“ ทำตัวไม่น่ารักเลยนะนายเนี่ย...เฮ้อ! นี่ถ้าหากนายเกิดเป็นของลูกของไ****ดนะ มืดจะจับนายตีก้นเสียให้ลายเลยคอยดู ทั้งดื้อรันทั้งเอาแต่ใจก็เป็นที่หนึ่ง...อะๆ...ไมต้องมาทำตาขวางใส่มืดเลย มืดพูดเรื่องจริง...” เมื่อโดนผลักร่างให้ถอยห่าง มืดก็เอาแต่ยืนบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ใบหน้างอหักไปตามอารมณ์บูดบึ้งของตัวเอง...
“งั้นมึงก็มาเป็นพ่อของกูเสียเลยสิอ้ายมืด ไอ้ลูกน้องไม่รักดี ฮึ..ฮึ... แต่ถ้าจะว่าไป ถ้ากูได้มึงเป็นพ่อก็เข้าท่าไม่เลวแฮะ... อย่างน้อยๆแม่กูก็คงไม่ต้องมาตรอมใจตายเหมือนอย่างนี้หรอก มึงว่าไหมไอ้มืด...”
น่านพยัคฆ์หัวเราะเยาะเสียงขม ดวงตาสีสนิมฉ่ำปรือขึ้นเล็กน้อย ถ้าเลือกเกิดได้เขาเองก็ไม่ได้อยากเกิดมามีพ่อใจร้ายใจดำ ทำร้ายจิตใจได้แม้กระทั่งผู้หญิงที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของตัวเอง ก็ที่แม่ของเขาต้องตรอมใจตายก็เพราะใครกันล่ะ ถ้าไม่ใช่ผู้ชายใจร้ายคนนั้นกับแม่ผู้หญิงหิวเงินทั้งหลาย...
“ไม่เอานะนาย เรื่องมันก็ผ่านไปตั้งนานแล้ว ยังจะเก็บเอามาทำร้ายตัวเองอีกทำไม ลืมได้ก็ลืมมันไปเสียทีเถอะ เพราะให้ถึงยังไงนายใหญ่ก็เป็นพ่อของนาย จะให้ไปเป็นอย่างอื่นได้ยังไงล่ะจริงไหมหึ... เพราะอย่างน้อยๆตอนนี้นายใหญ่ท่านก็เลิกหมดทุกอย่างได้แล้ว นายก็สมควรจะเลิกคิด เลิกเก็บเอามาใส่ใจได้แล้วเหมือนกัน หรือนายจะไม่คิดให้อภัยพ่อของตัวเองบ้างเลยเชียวเหรอ คิดมากไปก็แค่นั้น มืดไม่เห็นนายจะมีความสุขกับเรื่องนี้เลยสักครั้ง ความสุขของคนเรามันสั้นนะนาย ตอนนี้นายพยัคฆ์มีนายใหญ่ต้องคอยดูแล ก็ต้องสลัดเรื่องไม่สบายใจให้ออกไปเสียให้หมด ...ปะนาย...ขึ้นไปนอนข้างบนกันเถอะนะ เดี๋ยวมืดจะพานายไปเอง” คนเป็นลูกน้องร่ายยาวเพื่อต้องการเตือนสติคนเป็นนาย เพราะให้ถึงยังไงพ่อก็ต้องเป็นพ่ออยู่วันยังค่ำ จะเปลี่ยนให้ไปเป็นคนอื่นไกลก็คงจะทำไม่ได้ ทุกคนเกิดมาย่อมมีข้อผิดผลาดด้วยกันหมดทุกคนนั่นแหละ มันก็ขึ้นอยู่ที่ว่า ใครจะรู้ตัวเร็วหรือช้า เพื่อหยุดและหันกลับไปแก้ไขในส่วนที่ผิดผลาดของตัวเอง...
เมื่อมืดเห็นนายคร่ำครวญถึงอดีตความเจ็บปวดขึ้นมาทีไร ก็ได้แต่นึกเห็นใจและอดสงสารเรื่องราวในอดีตเมื่อครั้งที่นายยังเป็นเด็กตัวน้อยๆอยู่ไม่ได้...
