ห้างหรูปรากฏร่างผู้บริหารหนุ่มหล่อควงคู่หมั้นคนสวยเข้ามาซื้อของ ดูจะเป็นภาพที่ชินตาสำหรับพนักงานหลายคน เพลิงกัลป์มักควงหญิงสาวมาเดินห้างเช่นนี้เป็นประจำทุกสัปดาห์ ไม่เคยขาด แม้ท่าทางจะไม่อยากมาด้วยเท่าไหร่ก็ตาม
“พี่เพลิงคะหิวมั้ย ถ้าหิวจะกินอะไรก่อนก็ได้”
หญิงสาวถามคู่หมั้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาอาจจะไม่ได้ทานอะไรช่วงกลางวัน เพลิงกัลป์ทุ่มเททุกอย่างให้งานจนลืมทานข้าวเกือบทุกวัน และนีน่าก็เป็นคนไปบังคับให้เขาออกมาทานด้วยตลอดหากเธอว่าง
“อยากได้อะไรก็บอกมาเลย” ชายหนุ่มไม่อยากคุยอะไรมากนัก เพราะเบื่อหน่ายการเดินเล่นไร้สาระนี้เต็มที เขามองว่าหากเอาเวลานี้ไปทำงานยังมีประโยชน์เสียกว่า
“งื้อ พี่เพลิงไม่ต้องรีบโชว์ป๋าหรอกนะคะ ยังไงวันนี้ก็ได้จ่ายแน่นอน เพราะอีกไม่กี่วันเราต้องออกงานคู่กัน”
ไม่เพียงต้องเดินห้างทานข้าว แต่เพลิงกัลป์ยังต้องออกงานตามที่ผู้เป็นแม่สั่ง และทุกครั้งต้องพาคู่หมั้นจอมแสบไปด้วย ซึ่งวีรกรรมแต่ละงานแทบไม่เคยซ้ำกัน นีน่าว่าที่สะใภ้คนโปรดฟาดนางแบบดาราลูกสาวคุณหญิงคุณนายจนเป็นที่เลื่องลือว่าคู่หมั้นประธานรูปหล่อหึงโหดเพียงใด
เดินไปเถียงไปครู่เดียวนีน่าก็มาถึงร้านเป้าหมายแรกที่ตนนั้นตั้งใจว่าจะมาใช้เงิน
“คุณนีน่าคุณเพลิงสวัสดีค่ะ วันนี้มาดูเครื่องประดับไปออกงานที่ไหนคะ”
แพงขวัญเจ้าของร้านเพชรชื่อดังยิ้มหน้าให้ลูกค้ากระเป๋าหนักที่มาเหยียบร้านทีไรกวาดเครื่องประดับเธอไปหลายชิ้น
“นีน่าอยากได้ Cufflinks (คัฟลิงค์) ที่สั่งไว้ค่ะ”
อาการกระดี๊กระด๊าเวลาได้ใช้เงินของหญิงสาวนั้นเป็นอีกภาพที่มองแล้วชินตาทว่าไม่ได้สนุกสนานตามเจ้าตัวไปด้วย
ผู้หญิงกับการชอปปิงคือของคู่กัน…
“อยากได้สร้อยไปออกงานเหรอ จะซื้อทุกงานเลยหรือไง”
เสียงติดจะห้วนอย่างที่เคยใช้ทักท้วงเมื่อมองแววตาเป็นประกายของนีน่าที่มองดูสร้อยในตู้โชว์ตาเป็นประกายวาววับ
“ถ้าพี่เพลิงใจดี นีน่าก็เอา” เรื่องอะไรต้องปฏิเสธเพราะในอนาคตของเธอก็เป็นของเขาอยู่ดี ซื้อให้วันนี้อย่างไรเสียก็ไม่ขาดทุน
“ใส่ไปก็เท่านั้น ไม่ช่วยให้ความสวยมันมากขึ้นหรอก”
ปากเพลิงกัลป์เริ่มพ่นคำพูดต้องห้าม ‘ไม่สวย’ ออกมาอย่างลืมตัว
“พี่เพลิง นีน่าชักเริ่มโมโหแล้วนะ!”
