เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของเฮฟเว่นทุกอย่าง เขาเดินไปเข้าห้องน้ำเพียงไม่นาน กลับมาอีกทีก็พบว่าเมฆาก่อเรื่องเหมือนที่กังวลไว้ในคราแรก โดยที่ไม่สนใจว่าลูกค้าคนอื่นจะมองยังไง ชายหนุ่มกำลังจะเรียกให้การ์ดมาจัดการ แต่ทันใดนั้น สาวแว่นชุดดำที่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นคนใจกล้าก็เข้ามากระชากหญิงสาวที่ถูกลวนลาม แถมยังมีทีท่าไม่เกรงกลัวสักนิด ต่างจากผู้หญิงคนอื่นซึ่งถ้าเจอผู้ชายประเภทนี้ก็ต่างพากันกลัว และไม่กล้าต่อกรด้วย ทำให้เขาหยุดชะงัก
แต่แม่สาวคนนั้นกล้าเกินผู้หญิงทั่วไป เขายืนดูเธอต่อปากต่อคำกับเมฆาไม่นานก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นว่าเธอชกหน้าเมฆาอย่างแรง นาทีนั้น เฮฟเว่นรีบเรียกการ์ดให้เข้าไปห้ามเหตุการณ์ทันทีก่อนที่เมฆาจะหันกลับมาทำร้ายร่างกายผู้หญิง เพราะเขารู้มันเป็นพวกหน้าตัวเมีย แต่ที่ยังเก็บเอาไว้ก็เพราะคำว่า ‘ผลประโยชน์’
ทว่า หญิงสาวคนนั้นก็ยังแสบไม่หยุด สาดถ้อยคำสั่งสอนเมฆาไปอีกหนึ่งยก จนเขาเองอดยิ้มพอใจในความดูนิ่งๆ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ที่จริงไม่ยอมคนของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้
เฮฟเว่นมองแม่สาวชุดดำอย่างพินิจพิเคราะห์…แม้เธอจะสวมแว่นหนาเตอะแต่ด้วยใบหน้าและนิสัยห้าวแบบนั้นทำให้มีเสน่ห์…ไหนจะหุ่นเย้ายวนนั่นอีก ถ้าเธอไม่ใช่ลูกค้าของที่นี่ เขาเองก็อาจจะเข้าไปเสนอราคาให้แลกกับการได้ปราบพยศเธอสักครั้งเหมือนกัน!
‘น่าปราบพยศสักครั้งจริงๆ หึๆ ’
ไม่เข้าใจสักนิด เธอก็ไม่ได้สวยกว่าใครที่เขาเคยนอนด้วย แต่ทำไมรู้สึกติดตรึงในใจ อยากจะลากขึ้นเตียงตั้งแต่เห็นหน้าเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญไม่อยากจะเชื่อว่าหล่อนมีอิทธิพล ทำให้คืนนี้เขาไม่อยากฟาดสาวคนอื่น ในหัวมันมีแต่หน้ายัยตัวร้ายที่เขาเจอมาคืนนี้
ห้องนี้เรียกได้ว่าเป็นห้องที่เฮฟเว่นพาผู้หญิงมานอนด้วยเพียงชั่วข้ามคืน บรรยากาศในห้องรวมไปถึงการตกแต่งส่วนใหญ่ก็เน้นไปในการสร้างความโรแมนติกให้เหมาะสมกับการร่วมรักโดยเฉพาะ ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่ชายหนุ่มมาที่นี่แล้วจะพักผ่อนเฉยๆ มีผู้หญิงมากมายที่ต้องการขึ้นเตียงกับเขา ยกเว้นคืนนี้ที่เขาสั่งให้แองจี้สาวคู่ขาที่ลูกน้องส่งขึ้นมาให้กลับบ้านเพราะเขาไม่รู้สึกที่จะมีเรื่องอย่างว่ากับใคร
ภาพแม่สาวคนนั้นตามหลอกหลอนจนเขาอดคิดไม่ได้ว่า รู้อย่างนี้ไม่น่าปล่อยเจ้าหล่อนเดินออกจากผับไปง่ายๆ ตั้งแต่เกิดมา น่าจะยื่นข้อเสนอที่ตรงไปตรงมาที่ได้ผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกับหล่อนสักหน่อย
เฮฟเว่นยอมรับว่าเขาไม่เคยถูกตาต้องใจผู้หญิงคนไหนขนาดนี้ แม้จะเคยเจอผู้หญิงสวยหุ่นดีมามากมาย แต่ก็ไม่มีใครเหมือนกับเธอ ความกล้า ไม่กลัวใคร ทำให้หญิงสาวมีเสน่ห์ รูปร่าง หน้าตาเรียกว่าโดนใจไปหมด ทำให้เขาอยากจะเป็นผู้ชายที่ได้ครอบครองร่างบางอันเย้ายวนนั้น
“หึ ฉันสาบานเลยว่าถ้าเจอเธออีกฉันจะไม่ปล่อยเธอไปแน่”
เฮฟเว่นเหยียดยิ้มออกมา เขาจะไม่สืบหาแม่สาวชุดดำคนนั้น และปล่อยให้ความต้องการนี้เลือนหายไปตามกาลเวลา แต่ถ้าวันไหนได้เจอเธออีก เขาสาบานเลยว่าจะทำให้เธอยอมสยบใต้ร่างตนเองให้ได้!
‘แต่ตอนนี้ ทำไม ทำไม...!’
‘เอาเธอออกจากหัวไม่ได้!’
