7 | AMI - จากคู่นอนกลายเป็น... (NC20+)

1851 Words
7 [AMI] จากคู่นอนกลายเป็น... "ถูกต้องไหม?" เขากระซิบถามใกล้ๆ "ก็... น่าจะประมาณนั้นค่ะ" หลังจากนั้นคุณไกด์ก็ยกมือเรียกพนักงานสั่งไวน์ให้ และขอแก้วสองใบ ตังเมกับปิ๊งมองฉันอย่างรู้ทัน ราวกับคิดว่าฉันกับคุณไกด์กำลังเร่งดื่มเพื่อไปจัดกิจกรรมอย่างว่ายังไงอย่างงั้น "ไม่ต้องรีบ เพื่อนยังหาผู้ชายไม่ได้" ปิ๊งกระซิบ "ใครรีบ ไม่มี๊ แกเข้าใจผิดแล้ว" ปิ๊งเบ้ปาก แต่พอฉันตอบเพื่อนเสร็จก็หันมาคุยกับคุณไกด์ต่อ เพราะเห็นลูกน้องพี่เอเธอร์นั่งที่มุมร้านและคอยมองมาที่เราตลอดเวลา "ฉันมีอีกเรื่องจะบอกคุณ" "ว่าไงครับ" ฉันขยับไปใกล้ๆเพื่อให้เราคุยกันสะดวกขึ้น "คือลูกน้องมาเฟียพวกนั้นอาจจะทำร้ายคุณได้นะคะ อยากให้ระวังตัวไว้" เขายิ้มที่มุมปากแล้วมองไปที่โต๊ะพวกนั้น และสิ่งที่ทำก็ทำให้ฉันเบิกตากว้างตกใจ เพราะคุณไกด์ยกนิ้วกลาง ! "อย่าทำแบบนั้นค่ะ ว้าย!" ฉันรีบพุ่งไปดึงแขนเขาลงแต่ดันเสียหลักล้มฟุบบนตักคุณไกด์ เขาก้มมองแผ่นหลังไปจนถึงบั้นท้ายด้วยสายตาราบเรียบ ก่อนที่ฉันจะรีบดันตัวลุกกลับมานั่งเหมือนเดิม และเอ่ยขอโทษทันที "ขอโทษค่ะ พอดีพื้นรองเท้าลื่น" "ไม่เป็นไร" "แต่คุณต้องระวังตัวจริงๆนะคะ พวกนั้นฆ่าคนได้นะ" เขาลอบหัวเราะเบาๆ "เอาสิ... ผมก็ฆ่าคนได้เหมือนกัน" ฉันมองคุณไกด์อึ้งๆ ก่อนที่พนักงานจะมารินไวน์เสิร์ฟให้เราและตัดสินใจหยุดคุยเรื่องนี้ ฉันเคยบอกคนคบ คนคุยหลายคนว่าให้ระวัง พวกเขาหนีหัวซุกหัวซุนและอยู่ห่างกับฉันทันที แต่สุดท้ายก็โดนฆ่าตายจนหมด แล้วคุณไกด์ล่ะ... ไปยกนิ้วกลางแบบนั้นจะเหลือไหม "แกซุบซิบๆอะไรเอมมี่ วันนี้ดื่มฉลองมิตรภาพทางไกลนะ มาชนแก้วเร็ว cheers~" ตังเมถือแก้วมาร์ตินี่ของเธอยื่นมาข้างหน้า พร้อมกับปิ๊งที่ส่งแก้วแชมเปญมา ฉันจึงเลิกสนใจเรื่องนี้หันไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนด้วยการยกแก้วไวน์ของตัวเองไปชนบ้าง "Cheers" 'กริ๊ง' แต่เมื่อดึงแก้วกลับกำลังจะดื่ม... คุณไกด์ก็หยิบแก้วไวน์ของเขาชนกับแก้วฉันเบาๆ และโน้มมากระซิบข้างหู "Cheers..." นาทีนั้นขนอ่อนหลังคอฉันลุกชัน นั่งตัวแข็งทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ ก่อนจะยกไวน์ขึ้นดื่มจนหมดแก้วอย่างไม่รู้ตัวและวางแก้วลงบนโต๊ะ ฉันควรหันไปสนใจเพื่อน