หลังจากที่ฟรานซิสทำงานเสร็จเรียบร้อยก็พาชาลิสาไปที่บริษัทของเธอเพื่อลาออก และเป็นจริงอย่างที่มหาเศรษฐีหนุ่มพูดเอาไว้ เพราะแค่เขาเอ่ยปากกับประธานบริษัทที่หญิงสาวทำงานอยู่ ทางนั้นก็รีบตกลงแล้วเซ็นใบลาออกให้เลย ทำให้พนักงานร่วมแผนกหลายคนสงสัยไม่น้อยกับการออกแบบฟ้าแลบนี้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามเพราะเกรงกลัวสายตาของฟรานซิสที่ส่งออกมาราวกับว่าหากใครพูดมากจะต้องตกงานเป็นรายต่อไป
“เสร็จหรือยังครับริสา”
ชายหนุ่มเดินมาหาหญิงสาวที่แผนกของเธอ หลังจากที่ชาลิสาขอตัวมาเก็บของบนโต๊ะทำงาน
“เสร็จแล้วค่ะ”
ชาลิสาหันไปมองรอบ ๆ โต๊ะทำงานอย่างใจหาย เธอทำงานที่นี่มาตั้งหลายปี อยู่ ๆ ก็ต้องจากไปแบบเร่งด่วนมันก็ค่อนข้างลำบากใจ
ไม่น้อย
“เราไปกันเถอะ เดี๋ยวผมถือให้ครับ”
ฟรานซิสรีบอาสายกของให้เธอเพื่อทำคะแนนเพราะรู้ดีว่าตอนนี้หญิงสาวไม่ค่อยชอบเขาสักเท่าไหร่ เดี๋ยวแผนที่คิดไว้มันจะล่มเสียก่อน
“ขอบคุณค่ะ”
คนอวบพูดออกมาด้วยความเศร้าแล้วหันไปมองแผนกที่ทำงานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนกล่าวคำลากับทุก ๆ คน เธอเดินออกไปกับมหาเศรษฐีหนุ่มราวกับว่าเขาคือสามีที่มาทำเรื่องให้ภรรยาลาออกจากงานเพราะเพิ่งแต่งงานกัน
ในระหว่างทางไปที่บ้านของเธอ ฟรานซิสก็ลอบมองหญิงสาวข้างกายตลอดเวลาเพราะเจ้าตัวไม่พูดไม่จาทำเหมือนกับหมดอาลัยตายอยากจนเขาต้องหาเรื่องมาขู่ถึงจะพูดออกมาบ้างจนทั้งคู่มาถึงที่หมาย
“คุณจะไม่ชวนผมเข้าบ้านหน่อยเหรอ”
“เฮ้อ เชิญค่ะ”
ชาลิสาไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาไล่เจ้านายคนใหม่จึงยอมให้เขาเข้ามาในบ้านอย่างง่ายดาย
“บ้านคุณน่ารักดีนะ”
“ค่ะ ฉันรักบ้านหลังนี้มาก”
“ริสาไม่ต้องห่วงนะครับ ระหว่างที่คุณทำงานกับผม รับรองว่าบ้านของคุณมีคนดูแลให้แน่นอน”
“ค่ะ คือถ้าฉันจะขอกลับมานอนที่บ้านบ้าง คุณจะไม่ว่าอะไร
ใช่ไหม”
“แน่นอนครับ ผมไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดไม่ยอมให้คุณไปไหนมาไหนหรอกนะ”
“ก็คุณเอาแต่ใจนี่ ฉันเลยต้องขอไว้ก่อน”
หญิงสาวเอ่ยออกมาตรง ๆ จนทำให้ฟรานซิสต้องหัวเราะด้วยความขบขันเพราะไม่เคยได้ยินใครพูดกับตนเองแบบนี้มาก่อน
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ คุณรู้ไหมว่าไม่เคยมีใครกล้าพูดแบบนี้กับผมสักคน คุณเป็นคนแรก”
“ค่ะ ฉันไม่ตั้งใจว่าคุณ แต่ฉันเป็นคนตรง ๆ คิดแบบไหนก็พูดแบบนั้น”
“ครับ ตรงแบบนี้ดีแล้ว ผมชอบ”
ชายหนุ่มจ้องไปที่ใบหน้าของชาลิสาแล้วเน้นคำว่า ผมชอบ จนทำให้คนฟังรู้สึกเขินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ค่ะ” เธอพูดอะไรไม่ออกเมื่อเจอสายตาอันร้อนแรงที่ส่งมาให้แบบไม่ปิดบัง
“ผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า เจอกันพรุ่งนี้”
“ค่ะ”
เมื่อฟรานซิสเดินออกจากบ้านไปชาลิสาก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาด้วยหัวใจเต้นรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธอไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมถึงใจเต้นทุกครั้งที่เห็นหน้าเขา ตั้งแต่แรกที่ได้เจอกันก็รู้สึกแบบนี้เลยแต่พยายามเก็บอาการเพื่อไม่ให้ชายหนุ่มรู้
“บ้าไปแล้วแน่ ๆ เรา”
หญิงสาวพึมพำอยู่บนโซฟาแล้วเอามือขึ้นมาวางบนอกตรงตำแหน่งของหัวใจ ยิ่งคิดถึงหน้าเจ้านายคนใหม่หัวใจก็ยิ่งเต้นเร็วขึ้นจนเธอต้องรีบหาอะไรทำเพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่านอีก
เวลาผ่านไปหลายวันกับการทำตามข้อเสนอของชายหนุ่มซึ่ง
ชาลิสาก็ทำมันได้ดี แต่วันนี้แตกต่างไปจากทุกวันเพราะเขาสั่งให้เธอกลับมาที่คอนโดก่อน ปกติฟรานซิสจะให้เธออยู่ข้างกายตลอดไม่เคยห่างกันแบบนี้ จนเกือบจะเที่ยงคืนแล้วอีกฝ่ายก็ยังไม่กลับมา
“ไปไหนของเขา ทำไมยังไม่กลับอีก”
หญิงสาวทำหน้ามุ่ยบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ เพราะหลายวันมานี้เขาปฏิบัติกับเธอเหมือนคนเป็นแฟนกันแค่ยังไม่ได้มีอะไรเลยเถิดจนคนอวบเผลอยกหัวใจไปให้เขาหมดแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าเจ้าตัวรู้สึกแบบเดียวกันไหม
แอ๊ด เสียงประตูห้องเปิดออกพร้อมด้วยร่างของเจ้านายหนุ่มที่ถูกแบกเข้ามาโดยไมเคิล
“คุณฟรานเป็นอะไรคะ ทำไมดื่มหนักขนาดนี้กันคุณไมเคิล”
“ผมก็ไม่ทราบครับ”
“เอาไปไว้ในห้องนอนเลยค่ะ เดี๋ยวริสาดูแลเอง”
ไมเคิลพาเจ้านายหนุ่มที่ไม่ได้สติไปวางไว้บนเตียงขนาดใหญ่แล้วรีบออกจากห้องไปทันที เพราะมันคือคำสั่งของฟรานซิสที่ลูกน้องคนสนิทไม่อาจจะห้ามปรามได้
“อือ ร้อนจัง”
คนเมาปลอม ๆ ทำเป็นแสดงละครราวกับว่าตนเองไม่มีสติเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่จริงเขาไม่ได้ดื่มมาสักหยดแค่เอามาเทบนตัวเท่านั้นเอง
คนเจ้าเล่ห์วางแผนไว้แล้วว่าคืนนี้ต้องได้เธอมาครอบครองนอนครวญครางอยู่ใต้ร่างจนถึงเช้า
“คุณฟราน เดี๋ยวฉันเช็ดตัวให้นะคะ” คนอวบไม่ทันแผนของชายหนุ่มจึงตกหลุมพรางที่เขาวางไว้เต็ม ๆ
“ริสา อือ ริสา”
“ว้าย คุณฟรานปล่อยฉันก่อนค่ะ” หญิงสาวถูกคนเมาปลอม ๆ ดึงให้ลงมานอนอยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น เธอพยายามดิ้นแต่ก็ไม่หลุด
“ไม่ปล่อย” คนที่ทำเหมือนกับเมาเมื่อกี้พูดออกมาชัดถ้อยชัดคำจนคนฟังรู้ว่าตนเองโดนหลอก
“คุณไม่ได้เมา”
“ครับ ผมไม่ได้เมา”
“คุณทำแบบนี้ทำไม”
“ถ้าผมไม่ทำแบบนี้คุณก็ไม่ยอมเข้าใกล้ผมนะสิ คุณรู้ไหมว่าผมต้องอดทนมากแค่ไหนที่ต้องอยู่กับคุณสองคนแต่กลับทำอะไรไม่ได้”
ชายหนุ่มพูดออกมาแบบจริงจัง ทั้งสีหน้าและแววตาที่เขาแสดงออกมันทำให้คนฟังอ่อนระทวยเรี่ยวแรงหายไปหมด
“คุณฟราน อื้อ อื้อ” คนเจ้าแผนการไม่ปล่อยให้เธอได้คิดอะไรนาน เมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มเคลิ้มกับสิ่งที่เขาพูดก็รีบประกบปากของตนเองเข้ากับปากเธอทันที
“อื้อ อื้อ” ชาลิสาผู้ที่ไม่เคยโดนจูบมาก่อนถึงกับตกใจทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นอนให้คนตัวโตจูบแล้วจูบอีกอยู่นานสองนาน
“ปากคุณหวานจัง จุ๊บ”
ฟรานซิสถอนริมฝีปากออกมาแล้วจ้องไปที่ใบหน้าของหญิงสาวด้วยความเสน่หา ในขณะที่คนโดนจูบยังมึนกับสิ่งแปลกใหม่ที่ชายหนุ่มมอบให้จนลืมที่จะต่อต้าน
“ผมขอนะครับ”
“...”
หญิงสาวไม่ได้พูดออกมาแต่พยักหน้าให้เขาแทน เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงยอมง่าย ๆ แบบนี้ เหมือนมีมนต์สะกดมาบังคับให้เธอตอบรับแทนที่จะส่ายหัว
อื้อ อื้อ ชายหนุ่มผู้หิวโหยไม่รอช้าที่จะมอบจูบอันดูดดื่มและสอนเรื่องเพศศึกษาให้กับคนที่ด้อยประสบการณ์อย่างเธอแบบฟรี ๆ เขาใช้ความสามารถอันช่ำชองส่งลิ้นของตนเองเข้าไปเกี่ยวพันกับลิ้นเธอ เมื่อคนอวบเริ่มเคลิ้มฟรานซิสก็รีบจัดการเสื้อผ้าบนร่างกายพวกเขาโดยเร็วแล้วขว้างมันให้ออกไปไกล ๆ จนหญิงสาวไม่เหลืออะไรติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว ทำให้ร่างกายขาวผ่องเต็มไม้เต็มมือทุกสัดส่วนปรากฏแก่สายตาคนหื่น
“สวย สวยมาก”
คนตัวโตพูดออกมาราวกับละเมอ เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนน่ากินเท่าเธอมาก่อน ชายหนุ่มรู้สึกตัดสินใจไม่ผิดเลยที่คิดจะครอบครองหญิงสาวให้เป็นของตนเอง
“อื้อ คุณฟราน เบา ๆ”
หญิงสาวร้องครางออกมาอย่างทนไม่ไหวเมื่อชายหนุ่มลงไปเล่นกับยอดถันที่แข็งเป็นไตแล้วบีบขย้ำเต้าอวบอย่างเมามันแบบไม่ออมแรง โชคดีที่หน้าอกของเธอเป็นเต้าธรรมชาติที่แม่ให้มา ไม่อย่างนั้นมันคงแตกคามือเรียบร้อยแล้ว
“จ๊วบ จ๊วบ หวานอะไรขนาดนี้” คนหื่นดูดนมไปก็พูดงึมงำไปแบบไม่เต็มปากเต็มคำ ทำเหมือนกับว่านี่เป็นครั้งแรกของชีวิตที่ได้ลิ้มลองดูดนมจากเต้าอวบ ๆ
เมื่อเห็นหญิงสาวเคลิ้มกับสิ่งที่เขาปรนเปรอ ชายหนุ่มก็ค่อย ๆ ลากลิ้นลงมาเรื่อย ๆ จนถึงจุดสงวนแล้วจับขาทั้งสองข้างให้แยกออกจากกัน เขารีบก้มหน้าลงไปจูบตรงโหนกนูนอย่างห้ามใจไม่อยู่ เพราะมันอวบอิ่มน่ากัดเป็นที่สุด ทั้งที่ปกติเขาไม่เคยทำแบบนี้กับผู้หญิงคนไหน ชาลิสาคือคนแรกที่ตนเองยอมทำแบบนี้ให้โดยไม่รังเกียจ
“คะ คุณฟราน อือ อย่า ทะ ทำ”
หญิงสาวพยายามบอกให้เขาหยุดการกระทำที่สร้างความทรมานแบบนี้ให้ตนเองเสียที ซึ่งคนหื่นก็ไม่ฟังแต่อย่างใด เขายังคงใช้ลิ้นอันร้ายกาจปาดเลียซ้ายขวาเตรียมความพร้อมให้เธอไม่หยุดจนชาลิสาถึงจุดสุขสมแล้วร้องกรี๊ดออกมาดังลั่นห้องพร้อมปล่อยน้ำเมือกใส ๆ จนมันไหลหยดลงบนผ้าปูที่นอน
“กรี๊ด!”
“เยอะเหมือนกันนะ”
ฟรานซิสจ้องตรงรูสวาทอันแสนคับแคบของเธอแล้วพูดออกมาด้วยความชอบใจเมื่อเห็นน้ำแห่งความสุขไหลออกมาเรื่อย ๆ ราวกับเขื่อนแตก แต่คนหื่นยังไม่พอใจ เขาต้องการให้น้ำสวาทไหลเยอะกว่านี้อีกจึงค่อย ๆ เอานิ้วแหย่เข้าไปทีละนิดสำหรับกระตุ้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับแก่นกายขนาดมหึมาที่จะเข้าไปในไม่ช้านี้
“เจ็บ อือ เจ็บ”
“อีกนิดก็จะไม่เจ็บ”
คนหื่นยังไม่ยอมแพ้ค่อย ๆ เอานิ้วเข้าไปจนมันมิดแล้วดึงเข้าดึงออกจนหญิงสาวปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง
“โอ้ว เยอะกว่าเดิมอีก แบบนี้ไม่เจ็บแน่นอน”
ชายหนุ่มค่อย ๆ เอาแก่นกายขนาดมหึมาจ่อตรงปากถ้ำที่มีน้ำไหลเยิ้มเป็นทางอย่างไม่ขาดสายแล้วแทงเข้าไปครั้งเดียวมิดลำจนคนที่โดนทะลุทะลวงต้องกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ปล่อยน้ำตาเม็ดโตไหลจากหางตาอย่างน่าสงสาร
“กรี๊ด เจ็บ อือ เจ็บ ออกไป”
สติที่หายไปเมื่อสักครู่ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความจริงที่ว่าเธอได้เสียตัวให้เขาเรียบร้อยแล้ว พรหมจรรย์ที่อุตส่าห์เก็บมาตั้งนานได้ขาดลงเพราะความใจง่ายของตนเองเช่นกัน