บรรยากาศที่หน้าโรงแรมเดอะไนน์เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน จากที่ก่อนหน้านี้เพียงแค่ 3 วัน ช่วงเวลาตอนเช้าจะเงียบเหงามีเพียงแขกวีไอพีไม่กี่คนที่จะเข้าพัก ทุกคนรู้ดีว่าที่นี่เป็นสวรรค์ของนักท่องราตรีเท่านั้น โรงแรมหรูใจกลางเมืองแท้จริงแล้วเป็นสถานที่ให้กลุ่มคนไฮโซ นักการเมือง หรือแม้แต่คนมีสี เข้ามา ‘ลุ้นโชค’
ไม่มีใครรู้ความลับนี้จนเมื่อมีคนเข้าไปแอบถ่ายพื้นที่ชั้น 30 ของที่นี่ และพบว่ามันคือ ‘กาสิโน’ ดีๆ นี่เองจนกลายเป็นข่าวโด่งดังชั่วข้ามคืน หลายสำนักข่าวต่างเล่นข่าวนี้และตีแผ่ว่านี่คือกาสิโนที่เอื้อให้คนมีสีและนักการเมืองหรือไม่
เช้านี้ บรรดาช่างภาพผู้สื่อข่าวต่างกรูกันมาที่หน้าโรงแรมเดอะไนน์พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำทีมโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ‘พล.ต.อ.วิมล เหล่าอารย’ โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบด้านในโรงแรมชั้น 30 ตามที่มีคำกล่าวอ้าง พร้อมกับไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปด้านในโดยอ้างว่าจะเป็นการวุ่นวายและมีผลต่อพยานหลักฐาน
“รอนานแล้วนะ”
“นั่นสิ ไม่รู้จะส่งข่าวเที่ยงทันไหม” เหล่าผู้สื่อข่าวหลายช่องต่างพากันบ่น หลังจากที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบภายในนานกว่า 2 ชั่วโมง และไม่มีวี่แววที่จะออกมา
‘พลอยระวี รัตนแสง’ ผู้สื่อข่าวช่องเดอะนิวส์ เธอเป็นนักข่าวสาวไฟแรงอยู่ในแวดวงสื่อมานานกว่า 5 ปี ประสบการณ์การทำงานของเธอทำให้รู้ว่าเรื่องนี้ต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่ กาสิโนใหญ่ใจกลางเมืองที่มีคนมากอำนาจเข้ามาใช้บริการอ้างว่าทำอย่างถูกต้อง แต่ภาพที่หลุดออกมากลายเป็นว่าหนึ่งในนักการเมืองกำลังลวนลามผู้หญิง ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่ากาสิโนนี้มีการตกลากซื้อขายบริการทางเพศให้กลุ่มนักการเมืองด้วยหรือไม่ และเธอตั้งใจว่าจะตามติดข่าวนี้จนกว่าความจริงจะเปิดเผย
ครืดๆ ๆ
เสียงโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าดังขึ้นขณะที่เจ้าตัวกำลังรีบเขียนข่าว เมื่อเห็นชื่อปลายสายพลอยระวีถึงกับเอือมระอา
“ยังไม่ทันจะถึงเวลาก็เร่งกันแล้ว” พลอยระวีหันไปพูดกับ ‘นวกร’ ช่างภาพคู่ใจของเธอ เพราะบุคคลที่โทร.มาคือ ‘อักษรา’ บก.ข่าวอาชญากรรม ถึงยังไม่รับสายพลอยระวีก็รู้ได้ทันทีว่าอักษราต้องมาเร่งขอบทข่าวจากเธอแน่นอน
“ค่า” พลอยระวีลากเสียงยาวใส่ปลายสาย ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคารพหัวหน้า แต่ในการทำงานบางครั้ง คนที่อยู่ ‘ข้างใน’ กลับกดดันโดยที่ไม่ได้ดูสถานการณ์ ‘หน้างาน’ เลย
“ส่งบทมาให้พี่ได้แล้วยัยพลอย อีกสองชั่วโมงข่าวจะเข้าแล้วนะคุณน้อง”
ตามคาด เสียงปลายสายเร่งเอาบทข่าวจากเธอจริงๆ ด้วย พลอยระวีดูนาฬิกาข้อมือตัวเองพลางคิดว่าเหลือเวลาอีกตั้งสองชั่วโมงต่างหาก
“ข่าวน่ะมีนะคะ แต่พี่นาอยากให้พลอยส่งข่าวเก่าที่ไม่อัปเดตไหม” พลอยระวีเป็นอย่างนี้เสมอกับเรื่องงาน ไม่ใช่อยากจะดื้อ แต่เพราะเป็นคนตั้งใจทำงานมาก ฉะนั้นข่าวเก่า ไม่อัปเดตจึงไม่อยากจะส่งไป
“อะไรกัน ตั้งแต่เช้ายังไม่มีความคืบหน้า ท่านยังไม่ออกมาอีกเหรอ” อักษราส่งเสียงร้อนใจตามประสา
“ใช่ค่ะ ท่านวิมลเข้าไปยังไม่ออกมาเลย ตอนนี้ พลอยเขียนบทล่วงหน้าไปแล้ว ส่วนความคืบหน้าจากการดูสถานการณ์แล้ว พลอยว่าคงไม่มีอะไรมาก นอกจากออกมาบอกว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้แน่ชัด เบื้องต้นขอยังไม่ให้ข้อมูลตอนนี้” พลอยระวีพูดพร้อมกับมองบนทันทีเมื่อนึกคำตอบที่ทางตำรวจจะมาบอกกับนักข่าว แม้จะคิดอย่างนั้น แต่ในการทำข่าวก็เป็นรู้กันดีว่า เรื่องพลิกๆ มีอยู่เสมอ บางเรื่องไม่ควรเกิดแต่กลับเกิดขึ้นก็มี