อย่าสนใจเขา ดูสิผู้ชายคนนี้อันตรายมาก "เอ้อปิ๊ง แล้วแกกลับจีนอีกไหม" ฉันชวนปิ๊งคุยบ้าง "กลับไปเก็บของอาทิตย์หน้า แล้วจะกลับมาอยู่ไทยถาวร ฉันสมัครงานไว้แล้วรอเรียกสัมภาษณ์ ไม่ผ่านก็คงเปิดสถาบันสอนภาษาจีน" "ผ่านอยู่แล้วแกเก่ง แล้วตังเมล่ะอย่างแกคงไม่อยากกลับมาอยู่ไทยใช่ไหม" ตังเมเบ้ปาก "รอเปลี่ยนนายกก่อนค่อยกลับ ฉันอยากเปิดบริษัทเล็กๆ ถ้าทำอะไรตอนนี้เจ๊งแน่นอน ขอทำงานที่ออสเตรเลีย เที่ยวใช้เงินและก็เปย์ผู้ชายก่อน" ว่าจบตังเมก็มองไปรอบๆบาร์ ก่อนจะหยุดที่ผู้ชายใส่สูทสีดำกลุ่มหนึ่งที่นั่งห่างไปอีกสองโต๊ะ "ดูผู้ชายกลุ่มนั้นสิ ใส่สูทผูกไทมาเที่ยวบาร์ แถมใส่หูฟังคล้ายบอดี้การ์ดเลยอ่ะ" ฉันชะเง้อมองตาม จริงด้วยแหะ แถมหน้าตาดีทุกคนด้วย "คงมีคนใหญ่คนโตอยู่ในร้านนี้ แกจะล่าใครล่ะตังเม คนใหญ่ๆโตๆหรือ... บอดี้การ์ด?" ตังเมดื่มมาร์ตินี่ของเธอก่อนจะยิ้มตอบปิ๊งอย่างมีแผนร้าย "เอาแค่สนุกๆก็พอ สอยบอดี้การ์ดนี่แหละ" ฉันไม่เคยมีเพื่อนแบบนี้มาก่อนเลย บางอย่างมันน่าตกใจแต่ก็แปลกใหม่ดีเหมือนกัน เวลาที่สองคนนี้จะทำอะไรฉันพลอยตื่นเต้นตามไปด้วย ตังเมมองโต๊ะนั้นบ่อยมากรวมถึงปิ๊ง เพราะเธอก็เจอเหยื่อที่ถูกใจในโต๊ะเดียวกัน แต่ที่แปลกฉันเห็นคุณไกด์มองไปที่โต๊ะนั้นหลายครั้งด้วย ราวกับเขารู้จักกันยังไงอย่างงั้นล่ะ "คุณไกด์รู้จักเหรอคะ" "รู้... ผมเคยเป็นบอดี้การ์ด และพวกนั้นก็เป็นบอดี้การ์ดของดรากอน" ฉันหยุดมองทันทีแล้วรีบหันไปนั่งปกติ แทบจะทำตัวลีบตัวเล็กเลยด้วยซ้ำ บอดี้การ์ดของดรากอนอยู่ที่นี่แสดงว่าหัวหน้าต้องอยู่! "เป็นอะไร?" เขาถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "คุณเลิกเป็นบอดี้การ์ดดรากอนแล้วจริงๆใช่ไหม" "ผมไม่เคยเป็นบอดี้การ์ดดรากอน ผมเป็นแค่บอดี้การ์ดส่วนตัวให้คุณภาขวัญในบางครั้ง" บอดี้การ์ดฟรีแลนซ์ที่ทักษะอาจจะมากกว่าบอดี้การ์ดทั่วไปรึเปล่า ควรบอกเขาดีไหมเนี่ย... ว่านอกจากลูกน้องพี่เอเธอร์ฉันยังมีคนหมายหัวอีกกลุ่มใหญ่ๆ "คือฉันไม่ถูกกับดรากอนไลออนค่ะ มีเหตุผลเยอะและซับซ้อนมาก อยากหลีกเลี่ยงที่จะเจอ คุณพอคุ้มกันได้ไหม?" เขายิ้มที่มุมปากราวกับไม่เกรงกลัวอะไร "ได้สิ อยู่ข้างๆผม ไม่มีใครทำอะไรคุณได้... ตัวติดผมไว้แล้วกัน" ฉันถอนหายใจโล่ง เมื่อพนักงานมารินไวน์ให้อีกแก้วคุณไกด์ก็ยกมาให้ฉันดื่ม และใช่ค่ะ... คารมและคำพูดของเขาชวนให้ฉันลืมตัวว่าตัวเองดื่มไปมากแค่ไหน เพลงในบาร์เร่งจังหวะเร็วขึ้น... ตังเมสั่งมาร์ตินี่และสั่งวอดก้ามาเร่งความเมาตัวเอง ส่วนปิ๊ง... เดินไปเดินมาที่โต๊ะบอดี้การ์ดพวกนั้น โชคดีที่พวกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร ตอนนี้ฉันก็เลยหายใจหายคอได้สะดวก และที่สำคัญอยู่ใกล้คุณไกด์รู้สึกปลอดภัยขึ้น จนฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมภาขวัญถึงแนะนำไกด์คนนี้ เพราะเขาปกป้องฉันได้นี่เอง "อีกแก้วสิ... เวลาคุณเมาแก้มแดงๆ ผมว่าน่ารักดีนะ" ฉันยิ้มแล้วชนแก้วกับเขาอีกรอบ แต่ระหว่างที่ดื่มหัวหนักอึ้งจนต้องเอนไปซบไหล่เขา "คุณเชียร์ดื่มเก่งจัง..." "แล้วคุณชอบไหมล่ะ" "ก็โอเคนะคะ อยู่กับคุณแล้วรู้สึกปลอดภัยดี" เขาหันมามองจนปลายจมูกโด่งๆชนกับจมูกฉันเล็กน้อย แต่เมื่อฉันจะถอย คุณไกด์ก็ใช้แก้วไวน์กันหน้าไว้ทันที ความเย็นของแก้วไม่น่าตกใจเท่าใบหน้าหล่อๆที่กำลังเคลื่อนเข้ามา แต่ความเมาของฉัน... มันทำให้ฉันกล้า ฉันไม่ถอยหลบอีกแล้ว จ้องมองเขากลับ และค่อยๆโน้มไปหาริมฝีปากสวยคู่นั้น แต่สุดท้ายก็ชะงัก... "เอ่อ ฉะ...ฉันคงเมามาก ขอตัวไปเข้าห้องน้ำนะคะ" พอฉันได้สติ ก็รีบลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำด้านหลังคนเดียว ในตอนนั้นแอลกอฮอล์ที่สูบฉีดและสมองที่หนักอึ้ง มันทำให้ลืมสนิทว่าตัวเองถูกจับตามองอยู่ ใช่ ฉันไม่ควรเดินออกมาคนเดียวแบบนี้ แต่ปวดหัวจัง เดินกลับไปทันไหมเนี่ย หมับ! "ว้าย!" มีคนคว้าแขนฉัน และเมื่อฉันหันไปมองคุณไกด์ก็กระตุกข้อมือดึงฉันเข้าไปจูบทันที ฉันเบิกตากว้างตกใจ มีคนผ่านไปผ่านมา แต่ริมฝีปากคู่นั้นไม่หยุดจองจำ เขาบดจูบอย่างร้อนแรงกดฉันหลังชนกับผนัง พร้อมกับลิ้นร้อนๆรสหวานที่หยอกเย้าพัวพัน ฉันวาบหวามอ่อนระทวย เรี่ยวแรงน้อยนิดค่อยๆหายไปจนแทบไม่เหลือแต่อารมณ์บางอย่างค่อยๆก่อเกิดขึ้นมาแทน หลงไปกับรสจูบ หลงไปกับความหวาน ก่อนที่สุดท้ายเขาจะถอนจูบออกมาช้าๆและมองหน้าฉัน ใช้สายตาคู่นั้นจ้องลงมา แก้มฉันคงแดงมากและจูบเมื่อกี้ก็คงมูมมาม เพราะเขามองหน้าฉันแล้วใช้นิ้วโป้งเกลี่ยเช็ดริมฝีปากให้ "คุณหวานดีนี่" บ้าเถอะ แบบนี้ไม่ไหว "เอ่อ... ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำดีกว่า" ฉันเดินหนีเขาเพื่อปรับอารมณ์ตัวเอง แต่นี่มันภาพเดจาวูที่ฉันเล่าให้เพื่อนฟังชัดๆ คุณไกด์เดินตามเข้ามาแล้วดึงฉันเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะล็อกประตูแล้วรั้งท้ายทอยไปจูบอีก "อะ อื้อ" ฉันส่งเสียงในคอปรามแต่เขาไม่ยอมถอยออกไป ดันลิ้นอุ่นๆกับรสหวานมาให้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สลับกับขบริมฝีปาก ไม่ไหวแล้วฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ สมองเชื่องช้าตาพร่ามัว แต่ร้อนผะผ่าวอยู่ภายในจนมันยากจะหาอะไรดับ ฉันอยากจะเลยตามเลย เพราะตอนนี้มันดีมาก เท่านั้นแหละฉันก็ยกสองแขนคล้องคอจูบตอบอย่างร้อนแรง กายสาวโหยหาเขาจนรู้สึกเปียกแฉะ... และยิ่งไปกว่านั้นเขากดฉันกับผนังห้องน้ำใช้มือคลึงเคล้นอกอวบเต็มมือ "อื้อ" ฉันครางท้วงแอ่นอกให้ เมามายและร้อนจนอยากจะเปลื้องผ้าตั้งแต่ตอนนี้ จนมือหนาสอดไปด้านหลังรูดซิปลงเพียงครึ่ง และปลดตะขอบราอย่างชำนาญ เขาก็มอบความกระสันให้ฉันด้วยอุ้งมืออุ่นสอดเข้าไปคลึงด้านใน "คุณไกด์~" "ไง พร้อมให้ผมเป็นเพื่อนร่วมเตียงรึยัง..." "ฉันกลัวค่ะ..." "ไม่ต้องกลัว" "แต่ว่าตรงนี้มัน..." "ลองดู ทำตัวให้สบาย... แล้วคุณจะชอบ" ปฏิเสธไม่ได้เพราะเขาจูบฉันอีกแล้ว และตอนนี้มือหนาก็รุกล้ำลงไปข้างล่างจับขาฉันกางออกกว้างกว่าเดิม พอเขารู้ว่าฉันไม่ปฏิเสธ ก็อุ้มฉันควบเอวแล้วยกบั้นท้ายขึ้น ให้ลำกายใต้ผ้าที่แข็งขึงเสียดสีกับร่องปรารถนาซ้ำๆ "อื้อ~" ฉันครางออกมาแล้วกอดคอเขาแน่น เราไม่ได้สอดใส่ แค่ถูไถกันใจฉันก็จะขาดอยู่แล้ว จากที่เปียกแฉะก็เปียกไปยิ่งกว่าเดิม จากที่ต้องการน้อยนิดก็กลายเป็นมากขึ้น เราต่างโหยหากัน และความรู้สึกบางอย่างก็เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆจนฉันไม่เป็นตัวของตัวเอง "คะ คุณไกด์... ตอนนี้ฉันรู้สึกดีมาก อื้อ~ อย่าหยุดนะคะ อย่า...หยุด...นะ" ทันทีที่ฉันจิกเล็บลงแผ่นหลังกว้างและปล่อยตัวเองไปสู่จุดสูงสุดที่ไม่เคยไป ความสาวด้านในก็กระตุกเบาๆขึ้นมา ฉันกอดเขาหายใจหอบอย่างเหนื่อยล้า ตัวอ่อนปวกเปียกราวกับคนหมดแรง จนคุณไกด์เขาหันมากระซิบแผ่วๆข้างใบหู... "ชอบไหมครับ..." "อะ อื้อ..." "งั้นคืนนี้... ให้ผมนอนกับคุณนะครับ จากที่ถูไถผิวเผิน ผมจะดันเข้าไปลึกๆ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD