“แน่ใจนะว่าอยากฝึกงานเป็นเลขาฯ ศัลยแพทย์ท่านนี้จริงๆ” เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลอินทารามเอ่ยถามนักศึกษาสาวปีสี่ ที่ตอนนี้สวมชุดนักศึกษากระโปรงทรงเอสั้นเหนือเข่าเล็กน้อย เจ้าตัวยิ้ม พยักหน้าด้วยความมั่นใจ
“แน่ใจค่ะ หนูอยากทำงานที่นี่” น้ำเสียงตอบกลับด้วยท่าทีกระตือรือร้น แววตาแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความต้องการ
‘เค้ก’ เขมมิกา รุ่งเรืองวงศ์ นักศึกษาสาวจากคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย ชั้นปีที่สี่ มองไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของโรงพยาบาลอย่างมั่นใจ หญิงสาวใช้ความพยายามกว่าหลายเดือนเพื่อให้ตัวเองได้เข้ามาเป็นเด็กฝึกงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้ และความพยายามนั้นก็ไม่ได้ทรยศเธอเลยสักนิด แถมสิ่งที่ได้ก็เกินความคาดหวังไปมาก เมื่อวันหนึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกลับมาว่า ตอนนี้ทางโรงพยาบาลต้องการรับนักศึกษาฝึกงานตำแหน่งเลขาฯ ของศัลยแพทย์ใหญ่ และแน่นอนว่าเขมมิกาไม่มีทางปฏิเสธมันได้ลง เพราะ ‘เขา’ คือเหตุผลที่ทำให้เธออยากเข้ามาฝึกงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้
“แต่คุณหมอท่านนี้ไม่ชอบให้ผู้หญิงอยู่ใกล้สักเท่าไร พี่เกรงว่าเขาจะไปขวางหูขวางตาคุณหมอเข้า” พนักงานฝ่ายบุคคลชื่อ ‘กมล’ พูดขึ้นอย่างลังเลใจใครก็รู้กิตติศัพท์ความบ้างานและโลกส่วนตัวสูงของคุณหมอท่านนี้
“คิดมากน่าพี่กมล หมอธามไม่ดุขนาดนั้นหรอก อีกอย่างมีเด็กๆ น่ารักๆ อยู่ใกล้ๆ ก็ดีเหมือนกัน หมอจะได้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง”
‘พิมอร’ พนักงานฝ่ายบุคคลอีกคนพูดขึ้น เธอเป็นคนติดต่อเขมมิกาไป เพราะเห็นว่าเด็กคนนี้ส่งใบสมัครขอเข้าฝึกงานที่โรงพยาบาลมาตั้งแต่อยู่ปีหนึ่ง จนถึงตอนนี้ก็ยังคงไม่ล้มเลิกความตั้งใจ แล้วแบบนี้จะไม่ให้สนับสนุนได้อย่างไร
“แน่ใจเหรอยัยพิม เธอก็รู้ว่าหมอธามน่ะเขี้ยวขนาดไหน” คราวนี้ กมลหันมามองที่เขมมิกาหัวจดเท้าอย่างเพ่งพินิจ จริงอยู่ว่าอีกฝ่ายมีใบหน้าที่น่ารัก และน่าจะถูกใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่หลายคน แต่คงไม่ใช่หมอธามไทอย่างแน่นอน เพราะใครๆ ก็รู้ว่าต่อให้นางแบบดังหรือแม้แต่หุ้นส่วนคนสำคัญของโรงพยาบาลพยายามเข้าหา คุณหมอหนุ่มก็ไม่สนใจ เพราะเขามอบความรักให้กับ ‘งาน’ ไปเสียหมดแล้ว
“รับเค้กเข้าฝึกงานที่นี่เถอะนะคะ เค้กสัญญาค่ะว่าจะทำเต็มที่ไม่ให้คุณหมอต้องรำคาญใจ” เมื่อเห็นว่าฝ่ายบุคคลเริ่มลังเล เขมมิกาจึงพูดขึ้นมาบ้าง เธอไม่อยากให้ความหวังครั้งสุดท้ายของตนเองก่อนเรียนจบต้องหมดไป เพราะรู้ดีว่าที่นี่สมัครงานเข้ายากเสียยิ่งกว่าอะไร
“ก็ได้ๆ ถ้าอย่างนั้น ฉันจะพาเธอไปเจอคุณหมอก่อน แต่ตอนนี้ คุณหมอติดเคส รอได้ไหมล่ะ” กมลเอ่ยขึ้นด้วยความใจอ่อน
“ขอบคุณนะคะพี่กมล รอได้ค่ะ จะกี่โมง เค้กก็รอได้” เขมมิกาพูดด้วยความดีอกดีใจ ต่อให้ต้องรอนานแค่ไหนก็จะรอ เพราะเธอรอที่จะพบเขามาห้าปีแล้ว รออีกสักนิดคงไม่เป็นไร
“ถ้าอย่างนั้น พิมรับเค้กเป็นเด็กในการดูแลละกันนะ มีอะไรก็คุยกับพิมล่ะ” กมลหันมาส่งยิ้มให้กับเขมมิกาเบาๆ ด้วยความเอ็นดู เพราะไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าเด็กตัวแค่นี้กลับมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าได้ขนาดนี้
“ได้ค่ะ เดี๋ยวพิมจะดูแลน้องเค้กเอง ว่าแต่จะให้พิมพาน้องเค้กไปแนะนำกับฝ่ายอื่นๆ ก่อนไหมคะ” พิมอรถามขึ้น เพราะรู้ดีว่ากว่าหมอธามไทจะผ่าตัดเสร็จก็คงกินเวลาไปช่วงเย็น
“รอหมอธามออกมาก่อนดีกว่า เธอก็รู้ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ หมอธามอาจจะไม่อยากรับเค้กก็ได้” แม้ว่ากมลเองจะเอ็นดูเขมมิกาแค่ไหน แต่คำพูดของหมอธามไทถือเป็นที่สิ้นสุด ถ้าหมอไม่ถูกชะตากับเด็กก็ไม่มีใครช่วยอะไรได้
“งั้นก็ได้ค่ะ เค้กก็นั่งอยู่แถวๆ นี้รอหมอธามก่อนละกันนะ หรือจะทำการบ้าน อ่านประวัติหมอธามรอไว้เลยก็ได้ แต่พี่เตือนไว้ก่อนนะว่าหมอธามน่ะหล่อมาก หล่อแบบเทพบุตร ข้อห้ามของที่นี่คือห้ามหลงรักหมอธามเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะเสียใจจนทำงานไม่ได้เลยนะ” พิมอรกล่าวเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง
“ทำไมคะ หมอธามจะไล่ออกเหรอคะ” เขมมิกาถามด้วยท่าทางใสซื่อ เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าหมอธามไทที่เธอเคยรู้จักเมื่อห้าปีที่แล้วจะเป็นคนใจร้ายขนาดนั้น
“หมอธามไม่ไล่ใครออกหรอก ส่วนใหญ่จะเสียใจจนสู้หน้าหมอธามไม่ไหว แล้วก็ชิงลาออกไปเองเสียมากกว่า เพราะฉะนั้นถือว่าพี่เตือนละกัน ทำงานคือทำงาน อย่าได้คิดหลงรักหมอเด็ดขาด”
พิมอรพูดขึ้นอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาเลขาฯ ของคุณหมอหนุ่มทุกคนมักจะเผลอใจหลงรักหมออย่างห้ามไม่ได้ หมอธามไธคุณหมอหล่อขึ้นชื่อเรื่องความดุจนไม่น่าหลงใหล แต่ถ้าหมอยิ้มเมื่อไหร่ผู้หญิงคนไหนก็ต้องหลงรัก แต่ถ้าใครหลงรักสุดท้ายต้องขอลาออกเพราะไม่สามารถสู้หน้าหมอธามไทได้อีกเพราะสิ่งที่ได้รับคือความเย็นชา และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ‘หมอธามไท’ พัฒนอินทาราม ศัลยแพทย์หัวใจและหุ้นส่วนใหญ่ของโรงพยาบาลอินทารามถึงไม่มีเลขาฯ ทั้งที่งานทุกวันนี้เรียกได้ว่าแน่นเสียยิ่งกว่าอะไร ไหนจะคิวผ่าตัด ไหนจะประชุมผู้ถือหุ้น ไหนจะวางแผนขยายโรงพยาบาล แต่หมอธามไทเลือกที่จะตัดปัญหาเรื่องชู้สาวโดยการไม่รับเลขานุการอีกเลยทั้งที่จริงแล้วระดับคุณหมอหุ้นส่วนใหญ่ของโรงพยาบาลที่เป็นทั้งนักบริหารและแพทย์ในร่างเดียวจะมีเลขาฯ ถึงสองคนก็ยังไม่แปลก
“รับทราบค่ะพี่พิม” เขมมิกาตอบรับอย่างว่าง่าย แต่ลึกๆ ในใจรู้ดีว่าไม่มีใครสามารถห้ามความรู้สึกตนเองได้ และที่สำคัญเธอไม่ได้เพิ่งรู้สึก แต่รู้สึกมานานแล้ว นานเสียจนอยากจะระเบิดออกมาให้เขาได้รับรู้…