เหตุพลิกผัน

1787 Words
เสียงคนคลาคล่ำไปทั่วสนามบินสาวน้อยร่างบางเดินพลิ้วไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจใครเหล่าผู้ชายทั้งน้อยใหญ่ต่างชำเลืองมองบางคนแทบจะเดินเข้าหาเธอเพื่ออยากสานสัมพันธ์ถ้าไม่เจอเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น 10นาทีก่อนหน้า หลังจากที่ตรากตรำลำบากเรียนจนจบซีสาวสวยสุดห้าวก็ถึงเวลากลับมาเมืองไทยแผ่นดินเกิดซะทีไม่รู้ว่าคนที่บ้านจะเป็นยังไงบ้างหลังจากที่เธอจากบ้านไปเรียนไกลถึงเมืองจีนด้วยความสามารถทางด้านกีฬาและสมองที่เป็นเลิศไม่ว่าจะตั้งใจไปทางไหนเธอก็มักจะผ่านไปด้วยดีดีจนเธอนึกกลัวว่าเธอจะเป็นบ้าเอาสักวัน เขาว่าคนที่เก่งมากๆมักไม่ค่อยปรกติ 'ร้อน' นั่นคือความคิดแรกหลังที่เธอได้เหยียบแผ่นดินเกิด คิดถึงทุกคนที่บ้านจังคิดถึงยัยเหมยยัยเพื่อนตัวแสบไม่รู้ว่าจะมารับเธอตามที่นัดกันไว้หรือเปล่า สายตาคมสวยจ้องไปข้างหน้าตรงที่ผู้คนต่างมารับคนที่จากบ้านไกลแต่มองยังไงก็หาเพื่อนตัวแสบไม่เจออยู่ดี หรือว่ายัยนั่นตื่นสายกันนะยิ่งขี้เซาอยู่ด้วย สุดท้ายเธอก็ได้แต่ถอนหายใจคงต้องหาอะไรรองท้องรอสักชั่วโมง ขณะที่เดินเข้าร้านกาแฟก็มีสายตาคู่หนึ่งที่มองมายังเธอและเธอก็รู้สึกว่าสายตานั้นมันไม่น่าไว้ใจซะด้วยซิ "เอาคาปูนิโน่ค่ะ" "สวัสดีครับผมโดมครับเป็นช่างภาพนิตยสารดังตั้งแต่คุณเดินเข้ามาคุณทำให้ผมสนใจในตัวคุณมาก" "คะ ค่ะ" "อ้อผมหมายถึงรูปร่างคุณนะครับดูดีและมีบุคลิคมั่นใจเหมาะที่จะเป็นนางแบบขึ้นปกต่อไปในเดือนหน้า เอ่อขอโทษนะครับที่ผมพูดเองเออเอง" หมอนี่มาไม้ไหนเนี่ยเดินเข้ามาก็พล่ามลิงหลับได้เลยดูสายตาที่มองมาก็ไม่น่าไว้ใจชักจะรำคาญแล้วนะ "ฉันไม่สนใจหรอกค่ะขอโทษทีนะคะฉันขอตัวก่อน" ว่าจะนั่นจิบกาแฟรอยัยเพื่อนตัวดีซะหน่อยก็มีคนน่ารำคาญมาวุ่นวายซะแล้ว "เดี๋ยวก่อนครับคุณผมต้องขอโทษด้วยที่พูดแปลกๆแต่คุณตรงตามโจทย์ที่พวกเราตามหากันอยู่นะครับ" สวยๆแบบนี้ท่านชีคต้องชอบใจแน่และเราก็คงรอดจากหนี้มหาศาลแล้ว "ฉันขอพูดครั้งสุดท้าย ไม่ค่ะ ฉันขอตัว" ท่าทางหมอนี่มันไม่น่าคบสักนิดดูยังไงก็ไม่เหมือนพวกโมเดลิ่งเหมือนเสือผู้หญิงซะมากกว่า "เดี๋ยวครับ" กล้าดียังไงมาจับแขนฉันเนี่ย "ปล่อยค่ะ" โมโหแล้วนะไอ้ตัวผู้ "ผมมีข้อเสนอให้คุณไปพบกับหัวหน้าผมก่อนถ้าคุณไม่อยากทำค่อยปฏิเสธได้ไหมครับ นะครับผมขอร้องคิดว่าทำเพื่อเพื่อนคนหนึ่งที่กำลังจะตกงาน" ทำไมเล่นตัวนักวะถ้าไม่ติดว่าคนมองอยู่ฉุดไปนานแล้ว พอมองไปตามที่หมอนั่นชี้กลิ่นชักไม่ดีแล้ว ที่โต๊ะนั่นมีพวกไม่น่าไว้ใจสักคนโดยเฉพาะแขกที่นั่งหน้าสุดสายตาที่มองมาไม่เหมือนเจ้าของนิตยสารสักนิด ซีรีบชักแขนกลับทันที "คุณมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ หลีกทางให้ฉันด้วยไม่งั้นจะว่าให้ฉันทีหลังไม่ได้นะ" พอพูดเสียงดังขึ้นพวกนั้นก็ดูเหมือนจะเริ่มขยับตัวลุกขึ้นมาทั้งโต๊ะ งานเข้าแล้ววววว รีบชิ่งดีกว่า ยังไม่ทันที่จะหันหลังพวกของนายโดมก็มาล้อมเธอไว้โดยที่ชายแขกคนนั้นไปกระซิบกับนายโดมก่อนที่จะเดินจากไปทิ้งแต่คนไว้เหมือนเดิม "นายใหญ่ชอบเธอมากสงสัยคงต้องขอตัวเธอไปเลยแล้วกันนะ" "นายพูดบ้าอะไร หลบไปเดี๋ยวนี้นะ" นี่มันเมืองไทยนะมีกฎหมายบ้านเมืองมีขื่อมีแปทำอะไรไม่กลัวกันเลยหรือไง ตอนนี้สาวห้าวอย่างซีได้แต่ยืนงงมองไปรอบๆก็ไม่มีคนเข้ามาช่วยคนพวกนี้พอเห็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตนก็ผลักไสให้ห่างตัว "ถ้าเล่นแบบนี้ก็อย่าว่ากันละ" ท่าทีที่เปลี่ยนไปของหญิงสาวทำให้ชายชุดดำคิ้วขมวด ท่าทางจะเจอม้าพยศแล้วแต่ถึงจะยังไงพวกเขาก็ต้องทำในเมื่อเป็นคำสั่งนายใหญ่ผู้เป็นเจ้าชีวิตของพวกตน "ยอมไปกลับพวกเราดีๆ ดีกว่าครับ อย่าให้ใช้กำลังเลย" "ตุ๊บ" สิ้นเสียงชายชุดดำคนนั้นก็ล้มลงทันที ลงมือก่อนได้เปรียบคือคติประจำใจจากนั้นเธอก็วิ่งเข้าหาอีกสามคนที่เหลือทันที ทั้งหมัดทั้งเข่าทั้งศอกแม่ไม้มวยไทยชุดใหญ่บวกความคล่องตัวว่องไวของซีทำให้ล้มผู้ชายชุดดำได้ภายใน5นาที "เสียใจด้วยนะพวกคนเลวผู้หญิงไม่ได้อ่อนแอทั้งหมด" หากพวกชายชุดดำไม่มัวแต่อึ้งกับสิ่งที่เห็นเธอคงไม่อาจจะเอาตัวรอดออกมาได้ง่ายๆ ดีที่ยังมีช่วงเผลอของคนเหล่านั้นถือว่าพวกนายซวยเองนะ อั๊ก ก่อนจากก็ขอฝากอีกสักทีเถอะนายโดมอย่าได้สืบพันธุ์อีก ชั่วๆอย่างแกมีคนเดียวก็เหลือทน ยัยปีศาจ เสียงร่ำร้องในใจของโดมที่ไม่คิดว่าผู้หญิงที่เขาคิดว่าอ่อนแอจะทำให้เขาต้องเจ็บเจียนตายแบบนี้ ‘อย่าให้เจออีกครั้งนะ จะเอาคืนให้สาสมกับที่ทำกับตนไว้’ ส่วนชายพวกชุดดำที่ยังคงมีสติแต่ยังจุกไม่หายก็ได้แต่พินิจสาวสวยคนนั้นอย่างเงียบๆเธอช่างร้ายกาจหากที่นี่เป็นที่ประเทศของพวกตนเธอคงไม่มีโอกาสที่จะลงมือด้วยซ้ำนี่ถือว่าโชคดีที่อยู่ต่างประเทศ นายใหญ่ของพวกตนยังไม่อยากมีปัญหานักแม้จะเสียดายแต่คงต้องปล่อยไป หญิงสาวรีบมุ่งหน้าออกจากสนามบินด้วยท่วงท่าการเดินที่สง่างามใบหน้าที่สวยรูปร่างที่เย้ายวนก็ลบสิ่งที่เธอได้กระทำเมื่อครู่นี้หมดสิ้นแต่ก็ยังไม่มีชายคนไหนกล้าพอที่จะเข้าหาเธอ "ทุกที่เป็นแบบนี้เหมือนกันหมดเลยหรือยังไงกันนะ" หญิงสาวได้แต่คิดอย่างหนักใจเมื่อนึกถึงสิ่งที่เคยประสบพบเจอมันมีมาแต่แบบนี้แทบทุกคน 'พูดไม่ได้ก็ใช้กำลัง' เมื่อไหร่เธอจะได้ใช้ชีวิตที่สงบสุขสักทีเธอได้แต่คิดอย่างหนักใจ เดินมาสักพักก็ออกมาถึงข้างนอกไม่รงไม่รอแล้วยัยเพื่อนบ้านี่สองขาเรียวยาวรีบก้าวเท้าออกไปโดยที่ทันได้มองถนนข้างหน้าให้ดีๆ "ระวัง" เสียงคนร้องตะโกนอีกฟากของถนนเมื่อเธอเงยหน้ามองก็เห็นยัยเพื่อนตัวแสบที่ยืนอยู่แต่ยังไม่ทันคิดความเจ็บแปลบก็ลามไปทั่วร่างของเธอ ''ตึ้ง'' "ยัยซีกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด" "รถชนคน" "เรียกรถพยาบาลที" เสียงแซ่งแซ่ไปทั่วท้องถนนเธอเห็นยัยเหมยเพื่อนของเธอรีบวิ่งมาหาพูดอะไรก็ไม่รู้แต่น้ำตาของเธอทำฉันใจไม่ดีเลย "ฮื่อๆๆๆยัยซียัยบ้าซุ่มซ่ามที่หนึ่งทำไมไม่มองรถหะ แกอยากตายหรือไงถ้าแกเป็นอะไรฉันจะตามไปหักคอแกจะตามจองเวรแกไปทุกๆชาติเลยได้ยินฉันไหม ฮื่อๆยัยซี" เจ็บจังฉันได้แต่ยิ้มให้เพื่อนคนเดียวที่อยู่ตรงหน้าฉันพยายามจะยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้แต่มือก็ยกไม่ขึ้นอย่าร้องเลยนะเหมย "ขอโทษนะเหมย" "ขอโทษบ้าอะไรแกยังไม่ตายรถพยาบาลกำลังจะมาฉันจะพาแกไปหาหมออดทนไว้นะ" อย่าเป็นอะไรนะฉันรับมันไม่ได้ถ้าแกจะจากฉันไปอย่างนี้ เหมยได้แต่กรีดร้องอย่างปวดใจก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามีสิ่งที่เตรียมมาให้เพื่อนสาวของเธอ "ฉันมีของขวัญจะให้แกนี่ไงแกเห็นไหมกำไลหยกแกะรูปหงส์ที่แกอยากได้จากร้านอาแป๊ะนะฉันไปอ้อนให้แกขายได้แล้วนะฉันจะใส่ให้" ฉันโกหกแก มันได้มาอย่างไม่น่าเชื่อต่างหาก ฉันได้แต่มองเพื่อนเอากำไลหยกมาใส่ให้ ฉันยังจำมันได้ดีกำไลที่ฉันอยากได้เมื่อตอนเด็กแต่อาแป๊ะแกไม่ยอมขายให้แกบอกแค่ว่ายังไม่ถึงเวลาไม่นึกเลยว่ายัยเหมยจะไปเอามันมาได้ "ขอบคุณนะ " หวังว่ารอยยิ้มนี้จะเป็นรอยยิ้มที่สวยที่สุดนะฉันให้แกได้แค่นี้ "ไม่ต้องพูดแล้วยัยซีไม่ต้องขอบคุณ แกดูนี่ฉันก็มีกำไลหยกแกะสลักรูปนกยูงที่มันวางคู่กันเสมอไงฉันก็ซื้อมาด้วยเห็นไหมฉันไม่ยอมให้แกใส่คนเดียวหรอก" เหยมยื่นกำไลหยกอีกอันที่เธอได้มาพร้อมกับของซีให้เพื่อนเธอดูก่อนที่จะสวมมันที่แขนช่างเป็นความฝันที่เจ็บปวดเสียจริงเธอและเพื่อนของเธออยากจะครอบครองกำไลทั้งสองวงนี้มากซ้ำยังพากันคิดว่าที่อาแป๊ะไม่ยอมขายให้เพราะราคาสูงเสียอีกจึงสัญญากันว่าจะต้องเก็บเงินมาซื้อมันให้ได้ไม่นึกเลยพอครบรอบอายุ20ปีของเธออาแป๊ะกลับนำมันมาให้เป็นของขวัญพร้อมกับอีกอันที่ฝากไว้ให้เพื่อนเธอวันนั้นเธอดีใจเสียจนนอนไม่หลับเก็บไว้จะทำเซอร์ไพรเพื่อนรักของเธอแต่ไม่คิดเลยจะต้องมาให้ในสถานการณ์แบบนี้ "ซีแกว่าสวยไหมฉันว่ามันเหมาะกับพวกเราเลยนะ" เหยมจับแขนข้างที่สวมกำไลให้เพื่อนดูพร้อมทั้งนำแขนข้างที่เธอสวมกำลังมาเทียบข้างๆกัน สิ่งที่เหมยกระทำนั้นกลับไปต่อกงล้อชะตาของซีให้หมุนต่อไปตามกำหนดของฟ้าร่างทั้งสองมีแสงสีเหลืองอ่อนรายรอบก่อนที่จะจ้าจนแสบตา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD