@บ้านของคิมหันต์ ประเทศอเมริกา
"คิม มารู้จักกับพี่เมสิลูก นี่พี่เม ต่อไปนี้จะเป็นพี่สาวของคิมนะครับ" มารดาของคิมหันต์บอกกับเด็กชายวัย 9 ขวบที่เดินเข้ามาในบ้านเจอสมาชิกใหม่ที่เป็นสาวน้อยวัย 13 ขวบที่ยิ้มให้กับเขา
"สวัสดีจ๊ะคิม" เมษาเอ่ยทักทายน้องชายอย่างเป็นมิตร ต่างจากน้องชายคนใหม่ตรงหน้าของเธอที่ยืนมองด้วยสายตาเย็นชาไม่แสดงอารมณ์ยินดีหรือยินร้ายออกมาให้อีกฝ่ายรับรู้
"คิม พี่เมเป็นลูกสาวของป้ามาเรียมและลุงไมเคิล แต่ตอนนี้ลุงไมเคิลและป้ามาเรียมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้เหลือพี่เมเพียงคนเดียว บ้านเราสนิทกับป้ามาเรียมแล้วพี่เมไม่มีใครที่พอจะไว้ใจได้ แม่เลยรับพี่เมเป็นลูกอีกคน คิมเข้าใจแม่ใช่ไหมครับ ชีวิตพี่เมน่าสงสารมากนะครับน้องคิม" มารดาของคิมหันต์เดินเข้ามาหาลูกชายแล้วพาเดินไปคุยกันข้างนอกตามลำพังโดยที่เมษายืนมองอยู่กับบิดาของคิมหันต์ที่ห้องนั่งเล่น
"ครับแม่" คิมหันต์พยักหน้าอย่างรับรู้แล้วไม่พูดอะไรต่อ
หลังจากที่คิมหันต์คุยกับมารดาเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินเข้ามาหาเมษาที่ยืนอยู่กับบิดาของเขา
"สวัสดีครับ...พี่สาว" คิมหันต์เอ่ยทักทายเด็กสาวตรงหน้าด้วยน้ำเสียงปกติแต่สายตาที่เด็กชายมองมายังเด็กสาวนั้นมันเป็นสายตาแห่งความว่างเปล่าจนเด็กสาวที่สบตากับเด็กชายรู้สึกได้ถึงความว่างเปล่านั้นที่ส่งมายังเธอ
สายสัมพันธ์ความเป็นพี่น้องระหว่างเมษาและคิมหันต์ไม่ต่างจากคนรู้จักกัน เพราะคิมหันต์ไม่ค่อยคุยกับเมษาหากไม่มีความจำเป็นหรือมารดาของเขาบอกให้เขาทำ จนเมื่อคิมหันต์อายุ 13 ขวบ เขาได้ขอบิดาและมารดามาเรียนที่ไทยเพื่อได้มาอยู่กับเพื่อนรักอีกสามคน นับตั้งแต่วันนั้นสายสัมพันธ์ระหว่างเมษาและคิมหันต์จึงเป็นคนแปลกหน้ากันไป
เวลา 10 ปีต่อมา @คอนโดของคิมหันต์ ประเทศไทย
ก๊อก ก๊อก (เสียงเคาะประตูห้อง)
"ไฮ น้องชาย รู้ว่าพี่สาวกลับมาไทย ถึงต้องย้ายตัวเองมาอยู่คอนโด เพื่อเสียสละบ้านทั้งหลังให้พี่สาวคนนี้เลยเหรอ น่าภูมิใจจังที่มีน้องชายช่างเสียสละขนาดนี้" เมษาหญิงสาววัย 27 ปี ยืนทักทายน้องชายคนเดียวที่ยืนมองหน้าเธอด้วยสายตาว่างเปล่าเหมือนทุกครั้งจนเธอชินกับสายคู่นี้ไปแล้ว
"มาทำไม" คิมหันต์เอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าที่ยืนยิ้มให้กับเขาอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนักแต่ยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉยให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่าตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับการมาของหญิงสาวตรงหน้าเขา
"ยืนนานแล้วปวดขาชะมัด พี่ขอเข้าไปนั่งหน่อยนะ ปวดขามากเลย" หญิงสาวตรงหน้าไม่ว่าเปล่ากลับเดินเข้ามาหาคิมหันต์ที่ยืนอยู่หน้าประตูแล้วเอามือคล้องคอชายหนุ่มพร้อมกับเดินเข้าไปจนประตูห้องปิดลง
จากนั้นเมษาจึงเลื่อนริมฝีปากขึ้นไปประกบกับริมฝีปากหนาของเขาอย่างไม่เกรงกลัวกับสายตาของอีกฝ่ายที่มองเธออย่างดุดัน ริมฝีปากบางประกบกับริมฝีปากหนาที่เธอแสนจะหลงใหล หญิงสาวดูดกลืนความหวานของชายหนุ่มที่เรียวปากของเขา โดยที่คิมหันต์ขยับริมฝีปากตามอย่างให้ความร่วมมือ นี่ไม่ใช่จูบแรกระหว่างเธอและเขา แต่เป็นจูบที่เท่าไหร่แล้วเธอก็จำไม่ได้ เพราะตั้งแต่จูบแรกที่เธอมอบให้เขาในวันที่เขาเสียใจหนักจากความรักที่ผิดหวังจนเมามายแล้วเธอก็อยู่ปลอบใจชายหนุ่มทั้งที่เขาไม่ได้ต้องการให้เธออยู่ด้วยเลยสักนิด
เมษาบดขยี้ลงบนริมฝีปากหนาในเวลาต่อมาโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ผลักไสหรือตอบรับเท่าที่ควรนัก แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าจูบของเธอทำให้เขารู้สึกแปลกๆจนไม่เป็นตัวของตัวเองเลยสักครั้งเวลาที่เธออยู่ใกล้เขา เมษาสอดแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเขาอย่างช่ำชอง พลางสอดลิ้นเข้าไปในไรฟันอย่างยั่วยวน จนได้ยินเสียงครางของอีกฝ่ายอย่างสุขสมในที่สุด
"อืมม.." คิมหันต์ครางออกมาอย่างหมดความอดทน เมื่อมือของเขาเริ่มลูบขึ้นมาที่แผ่นหลังของอีกฝ่ายพร้อมกับเอามือรูดซิปเกาะอกสีดำลงมาจนถึงเอวบางด้านหลัง
เมษาถอนจูบออกก่อนจะพรมจูบลงมาตามบริเวณซอกคอของชายหนุ่มพร้อมกับเอามือเลื่อนมาปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตของอีกฝ่ายอย่างต้องการอีกฝ่าย ส่วนคิมหันต์ก็ทำการดึงเกาะอกของหญิงสาวลงมาที่เอวคอดจนเผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มที่มียอดอกสีชมพูระเรื่อน่ามองและน่ากินมากแค่ไหน
ชายหนุ่มจับใบหน้าหญิงสาวขึ้นมาจูบพร้อมกับดันตัวเธอลงนอนบนโซฟาใหญ่กลางห้องนั่งเล่นของคอนโด ระหว่างที่คนทั้งสองจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม มือของคนทั้งคู่ก็ช่วยกันจัดการอาภรณ์ที่ขวางกันระหว่างเนื้อสัมผัสของกันและกัน จนในที่สุดร่างของคนทั้งสองก็เปลือยเปล่ากอดฟัดกันแบบเนื้อแนบเนื้อจนแทบจะหลอมเป็นหนึ่งเดียว
"อ๊ะ..อ๊า..คะ..คิม" เสียงร้องครางอย่างเร่าร้อนของเมษาที่ดังขึ้นมาเมื่อคนตรงหน้าโน้มตัวลงไปยังยอดอกของเธอ พร้อมกับดูดดึง กัดเม้มจนเป็นรอย ส่วนมืออีกข้างของเขานั้นได้บีบเคล้นหน้าอกข้างและบี้ยอดอกอย่างไม่น้อยหน้าอีกข้างเช่นเดียวกันตามอารมณ์ดิบที่เขาเก็บกดไว้ไม่แสดงออกมาให้ใครได้เห็นแม้กระทั่งเพื่อนรัก แฟน หรือผู้หญิงที่เขาเคยนอนด้วย เขาไม่เคยแสดงตัวตนที่ฝังเอาไว้ออกมาเลยสักครั้ง แต่กลับมาแสดงอารมณ์นั้นออกมาอย่างไม่มีกั๊กไว้เลยให้หญิงสาวตรงหน้าได้รับรู้และสัมผัสอารมณ์และการกระทำเหล่านั้นของเขา
"สวบ! / อ๊า..อ๊าา" เสียงกระแทกแก่นกายเข้าไปในร่องรักทีเดียวมิดด้ามและเสียงกรีดร้องของคนใต้ร่างที่ดังขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดเพราะความฝืดของร่องรักเธอที่ยังไม่มีน้ำหล่อลื่นออกมา
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
เสียงกระแทกแก่นกายของชายหนุ่มเข้าออกร่องรักของหญิงสาวใต้ร่างอย่างหนักหน่วงตามอารมณ์ดิบเถื่อนที่แสดงออกมาโดยที่หญิงสาวพยายามไม่ร้องออกมาเพราะรู้ดีว่าถึงเธอร้องขอให้ชายหนุ่มผ่อนแรงลง แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจฟังคำขอของเธออยู่ดี เธอจึงเลือกที่จะกัดริมฝีปากตัวเองไว้พร้อมกับเอามาจิกลงที่หมอนข้างตัวเพื่อระบายความเสียวซ่านและความเจ็บปวดแทน
สำหรับคนภายนอก คิมหันต์ คือนักธุรกิจและวิศวกรหนุ่มไฟแรง มีความเก่งและฉลาดที่อายุยังน้อย เป็นคนที่นิ่ง เย็นชา พูดน้อย ตรงไปตรงมาจนบางคนมองว่าเขาเป็นนักธุรกิจเลือดเย็นเพราะไม่ค่อยยอมใครง่ายๆ เกลียดการเอารัดเอาเปรียบ มีเพียงผู้หญิงสองคนเท่านั้นที่เห็นมุมอ่อนโยนของเขา คือ มารดาที่ให้กำเนิด และเพื่อนสาวคนเดียวในกลุ่มที่เขายังรักและห่วงใยอยู่เสมอ แม้ว่าเธอจะมีคนที่ดูแลอย่างดีอยู่แล้วอย่าง ภูผา เพื่อนรักอีกคนของเขา
"อ๊ะ..อ๊า..วันนี้เครียดเหรอ" หญิงสาวใต้ร่างโพร่งถามขึ้นมาขณะที่ร่างกายของคนทั้งสองยังกระแทกเข้าหากันไม่หยุดด้วยจังหวะที่หนักหน่วงและรุนแรง จนเธออดที่จะถามออกมาไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาในวันนี้ ทำไมถึงได้สร้างบทรักอันหยาบโลนกระหน่ำใส่เธอขนาดนี้ จนร่างกายของเธอแทบทานทนไม่ได้ ปลดปล่อยไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งทั้งที่ชายคนที่คร่อมตัวเธออยู่ยังไม่มีทีท่าจะปลดปล่อยมันออกมาเลย เหมือนเขากำลังมีความเครียดอยู่ในใจ
"อืมม.." ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรออกมาแต่กลับครางอย่างสุขสมออกมาอย่างสั้นๆและเบาๆ ทำให้หญิงสาวใต้ร่างเอามือคล้องคอเขาแล้วประกบจูบที่ริมฝีปากหนาอย่างเบาๆเหมือนกำลังจะปลอบประโลมให้เขาคลายความกังวลที่เกิดขึ้นอยู่โดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าเขากำลังเผชิญปัญหาอะไรอยู่
ชายหนุ่มที่ได้รับจูบอันอ่อนโยนจากหญิงสาวใต้ร่างแทนที่เขาจะจูบตอบกลับอย่างอ่อนโยนเหมือนอีกฝ่ายส่งมาให้ เขากลับจูบตอบอย่างเร่าร้อน ลิ้นเรียวเล็กที่สอดเข้ามาในโพรงปากตอนแรกกลับต้องกลับเข้าไปในโพรงปากของตัวเองเมื่อเรียวลิ้นหนากลับสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของเธอแทน นอกจากจูบอันเร่าร้อนที่ฝ่ายชายมอบให้หญิงสาวใต้ร่างแล้ว มือของเขาทั้งสองข้างยังได้สัมผัสเนื้อตัวของเธออย่างรุนแรงไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าอกอวบอิ่มที่ใหญ่เกินขนาดของเธอที่เขาบีบเคล้นอย่างหนักหน่วงอีกครั้งจนเกิดรอยแดงปื้นเต็มหน้าอกทั้งสองข้าง ส่วนมืออีกข้างของเขาก็เลื่อนลงไปบีบสะโพกอวบไม่ต่างกัน จนทำให้หญิงสาวเกิดความเสียวซ่านขึ้นมาอย่างถึงที่สุดจนแตะขอบสวรรค์อีกรอบทั้งที่แก่นกายและร่องรักยังกระทบกันไม่หยุดหย่อนหรือผ่อนแรงลงไปเลย
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!ๆๆๆๆๆๆๆ
"อ๊า..คะ..คิม..อื้อ" เสียงครางของเมษาดังขึ้นมาเมื่อคิมหันต์กระแทกกระทั้นแก่นกายเข้าออกร่องรักอย่างหนักหน่วงและถี่รัวขึ้นเมื่อเขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะถึงจุดหมายปลายทางที่ตัวเองต้องการจะไป
"อร๊าย..อ๊า..กรี๊ด / อืมม..ซี๊ด" เสียงครางของทั้งคู่ดังขึ้นมาโดยที่คิมหันต์นั้นครางออกมาเพียงเบาๆและสั้นๆ ต่างจากหญิงสาวที่กรีดร้องออกมาอย่างเสียงดังเมื่อคนทั้งคู่ถึงจุดสุดยอดไปพร้อมกัน
คิมหันต์ทำการกระแทกแก่นกายเข้าออกร่องรักอีกสามสี่ครั้งแล้วน้ำอุ่นๆจากร่างกายของชายหนุ่มก็พุ่งเข้าไปผนังด้านในร่องรักของหญิงสาว จนความอุ่นของน้ำรักที่ทั้งคู่ปลดปล่อยออกมาทำให้ความเสียวซ่านยังออกไปไม่ได้หมดดี จนต้องระบายออกมาด้วยการจูบอย่างดูดดื่มอีกครั้งด้วยความหอบเหนื่อยของทั้งคู่พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงจากความตื่นเต้นที่มอบให้กันและกัน
"อ๊ะ!.." เสียงร้องออกมาของหญิงสาวเมื่อชายหนุ่มหยัดตัวลุกขึ้นออกไปจากกายเธอทันทีหลังจากที่ได้ปลดปล่อย ทำให้น้ำรักของทั้งคู่ไหลลงมาอาบเรียวขาของหญิงสาวทั้งสองข้างจนออกมาเลอะที่โซฟาหนัง
"พอเสร็จก็ไม่สนใจกันเลยนะ" เมษาบ่นกับตัวเองเบาๆขณะที่หยิบทิชชู่มาเช็ดที่เรียวของตัวเองและบริเวณที่เลอะน้ำรักของเขาและเธอบนโซฟาหนัง เมื่อเห็นว่าคิมหันต์หันหลังให้เธอเข้าห้องน้ำอย่างไม่สนใจเธอเลยสักนิด จนเธอชินแล้วว่าเมื่อเสร็จสมจากเขาเธอต้องจัดการตัวเองอย่าหวังได้ว่าเขาจะมาอ่อนโยนกับเธอเหมือนคู่ขาหรือคนรักทั่วไปเป็นอันขาด ขนาดว่าเธอให้เขาเป็นคนแรกแต่ก็ไม่สามารถทำให้เขาใจอ่อนและอ่อนโยนกับเธอได้เลย จนเธออยากที่จะถอดใจอยู่หลายครั้ง แต่ด้วยความรักที่มันมีต่อเขามากมายทำให้เธอไม่สามารถตัดใจไปจากเขาได้สักที
"กลับไปได้แล้ว" คิมหันต์เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่อยู่ในชุดลำลอง มองหญิงสาวที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยชุดเกาะอกสีดำด้วยสายตาดุดัน แต่คนตรงหน้าดูเหมือนไม่ทุกข์ร้อนกับสายตานั้นที่มองมายังเธอเลยสักนิด แต่กลับยิ้มร่าอย่างผู้ชนะที่สามารถทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าแสดงความหื่นกระหายออกมาได้ภายใต้กรอบความนิ่งเงียบที่มักแสดงให้คนทั่วไปเห็น
"น้ำแตกแล้วรีบแยกทางเลยนะ น่าน้อยใจจัง อุตส่าห์มาเสิร์ฟให้ถึงที่ขนาดนี้ น่าจะมีขอบคุณพี่สาวคนนี้สักคำก็ไม่มียังมาไล่เหมือนหมูเหมือนหมาอีก เฮ้อ" เมษาแกล้งพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจแต่แท้จริงแล้วต้องการที่จะยั่วประสาทน้องชายคนเดียวของเธอมากกว่า
"จะกลับดีๆหรืออยากจะคลานออกไป" คิมหันต์ถามกลับมาสั้นๆด้วยน้ำเสียงดุดันอีกครั้งแต่ไม่ได้สร้างความรู้สึกกลัวให้กับเมษาเลยสักนิด แต่เธอกลับเดินเข้ามาใกล้เขาพร้อมกับยกมือคล้องที่คอเขาแล้วโน้มหน้าเข้าไปจูบเขาอย่างดูดดื่ม โดยที่ชายหนุ่มไม่ได้ผลักไสหรือตอบสนองเธอ
"พี่ไปก่อนนะ อ้อ ลืมบอกว่า..พี่จะย้ายมาอยู่ไทยถาวรแล้วนะ ดีใจมั้ยที่พี่มาอยู่ใกล้ๆคิมแล้ว" หลังจากที่หญิงสาวพูดจบก็หอมแก้มชายหนุ่มตรงหน้าฟอดใหญ่ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องของเขาทันที
ตื๊ด ตื๊ด (เสียงโทรออกของมือถือคิมหันต์)
(ครับนายน้อย) เสียงปลายสายเอ่ยตอบรับทันทีเมื่อกดรับสาย
"ตามดูเธอด้วย" คิมหันต์บอกไปสั้นๆโดยให้ปลายสายเข้าใจในคำพูดของเขาเอง
(เอ่อ นายน้อยหมายถึงคุณหนูใหญ่ใช่ไหมครับ ได้ครับนายน้อย ผมจะให้ลูกน้องตามเฝ้าคุณหนูใหญ่เพิ่มขึ้น) หลังจากที่ปลายสายตอบรับคำสั่งของเขา เขาก็วางสายลงไปทันที
ตั้งแต่คืนวันนั้นที่เขาเมามายและมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับพี่สาวบุญธรรมไปในครั้งแรกและรู้ว่าตัวเองเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ เขาก็สั่งให้คนตามเฝ้าดูเธอและคอยรายงานความเป็นไปของเธอให้เขารับรู้อยู่ตลอดเวลา และวันนี้เขาก็รู้อยู่ก่อนแล้วว่าเธอจะมาหาเขา ทำให้เขาได้ระบายความหึงหวงออกมา เมื่อได้รู้มาว่ามีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาเกาะแกะกับเธอนอกจากเขา แม้การแสดงออกจากภายนอกที่ดูว่ารังเกียจและไม่ต้องการเธอ แต่ภายในใจของเขานั้นกลับหวงเธออย่างมากมาย โดยที่ความรู้สึกนี้เขาไม่คิดมาก่อนจะว่าสามารถเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนอื่นได้นอกจาก เขียนฟ้า เพื่อนรักของเขา แต่ตอนนี้กลับมีหญิงสาวอีกคนที่เข้ามาวิ่งวนกวนหัวใจของเขาอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าไม่ได้ปรากฏตัว แต่เธอก็ยังตามมาวุ่นวายในจิตสำนึกของเขาทุกครั้งที่เผลอคิดถึงเธอ
"ยัยตัวแสบ..วุ่นวายไม่เลิก"