พ่อเลี้ยงรณชัยนั่งอยู่ในห้องรับแขกกับหนุ่มใหญ่รุ่นราวคราวเดียวกัน เพียงแค่บุคลิกของอีกฝ่ายก็พอจะดูออกว่าเป็นคนระดับเดียวกันอย่างไม่ต้องสงสัย
สายตาของเขาคนนั้นมองมายังวาวไหมจนหล่อนรู้สึกร้อน เพราะแสดงออกชัดเจนคล้าย ๆกับเวลาทรงฤทธิ์มองหล่อนนั่นแหละ
ไม่เหมือนพ่อเลี้ยงรณชัย ที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด สายตาคู่นั้นยังคงอบอุ่นมีเมตตากับหล่อนเสมอ
“รู้จัก พ่อเลี้ยงเชิดสิ”
“สวัสดีค่ะ”
“นี่เหรอวาวไหม”
“ค่ะ ใช่ค่ะ”
“เหมาะกับทรงฤทธิ์ไหมล่ะ”
“เหมาะสมกันมาก” พ่อเลี้ยงเชิดตอบ “สวยจริง ๆ”
“ขอโทษด้วยนะที่มันฉุกละหุกมากนะ ก็เลยไม่ได้บอกกล่าวอะไรให้แกรู้เลย เดี๋ยววันแต่งจริงคงจัดยิ่งใหญ่ละ”
“ก็สมควรละนะ ลูกชายแค่คนเดียวนี่นา”
วาวไหมนั่งฟังสองพ่อเลี้ยงสนทนา ได้ความรู้ใหม่ ๆ หลายอย่างในแวดวงธุรกิจ นั่นก็จริงอยู่ แต่หล่อนไม่ค่อยชอบสายตาของพ่อเลี้ยงเชิดที่มักจะชำเลืองมาทางหล่อนอย่างมีนัยสำคัญ ไม่รู้สิ หล่อนคงคิดไปเองก็ได้
ผู้ชายที่หล่อนอยากอยู่ใกล้ชิดในเวลานี้ดูเหมือนจะมีเพียงพ่อเลี้ยงรณชัยเท่านั้น คนอื่นไม่ได้ทำให้หล่อนรู้สึกดีด้วยเลย
ในที่สุด ช่วงเวลาแห่งความอึดอัดก็ผ่านพ้นไป เมื่อพ่อเลี้ยงเชิดขอตัวกลับ
“ออกไปส่งพ่อเลี้ยงที่รถหน่อยสิหนู” พ่อเลี้ยงรณชัยสั่ง
“ได้ค่ะ”
หญิงสาวขยับลุกขึ้น หลังจากนั้นจึงก้าวออกไปข้างนอกพร้อมกับพ่อเลี้ยงเชิด
เมื่อพ้นสายตาของพ่อเลี้ยงรณชัย ดวงตาของพ่อเลี้ยงเชิดดูเหมือนจะลุกวาวกว่าเดิม ความเป็นชายตื่นตัวตุงเป้า
“หนูรักกับทรงฤทธิ์มานานหรือยัง”
พ่อเลี้ยงเชิดชวนคุย
“เพิ่งรู้จักเองค่ะ”
“เหรอ งั้นคงเป็นรักแรกพบสินะ”
“....” หล่อนไม่รู้จะตอบคำถามพ่อเลี้ยงเชิดอย่างไร เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น หล่อนไม่สามารถให้รายละเอียดได้เลยว่า มาอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไรด้วยซ้ำ
มันเป็นชะตา
ทุกอย่างในชีวิตเกิดขึ้นเหมือนสายน้ำที่ไหลไปตามความลาดชันของพื้นที่ ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะจบอย่างไร
“ว่าไงหนู” พ่อเลี้ยงเชิดดูจะยังสงสัยไม่หาย ต้องการคำตอบจากหล่อนให้ได้
“อะไรเหรอคะ” วาวไหมแกล้งไก๋ ทั้ง ๆ ที่พอจะเข้าใจว่าพ่อเลี้ยงเชิดหมายความว่าอย่างไร
“ฉันอยากรู้ว่าหนูกับทรงฤทธิ์รักกันมานานแค่ไหนแล้ว ถึงได้กลายมาเป็นสะใภ้ของพ่อเลี้ยงรณชัยได้”
“อย่างที่บอกแหละค่ะ” หญิงสาวตอบ ไม่สะทกสะท้าน และพยายามไม่รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังมองหล่อนอย่างไร สำหรับหล่อนแล้ว ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ไม่ว่าจะถูกมองแบบไหน
“เพิ่งรัก แต่มาถึงจุดนี้ได้ คงไม่ธรรมดา”
“ค่ะ พอตัว”
วาวไหมตอบ จะเรียกว่าเป็นการเล่นลิ้นก็ยังได้ หล่อนไม่สนใจอยู่แล้ว
