หลี่อวี้อ๋อง 1

1242 Words
เฉินหลี่อวี้หรือที่รู้จักในนามหลี่อวี้อ๋องนั่งอยู่กับผู้ติดตามคนสนิทในโรงเตี๊ยมของคนพเนจร ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะกับเขาเลยแม้แต่น้อย เขามีศักดิ์เป็นพระอนุชาของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน เปี่ยมทั้งอำนาจบริวารและเป็นที่กลัวเกรงของทุกคนในราชสำนัก ด้วยเพราะแม้แต่ตัวฮ่องเต้เองก็ยังรับฟังคำแนะนำหรือคำคัดค้านในกิจการบ้านเมืองของหลี่อวี้อ๋อง แต่เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตหรือจดจำได้ เขาจึงต้องแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดาสีซีดจางเนื้อหยาบ ราวกับคนใช้แรงงานหนัก เสียแต่ว่าพวกเสื้อผ้าซอมซ่อเหล่านี้ยังมิสามารถปิดปังความมีสง่าราศี ผิวพรรณผุดผ่องและท่วงท่าแบบคนชั้นสูงของชายหนุ่มได้ ช่วงนี้หลี่อวี้อ๋องมักจะออกมาสืบราชการลับข้างนอกอยู่บ่อยครั้ง แต่วันนี้นอกจากงานอันหนักหนาที่ทำอยู่ เขายังต้องการที่จะตามหา กูเหนียงน้อยนางหนึ่งที่สะดุดตาเขาในตลาดเมื่อวานนี้ การจะรู้ชื่อแซ่ของนางคงไม่ใช่เรื่องยากเย็นนัก เพราะคงมีสตรีเพียงไม่กี่คนที่จะงดงาม ตราตรึงได้เช่นนาง และจะมีที่ไหนเหมาะไปกว่าโรงเตี๊ยมที่ผู้คนมากมายพร้อมจะตอบคำถาม หรือเล่าทุกความลับ เพียงเพื่อแลกกับเหล้าหนึ่งไหหรือไก่หนึ่งตัว อาจจะเป็นการง่ายกว่า หากเขาจะเพียงแค่เดินดุ่มเข้าไปถามหรือรีดเอาความจริงจากใครสักคน แต่คนที่เป็นถึงท่านอ๋อง จะทำกิริยาเช่นนั้นได้อย่างไร และเขาก็ต้องการที่จะรู้เรื่องของนางอย่างละเอียด จึงลงทุนมาสืบหาข้อมูลด้วยตัวเอง “พี่ชาย มานั่งหย่อนใจที่นี่บ่อยหรือ” ฉีฟ่างเอ่ยถามชายหนุ่มท่าทางดุดัน มือหยาบกร้านและข้อนิ้วปูดโปน ที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ ก่อนจะทำท่ายกกาที่มีสุราบรรจุอยู่ เมื่อชายหนุ่มพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต ฉีฟ่างก็รินสุราใส่จอกให้ “บ่อย เจ้าต้องการอะไร” บุรุษร่างยักษ์ตอบเสียงห้วน “ข้าต้องการจะถามพี่ชายเรื่องหนึ่ง คือข้ากับเพื่อนนำสารมาส่งให้กับบสตรีนางหนึ่ง แต่เราไม่รู้แน่ชัดว่านางคือใครกันแน่” บุรุษร่างยักษ์ยกเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมด เมื่อฉีฟ่างรินเติมให้ อีกครั้ง เขาถึงได้เอ่ยปากพูด “ฮึ แล้วเจ้าไม่รู้ชื่อแซ่ของนางหรอกรึ” สายตาเคลือบแคลงของอีกฝ่ายทำให้หลี่อวี้อ๋องต้องออกโรงพูดด้วยตัวเอง “คุณชายของเราบอกแต่เพียงว่านางคือคุณหนูที่อยู่ในตระกูลสูงของเมืองนี้ นางมีใบหน้าสะสวย ท่าทางสดใสร่าเริง และแม้ว่าจะยังไม่พ้นวัยปักปิ่นก็ดูเหมือนว่าจะมีชายหนุ่มให้ความสนใจมากมายถึงขนาดยอมเสียเงินมหาศาลเพื่อเอาใจนาง” เถ้าแก่ที่ยืนฟังอยู่ใกล้ ๆ ได้ยินเข้าก็หัวเราะร่วน “ถ้าเช่นนั้นก็เห็นจะมีอยู่เพียงคนเดียว” “ใครหรือ” ก่อนที่เถ้าแก่เจ้าของร้านจะมีโอกาสได้ตอบ ชายร่างยักษ์ก็สวนขึ้นมาทันที “เจ้าบอกว่าคุณชายของเจ้าฝากจดหมายมา แต่ไม่รู้จักชื่อของนางนี่น่ะรึ” “คุณชายเพียงบอกว่าความงามจะเป็นตัวบอกชื่อของนางเองน่ะสิ พวกข้าเลยต้องมานั่งกุมขมับกันอยู่นี่ไง” หลี่อวี้อ๋องเคาะนิ้วกับโต๊ะ “ถ้านางจะงามจริงอย่างที่คนเขาพูดกัน” เถ้าแก่ที่อดรนทนไม่ได้โพล่งขึ้น “แล้วเจ้าจะได้เห็นเอง ฮ่า ๆ ๆ” “ข้าก็อยากจะเห็นเช่นกัน หากจะได้รู้ว่านางชื่ออะไร” “จะเป็นใครไปได้เล่านอกจากท่านหญิงมู่หรงเยว่ชิง บุตรีหนึ่งเดียวของท่านแม่ทัพใหญ่มู่หรงเซียนหลิวยังไงล่ะ” หลี่อวี้อ๋องรู้สึกสะดุดใจกับชื่อที่ได้ยิน แน่นอนว่าเขาต้องรู้จักท่านแม่ทัพใหญ่มู่หรง แต่มีเพียงคุณชายทั้งสามของตระกูลเท่านั้น ที่เขาพอจะเคยเห็นหน้าค่าตามาบ้าง และหากจำไม่ผิด ครั้งสุดท้ายที่ได้พบบุตรีของ แม่ทัพมู่หรงก็น่าจะสักสิบปีมาแล้วกระมัง ในตอนนางยังเป็นแค่เด็กหญิงตัวน้อยเท่านั้น ใครจะไปคาดคิดละว่า นางจะเติบโตมาราวกับดอกไม้ที่ได้รับการทะนุถนอมเป็นอย่างดีถึงเพียงนี้ แต่นั่นก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะในขณะที่ขุนนางตระกูลต่าง ๆ พากันอวดโฉมบุตรหลานบ้านตัวเอง แต่จวนแม่ทัพกลับระแวดระวังไม่ค่อยพานางออกงานเพราะถนอมนางราวกับไข่ในหิน รู้อย่างนี้เขาควรผูกมิตรกับท่านพ่อตาแต่เนิ่น ๆ เห็นจะดี “ขอบคุณท่านมาก เถ้าแก่ เพื่อเป็นการตอบแทน ข้าจะสั่งเหล้าเลี้ยงคนทั้งร้านเอง” หลี่อวี้อ๋องพยักหน้าให้ฉีฟ่างวางเงินเป็นถุงลงกับโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เมื่อมองจากมุมนี้ ก็ดูออกเลยว่าชายผู้นี้ไม่น่าใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน แต่ทุกคน ณ ที่นี้ต่างรู้ความเป็นอย่างดี สิ่งใดที่ไม่ควรพูดก็ควรกลืนลงท้องเสีย “โอ ขอบคุณเจ้ามาก ขอบคุณจริง ๆ ขอให้คุณชายของพวกเจ้าสมหวังนะ” “คงยากอยู่” ชายร่างยักษ์พูดทั้งที่ไก่ยังเต็มปาก “เพราะท่านหญิงมาพร้อมกับข่าวลือหนาหูว่าโปรดปรานเงินทองของมีค่านัก หากนางจะแต่งงาน ข้าคิดว่าคงจะแต่งกับกองเงินกองทองของตัวเองมากกว่า” ท่านอ๋องเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างสนใจ พลันนึกไปถึงตอนที่เห็นมู่หรงเยว่ชิงใช้ลูกไม้ให้ชายหนุ่มผู้นั้นเสียเงินซื้อของให้นางจนแทบจะหมดตัว “อย่างไรหรือ” ฉีฟ่างถามแทน “ก็อย่างที่ข้าพูดไปนั่นแหละ ว่ากันว่ามีชายหนุ่มมากมายที่ หมายปองนาง แต่ก็ต้องถอยทัพกลับไป เพราะรู้แน่ว่าไม่สามารถหาแก้วแหวนเงินทองมาให้นางตามที่นางปรารถนาได้” “งั้นหรือ” หลี่อวี้อ๋องกลั้นเสียงหัวเราะในลำคอ “ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย คุณชายของข้าเป็นคนมีอันจะกิน เรื่องเท่านี้ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเขาหรอก” ทั้งเถ้าแก่และชายร่างยักษ์มองเขาก่อนจะส่ายหัว “ความงามของนางมีราคาแพงจริง ๆ” “ข้าจะเอาจดหมายไปให้นางตามที่ได้รับมอบหมาย ขอตัวก่อนนะท่านทั้งสอง” ทั้งนายทั้งบ่าวออกจากโรงเตี๊ยมมาที่รถม้าซึ่งจอดอยู่ในตรอก ห่างออกมาหลายซอย “ข้าต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” “ขอรับ” ฉีฟ่างกระโดดขึ้นนั่งประจำที่คนขับ เมื่อท่านอ๋องเข้าไปนั่งข้างในเรียบร้อย เขาก็รีบขับตรงไปยังบ้านพักหลังเล็กที่สร้างไว้เพื่อเป็นที่หลีกหนีความวุ่นวาย และอยู่รอจนกระทั่งท่านอ๋องเดินออกมาด้วยชุดที่เหมาะสม หลี่อวี้อ๋องเป็นชายหนุ่มทรงเสน่ห์ หน้าตาเข้มขรึมจริงจัง และออกจะถือตัวเล็กน้อย ความเด็ดขาดส่งผ่านทางสายตาคมกริบ มีท่าทางน่า เกรงขามอย่างคนมีอำนาจ แม้แต่การเดินเหินหรือขยับตัว เขาขึ้นชื่อว่าไร้ปราณี และเมื่ออยากได้อะไร ก็ต้องเอาสิ่งนั้นมาครอบครองให้ได้เสียด้วย “ไปได้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD