13 สมน้ำหน้า

1836 Words
[TIW TALK] “อย่าลืมนะคะ อย่าบอกแม่ว่าเราเคยคบกัน” นี่ย้ำรอบที่เท่าไหร่แล้ววะ “พูดบ่อย ๆ ชักรำคาญ” ผมเริ่มจะเครียดอีกแล้ว จะย้ำจะอะไรนัก รู้บ้างไหมมันน่ารำคาญ “ก็วิวกลัว” “ต่อไปคนที่เธอต้องกลัวคือฉัน ไม่ใช่คนอื่น จำเอาไว้” ที่ผ่านมาเธอจะกลัวใครผมไม่สน แต่ต่อจากนี้เธอควรกลัวผม เพราะเธอคือของผมนับจากนี้จนหมดสัญญา “ค่ะ” จากนั้นผมและเธอเดินลงจากรถพร้อมกัน บ้านที่เธออยู่นั้นเป็นทรงผู้ดีเก่าแก่ บ่งบอกถึงความร่ำรวยและคงความเรียบง่าย ย่างกายเข้ามาก็จะรู้ถึงความไทยเดิม แต่แปลกที่ขายลูกกิน “คุณผู้หญิงรอคุณหนูอยู่ที่ห้องรับแขกแล้วเจ้าค่ะ” หญิงมีอายุประมาณ 60 ปีเดินออกมาต้อนรับผมและวิว “คุณแม่รอนานหรือยังคะ” เฮอะ ช่างเรียบร้อยซะจริง “ประมาณ 20 นาทีได้ค่ะ” “งั้นคงต้องรีบไปแล้ว” “ไม่ต้องกังวลค่ะคุณหนู คุณผู้หญิงท่านอารมณ์ดี” หญิงมีอายุรีบบอกเมื่อเจ้าสาวของผมแสดงสีหน้าวิตก “ปล่อยให้คุณแม่รอนานไม่ดีค่ะ” วิวตอบพร้อมผินหน้ามามองผม “ไปกันค่ะคุณ” ผมพยักหน้าให้เธอและหันมองหญิงชรา “ช่วยเก็บข้าวของสำคัญของเธอด้วยนะครับ เอาเฉพาะที่สำคัญ” “ทำไมคะ” วิวหันมาถามผม “คำสั่ง” เป็นอันว่าเธอพยักหน้ารับรู้ ผมก็แค่ไม่อยากมาเหยียบสถานที่นี้อีก และก็ไม่อยากให้เธออยู่เช่นกัน หมดเวลาสำหรับการถูกจองจำในสถานที่แห่งนี้แล้ว เธอคงจะรู้แล้วว่าที่นี่คือที่ที่เธอตัดสินใจผิดพลาด แต่ก็คิดซะว่าในตอนนั้นเธอยังเด็กจึงตัดสินใจโดยพลการ คิดแบบโง่ ๆ เพราะฉะนั้นก็ต้องรับผลกรรมที่เธอเลือกไปสิครับ ผมก็แค่รอฟังเรื่องที่มันทำให้อะดรีนาลีนในร่างกายของผมตื่นตัว ยอมรับตามตรงว่าผมมีความสุขบนความเจ็บปวดของเธอ ช่วยไม่ได้เธออยากทำผมเจ็บทำไม เงินของผมสามารถซื้อได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งความลับที่ใครหลาย ๆ คนพยายามจะปิดไว้ เงินมักชนะความซื่อสัตย์อยู่แล้วครับ อย่าลืมว่าความซื่อสัตย์มันกินไม่ได้นะครับ เงินที่หอมหวานใครจะไม่ชอบกันครับ จะว่าผมใจร้ายไม่ได้นะครับ เธอต่างหากที่ตะเกียกตะกายอยากจะไปจากผม ผมไม่ได้ถีบหัวส่งเธอสักหน่อย มีแต่เธอที่ไม่เห็นค่าความรักของผม ทั้งที่ผมฟูมฟายแทบตาย เพราะงั้นสมควรแล้วที่เธอจะเจอแบบนั้น “หนูวิวเจ้าขามาแล้วเหรอลูก” คุณเคยได้ยินไหมครับ ‘ผีมักเห็นผี’ คนโรคจิตมักจะมองออกว่าใครเป็นแบบเดียวกับเรา “มาแล้วค่ะคุณแม่ วันนี้คุณทิวมาด้วยเจ้าค่ะ” วิวนั่งลงที่พื้นขณะที่ผายมือบอกให้ผมนั่งลงที่เก้าอี้บุนวม จากท่าทีของวิวดูก็รู้ว่าเกรงกลัวแค่ไหน ก็สมแล้วไง เลือกเองทั้งนั้น สมน้ำหน้า “ทิวเหรอ? ชื่อคุ้นจริง หนูวิวเจ้าขาเคยรู้จักมาก่อนมั้ยลูก” เธอยิ้มหวานให้ผมและหันไปรอฟังคำตอบจากลูกสาวของเธอ “ไม่ค่ะ หนูไม่เคยรู้จักคุณทิวมาก่อน จริงมั้ยคะคุณทิว” ผมแสลงหูกับการที่วิวพูดอะไรแบบนี้จริง ๆ “ครับ ผมแค่ชอบเธอ จึงอยากได้มาประดับข้างกาย คุณจะยกเธอให้ผมใช่มั้ยครับคุณหญิงแพรวารี” “ตายจริง พูดอย่างกับลูกสาวของฉันไม่ใช่คน แค่ประดับหรือคะ ไม่รักหรือไง” ในแววตาของเธอดูพอใจมากมายกับคำตอบของผม และเหมือนเธออยากจะพอใจมาก ๆ กว่าเดิมจึงได้ถามซ้ำ เพราะงั้นผมจะสงเคราะห์ให้แล้วกัน “ครับ ก็แค่ซื้อมาประดับ ถ้าคุณหญิงแพรวารีไม่ติดขัดอะไรผมขอจ่ายส่วนที่เหลือ แล้วจากนี้เธอเป็นของผมนะครับ” “ได้สิจ๊ะ คุยง่ายแบบนี้ฉันชอบ” คนแบบเดียวกันมักจะรู้ความต้องการของกันครับ แต่เธอน่ะอาจจะมองผมไม่ออกหรอกครับ เพราะผมไม่ใช่พวกที่จะเปิดเผยด้านมืดให้ใครรู้ง่าย ๆ อย่างเธอ เธอก็แค่คิดว่าผมไม่ได้ให้ค่าลูกสาวของเธอ เธอถึงยอมง่าย ๆ กลับกันถ้าผมบอกว่าผมรักและเทิดทูนลูกสาวเธอ เธอคงไม่ชอบ เพราะเธอเป็นพวกไม่ชอบเห็นคนอื่นมีความสุขไงครับ “หนูวิวเจ้าขาต่อจากนี้ไปอยู่กับคุณทิวต้องทำตัวดี ๆ นะเจ้าคะ อย่าดื้อรั้น ต้องเชื่อฟังเขาแบบที่เชื่อฟังแม่ อย่าให้เขาว่าได้ว่าแม่สอนมาไม่ดี รู้มั้ยเจ้าคะหนูวิวเจ้าขา...” แม่ของวิวเธอเอื้อนเอ่ยเมื่อผมยื่นเช็คให้เธอตามจำนวนที่เหลืออยู่ สีหน้าเธอพร้อมถีบหัวส่งวิวมาให้ผม “ทราบแล้วค่ะคุณแม่” วิวเธอคลานเข่าเข้าไปกราบที่แทบเท้าของแม่เธอ ถ้าเป็นผม ผมไม่ทำ แต่เพราะเธอคือวิว ผมก็พอเข้าใจเธอ “โชคดีนะคะลูกสาวคนเดียวของแม่” เธอจับปลายคางของวิวเชยขึ้นและจูบลงที่กลางหน้าผากของวิว ยังดีที่ผมพกคลีนซิ่งมา ขึ้นรถได้ผมจะสั่งให้เธอล้างหน้าออกให้หมด “ถ้างั้นผมลานะครับคุณหญิงแพรวารี” “ค่ะ โชคดีค่ะคุณทิว ถ้าหนูวิวเจ้าขาทำให้ไม่พอใจส่งคืนฉันได้ทุกเมื่อนะเจ้าคะ” “ครับ” ฝันไปเถอะว่าหญิงชั่วที่มาเป็นของผมอย่างเต็มตัว จะได้มาเหยียบที่นี่อีก หลายปีที่ผ่านมาเธอเจ็บกับที่นี่จนผมสาสมใจพอแล้ว ที่เหลือก็มาเจ็บที่ผมแล้วกัน “นี่ข้าวของทั้งหมดที่เป็นของสำคัญของคุณหนูนะคะ” เมื่อเดินออกมาจากห้องรับแขกแล้ว หญิงชราคนเดิมได้กล่าวกับวิวพร้อมผายมือไปยังคนที่กำลังขนของของวิว “รูปของพ่อเอามามั้ยคะ” เธอรีบถามอย่างร้อนใจ “กล่องนั้นป้าเก็บเองกับมืออยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ค่ะ ป้ารู้ค่ะว่าเป็นของสำคัญของคุณหนู” หญิงชรารีบตอบพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน ในแววตามีความเศร้าเคล้าอยู่ “ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลเธอเอง” ผมก็พูดออกไปเพื่อให้หญิงที่ใกล้ฝั่งหมดห่วงเท่านั้นแหละครับ ก็พอเข้าใจในสิ่งที่หญิงชราคนนี้เป็นกังวล “ขอบคุณค่ะ ฝากคุณหนูด้วยนะคะ” ผมพยักหน้ารับ หญิงชราจึงพูดกับวิวต่อ “คุณหนูคะ คุณผู้หญิงสั่งให้ป้าเตรียมสมุนไพรมากมายให้คุณหนู คุณหนูต้องใช้นะคะ เก็บไว้ให้ดี วิธีการใช้ก็ทำแบบที่ป้าเคยสอน เข้าใจใช่มั้ยคะ” “เข้าใจค่ะ ถ้างั้นหนูลาก่อน ป้าดูแลตัวเองและฝากดูแลคุณแม่ด้วยนะคะ” วิวเธอเดินเข้าไปสวมกอดหญิงชรา ส่วนผมก็ไม่อยากขัดบรรยากาศจึงเดินออกมารอที่รถ ซึ่งมีคนของที่นี่รอขนข้าวของของวิวขึ้นรถ ผมจึงเปิดรถให้ ไม่นานนักวิวก็เดินออกมา ผมนั่งรอเธออยู่ในรถ เมื่อเธอเข้ามานั่งในรถผมจึงโยนคลีนซิ่งให้ และสั่งเธอทางสายตาว่าควรทำอย่างไร เมื่อเธอเข้าใจผมจึงขับรถออกจากบ้านหลังนั้น ไม่มีทางกลับมาอีกแน่นอนทั้งวิวและผม “อยากกินหมูกระทะจังเลยค่ะ เราไปกินหมูกระทะกันมั้ยคะ” ขับรถออกมาได้สักประมาณ 45 นาทีคำถามนี้ดังออกจากปากของคนที่นั่งข้าง ๆ ผม “...” คิดว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหนกัน คิดจะมารื้อฟื้นความหลังหรือไง ไอ้นิสัยมีเรื่องดีใจหน่อยชวนผมไปฉลองที่ร้านหมูกระทะ เสียใจเถอะ ไม่ได้ผล มันผ่านมาหลายปีแล้วไหมครับ ไม่มีไอ้ทิวคนนั้นอีกแล้ว “คุณคะ แค่หมูกระทะเอง” “ในสัญญามีกฎข้อไหนที่ว่าให้เธอขอฉันได้” ผมพูดสียงเรียบไม่ได้หันไปมองเธอด้วย “มาม่ากระปุกก็ได้” เธอพูดเสียงอ้อยอิ่ง เพราะเราเคยลำบากมาด้วยกัน เพราะเราเคยทำหลาย ๆ อย่างมาด้วยกัน “ฉันเลิกกินนานแล้ว” อันนี้ผมโกหก ทุกวันนี้ยังบ้าแลกซื้อทุกครั้งที่มีโปร ผมก็อยากจะเลิกไอ้นิสัยนี้ แต่เพราะเคยชินทำให้อดใจไม่เคยได้สักครั้ง แล้วที่เคยชินเพราะคนที่นั่งข้าง ๆ นี่แหละครับ “ค่ะ” ไอ้การทำหน้าเหมือนหมาเศร้านั่นคิดว่าจะได้ผลหรือไง แต่แล้วเธอก็ดีดตัวขึ้น ใบหน้าแตกตื่น “เดี๋ยวนะคะ แล้วนี่วิวต้องไปอยู่ไหนคะ” “นี่สมองเธอเพิ่งจะคิดเรื่องนี้ออกหรือไง” เป็นคนที่มีความคิดช้าจริง ๆ “ก็วิวมัวแต่ดีใจ แล้วเวลาดีใจก็จะคิดถึงหมูกระทะไง เลยลืมคิดเรื่องอื่น” “ควรคิดเรื่องที่ซุกหัวนอนก่อนมั้ย สมองหัดใช้บ้าง” “ขอโทษค่ะ” ผมปรายตามองเธอเมื่อรถจอดติดไฟแดง และเราก็บังเอิญสบตากัน “ไปอยู่บ้านฉันแล้วกัน ป๊าน่าจะส่งคนตามดูเธอ เธอขังตัวเองไว้ที่บ้านฉันน่าจะดีที่สุด แล้วก็บอกมี้ฉันไปว่าแม่ของเธอน่ะมางานแต่งไม่ได้ไม่ว่าง หรือจะบอกว่าป่วยหรือตายก็ตามใจ” “ค่ะ” จากนั้นทุกอย่างเงียบครับ กระทั่งถึงบ้านของผม และการมาถึงบ้านทำให้ผมหงุดหงิดเพิ่มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ารถของนาฟจอดอยู่ แน่นอนว่านาฟมันรู้ว่าผมจะไปบ้านวิว และคงรู้ด้วยว่ายังไงผมก็คงเอาวิวออกมาจากที่นั่น เพราะผมไม่มีทางกลับไปนรกบนดินเป็นครั้งที่สอง ผมถอนหายใจก่อนจะลงจากรถอย่างเซ็ง ๆ แต่แล้วผมก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อหลานสาวที่แสนน่ารักวิ่งออกมาจากบ้านแล้วพุ่งเข้ามากอดผม “ลุงทิวขา ลุงทิวขา... คิดถึงน้องมั้ยคะ น้องคิดถึงลุงทิวขาที่สุดเลย วันนี้อานาฟขาใจดีแวะไปรับน้องมาหาลุงทิวขาด้วย” นั่นไงไอ้ตัวการมันเดินออกมาจากบ้านและมองไปที่วิวซึ่งกำลังเปิดประตูลงจากรถด้วยสีหน้างง ๆ นาฟมันร้ายเอาหลานมาหลอกล่อผมให้ไม่กล้าด่ามัน ไอ้นี่มันจริง ๆ เลย [END TIW]
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD