกไม่กล้าจะเปล่งเสียงออกมา “พูดดัง ๆ ” “ไอ้สิงห์....ไอ้...ไอ้เด็กเวร” เสียงกระซิบดังขึ้นมาอีกหน่อย แต่น้ำเสียงก็หวานเกินกว่าจะเป็นคำขู่หรือดุว่า “เสียงให้มันหนักแน่นหน่อยสิวะ” “พอแล้ว เราพูดหลายรอบแล้ว” “มันไม่ได้ พูดดัง ๆ ชัด ๆ ด้วย เสียงก็เอาแบบเสียงแม่กูสิ ไอ้สิงห์ ไอ้เด็กเวรแบบนี้” เดือนเต็มเงยหน้าขึ้นจ้องตาคนที่หัวเราะชอบใจ พลางวอนขอให้หยุดได้แล้ว ตอนนี้เธอรู้สึกแย่มาก ๆ กับการพูดคำหยาบครั้งนี้ “พูด!! ถ้ามึงทำตามที่กูบอก มึงก็พูดแค่รอบเดียว เอ้าลองพูดสิ” ปัง!!! “ไอ้สิงห์!!! ไอ้เด็กเวร!!!” เหมือนองค์น้าเรไรลงประทับในร่างเด็กสาว เธอลุกขึ้นยืนพร้อมกับทุบเข้าที่โต๊ะก่อนจะยกมือขึ้นชี้หน้า ก่อนตะคอกใส่ห้าวหาญเสียงดัง “ฮ่าฮ่าฮ่าโคตรเหมือน เหมือนมาก ชอบ ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า” คนบอกให้ทำหัวเราะชอบใจ ต่างกับคนที่ทำหน้าเหยเกจะร้องไห้ “สิงห์อย่าลืมที่ตกลงกับเราไว้สิ มาเลยทำการบ้าน” “เอา ๆ ทำดีก็ต้องได้รางวัล อยากให้ทำวิชาไหนเลือกมาเลย” คำพูดต้องเป็นคำพูด เมื่อบอกแล้วว่าหากเดือนเต็มยอมทำจะยอมให้เดือนเต็มออกคำสั่ง เขาก็ไม่ผิดคำพูดยอมให้เธอสั่งสอนตามสบาย วันนี้ได้เห็นเดือนเต็มพูดคำหยาบก็ถือเป็นบุญหูบุญตามากแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD