คำโปรย...
“ว่าแต่ทุกอย่างจะไม่มีปัญหาตามมาใช่ไหมครับ ถ้าหากทางนี้ตอบตกลง จะรับเป็นพ่อของเด็ก...”
ทัชชกรหมายถึงพ่อของเด็กตัวจริง ถ้าผลสรุปของครอบครัวเขามีความคิดเห็นตรงกัน เลือกจะให้ความช่วยเหลือมนุษย์คนหนึ่ง มากกว่าความเป็นจริงในด้านสังคมอันน่าเบื่อหน่าย ส่วนตัวเขาเองไม่รู้สึกขัดข้องด้วยเพราะไม่ได้มีพันธะอยู่กับใคร การขึ้นชื่อเป็นพ่อให้เด็กสักคน คงไม่ใช่เรื่องต้องทำให้ใครเดือดร้อน
“ถ้ากรจะหมายถึงเจ้ากษิ รายนั้นมันมีแต่จะตีปีกบินป๋อเสียมากกว่า”
คุณดิสรณ์พูดพร้อมสีหน้าผิดหวัง ก็เพราะเจ้าตัวดีนี่มิใช่หรือ เป็นฝ่ายเสนอให้เขาบากหน้ามาที่นี่ เพียงเพราะต้องการปัดความรับผิดชอบ
มือบางบนตักกำเข้าหากันอย่างเผลอตัว หญิงสาวหลับตาพร้อมสูดเอาอากาศเย็นชืดเข้าไว้ในทรวงอกแปลบปลาบ คุณดิสรณ์พูดไม่ผิดหรอก กษิรามีแต่จะปัดความรับผิดชอบทั้งหมด เขาโวยวายขึ้นหลังจากคุณรุจีลุกออกจากตรงนั้นพร้อมเดินกลับขึ้นชั้นบน ปิดกั้นการรับรู้ถึงปัญหาภายในครอบครัว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคู่ชีวิตจัดการสะสางปัญหาทั้งหมดก่อนจะถึงวันสำคัญ...
---------------------------------------
คำโปรย...
“ปิดประตูแล้วมานั่งลงตรงนี้หน่อย”
หลังจากกษิรากระแทกก้นนั่งบนโซฟาตัวยาว เขาก็จัดแจงกวักมือเรียกให้นวลเนื้อหอมเดินตามเข้ามาหา นัยน์ตาทรงเสน่ห์อ่อนเชื่อม หรี่มองร่างกลมกลึงตรงหน้าด้วยอารมณ์รุ่มร้อน
คนถูกเรียกให้เดินตามเข้ามาตัวสั่นน้อยๆ นวลเนื้อหอมเข้าใจได้ทันที เจ้านายหนุ่มต้องการสิ่งใด
“แต่วันนี้นวลยังไม่พร้อม...”
หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงกล่อมแกล้ม พยายามข่มความกลัวไม่ให้มันแตกกระเจิง หรุบเปลือกตามองเพียงพื้นกระเบื้องห้อง ด้านหนึ่งถูกปูด้วยพรมสีขาวสะอาดตา
เธอจะบอกเขาได้อย่างไรเล่าว่ากลีบสาวของเธอยังไม่หายบวมช้ำ กว่าเมื่อคืนเขาจะยอมปล่อยให้เธอกลับลงมานอนพัก เธอก็ถูกเขาจับกระแทกจนกลีบทั้งสองแคลมบวมช้ำ ขนาดตอนเดิน เธอยังรู้สึกหน่วงเดินขัดๆอยู่เลยนี่นา
“ทำไม?”
เสียงห้าวตวาดถาม จนนวลเนื้อหอมสะดุ้งตกใจ กลืนคำพูดต่อมาได้อย่างอัตโนมัติ...
คราวนี้กษิราไม่นั่งเฉย เขารีบลุกพรวดขึ้นยืนข่มร่างน้อยเอาไว้ราวกับปีศาจ เคล้นคำสั่งรอดไรฟัน เขาไม่ต้องการให้นวลเนื้อหอมขัดใจ
“นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการฟัง ถอดเสื้อผ้าแล้วมาจัดการธุระสำคัญของฉันให้เสร็จ”
--------------------------------------------------