7
[AMI]
จากคู่นอนกลายเป็น...
"ถูกต้องไหม?" เขากระซิบถามใกล้ๆ
"ก็... น่าจะประมาณนั้นค่ะ"
หลังจากนั้นคุณไกด์ก็ยกมือเรียกพนักงานสั่งไวน์ให้ และขอแก้วสองใบ ตังเมกับปิ๊งมองฉันอย่างรู้ทัน ราวกับคิดว่าฉันกับคุณไกด์กำลังเร่งดื่มเพื่อไปจัดกิจกรรมอย่างว่ายังไงอย่างงั้น
"ไม่ต้องรีบ เพื่อนยังหาผู้ชายไม่ได้" ปิ๊งกระซิบ
"ใครรีบ ไม่มี๊ แกเข้าใจผิดแล้ว" ปิ๊งเบ้ปาก แต่พอฉันตอบเพื่อนเสร็จก็หันมาคุยกับคุณไกด์ต่อ เพราะเห็นลูกน้องพี่เอเธอร์นั่งที่มุมร้านและคอยมองมาที่เราตลอดเวลา
"ฉันมีอีกเรื่องจะบอกคุณ"
"ว่าไงครับ" ฉันขยับไปใกล้ๆเพื่อให้เราคุยกันสะดวกขึ้น
"คือลูกน้องมาเฟียพวกนั้นอาจจะทำร้ายคุณได้นะคะ อยากให้ระวังตัวไว้" เขายิ้มที่มุมปากแล้วมองไปที่โต๊ะพวกนั้น และสิ่งที่ทำก็ทำให้ฉันเบิกตากว้างตกใจ
เพราะคุณไกด์ยกนิ้วกลาง !
"อย่าทำแบบนั้นค่ะ ว้าย!" ฉันรีบพุ่งไปดึงแขนเขาลงแต่ดันเสียหลักล้มฟุบบนตักคุณไกด์ เขาก้มมองแผ่นหลังไปจนถึงบั้นท้ายด้วยสายตาราบเรียบ ก่อนที่ฉันจะรีบดันตัวลุกกลับมานั่งเหมือนเดิม และเอ่ยขอโทษทันที
"ขอโทษค่ะ พอดีพื้นรองเท้าลื่น"
"ไม่เป็นไร"
"แต่คุณต้องระวังตัวจริงๆนะคะ พวกนั้นฆ่าคนได้นะ" เขาลอบหัวเราะเบาๆ
"เอาสิ... ผมก็ฆ่าคนได้เหมือนกัน"
ฉันมองคุณไกด์อึ้งๆ ก่อนที่พนักงานจะมารินไวน์เสิร์ฟให้เราและตัดสินใจหยุดคุยเรื่องนี้ ฉันเคยบอกคนคบ คนคุยหลายคนว่าให้ระวัง พวกเขาหนีหัวซุกหัวซุนและอยู่ห่างกับฉันทันที แต่สุดท้ายก็โดนฆ่าตายจนหมด
แล้วคุณไกด์ล่ะ... ไปยกนิ้วกลางแบบนั้นจะเหลือไหม
"แกซุบซิบๆอะไรเอมมี่ วันนี้ดื่มฉลองมิตรภาพทางไกลนะ มาชนแก้วเร็ว cheers~"
ตังเมถือแก้วมาร์ตินี่ของเธอยื่นมาข้างหน้า พร้อมกับปิ๊งที่ส่งแก้วแชมเปญมา ฉันจึงเลิกสนใจเรื่องนี้หันไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนด้วยการยกแก้วไวน์ของตัวเองไปชนบ้าง
"Cheers"
'กริ๊ง'
แต่เมื่อดึงแก้วกลับกำลังจะดื่ม... คุณไกด์ก็หยิบแก้วไวน์ของเขาชนกับแก้วฉันเบาๆ และโน้มมากระซิบข้างหู
"Cheers..."
นาทีนั้นขนอ่อนหลังคอฉันลุกชัน นั่งตัวแข็งทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ ก่อนจะยกไวน์ขึ้นดื่มจนหมดแก้วอย่างไม่รู้ตัวและวางแก้วลงบนโต๊ะ ฉันควรหันไปสนใจเพื่อน อย่าสนใจเขา ดูสิผู้ชายคนนี้อันตรายมาก
"เอ้อปิ๊ง แล้วแกกลับจีนอีกไหม" ฉันชวนปิ๊งคุยบ้าง
"กลับไปเก็บของอาทิตย์หน้า แล้วจะกลับมาอยู่ไทยถาวร ฉันสมัครงานไว้แล้วรอเรียกสัมภาษณ์ ไม่ผ่านก็คงเปิดสถาบันสอนภาษาจีน"
"ผ่านอยู่แล้วแกเก่ง แล้วตังเมล่ะอย่างแกคงไม่อยากกลับมาอยู่ไทยใช่ไหม" ตังเมเบ้ปาก
"รอเปลี่ยนนายกก่อนค่อยกลับ ฉันอยากเปิดบริษัทเล็กๆ ถ้าทำอะไรตอนนี้เจ๊งแน่นอน ขอทำงานที่ออสเตรเลีย เที่ยวใช้เงินและก็เปย์ผู้ชายก่อน"
ว่าจบตังเมก็มองไปรอบๆบาร์ ก่อนจะหยุดที่ผู้ชายใส่สูทสีดำกลุ่มหนึ่งที่นั่งห่างไปอีกสองโต๊ะ
"ดูผู้ชายกลุ่มนั้นสิ ใส่สูทผูกไทมาเที่ยวบาร์ แถมใส่หูฟังคล้ายบอดี้การ์ดเลยอ่ะ"
ฉันชะเง้อมองตาม จริงด้วยแหะ แถมหน้าตาดีทุกคนด้วย
"คงมีคนใหญ่คนโตอยู่ในร้านนี้ แกจะล่าใครล่ะตังเม คนใหญ่ๆโตๆหรือ... บอดี้การ์ด?" ตังเมดื่มมาร์ตินี่ของเธอก่อนจะยิ้มตอบปิ๊งอย่างมีแผนร้าย
"เอาแค่สนุกๆก็พอ สอยบอดี้การ์ดนี่แหละ"
ฉันไม่เคยมีเพื่อนแบบนี้มาก่อนเลย บางอย่างมันน่าตกใจแต่ก็แปลกใหม่ดีเหมือนกัน เวลาที่สองคนนี้จะทำอะไรฉันพลอยตื่นเต้นตามไปด้วย ตังเมมองโต๊ะนั้นบ่อยมากรวมถึงปิ๊ง เพราะเธอก็เจอเหยื่อที่ถูกใจในโต๊ะเดียวกัน
แต่ที่แปลกฉันเห็นคุณไกด์มองไปที่โต๊ะนั้นหลายครั้งด้วย ราวกับเขารู้จักกันยังไงอย่างงั้นล่ะ
"คุณไกด์รู้จักเหรอคะ"
"รู้... ผมเคยเป็นบอดี้การ์ด และพวกนั้นก็เป็นบอดี้การ์ดของดรากอน" ฉันหยุดมองทันทีแล้วรีบหันไปนั่งปกติ แทบจะทำตัวลีบตัวเล็กเลยด้วยซ้ำ บอดี้การ์ดของดรากอนอยู่ที่นี่แสดงว่าหัวหน้าต้องอยู่!
"เป็นอะไร?" เขาถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"คุณเลิกเป็นบอดี้การ์ดดรากอนแล้วจริงๆใช่ไหม"
"ผมไม่เคยเป็นบอดี้การ์ดดรากอน ผมเป็นแค่บอดี้การ์ดส่วนตัวให้คุณภาขวัญในบางครั้ง"
บอดี้การ์ดฟรีแลนซ์ที่ทักษะอาจจะมากกว่าบอดี้การ์ดทั่วไปรึเปล่า ควรบอกเขาดีไหมเนี่ย... ว่านอกจากลูกน้องพี่เอเธอร์ฉันยังมีคนหมายหัวอีกกลุ่มใหญ่ๆ
"คือฉันไม่ถูกกับดรากอนไลออนค่ะ มีเหตุผลเยอะและซับซ้อนมาก อยากหลีกเลี่ยงที่จะเจอ คุณพอคุ้มกันได้ไหม?"
เขายิ้มที่มุมปากราวกับไม่เกรงกลัวอะไร
"ได้สิ อยู่ข้างๆผม ไม่มีใครทำอะไรคุณได้... ตัวติดผมไว้แล้วกัน"
ฉันถอนหายใจโล่ง
เมื่อพนักงานมารินไวน์ให้อีกแก้วคุณไกด์ก็ยกมาให้ฉันดื่ม และใช่ค่ะ... คารมและคำพูดของเขาชวนให้ฉันลืมตัวว่าตัวเองดื่มไปมากแค่ไหน เพลงในบาร์เร่งจังหวะเร็วขึ้น... ตังเมสั่งมาร์ตินี่และสั่งวอดก้ามาเร่งความเมาตัวเอง
ส่วนปิ๊ง... เดินไปเดินมาที่โต๊ะบอดี้การ์ดพวกนั้น โชคดีที่พวกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร ตอนนี้ฉันก็เลยหายใจหายคอได้สะดวก และที่สำคัญอยู่ใกล้คุณไกด์รู้สึกปลอดภัยขึ้น จนฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมภาขวัญถึงแนะนำไกด์คนนี้ เพราะเขาปกป้องฉันได้นี่เอง
"อีกแก้วสิ... เวลาคุณเมาแก้มแดงๆ ผมว่าน่ารักดีนะ" ฉันยิ้มแล้วชนแก้วกับเขาอีกรอบ แต่ระหว่างที่ดื่มหัวหนักอึ้งจนต้องเอนไปซบไหล่เขา
"คุณเชียร์ดื่มเก่งจัง..."
"แล้วคุณชอบไหมล่ะ"
"ก็โอเคนะคะ อยู่กับคุณแล้วรู้สึกปลอดภัยดี" เขาหันมามองจนปลายจมูกโด่งๆชนกับจมูกฉันเล็กน้อย แต่เมื่อฉันจะถอย คุณไกด์ก็ใช้แก้วไวน์กันหน้าไว้ทันที
ความเย็นของแก้วไม่น่าตกใจเท่าใบหน้าหล่อๆที่กำลังเคลื่อนเข้ามา แต่ความเมาของฉัน... มันทำให้ฉันกล้า ฉันไม่ถอยหลบอีกแล้ว จ้องมองเขากลับ และค่อยๆโน้มไปหาริมฝีปากสวยคู่นั้น
แต่สุดท้ายก็ชะงัก...
"เอ่อ ฉะ...ฉันคงเมามาก ขอตัวไปเข้าห้องน้ำนะคะ"
พอฉันได้สติ ก็รีบลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำด้านหลังคนเดียว ในตอนนั้นแอลกอฮอล์ที่สูบฉีดและสมองที่หนักอึ้ง มันทำให้ลืมสนิทว่าตัวเองถูกจับตามองอยู่
ใช่ ฉันไม่ควรเดินออกมาคนเดียวแบบนี้
แต่ปวดหัวจัง เดินกลับไปทันไหมเนี่ย
หมับ!
"ว้าย!"
มีคนคว้าแขนฉัน และเมื่อฉันหันไปมองคุณไกด์ก็กระตุกข้อมือดึงฉันเข้าไปจูบทันที ฉันเบิกตากว้างตกใจ มีคนผ่านไปผ่านมา แต่ริมฝีปากคู่นั้นไม่หยุดจองจำ เขาบดจูบอย่างร้อนแรงกดฉันหลังชนกับผนัง พร้อมกับลิ้นร้อนๆรสหวานที่หยอกเย้าพัวพัน
ฉันวาบหวามอ่อนระทวย เรี่ยวแรงน้อยนิดค่อยๆหายไปจนแทบไม่เหลือแต่อารมณ์บางอย่างค่อยๆก่อเกิดขึ้นมาแทน หลงไปกับรสจูบ หลงไปกับความหวาน ก่อนที่สุดท้ายเขาจะถอนจูบออกมาช้าๆและมองหน้าฉัน ใช้สายตาคู่นั้นจ้องลงมา
แก้มฉันคงแดงมากและจูบเมื่อกี้ก็คงมูมมาม เพราะเขามองหน้าฉันแล้วใช้นิ้วโป้งเกลี่ยเช็ดริมฝีปากให้
"คุณหวานดีนี่" บ้าเถอะ แบบนี้ไม่ไหว
"เอ่อ... ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำดีกว่า"
ฉันเดินหนีเขาเพื่อปรับอารมณ์ตัวเอง แต่นี่มันภาพเดจาวูที่ฉันเล่าให้เพื่อนฟังชัดๆ คุณไกด์เดินตามเข้ามาแล้วดึงฉันเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะล็อกประตูแล้วรั้งท้ายทอยไปจูบอีก
"อะ อื้อ"
ฉันส่งเสียงในคอปรามแต่เขาไม่ยอมถอยออกไป ดันลิ้นอุ่นๆกับรสหวานมาให้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สลับกับขบริมฝีปาก
ไม่ไหวแล้วฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ สมองเชื่องช้าตาพร่ามัว แต่ร้อนผะผ่าวอยู่ภายในจนมันยากจะหาอะไรดับ ฉันอยากจะเลยตามเลย เพราะตอนนี้มันดีมาก
เท่านั้นแหละฉันก็ยกสองแขนคล้องคอจูบตอบอย่างร้อนแรง กายสาวโหยหาเขาจนรู้สึกเปียกแฉะ... และยิ่งไปกว่านั้นเขากดฉันกับผนังห้องน้ำใช้มือคลึงเคล้นอกอวบเต็มมือ
"อื้อ"
ฉันครางท้วงแอ่นอกให้ เมามายและร้อนจนอยากจะเปลื้องผ้าตั้งแต่ตอนนี้ จนมือหนาสอดไปด้านหลังรูดซิปลงเพียงครึ่ง และปลดตะขอบราอย่างชำนาญ
เขาก็มอบความกระสันให้ฉันด้วยอุ้งมืออุ่นสอดเข้าไปคลึงด้านใน
"คุณไกด์~"
"ไง พร้อมให้ผมเป็นเพื่อนร่วมเตียงรึยัง..."
"ฉันกลัวค่ะ..."
"ไม่ต้องกลัว"
"แต่ว่าตรงนี้มัน..."
"ลองดู ทำตัวให้สบาย... แล้วคุณจะชอบ"
ปฏิเสธไม่ได้เพราะเขาจูบฉันอีกแล้ว และตอนนี้มือหนาก็รุกล้ำลงไปข้างล่างจับขาฉันกางออกกว้างกว่าเดิม
พอเขารู้ว่าฉันไม่ปฏิเสธ ก็อุ้มฉันควบเอวแล้วยกบั้นท้ายขึ้น ให้ลำกายใต้ผ้าที่แข็งขึงเสียดสีกับร่องปรารถนาซ้ำๆ
"อื้อ~" ฉันครางออกมาแล้วกอดคอเขาแน่น เราไม่ได้สอดใส่ แค่ถูไถกันใจฉันก็จะขาดอยู่แล้ว จากที่เปียกแฉะก็เปียกไปยิ่งกว่าเดิม จากที่ต้องการน้อยนิดก็กลายเป็นมากขึ้น
เราต่างโหยหากัน และความรู้สึกบางอย่างก็เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆจนฉันไม่เป็นตัวของตัวเอง
"คะ คุณไกด์... ตอนนี้ฉันรู้สึกดีมาก อื้อ~ อย่าหยุดนะคะ อย่า...หยุด...นะ"
ทันทีที่ฉันจิกเล็บลงแผ่นหลังกว้างและปล่อยตัวเองไปสู่จุดสูงสุดที่ไม่เคยไป ความสาวด้านในก็กระตุกเบาๆขึ้นมา ฉันกอดเขาหายใจหอบอย่างเหนื่อยล้า ตัวอ่อนปวกเปียกราวกับคนหมดแรง
จนคุณไกด์เขาหันมากระซิบแผ่วๆข้างใบหู...
"ชอบไหมครับ..."
"อะ อื้อ..."
"งั้นคืนนี้... ให้ผมนอนกับคุณนะครับ จากที่ถูไถผิวเผิน ผมจะดันเข้าไปลึกๆ"