ในตอนนั้นนายเกือบจะเสียผู้เสียคนจนกลายเป็นอันธพาลครองเมืองไปแล้ว หากไม่ได้คุณพาดายื่นมือเข้ามาช่วย เพราะจิตใจของนายในตอนนั้น ยังคงฝั่งใจเจ็บเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้นายหญิงต้องตรอมใจตาย นี่ถ้าไม่ได้คุณพาดา มารดาของคุณพีรยุทธ์คอยสั่งสอนและห้ามปรามกันเอาไว้ ป่านนี้ไม่รู้ไ****ดจะมีนายเป็นเจ้าของไร่ส้มใหญ่โตอันดับหนึ่งของเมืองเหนือ หรือจะมีนายเป็นพวกนักเลงหัวไม้เสียก็ไม่รู้ คิดขึ้นมาทีไรขนแขนก็พาลจะลุกซู่ขึ้นมาอีกจนได้...
“เพราะอะไรรู้ไหมไอ้มืด ก็เพราะมึงไม่เคยทิ้งกู ทิ้งแม่กูไปไหน เหมือนกับใครบางคนไง เขาทิ้งกู ทิ้งแม่กูไปกกกอดอยู่กับอีพวกหน้าด้านหิวเงินพวกนั้น พวกมันมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของแม่กู กูเห็น..ทำไมกูจะไม่เห็น ท่านร้องไห้เสียใจหนักหนาจะเป็นจะตายให้ได้ขนาดไหน กูเห็นแต่กูก็ช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย ไอ้มืด กูช่วยแบ่งเบาความเจ็บช้ำของท่านไม่ได้เลย...” น่านพยัคฆ์ยังคงพูดตัดพ้อเสียงแผ่วด้วยความเจ็บช้ำในทรวงอก หางตาเริ่มมีน้ำใสๆไหลคลอ ไม่ยอมขยับร่างตามแรงดึงของลูกน้องคู่ใจที่ยังคงเพียรพยายามชุดลากให้ร่างใหญ่ลุกขึ้นจากโซฟา น้ำตาของมารดายังคงฝั่งลึกอยู่ในความทรงจำอันเลวร้าย มันยากนักที่จะหาอะไรมาลบล้างให้มันออกไปจากใจหรือเพียงแค่เจือจางก็คงไม่มี...
“เขาไม่เคยรักกู...” น่านพยัคฆ์ยังคงพร่ำพูดออกมาด้วยความน้อยอกน้อยใจ
“นายสิงห์ท่านรักและหวังดีกับนายมากนะ ทำไมถึงคิดอะไรไม่เข้าท่าแบบนั้น ถ้าไม่รักก็คงไม่หาเมียให้นายอย่างนี้หรอก ท่านคงอยากเห็นนายเป็นฝั่งเป็นฝา มีครอบครัวกับเขาสักทีน่ะนาย...” มืดพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ พร้อมกับหยั่งเชิงถามเรื่องที่ตัวเองไปได้ยินมา จริงเท็จแค่ไหนกันที่ว่านายสิงห์กำลังจะหาเมียให้นายของมัน...
“หึ...ก็เลยเอาผู้หญิงหน้าเงิน ที่บ้านติดหนี้แล้วไม่มีปัญญาจ่าย มาถวายใส่พานให้กูซะเลยว่างั้น...ฮึ...ฮึ...น่าสมเพชวะ...คนอย่างกูจะมีเมียทั้งที มันต้องจุติมาจากฟ้าจากสวรรค์นู่นโว้ย ไม่ใช่อีหน้าด้านตัวไหน พอไม่มีปัญญาจ่ายหนี้คืน ก็เอาตัวเน่าๆเข้าแลก...” คนฟังได้แต่ขว้างค้อนใส่กับคำหยาบคายเมื่อพูดไปถึงว่าที่เมียของนาย เมื่อได้ฟังมืดก็ถึงบางอ้อทันที คงจะเป็นเรื่องจริงสินะ ที่นายสิงห์บังคับให้นายพยัคฆ์แต่งงานกับหลานสาวเพื่อนสนิทของตัวเองที่กรุงเทพฯ...
“นายก็ไปปรักปรำเขา ยังไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักนิสัยใจคอเขาเลยสักนิด อย่าพึ่งด่วนสรุปสินาย ถ้าหากเขาเป็นคนไม่ดีจริง มีหรือที่นายสิงห์จะยอมยกหนี้สินทั้งหมดให้ แถมยังยกตำแหน่งลูกสะใภ้ให้อีกด้วยนะ เขาก็คงมีอะไรดีจนเข้าตาของนายสิงห์บ้างล่ะ ไม่งั้นหนี้สินจำนวนมหาศาลขนาดนั้น ใครจะไปกล้ายกให้ง่ายๆได้เล่า จริงไหมนาย ...”
มืดพูดเตือนสติคนเป็นนาย คนเราอย่าเพิ่งไปด่วนสรุปอะไรง่ายๆ หากว่าเราไม่เคยไปคลุกคลีกับเขาเสียก่อน สะใภ้ขัดดอกของนายสิงห์คนนี้ อาจมีอะไรดีสักอย่าง ไม่งั้นมีหรือที่นายสิงห์จะกล้าขัดใจลูกชายสุดที่รักโดยการบังคับกันทางตรงแบบนี้ได้ มืดก็ได้แต่ภาวนาอยู่ในใจ ขออย่าให้เรื่องราวนี้ลุกลามใหญ่โตจนถึงขั้นบ้านแตกกันอีกเลย...
“พ่อคงอยากให้กูได้กับผู้หญิงนิสัยเลวเหมือนที่เขาเคยได้มาก่อนนะสิ กูรู้ทั้นเขาหรอกน่าไอ้มืด ...” น่านพยัคฆ์ค้านขึ้นเสียงแข็ง นึกไปถึงผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาทีไร เขาอยากจะลงไปฉีกเนื้อเจ้าหล่อนออกเป็นชิ้นๆให้แหลกคามือเขานัก ข้อหาบังอาจทำให้เขาต้องเดือดร้อนรำคาญใจ จนถึงขั้นเขากับตาเฒ่าสิงห์ต้องมาทะเลาะกัน จนตาเฒ่าต้องเรียกหายาเสียงข่มลั่นไปทั้งบ้าน แถมยังมีหน้ามาข่มขู่ ให้เขายอมรับข้อเสนอปัญญาอ่อนแสนอ่อนนั้นให้ได้ ถ้าหากเขาไม่ยอมตกลงแต่งงานตามสัญญาบ้าบอนั้น ตาเฒ่าสิงห์จะไม่ยอมเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจที่อเมริกา...
มืดปรายหางตามองคนนิสัยดี๊ดี แล้วเกิดอาการคันปากยิบๆขึ้นมาในบัดดล...
แหมะ...พ่อคนนิสัยดีมาก พูดอะไรออกมาไม่หัดดูตัวเองบ้างเลยนะนายจ๋า...
“นายก็แต่งๆไปเหอะ จะเล่นองค์ไปทำไมนักหนาเนี่ย อายุก็ปาเข้าไปจะขึ้นเลขสี่อยู่อีกปีสองปีข้างหน้าแล้วนะ จะเก็บมันไว้ทำไมนักหนากะไอ้ความโสดเนี่ย เอาไปแลกมาเป็นเงินเป็นทองก็ไม่ได้..มืดเห็นพอนายอยากๆขึ้นมาทีไร ก็ต้องวิ่งรถเข้าไปหาที่ระบายในเมืองทุกที ของมันมีแต่เน่าๆนะนาย ไม่เบื่อมั้งไงล่ะ มีเมียเป็นของตัวเองก็ดีไปอย่างนะนาย ไม่ต้องเสี่ยงกับโรคร้ายด้วย... “
“เดี๋ยวกูถีบให้เลยไอ้ห่านี่ กูไม่ได้พวกเอาไม่เลือกเสียหน่อยโว้ย กูก็แค่เข้าไปหาความบันเทิงเริงใจนิดๆหน่อยๆเพื่อแก้เหงา พอได้ที่กูก็ขับรถกลับไร่ มึงก็เห็นไม่ใช่หรืองาย ไอ้ลูกน้องทรยศ...” คนเมาขึ้นเสียงเถียงกลับทันที
“น้องนิดน้องหน่อยนะสิไม่ว่า...” คนรู้ทันทำปากขมุบขมิบ
“เอาง่ายๆเลยนะนาย มืดจะยกตัวอย่างให้ได้เห็นถึงการมีเมียมันดียังไง มืดจะบอกให้นายเอาไว้ใช้เพื่อไปพิจรณาดูทีหลังก็ได้...” มืดตั้งท่าอธิบายให้คนเมาฟังอย่างไม่ยอมแพ้ ทั้งๆที่ตัวมันเองก็ยังไม่เคยมีเมียกะเขาเหมือนกัน จะให้มีได้ยังไงก็มันกับนายรักตัวติดกันยิ่งกว่าผัวเมียเสียอีก เห็นนายพยัคฆ์ที่ไหนก็ต้องเห็นมันที่นั้นด้วยเช่นกัน...
“นายก็หัดดูตัวอย่างใกล้ๆเรานี่เลย...พ่อเลี้ยงพี เพื่อนสนิทของนายอะ ตั้งแต่พ่อเลี้ยงแกแต่งงานไปกับคุณน้ำผึ้ง พ่อเลี้ยงก็ดูมีความสุขจนไม่มีเวลาหลงเหลือเผื่อแผ่ ไปทำตัว สำมะเลเรเทเมากะนายเหมือนแต่ก่อนแล้วใช่มะ... นี่มืดได้ข่าวล่าสุด พ่อเลี้ยงแกเห่อลูกคนแรกน่าดู การ์ดเชิญเลี้ยงฉลองลูกคนแรกของไร่พนาวรรณ อยู่บนโต้ะนายอยู่เลยไม่ใช่ไง...” คนสาธยายหยุดพักเพื่อหายใจ
“อืม!” คนเมาที่นั่งหลับตาส่งเสียงตอบรับแผ่วเบา มืดต้องชะโงกหน้าเข้าไปดูใกล้ๆใบหน้าหล่อคมคาย เมื่อมืดไม่แน่ใจไอ้ที่นายตอบรับออกมานั้น เห็นด้วยหรือว่าหลับจนละเมอขึ้นมากันแน่...
“หลับแล้วหรือนาย?”
“กูไม่หลับ...” คนเมายังส่งเสียงตอบอ้อแอ้
ไม่ใช่น่านพยัคฆ์จะไม่มีคนมาชอบพอ ถ้าจะให้ไ****ดโม้ บอกได้คำเดียวเลย...หัวกระไดไร่นี้ไม่เคยแห้งสักวัน มีหญิงสาวมากหน้าหลายตา เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัตินานับประการ ไม่ว่าจะรูปร่างน่าตาหรือแม้แต่ชาติตระกูลอันสูงส่งมากน้อยต่างระดับแค่ไหน ต่างดาหน้ากันวิ่งเข้าหานายกันทั้งนั้น แต่น่านพยัคฆ์ก็ไม่เคยคิดหันไปชายตาแล หรือให้ความสนใจสนิทชิดเชื้อ พิศวาสกับใครมากเป็นพิเศษเลยสักคนเดียว ต่อให้สาวใจกล้าคนใดมาทอดสะพานเหล็กสะพานปูนถึงขั้นแก้ผ้ารอกันบนเตียงนอน น่านพยัคฆ์ก็มีแต่ไล่ตะเพิด วิ่งแจ้นหนีออกจากไร่กันแทบสวมใส่เสื้อผ้ากันไม่ทัน...
“นายสิงห์ท่านคงอยากอุ้มหลานกับเขามั่งแล้วนะสิ ก็ลูกชายของท่านแก่จนจะเข้าวัยชราอยู่อีกไม่กี่ปี เล่นไม่มองผู้หญิงคนไหนเลยแบบนี้ นายสิงห์ท่านก็คงนึกเป็นห่วงนามสกุลของท่านจะมาสิ้นก็เพราะรุ่นของนายนี่ล่ะมืดว่า...แต่ถ้าจะพูดไป ไม่ใช่จะมีแต่นายสิงห์หรอก แม้แต่ ไ****ดคนนี้ก็อยากเลี้ยงนายน้อยตัวเล็กๆแล้วเหมือนกันนะนายจ๋า รับคำนายสิงห์ไปเลยนะนาย...มืดขอร้อง”
“นี่มึงกล้าหลอกด่า หาว่ากูแก่แล้วอย่างงั้นเหรออ้ายมืด...เดี้ยๆ อ้ายนี้วอนตีนกูอีกแล้วหมายล่ะ...เอิ้ก...” เสียงคนเมายังดังอ้อแอ้ ไม่ได้หลับอย่างที่มืดสงสัย แถมยังมีเรี่ยวแรงยกแข้งยกขาขึ้นมาอีกต่างหาก
“มืดเปล่านะนาย อย่ามาหาเรื่องกันสิ มืดแค่อธิบายให้ฟังเฉยๆแค่นั้น...” มืดส่ายหน้าดิกพร้อมกับกระโดดหลบลำขาใหญ่ไปยืนอีกด้านหนึ่งเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
“กูม่ายแต่งโว้ย...” คอที่พับลงกระดกขึ้นเอนไปเอียงมา
“ผู้หญิงมันก็เหมือนกันหมดทั้งนั้นแหละ... มันมีแต่พวกหิวเงิน...มักมาก...หน้าไร้ยางอาย...มึงก็รู้ แม่กูต้องตรอมใจตายเพราะอะไร” คนเมาร้องถามถึงอดีตการตายของนายหญิงคนเก่า
ใช่...มืดรู้ แต่นั้นมันเป็นเรื่องของเจ้านาย และมันก็เป็นอดีตไปนานแล้วด้วย...
“นั่นสิจ๊ะพี่มืด...นายหญิงม่านฟ้าท่านเป็นอะไรตาย...” แต่คนที่ยังไม่รู้รีบเสนอหน้าออกมาจากหลุมหลบภัยด้วยความอยากรู้อยากเห็นจนลืมกลัว
สายบัวค่อยๆเขยิบคลานเข่าเข้ามาหาพี่ชายของตัวเอง แววตาสาวใช้ส่อประกายอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา จนมืดต้องขึงตาใส่น้องสาวของตัวเองเพื่อเป็นการห้ามปราม...
“ไม่ใช่เรื่องของเอ็งน่าสายบัว...ไปเอาไม้กวาดมาเก็บทำความสะอาดได้แล้วไป แล้วก็เลยไปตามพวกคนงานในไร่มาช่วยเอ็งก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่จะพานายพยัคฆ์ขึ้นไปนอนข้างบนห้อง...” มืดพูดตัดบทไล่ให้สายบัวไปให้พ้นๆ เรื่องบางเรื่องของเจ้านาย มืดเองก็ไม่อยากเอามาโพนทะนาให้ขยายไปไกล ยิ่งเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจโดยตรงของผู้เป็นนายรัก มืดเองก็ไม่คิดจะเปิดปากบอกเล่าให้ใครฟังอีก...
“แหมพี่มืดก็!...สายบัวก็แค่สงสัย ทำไมต้องทำตัวมีความลับกับสายบัวอยู่เรื่อยเลย เฮ้อ!วัยรุ่นเซ็ง... “ สายบัวส่งสายตาค้อนควัก แอบนึกเสียดายเล็กๆ แต่ก็ยังไม่ยอมล่าถอยยอมแพ้ง่ายๆ แต่กับนั่งจุ่มปุ๊อยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนตามที่พี่ชายไล่
“ไม่เล่าให้สายบัวฟังก็ไม่เป็นไรจ้ะ สายบัวไม่อยากรู้มากเท่ากับเรื่องอีกเรื่องหนึ่งหรอก...” น้องสาวหัวดื้อขยับเข้าไปหาพี่ชายอย่างประจบประแจง
“เรื่องอะไรของเอ็งอีกวะไอ้นี่...ช่างสอดช่างเสือกเรื่องของเจ้านายเขาดีจริงๆเลยนะเอ็ง เดี๋ยวเหอะ...พี่จะไปฟ้องแม่สายใจ ให้กำราบเอ็งเสียเข็ดบ้าง ชอบยุ่งนักเรื่องของเจ้านายเขาน่ะ” คนเป็นพี่ถึงกับเอ็ดตะโรน้องสาว
“นิดนึงน่าพี่มืดก็จ๋า อย่าทำตัวเป็นลูกช่างฟ้องไปนักเลยคุณพี่ขา สายบัวก็แค่อยากจะรู้ ไอ้เรื่องที่พี่ไม้เอาไปโพนทะนาเล่าให้พวกคนงานในไร่เขาฟังกันน่ะพี่ ฉันได้ยินแล้วก็แหม!...อดจะดีใจจนเนื้อเต้นเหมือนกับทุกคนในไร่เขาไม่ได้ ต่อไปนี้ที่ไร่ของเราจะได้มีนายหญิงกับเขาเสียที มันทำให้สายบัวรู้สึกแช่มชื่นหัวใจจังเลย....หึ ไม่ใช่วันๆก็คอยแต่จะต้องมาหลบเศษแก้ว เศษกระเบื้อง เวลานายพยัคฆ์โมโหกลับมาทีไร อีสายบัวต้องเจ็บตัวทุกที... นี่ ถ้านายมีเมีย นายคงจะใจเย็นขึ้นนะพี่มืด เน่อะๆ..” ทุกคนในไร่พอได้รู้ข่าวต่างก็ดีอกดีใจกันไปตามๆกัน คงเห็นจะมีหลงเหลือแค่เพียงคนเดียวนั่นแหละ...
ก็คนที่กำลังนอนเมาแอ้ สติไม่อยู่กับร่องกับรอยนี่ไง...
เฮ้อ! มืดได้แต่ถอนหายใจ รู้สึกกังวลไม่น้อย ไอ้ไม้เป็นคนงานในไร่ ปากของมันสว่างยิ่งกว่าไฟฉายเทอร์โบเสียอีก...มันคงไปได้ยิน ตอนนายใหญ่กับนายพยัคฆ์ทะเลาะกันในออฟฟิศ นายสิงห์จะให้นายพยัคฆ์แต่งเมีย... มันเลยเที่ยวเอาไปโพนทะนาทั่วทั้งไร่ พอมืดได้ยินเข้า ก็เลยรีบวิ่งหน้าตั้ง เพื่อจะมาสอบถามความจริงจากปากของนายพยัคฆ์ให้รู้แจ้ง แต่พอมืดเข้ามาแล้วเห็นสภาพพังพินาศของข้าวของในบ้านเล็กเข้า ก็คงไม่ต้องถามอะไรกันให้มากความอีกแล้ว แบบนี้ก็คงจะเป็นเรื่องจริงเสียยิ่งกว่าจริงร้อยเปอร์เซ็นต์...
“อย่างพึ่งพูดไปก็แล้วกันสายบัว...ไป...เอ็งไปเอาไม้กวาดมาทำความสะอาดได้แล้ว เดี๋ยวพี่จะพานายขึ้นไปนอนข้างบน
“จ้าพี่มืด...” สายบัวรับคำพี่ชายก่อนจะลุกขึ้นไปตามพวกคนงานหญิงในไร่มาช่วยกับเก็บทำความสะอาด
“กูจะกินหล้าว...” เสียงของน่านพยัคฆ์ยังคงดังอ้อแอ้แม้จะค่อยๆแผ่วเบาลงตามร่างใหญ่ ซึ่งตอนนี้นอนพิงไปกับพนักโซฟาคอพับคออ่อน ลมหายใจค่อยๆพ่นเข้าพ่นออกจังหวะสม่ำเสมอมากขึ้นเรื่อยๆ
“มานาย...ไปนอนข้างบนกับเถอะ มืดจะพาไปนอนเอง...” มืดไม่รอให้น่านพยัคฆ์อนุญาต จึงเข้าไปพยุงร่างใหญ่ลากให้ลุกขึ้น แม้จะทุลักทุเลอยู่บ้าง เพราะคนเมาไม่สิ้นฤทธิ์ลงเสียทีเดียว ยังคงมีอาการขัดขืนเป็นระยะๆ อีกทั้งรูปร่างใหญ่โตของน่านพยัคฆ์ ซึ่งมีขนาดแตกต่างจากคนแบกรั้งร่างไว้อยู่เกือบเท่าตัว แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับมืด เพราะนี่ก็เป็นเรื่องปกติสำหรับตัวเองเช่นเดียวกัน...
**************************