พ่อเลี้ยงเชิดเหมือนจะไปไม่เป็นเหมือนกัน ในสายตาของเขา เห็นหญิงสาวเป็นอีกอย่าง เขาตีราคาค่าตัวของหล่อนเอาไว้แล้วว่า ไม่น่าจะมากมาย สวยจัดอย่างหล่อน ไม่น่าจะมีหัวหรือมันสมองอะไร จึงอาจเป็นแค่...ผู้หญิงชั่วคราวของรณชัยผู้เป็นเพื่อนมากกว่าจะเป็นสะใภ้จริง ๆ
วาวไหม อายุเท่านี้ก็จริง แต่หล่อนก็คือผู้หญิงธรรมดา มีความรู้สึกนึกคิด และมีสัญชาตญาณลึกลับแบบผู้หญิงทั่วไป พอจะอ่านอีกฝ่ายออกได้ว่ากำลังมองหล่อนอย่างไรเหมือนกัน ด้วยความที่หล่อนไม่ได้แคร์อะไรเขา จึงตอบอย่างที่สมควรจะตอบ
“เสียดายที่หนูไม่เจอฉันก่อน”
“ทำไมเหรอคะ”
รอยยิ้มชนิดหนึ่งผุดขึ้นบนมุมปากและในประกายตาของพ่อเลี้ยงเชิด น้ำเสียงหรี่เบาลง
“เพราะว่าฉันจะสมนาคุณให้กับเธอเท่าตัว”
มุมปากรูปกระจับของหญิงสาวมีรอยยิ้มผุดขึ้นมาเช่นกัน
ดวงตากลมโตที่ปกติดูอ่อนโยนไร้เดียงสา กลับกลายเป็นประกายวาวขึ้นราวกับแม่เสือ
“ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะพ่อเลี้ยง”
“ทำไม ทำไมจะไม่มีประโยชน์”
“เพราะหนูไม่ได้ชอบคนที่เงิน โดยเฉพาะเงินของผู้ชายที่ดูถูกเพศแม่ตัวเอง!”
“ว้าว! เธอกำลังด่าฉันอยู่นะ”
“หนูไม่คิดว่าเป็นพ่อเลี้ยงนะคะ”
เป็นครั้งแรกที่คนอย่างพ่อเลี้ยงเชิด เจอหญิงสาวรุ่นลูกตอกหน้าแบบเนิบ ๆ เน้น ๆ โดยที่ไม่สามารถหาถ้อยคำใดมาตอบโต้กับหล่อน
วาวไหมส่งพ่อเลี้ยงเชิดขึ้นรถ รอจนกระทั่งคนขับรถบังคับรถหมุนล้อจากไปแล้วนั่นแหละ หล่อนถึงได้หมุนร่างเพื่อจะก้าวกลับเข้าไป
พลัน ร่างระหงชะงัก
“คุณพ่อ”
พ่อเลี้ยงรณชัยยืนมองอยู่ แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้ยินที่หล่อนพูดกับพ่อเลี้ยงเชิดหรือไม่ ถึงกระนั้นแววตาของพ่อเลี้ยงรณชัย ทำให้หญิงสาวต้องหลบสายตา
“เมื่อกี้คุยอะไรกับพ่อเลี้ยงเชิดน่ะ”
“เอ้อ...เปล่าค่ะ”
ยิ่งปฏิเสธ ยิ่งเผยพิรุธจนในที่สุดหญิงสาวก็เป็นฝ่ายหลุดปากเสียงอ่อย
“ขอโทษค่ะ หนูพูดจาไม่ดีกับพ่อเลี้ยงเชิด”
สายตาของพ่อเลี้ยงรณชัยมองหญิงสาวด้วยแววตาเช่นเดิม อบอุ่น มีเมตตากับหล่อนเสมอมา และที่สำคัญ เป็นการมองอย่างเข้าใจ
“ถ้าพ่อเป็นหนู พ่อคงพูดแรงกว่านั้นอีก”
“คุณพ่อ!”
“จริง ๆ นะ ไอ้เชิดน่ะมันดูถูกผู้หญิง นี่ถ้าไม่ติดที่เป็นเพื่อนมานาน พ่อคงตะเพิดมันออกจากบ้านไปแล้วละ”
น้ำเสียงของพ่อเลี้ยงรณชัยจริงจัง วาวไหมรู้สึกโล่งใจ พร้อมกับอีกความรู้สึกหนึ่งก็คือ...ยิ่งให้ความเคารพนับถือ และลึก ๆ แล้วก็คือ หล่อนรู้สึกดีกับพ่อเลี้ยงรณชัยเหมือนหญิงสาวที่มีความรู้สึกต่อชายหนุ่มคนหนึ่ง
ความรู้สึกแบบนี้ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ กับผู้หญิงซักคน
“ถึงไง หนูก็ต้องขอโทษอยู่ดีค่ะ หนูเป็นเด็กไม่น่าไปตอบโต้แรง ๆ แบบนั้นเลยค่ะคุณพ่อ”
“คิดมากน่า”
พ่อเลี้ยงเอื้อมมือวางบนศีรษะของหญิงสาวแล้วเขย่า มันอาจจะเป็นเพียงการแสดงออกเหมือนผู้ใหญ่กับเด็ก ทว่าสำหรับวาวไหมแล้ว หล่อนรู้สึกมากกว่านั้นมากมายนัก