เสียงหวานปรับระดับโทนให้สูงขึ้นตามอารมณ์หญิงสาวในตอนนี้
คู่หมั้นเขาอย่างกับผีเสื้อสมุทร!
“คุณนีน่าคะ ของได้แล้วค่ะ” แพงขวัญมองคู่หมั้นทะเลาะกันเกร็ง ๆ พร้อมกับยื่นถุงคัฟลิงค์ให้
“เอาสร้อยเส้นนั้นค่ะ รวมถึงแหวนกับกำไลเส้นนั้นด้วย”
เจ้าตัวชี้ไปยังเครื่องประดับที่เปล่งประกายระยิบระยับล่อตาล่อใจในตู้โชว์
เพลิงกัลป์ล้วงกระเป๋าสตางค์หยิบเอาบัตรให้พนักงานอย่างรู้หน้าที่ว่าถ้าไม่อยากหูชาก็จงจ่ายทุกอย่างที่คู่หมั้นสาวอยากได้ซะ เขาเองเคยบ่นเรื่องนี้กับผู้เป็นแม่หวังให้ท่านมองลูกสะใภ้คนนี้ใหม่แต่ท่านกลับไม่โกรธเคืองสักนิดพร้อมกับเข้าข้างกันไปอีก
ผู้หญิงสวยต้องใช้เงิน!
นั่นคือคำที่แม่พร่ำบอกเขานักหนาเวลานีน่าอ้อนอยากได้อะไร โดยเฉพาะเครื่องเพชรกับกระเป๋าที่ตอนนี้คงเต็มบ้านไปหมด
“เรียบร้อย ไปร้านอื่นกันต่อนะคะ”
รับถุงเครื่องประดับเสร็จก็คล้องแขนคู่หมั้นรั้งให้ไปร้านอื่นต่อ เพลิงกัลป์เดินตามแรงลากก่อนจะถูกหญิงสาวคนตัวเล็กคนหนึ่งเดินชนเข้าอย่างจัง
ปึก
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” หญิงสาวรีบขอโทษก่อนจะเงยหน้ามองร่างสูงใหญ่กว่าตน
“ปลายฟ้า” เสียงเข้มดูอ่อนยามเอ่ยชื่อของหญิงสาวหน้าสวยที่ไม่ได้พบกันนาน ปลายฟ้าเป็นรุ่นน้องสมัยเรียน อ่อนกว่าเขาหนึ่งปีเคยคบหากันอยู่พักใหญ่แต่ก็มีอันต้องเลิกรา หญิงสาวอ้างว่าต้องไปเรียนต่อซึ่งแท้จริงแล้วเธอมีคนอื่น
“เดินระวังหน่อยสิคะไม่ใช่เล่นแต่โทรศัพท์”
นีน่าตำหนิไม่จริงจังนัก เพียงแค่อยากตักเตือนไม่ให้อีกฝ่ายเล่นโทรศัพท์จนไม่มองทางอีก เพราะนอกจากสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นแล้วมันยังอันตรายกับตนเองด้วย
“นีน่า!” เพลิงกัลป์ดุเสียงเข้ม
“ขอโทษด้วยค่ะ พี่เพลิงสบายดีมั้ยคะ”
ปลายฟ้าทักทายคนรักเก่าเสียงหวาน จนนีน่าเริ่มออกอาการไม่พอใจ
“สบายดี ปลายล่ะ” เขาทักทายกลับไปอย่างเป็นมิตร แต่มันกลับไปจี๊ดใจนีน่า
กรี๊ด! เสียงอ่อนเสียงหวานเสียงสองเสียงสาม เห็นเธอเป็นธาตุอากาศเลยหรือไง แล้วยัยนี่ใครอีก…
เอ๊ะ ปลาย…ปลายฟ้า อดีตกิ๊กเก่าคู่หมั้นเธอนี่ทำไมสวยขนาดนี้นะ ฮือ แล้วทำไมพี่เพลิงต้องพูดเสียงสองกับยัยนี่ด้วย!
นีน่าเจ็บจี๊ด!!!!!!