ตอนที่ 3 ห้ามหึงและห้ามหวง
1506 Words
ในขณะที่หนุ่มสาวคนอื่นๆ ภายในงาน ต่างเข้าไปทักทายทำความรู้จักกัน เพื่อผลประโยชน์ทั้งทางธุรกิจ หรืออาจจะเพื่อ… ส่วนตัว แต่กับทับทิมนอกจากเจ้าของงานแล้ว หญิงสาวไม่ได้เข้าไปทำความรู้จักใครอีก ทับทิมรู้สึกว่างานการกุศลวันนี้ค่อนข้างน่าเบื่อสำหรับเธอเหลือเกิน ซึ่งก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทั้งที่อายุเพิ่งจะย่างเข้ายี่สิบห้าทำไมถึงได้รู้สึกเบื่ออะไรง่ายๆ แบบนี้ เมื่อก่อนเธอชอบงานสังคมเป็นชีวิตจิตใจ และชอบที่จะได้เจอผู้คน และได้แต่งตัวสวยๆ ประชันกัน
“ขอนั่งด้วยคนนะครับ”
“คุณกอล์ฟ” ทับทิมทักทายชายหนุ่มในชุดสูทหรูด้วยรอยยิ้มแพรวพราว เขาคือลูกค้าของเธอเอง และพวกเธอก็เคยเจอกันหลายครั้ง ที่สำคัญคือเคยไปทานข้าวด้วยกันมาแล้วครั้งหนึ่ง
“เชิญค่ะ”
“ไม่รู้ว่าคุณทับทิมจะมางานนี้ด้วย ถ้ารู้ผมคงชวนมาเป็นคู่ควงของผมในคืนนี้แล้วครับ”
“เหรอคะ?” เธอแสร้งหยิบแชมเปญขึ้นจิบ เพื่อหลบสายตาเปิดเผยของผู้ชายตรงหน้า ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกัน อัศรามักจะแสดงออกอย่างชัดเจนว่ารู้สึกยังไงกับเธอ หากเป็นเมื่อก่อนถ้ามีหนุ่มหล่อนักเรียนนอก ดีกรีดอกเตอร์ แถมชาติตระกูลดี มาขายขนมจีบ ทับทิมไม่พลาดแน่จะรีบฉกฉวย แต่เดี๋ยวนี้ทำไมเธอถึงได้รู้สึกเฉยๆ กับผู้ชายทุกคนบนโลกใบนี้ ยกเว้น…
“วันที่สิบห้าที่จะถึงนี้ คุณทับทิมว่างไหมครับ?”
“ทำไมคะ?”
“พอดีผมจะฉลองปาร์ตี้วันเกิดกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่บ้าน หากคุณทับทิมว่างเชิญด้วยนะครับ” หนุ่มหล่อซึ่งเป็นถึงลูกชายเจ้าสัว ที่ใครๆ ต่างรู้จักในวงสังคมไฮโซกล่าวพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“ขอดูตารางงานก่อนนะคะ ถ้าว่างทับทิมไปร่วมงานแน่นอนค่ะ”
“ยินดีเลยครับ ผมจะได้แนะนำทับทิมให้กลุ่มเพื่อนๆ รู้จัก”
“ค่ะ” เธอพยักหน้า พร้อมๆ กับนึกหาวิธีปฏิเสธอีกฝ่าย เธอรู้สึกว่าเริ่มจะอึดอัดบ้างแล้วสำหรับสายตารุกหนักของอีกฝ่าย
แล้วในเวลาต่อมา เสียงชัตเตอร์รัวๆ จากพี่ๆ นักข่าว ดังแข่งกันจากทางเข้างาน ดึงทับทิมและอัศราส่งสายตาไปทางนั้นโดยไม่ได้นัดหมาย แต่เพราะนักข่าวรุมล้อมผู้ที่เดินเข้างานแน่นหนา ทำให้ไม่สามารถมองเห็นแขกผู้มาใหม่ แขกคนนี้คงเด่นและสำคัญพอตัวถึงได้เรียกนักข่าวให้ความสำคัญและจู่โจมเข้าหาแน่นขนาดนั้น
“ใครหรือคะ?” ด้วยความอยากรู้จึงได้เอ่ยถามเพื่อนร่วมโต๊ะ แต่เห็นอีกฝ่ายกลับทำหน้านิ่งเรียบ จากนั้นถอนสายตาจากบุคคลที่นักข่าวต่างให้ความสำคัญ
“คุณดนัย ประไพพรรณ และคุณเอ๋ อัญชลี ครับ”
เมื่อรู้ว่าคนที่ถูกนักข่าวรุมขอสัมภาษณ์คือ ‘ดนัย’ ทำเอาทับทิมหูผึ่งทันที ดวงตาคู่งามย้ายไปทางนั้นอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้พี่ๆ นักข่าวปล่อยให้เขาเดินเข้ามาในงานก่อนจึงทำให้มองเห็นเขาได้อย่างชัดเจน
วันนี้ดนัยสวมชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม ทรงผมถูกเซตเข้าทรง ดูเท่ห์และแอบแบดนิดๆ ด้วยความที่เขาเป็นคนผิวขาวจัด พอถูกแสงแฟลชระรัวเข้าใส่ ชายหนุ่มยิ่งดูออร่า จนกลบผู้ชายในงานแทบจะทุกคน แม้แต่ชายหนุ่มตรงหน้าที่ว่าทั้งหล่อ และสมาร์ต แต่ตอนนี้ชิดซ้ายไปเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นดนัยดูดีจนไร้ที่ติ ที่ผ่านมาเวลาอยู่ด้วยกันในห้อง เขามักจะสวมเพียงชุดลำลอง ซึ่งนั่นก็ดูกระชากใจมากแล้ว แต่วันนี้เขาคือเดอะเบสต์ของงานจริงๆ สมแล้วที่นักข่าวต่างรุมล้อมหน้า ล้อมหลังยิ่งกว่าซูเปอร์สตาร์เมืองไทยเสียอีก
ส่วนหญิงสาวที่สวมชุดเกาะอกสีครีม คู่ควงเขาในค่ำคืนนี้ หน้าตาสวยจัด ดูลูกผู้ดีมากๆ ทับทิมพอจะรู้ว่าหล่อนเป็นใคร หล่อนคือลูกสาวคนเล็กของคุณหญิงจันทร์ ซึ่งเป็นเจ้าของงานการกุศลในครั้งนี้เอง ได้ข่าวว่าหญิงสาวเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก
เมื่อผู้บริหารหนุ่มไฟแรง กับสาวนักเรียนนอกยืนเคียงคู่กัน ซึ่งนอกจากรูปร่างหน้าตาที่ดูสวย หล่อแล้ว ทั้งคู่ยังมีชาติตระกูลที่ไม่ธรรมดา ยิ่งเสริมให้พวกเขาดูเหมาะสมกันมาก
ทับทิมเม้มปากเกือบจะเป็นเส้นตรงให้กับสถานะของตัวเองในขณะนี้ แล้วเมื่อคิดว่าดนัยคงไม่มีวันให้เธอได้ยืนเคียงข้างเขาเหมือนไฮโซสาวคนนั้น หัวใจดวงน้อยเจ็บแปล๊บ แต่เพียงแวบเดียวเท่านั้น เมื่อสำเหนียกได้ว่า เธอควรจะมีความสุขกับสถานะที่ต่างตกลงกัน ดวงหน้าสวยหวานคลี่ยิ้มยินดีกับเขา
“ผมว่าเราอย่าไปสนใจสองคนนั้นเลยครับ เรามาดื่มกันดีกว่า”
“ค่ะ” ทับทิมย้ายสายตาจากวงสัมภาษณ์แล้วหันมาพยักหน้ายิ้มหวานให้กับชายหนุ่มตรงหน้า
“คืนนี้หากไม่มีธุระต่อ เราไปต่อกันในบาร์ไหมครับ?”
“คะ?” คิ้วเรียวสวยยกขึ้นเล็กน้อยกับคำชักชวนของชายตรงหน้า
“คือหมายถึงไปดื่มต่อ เราจะได้คุยงานกันด้วยไงครับ”
“พอดีทับทิมมีธุระต่อนะสิคะ ไม่สะดวกจริงๆ ค่ะ ไว้โอกาสหน้านะคะ”
“ครับ” แค่เห็นรอยยิ้มหวานๆ บวกกับหุ่นเซ็กซี่ของหญิงสาวตรงหน้า ทำเอาอัศราแทบอยากจะกระชากเธอลงมาขย่ม ผู้หญิงอะไรเย้ายวนเป็นบ้า
“คุณกอล์ฟ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมหน้าแดงจัง”
“เปล่าครับ สงสัยเริ่มจะเมาแล้วมั้งครับ”
“คออ่อนจัง ทับทิมว่าทับทิมดื่มเยอะกว่าคุณอีก ยังไม่เมาเลยค่ะ” ทับทิมฉีกยิ้มนัยน์ตาพราว นึกขบขันกับอีกฝ่าย อัศราเป็นนักดื่มและสายปาร์ตี้ตัวยง… คงไม่เมาง่ายๆ เป็นเธอต่างหากล่ะที่เริ่มจะมึนนิดๆ แล้ว
ทับทิมคงไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้มีสายตาพิฆาตบางคู่กราดมองที่เธอตลอดเวลา แม้ดนัยจะตอบคำถามนักข่าวที่ยิงกันเข้ามาไม่จบไม่สิ้น หากทว่าสายตายังคงส่งไปยังใครบางคนที่นั่งคุยฉอเลาะ ทำหน้าระริกระรี้กับไอ้เสือผู้หญิงอย่างอัศรา ผู้ชายที่วันๆ ไม่ทำงานทำการ เล่นผลาญเงินพ่อแม่ทิ้งไปวันๆ ตามสไตล์ลูกคนรวย และเป็นลูกคนเดียว
“ได้ข่าวว่าคืนนี้ทางมูลนิธิได้ทุนมาจากครอบครัวประไพพรรณสูงถึงยี่สิบล้าน คุณอัญชลีรู้สึกยังไงคะ?” จบคำถามนักข่าว ไฮโซสาวหันมาทางคู่ควงพร้อมรอยยิ้มสวย
“ยินดีมากเลยค่ะ เอ๋ต้องกราบขอบพระคุณคุณหญิงป้ามากๆ ที่ใจบุญขนาดนี้” หล่อนประนมมือไหว้ด้วยท่าทางอ่อนช้อย
“แล้วที่คุณดนัยควงคุณเอ๋ ออกงานคู่แบบนี้ ต้องการจะสื่ออะไรหรือเปล่าครับ?” นักข่าวชายคนหนึ่งส่งคำถามใส่ดนัยจนเพื่อนๆ ที่มาด้วยกล้ายิงคำถามมากขึ้น
“ผม…” ดนัยหยุดประโยคก่อนจะแสร้งส่งสายตาหวานซึ้งมาให้คู่ควง เนื่องจากตอนนี้เขารู้ว่า มีสายตาบางคู่เบนมาทางเขาอยู่พอดี
“แล้วพี่ๆ คิดว่ายังไงล่ะครับ” คำตอบกำกวมชวนคิดเลยเถิด ทำให้นักข่าวต่างหัวเราะ แม้แต่หญิงสาวที่ร่วมเอ่ยสถานะก็ยิ้มเอียงอาย
ทับทิมมองภาพนั้นแล้วชวนเจ็บจี๊ดขึ้นมากลางโพรงอกอีกอย่างช่วยไม่ได้ จึงกระดกน้ำแชมเปญซึ่งมีอยู่ครึ่งแก้วลงคอหมดรวดเดียวราวกับต้องการชำระล้างอาการเจ็บแปลบในใจ อัศราซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ถึงกับตกใจเหมือนกัน
“คุณทับทิมไม่กลัวเมาหรือครับ?”
“ไม่ค่ะ ทับทิมคอแข็ง” เธอส่ายหน้ายิ้มๆ ดวงตายังจับจ้องที่วงสัมภาษณ์ ควงผู้หญิงมาเยาะเย้ยกันอย่างนั้นเหรอ คิดว่าเธอจะหึงล่ะสิท่า ไม่มีทางหรอก เธอยังจำข้อห้ามระหว่างพวกเธอดี ‘ห้ามหวง ห้ามหึง’
“ครับ” อัศราลอบยิ้มมุมปาก ขณะที่สายตาแอบเหล่ขาอ่อนของเธอ แม้จะไม่ได้สัมผัสแต่แค่มองด้วยตาเปล่ารู้ว่าทั้งเนียนทั้งนุ่ม จนเขาอยากลองสัมผัสสักครั้ง
“ทับทิมขอตัวไปห้องน้ำสักครู่นะคะคุณกอล์ฟ”
“เชิญครับ” อัศราส่งสายตาหยาดเยิ้ม ฉายชัดถึงความปรารถนา คลั่งไคล้หลงใหล อยากกลืนกินเจ้าของแผ่นหลังบอบบางเซ็กซี่
ด้านคนที่กำลังยืนให้สัมภาษณ์นักข่าวอยู่ในขณะนี้ ภายใต้ใบหน้าที่คลี่ยิ้ม หากทว่าภายในกำลังกรุ่นร้อนจนเกิดรอยแข็งกร้าว วาบวาวในเรียวตาคมกริบ ยามส่งสายตาไปทางสองหนุ่มสาว โดยเฉพาะเจ้าของแผ่นหลังเว้าลึกที่ตอนนี้กำลังลุกออกไป
+++++++++++
อิพรี่เริ่มจะหวงน้อนแล้วจ้าาา!
ฝากกดไลค กดติดตามด้วยนะคะ อัพวันละตอนทุกวันจ้า
ชอบไม่ชอบคอมเมนต์ติชมได้นะคะ
- Writer
